Chapter IV

2202 Words
อีธานพาร่างของตัวเองเดินมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าพระราชวังอันใหญ่โตตรงหน้า และดูเหมือนว่ามันจะใหญ่กว่าที่เขาได้คาดคิดเอาไว้เสียอีกเพราะเมื่อสักครู่เขาได้มองจากที่ไกล ๆ เท่านั้น แถมยังมีทหารเดินตรวจตราแน่นหนา ซึ่งเขาไม่เห็นลู่ทางเลยแม้เพียงน้อยที่จะก้าวเดินเข้าไปภายในนั้นได้อย่างปลอดภัยและทำให้ตัวเองไม่โดนจับได้แม้จะใช้สัญชาตญาณของนักล่าอย่างหมาป่าเข้าไปก็ตามแต่...และเขาที่พึ่งกลายร่างได้หมาด ๆ คงจะไม่มีวิชาเพียงพอที่จะเงียบสงบได้ดั่งคนอื่น ๆ เป็นแน่แท้ ซึ่งถ้าเกิดว่าเขาโดนจับได้ขึ้นมา...มันจะต้องกลายเป็นเรื่องใหญ่โตถึงหูบิดาของเขาให้ได้โดนทำโทษเป็นแน่ “ทำเช่นไรดี...” เขาครุ่นคิดกับตัวเองเมื่อคิดเอาไว้แล้วว่าไม่มีทางที่จะเข้าไปได้แน่ ๆ ที่ทางเข้าหลักหากไม่ได้รับอนุญาตจากทหารเหล่านี้เสียก่อน ก่อนที่เขาจะกวาดสายตามองหาลู่ทางอีกครั้งอย่างไม่คิดยอมแพ้ เพราะอีธานเชื่อว่าความสำเร็จของเขานั้นจะเป็นรางวัลอันงดงามที่เขาจะได้รับต่อจากนี้ และเขาจะได้ไม่ต้องรู้สึกผิดอีกต่อไปหากได้รู้ความจริงด้วยสายตาของตัวเองแล้วว่า...เกรซหาใช่ฝาแฝดหมาป่าของเขาจริง ๆ อย่างที่ทุกคนตั้งใจที่จะปิดบัง ก่อนที่ดวงตาสีฟ้าครามจะสบมองเห็นอะไรบางอย่างที่มันผิดแปลกไปจากปกติเล็กน้อย ซึ่งหากมองด้วยตาเปล่าของมนุษย์แล้วคงต้องเพ่งพินิจพิจารณาอยู่มากพอสมควร...แต่เพราะสัญชาตญาณของหมาป่า แน่นอนว่าจมูกและดวงตาของพวกเรานั้นดีกว่ามนุษย์มากกว่าเป็นไหน ๆ อีธานไม่รอช้ารีบก้าวเดินไปหาสิ่งเหล่านั้นซึ่งอยู่อีกทางหนึ่งของประตูใหญ่ที่มีทหารคอยเฝ้า และพอเขาได้เดินเข้าไปก็พบเห็นว่าสีของสิ่งก่อสร้างตรงนี้มันมีสีที่ผิดแปลกไปจากที่อื่นจริง ๆ ทั้งตรงนี้ก็ยังเป็นที่ลับตาและไม่มีใครเดินผ่าน ราวกับไม่เคยมีใครรับรู้ถึงสิ่งผิดปกติเหล่านี้มาก่อนยกเว้นเสียแต่ว่าคน ๆ นั้นจะเป็นผู้จงใจสร้างรอยตำหนิเอาไว้ และมันมีขนาดที่เล็กมาก ๆ ซึ่งถ้าหากว่าคนที่ตัวใหญ่กว่าเขาเสียหน่อยต้องการที่จะเข้าไปทางนี้จริง ๆ จะต้องไม่รอดพ้นเป็นแน่แท้ เขาค่อย ๆ ลองแกะอิฐเหล่านั้นดูว่ามันสามารถหลุดออกจากกันได้อย่างที่เขาคาดคิดหรือเปล่า และใช่มันเป็นอย่างที่เขาคิดเอาไว้จริง ๆ ตรงนี้มันหลุดออกมาเป็นแผ่นขนาดเท่าเด็กคนหนึ่งที่สามารถลอดผ่าน ซึ่งอีธานที่อายุสิบหกปีและอยู่ในช่วงวัยที่กำลังจะเติบโตยังเข้าไปได้อย่างยากลำบาก...แต่สุดท้ายเขาก็ทำมันได้สำเร็จจนตอนนี้ร่างของตัวเองได้เข้ามาด้านในแล้ว เขาสำรวจมองไปรอบ ๆ อย่างระแวดระวัง ที่ตรงนี้ปลอดภัยและลับตาคนมาก ๆ ราวกับมีคนจงใจสร้างที่แห่งนี้เอาไว้สำหรับเข้ามาหรือหลบหนีออกไปอันนี้เขาก็ยังไม่แน่ใจนัก แต่มันเป็นทางบังคับที่สามารถเดินไปได้ทางเดียวเท่านั้น แถมตรงนี้ยังเป็นที่ ๆ มืดมาก ๆ แต่ยังดีที่ดวงตาของเขาสามารถใช้งานได้อย่างดีในที่ ๆ มีความมืดอย่างเช่นห้องนี้ที่เขากำลังจำเป็นที่จะต้องใช้มัน...และมันก็เป็นประโยชน์มาก ๆ สำหรับสัตว์กลางคืนเช่นหมาป่าอย่างพวกเราชาวเซฟซิฟเตอร์ สองขาก้าวเดินไปตามเส้นทางอย่างเงียบสงบด้วยหัวใจของเขาที่กำลังเต้นอย่างไม่เป็นจังหวะเพราะความหวาดกลัวว่าจะโดนจับได้ ก่อนท้ายที่สุดแล้วเขาจะเดินมาถึงทางแยกที่จะต้องเลือกระหว่างทางซ้ายกับทางขวา ซึ่งเขาก็ใช้สัญชาตญาณดมกลิ่นของตัวเองซึ่งทางขวานั้นมีกลิ่นมนุษย์ที่น้อยกว่าและเขาเลือกที่จะไปทางนั้นอย่างไม่มีลังเล แต่มันกลับทำให้เขาได้พบกับแสงสว่างอีกครั้งพร้อมกับเหล่าทหารที่เดินกันให้ควักเพื่อรักษาความปลอดภัยภายในพื้นที่ของเขตปราสาท แต่ยังโชคดีที่แถวนี้มีพุ่มไม้ให้เขาพลางตัวอยู่มากโข และเขาก็ค่อย ๆ ลัดเลาะพุ่มไม้เหล่านั้นก่อนจะหยุดอยู่ที่ทางด้านหลังของพระราชวัง ซึ่งเขาก็มองเห็นเชือกยาว ๆ บางอย่างห้อยโหนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่ ๆ เขายืนอยู่มากนัก อีธานไม่รอช้ารีบพาร่างของตัวเองไปหาสิ่งนั้นอย่างเร็วไว ก่อนเขาจะพบเห็นว่ามันไม่ใช่เชือกอย่างที่เขาเข้าใจในคราแรก แต่เป็นเศษผ้าที่ถูดมัดต่อ ๆ กันให้ยาวเพื่อที่จะใช้เป็นเชือกปีนป่าย แถมปลายทางของเชือกนั้นก็คือห้อง ๆ หนึ่งซึ่งเขาก็ยังไม่แน่ใจนักว่ามันเป็นห้องอะไร แต่มันจะเป็นทางเดียวที่เขาสามารถเข้าไปในวังนี้ได้...และเขาจะลองเสี่ยงดูสักตั้ง สองมือแข็งแรงจับเชือกเอาไว้ให้มั่นมือ ก่อนจะใช้พละกำลังของตัวเองปีนป่ายขึ้นไปและมันก็ช่างง่ายดายนักสำหรับแรงของหมาป่าสายเลือดบริสุทธิ์อย่างเขา อีธานค่อย ๆ ชะโงกหน้าเข้าไปด้านในเพื่อตรวจสอบด้วยตาและก็ด้วยกลิ่นว่ามีใครอยู่ในห้องแห่งนี้หรือไม่ แต่ความเงียบสงบรวมไปถึงกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากเทียนหอมจะทำให้เขารับรู้ได้ว่าไม่มีใครอยู่ภายในห้องนี้และมันปลอดภัย “ฮึบ...” เขากระโดดเข้าไปในห้องอย่างระแวดระวังแม้จะแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครอยู่ภายในห้องนี้จริง ๆ จากที่ได้ตรวจสอบ และมองสำรวจไปรอบ ๆ ก็พบเห็นแล้วว่าห้องนี้เป็นห้องนอนของใครบางคน ซึ่งข้าวของและเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่บนเตียงนั้นบ่งบอกเขาได้เป็นอย่างดีว่ามันเป็นห้องของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้น “หรือว่าจะเป็นเธอที่ทำทางลับนั่น?” เขาได้แต่เก็บความสงสัยเพราะยังไม่แน่ใจนักว่าห้องนี้จะใช่ห้องของเด็กผู้หญิงจริง ๆ อย่างที่เขาได้คาดคิดเอาไว้หรือเปล่า ซึ่งอีธานก็เดินสำรวจดูของรอบ ๆ ห้องไปเรื่อยเปื่อยเพื่อหาเบาะแส เทียนหอมที่จุดยังอุ่น ๆ บ่งบอกเขาได้อีกครั้งว่าเจ้าของห้องหรือใครบางคนพึ่งจะออกไปจากห้องนี้ได้ไม่นานมากนัก “ปล่อยข้านะ ปล่อย!” “แย่แล้ว!” เสียงร้องโวยวายไม่ใกล้ไม่ไกลจากห้องนี้มากนักทำให้หูของเขาผึ่งขึ้นมาพร้อมกับหัวใจที่เต้นสั่นระรัวเพราะกำลังหวาดกลัวว่าจะถูกจับได้ เขาหันซ้ายแลขวาเพื่อหาที่หลบภัย ก่อนที่เป้าหมายของเขาจะเป็นทางใต้เตียงเพราะมันเป็นที่ ๆ เดียวที่เขาสามารถหลบซ่อนได้ในตอนนี้และเขาจะต้องเข้าไปเดี๋ยวนี้เลย! “โอ้ย!” เสียงเปิดประตูมาพร้อมกับเสียงของหญิงสาวคนหนึ่งที่อีธานไม่อาจจะมองเห็นใบหน้า และเขาสามารถเห็นแค่ปลายขาของคน ๆ นั้นเท่านั้น ซึ่งจำนวนคนที่เข้ามาในห้องนี้มีเพียงแค่สองคนซึ่งเขาก็ยังไม่แน่ใจนักว่าอีกฝ่ายจะเป็นชายหรือหญิง “ข้าจะฟ้องท่านพ่อว่าเจ้าทำร้ายข้า!” “ถ้าเช่นนั้นข้าก็จะทูลกล่าวองค์ราชาเช่นกัน...ว่าองค์หญิงละเลยคำสั่ง และออกไปนอกเขตวังตามอำเภอใจชอบ!” เสียงแข็งกร้าวที่กล่าวออกมานั้นทำให้เขาค่อนข้างแน่ใจว่าเธอคนนั้นเป็นผู้หญิงเฉกเช่นเดียวกัน ส่วนองค์หญิงที่ถูกกล่าวถึงนั้นเสียงยังเป็นรุ่นราวคราวเดียวกับเธออยู่เลย และน่าจะยังไม่โตเป็นสาวเต็มที่นัก “ข้าแค่อยากมองเห็นนอกวัง ข้าอยากจะเที่ยวเตร่ตามใจข้าบ้าง เหตุใดท่านพ่อถึงได้เข้มงวดกับข้านัก!” หญิงสาวเอ่ยถามขึ้นมาพร้อมกับเสียงที่กำลังจะสะอื้นไห้ด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ ซึ่งอีธานกลับไม่ได้ยินเสียงตอบรับกลับมาของคู่สนทนาอีกเลย...ราวกับว่าเจ้าหล่อนกำลังใช้ความคิดเพื่อตอบรับกับคำถามของหญิงสาวอยู่ “ทุกคนทำเช่นนั้นเพราะมีเหตุผล ขอเพียงแค่องค์หญิงได้โปรดเข้าใจ...” “ออกไปจากห้องของข้า!” หญิงสาวร้องไห้ออกมาแล้ว และเอ่ยตะโกนไล่คู่สนทนาเสียงแข็งกร้าวแต่กลับไม่มีเสียงตอบโต้ของใครอีกคนให้อีธานได้แต่ใจเต้นตุบตับเพราะมองไม่เห็นหนทางหนีออกไปจากที่แห่งนี้เลย ณ เวลานี้ “แต่ว่า...” “ข้าสั่งให้ออกไป!” “พะย่ะค่ะ” ก่อนที่เสียงปิดประตูจะดังขึ้นมา และเท้าของบุคคลทั้งสองนั้นกลับเหลือเพียงแค่คู่เดียวแล้ว และเขาเดาว่าน่าจะเป็นของหญิงสาวที่เป็นเจ้าของห้อง ๆ นี้เป็นแน่แท้ เจ้าหล่อนค่อย ๆ เดินสะอื้นไห้และทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงนอนให้เขาสัมผัสได้ถึงแรงยวบที่ร่วงลงมา ก่อนที่เธอจะร้องไห้ออกมาอย่างหนักหน่วงให้คนที่ได้ยินอย่างเขาสงสารจับใจ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เขาจะมาแอบซ่อนอยู่เช่นนี้! อีธานค่อย ๆ คลานออกมายังฝั่งที่เขาคลานเข้าไปในคราแรก โชคดีหน่อยที่เตียงนั้นอยู่ติดกับหน้าต่าง และเขาสามารถที่จะไต่ผ้าลงไปโดยที่เจ้าหล่อนจะไม่รู้สึกตัวได้ ในขณะที่ตอนนี้คน ๆ นี้กำลังร้องไห้อย่างหนักหน่วงและไม่สนใจสิ่งรอบกายที่กำลังเคลื่อนไหว แต่เมื่อเขาคลานออกมาแล้ว สีผมของเจ้าหล่อนที่นั่งหันหลังอยู่นั้นมันช่างสะดุดตา เพราะมันเหมือนกับเกรซมาก ๆ แถมลักษณะและท่าทางของผู้หญิงคนนี้...ยังเหมือนกับเกรซเมื่อสองถึงสามปีก่อนไม่มีผิดเพี้ยนราวกับเป็นฝาแฝด ซึ่งมันทำให้เขาชะงักไปชั่วครู่จนต้องรีบดึงสติของตัวเองกลับมาอย่างเร็วไว จะว่าไปแล้ว...เมื่อครู่ใครอีกคนก็เรียกเจ้าหล่อนคนนี้ว่าองค์หญิง แถมดูจากช่วงวัยโดยประมาณแล้วเธอคนนี้ก็คงจะเกิดหลังเขาได้ไม่นานเท่าไรนัก เผลอ ๆ อาจจะรุ่นราวคราวเดียวกันด้วยซ้ำไป แต่ที่ดูตัวเล็กก็คงเพราะว่าเป็นมนุษย์...หาใช่เซฟซิฟเตอร์เช่นเขาที่จะตัวใหญ่ตัวโตกว่ามนุษย์ทั่วไปเป็นปกติอยู่แล้วเป็นทุนเดิม แล้วเกรซที่เป็นมนุษย์เหมือนกัน...เหตุใดถึงไม่ได้ตัวเล็กเหมือนอย่างเจ้าหล่อนคนนี้ เธอมีส่วนสูงที่ต่างกับเขาประมาณช่วงหนึ่งแค่เพียงเท่านั้น แต่ลักษณะและสีผมของคน ๆ นี้ที่มองเพียงแค่แผ่นหลังกลับเหมือนเกรซเอามาก ๆ จนเขายังตกใจในคราแรกเพราะความคล้ายคลึง แถมข่าวการเกิดขององค์หญิงก็มีเพียงแค่องค์เดียวเท่านั้น ไม่ได้มีรายงานหรือข่าวลือเล็ดลอดออกไปเลยว่าองค์ราชาและองค์ราชินีนั้นให้กำเนิดบุตรสาวสองคนแต่อย่างใด หรือว่าเรื่องทั้งหมดของเกรซ...เขาจะคิดไปเองอยู่เพียงฝ่ายเดียว? เกรซอาจจะเพียงแค่ฮอร์โมนช้ากว่าเขาแค่เพียงเท่านั้น...เธอจึงยังไม่กลายร่างเป็นหมาป่าเหมือนอย่างเขาที่กลายร่างแล้ว และไหนจะตำนานที่บิดาของเขาคอยพร่ำบอกอยู่ร่ำไปว่ามันเป็นเพียงแค่ตำนานเท่านั้น อย่าได้ไปคิดการณ์ไกลเพราะว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง...แต่เป็นเพียงนิทานที่เอาไว้เล่าให้ลูกหลานของเราฟังเพื่อให้ศรัทธาต่อบรรพบุรุษชาวเซฟซิฟเตอร์ที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ตระกูลของเรานั้นคงอยู่ แล้วถ้าเกิดว่าทั้งหมดเขาคิดไปเองจริง ๆ นั่นมันก็หมายความว่า...เขาตกหลุมรักพี่สาวฝาแฝดของตัวเองเข้าให้แล้วจริง ๆ ซึ่งมันไม่ควรเกิดขึ้นเลย... “อ๊ะ!” เพราะตัวเองดันคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย เลยไม่ได้สนใจตรงหน้าเลยว่าจะก้าวพลาดไปตอนไหน... และตอนนี้หายนะก็มาเยือนเขาเข้าแล้วอย่างจัง เพราะเขาดันก้าวขาผิดข้างจนเกือบที่จะร่วงหล่นสู่พื้นดินด้านล่างด้วยความสูงที่ไม่อยากจะมองเห็นมันเท่าไรนัก แต่ยังดีที่ข้อมือแข็งแรงยังยึดเหนี่ยวบานหน้าต่างเอาไว้ได้เป็นอย่างดี แต่มันก็แลกมากับการที่อีธานนั้น… “เจ้าเป็นใคร...แล้วเข้ามาในห้องของข้าได้อย่างไร!” โดนใครอีกคนในห้องจับได้คาหนังคาเขา ไร้ซึ่งหนทางที่จะหลีกหนีหรือปฏิเสธได้เลย...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD