อาร์เดลนอนอยู่บนเตียงในห้องที่มีแสงแดดส่องเข้ามาผ่านหน้าต่าง ดวงตาหลับสนิท ใบหน้าซีดเซียวแต่ยังคงมีความหล่ออยู่
ลดาเดินเข้ามานั่งข้างเตียง มือถือผ้าชุบน้ำเย็นวางบนหน้าผากของอาร์เดลพยายามลดไข้ที่ร่างกายของเขาต่อสู้อยู่
“ทานยาไปแล้ว ทำไมไข้ไม่ลดเลยนะ”
ภายในห้องเงียบสงบ จนได้ยินเสียงหายใจของอาร์เดลที่ฟังดูหนักหน่วงและเสียงลมพัดที่ดังมาจากนอกหน้าต่างเท่านั้น
หลังจากนั้นไม่นานอาร์เดลเริ่มฟื้นขึ้นมา ดวงตาของเขาเปิดอย่างช้าๆ และมองเห็นลดาที่นั่งฟุบหลับอยู่ข้างๆ
“ลดา” เขามองเด็กสาวที่คอยดูแลเขา ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก
“คุณตื่นแล้วเหรอ จู่ๆคุณก็มีไข้สูง ขอฉันวัดไข้หน่อยนะ” เธอหยิบปรอทมาวัดไข้ไม่รู้รอบที่เท่าไหร่
“37.6 องศา ไข้ลดแล้ว” เธอยิ้มดีใจ ตอนเขาหลับเธอคอยเช็ดตัวลดไข้ให้เขา
อาร์เดลพยักหน้ารับ พยายามนั่งขึ้น แต่ลดาวางมือของเธอลงบนไหล่ของเขาเบาๆ เพื่อไม่ให้เขาขยับ
“นอนเฉยๆ อย่าขยับ ร่างกายของคุณต้องการการพักผ่อน”
“ขอบคุณนะ ถ้าผมไม่เจอคุณ ผมคงแย่แน่ๆ” อาร์เดลมองลดาด้วยความซาบซึ้ง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความขอบคุณ
“ตอนนี้คุณยังเจ็บแผลอยู่ไหมคะ”
“…” เขาส่ายหน้า
“คุณก็พักที่นี่ต่ออีกสักสองสามแล้วกัน ถ้าเคลื่อนไหวมากๆ เดี๋ยวแผลอักเสบแล้วไข้จะขึ้นอีกนะ ระหว่างนี้เราก็มาช่วยกันคิดหาวิธีติดต่อเพื่อนคุณ” เธอตัดสินใจแล้วว่าจะดูแลเขาต่อ
“เกรงใจคุณนะ”
“ก็เข้ามานอนในบ้านขนาดนี้แล้ว นอนต่ออีกสักสองสามวันจะเป็นไรไป” เธอยิ้มให้เขา
“ขอบคุณนะ”
ลดาหันไปเตรียมยา น้ำ และอุปกรณ์ทำแผลให้อาร์เดล เธอตรวจดูอาการ ก่อนตัดผ้าสะอาดเพื่อทำแผลให้เขาใหม่ เจ้าชายมองเธอที่ทำแผลให้เขาด้วยความระมัดระวัง
“ทนเจ็บหน่อยนะคะ”
“ครับ” เขากัดฟัน เพื่อไม่ให้เสียงร้องดังรอดออกมา
“เรียบร้อย คุณทานยานี่ด้วยนะคะ” เขารับไปอย่างว่าง่าย
“นี่น้ำ”
“คุณนอนพักไปก่อน ถ้าจะเข้าห้องน้ำ บอกฉันนะ”
“คุณจะไปไหน”
“หาเสื้อผ้ามาให้คุณเปลี่ยน ใส่แบบนี้คงอึดอัดแย่” เธอมองไปที่กางเกงยีนส์ที่เขาใส่
“ไม่เป็นไร รบกวนคุณเปล่าๆ”
“แล้วคุณกะจะใส่ชุดนี้ สามสี่วันเลยเหรอ”
“คนไทยใจดี” เจ้าชายอมยิ้ม
“นอนพักตามสบาย ไม่ต้องคิดมาก ในเมื่อฉันตัดสินใจช่วยคุณแล้ว ก็จะช่วยให้เต็มที่ค่ะ”
ลดาเดินไปหาซื้อเสื้อผ้าให้อาร์เดล เธอเลือกเสื้อยืด กับกางเกงขาสั้น แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นชั้นในชายที่วางอยู่ เธอยืนลังเลว่าจะซื้อไปด้วยดีไหม เธอยืนมองอยู่นาน จนแม่ค้าถาม
“รับไปด้วยไหมจ๊ะ” ป้าแม่ค้าเสนอ
“อืม ..มมม” เธอคิดหนัก กลัวเวลาเอาไปให้เขา เขาจะตกใจ
“ตัวนี้ใส่สบาย ผัวป้าก็ใส่ มีหลายสีด้วยนะ” ป้าแม่ค้าหยิบขึ้นมากางให้ดู
“มันมีกี่ไซส์คะ”
“อันนี้ฟรีไซส์ ยืดได้เยอะเลย”ป้าแม่ค้ายืดโชว์
“เอามาสามตัวค่ะ”
“หนูเอาสีอะไรบ้างดี” ป้าหยิบมาให้เลือก
“ขาว เทา ดำ ค่ะ” เธอรีบตอบ
“ซื้อไปให้แฟนหละสิ ไม่ต้องเขินหลอกน่า” ป้าพับใส่ถุงให้
“เปล่าค่ะ เอาให้เพื่อน”
“อย่ามาหลอกป้าหน่อยเลย เพื่อนแบบไหน ต้องมาซื้อกางเกงในให้ด้วย ฮ่าๆ” ป้าแม่ค้าหัวเราะตามประสาคนอาบน้ำร้อนมาก่อน
“ทั้งหมดเท่าไหร่คะ” เธอขี้เกียจเถียง
“ทั้งหมด 675 บาท ป้าลดให้ 670 พอ”
ลดารีบหยิบเงินให้
“ขอบใจมากนะหนู”
ลดารับถุงผ้าเดินออกมาจากร้านทันที แล้วแวะซื้อแปรงสีฟัน และมีดโกนหนวดให้เขาด้วย
เธอเดินผ่านจุดที่เจออาร์เดล เธอหยุดมองไปรอบๆ โชคดีอาจจะเจอมือถือที่อาร์เดลทำตกไว้ก็ได้
“ไม่มีเลย สงสัยทำตกไว้ที่อื่น”
ลดาจึงเดินกลับบ้าน เอาเสื้อผ้าที่เพิ่งซื้อมาไปซัก แล้วเข้าไปดูอาการของอาร์เดลที่ห้อง เขายังคงหลับอยู่
“เหงื่อออกขนาดนี้ ตื่นมาคงดีขึ้น” เธอดูเวลาจะห้าโมงเย็นแล้ว เธอจึงรีบไปเตรียมอาหารเย็น
อาร์เดลที่ตื่นขึ้นมา เขาต้องการจะไปเข้าห้องน้ำ แต่เดินผ่านห้องครัว พบลดายืนอยู่หน้าเตาในห้องครัวของเธอ มือถือช้อนไม้คนไข่ที่เธอเพิ่งตีใส่ชาม เธอทำอย่างคล่องแคล่ว ใบหน้าของเธอปรากฎเม็ดเหงื่อบางๆ
ขณะที่เธอเตรียมไข่ตุ๋นสูตรพิเศษไว้ให้อาร์เดล
อาร์เดลยืนนิ่งมองภาพตรงหน้า ทุกการเคลื่อนไหวของเธอเหมือนมีมนต์สะกดให้เขาไม่สามารถละสายตาไปจากเธอได้
ลดารู้สึกเหมือนมีคนจ้องเธออยู่ เธอจึงหันไปมอง
“อ้าว คุณตื่นแล้วเหรอ”
“ครับ ผมจะไปเข้าห้องน้ำ” เขาที่ยังเอามือกุมแผลถูกยิงไว้
“เดินช้าๆ นะคะ ระวังแผลอักเสบ”
เขาพยักหน้า แล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ เขาส่องกระจกในห้องน้ำดูหน้าตาตัวเอง
“เอเดน ตอนนี้นายไปอยู่ไหน”
หลังจัดการธุระส่วนตัวเรียบร้อย เขาเดินเข้ามาในห้องครัว
“คุณทำอะไรอยู่เหรอ”
“กำลังทำไข่ตุ๋นให้คุณไง มันง่ายต่อการทาน แถมมีโปรตีนสูงด้วย ตอนนี้รอแค่เอานึ่ง 30 นาทีก็ทานได้แล้ว”
“มีอะไรให้ผมช่วยไหม” เจ้าชายรู้สึกเกรงใจเธอมากๆ ทั้งที่ตอนอยู่วัง ก็มีคนปรนนิบัติดูแลเขาแบบนี้ แต่เขากลับไม่มีความรู้สึกเกรงใจแบบนี้เลย
“ไม่มีคะ เอานึ่งแล้ว เหลือแค่รอเวลาเท่านั้น”
“นอนในห้องทั้งวัน คงเบื่อแย่เลยสิ คุณไปนั่งในห้องนั่งเล่นได้นะ”
“แล้วคุณหละ”
“ล้างของพวกนี้ก่อน” เธอชี้ไปที่ชาม ช้อน อุปกรณ์ที่ใช้ทำไข่ตุ๋น
“ให้ผมช่วยนะ” นี่จะเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาล้างจาน
“อย่าดีกว่า เดี๋ยวแผลเปียก” เธอรีบห้าม
“คุณไปนั่งรอดีๆ ไข่ตุ๋นใกล้สุกแล้ว เดี๋ยวฉันเรียกนะ”
สถานการณ์ตอนนี้ ทำให้เจ้าชายเหมือนผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่ง ใช้ชีวิตที่เรียบง่าย มันคือสิ่งที่เจ้าชายโหยหามาตลอด
“สุกแล้ว ไปทานข้าวกัน” เธอเดินมาตามเขาที่ห้องนั่งเล่น
เจ้าชายที่กำลังคิดหาวิธีติดต่อเอเดน เงยหน้ามองตามเสียงใสที่มาตามเขาไปทานข้าว
เจ้าชายลุกขึ้น แต่ด้วยนั่งนาน ทำให้ลุกขึ้นลำบาก เพราะเจ็บแผล
“โอ้ย”
“มาคะ ฉันช่วย” เธอเข้าไปพยุงเขามาที่ห้องครัว
“คุณทานข้าวเสร็จ จะได้ทานยาอีกรอบ” เธอพยุงเขานั่งที่เก้าอี้
เขามองบนโต๊ะอาหารเล็กๆ มีไข่ตุ๋น ผัดเห็ดน้ำมันหอย และผัดขิง และน้ำ 2 แก้ววางอยู่
เธอตักข้าวส่งให้เขา
“อันนี้คืออะไรเหรอ” ชี้ที่จานผัดขิง
“ผัดขิงใส่ไก่ คุณทานได้นะ ขิงช่วยบรรเทาอาการหวัดได้”
เขาตักมาลองทาน
“เผ็ด” เจ้าชายรีบดื่มน้ำตาม
“คุณทานไข่ตุ๋นดีกว่า รับรองไม่เผ็ด” เธอตักไข่ตุ๋นใส่จานให้เขา
“แต่อร่อยดี” จากนั้นเขาตักไข่ตุ๋นที่เธอตักให้กิน
“อร่อยไหม ตอบดีๆ นะ” เธอแกล้งขู่
เขาพยักหน้า “อร่อยมาก”
“ฮ่าๆ ตอบแบบนี้ค่อยน่าทำให้กินหน่อย”
บรรยากาศบนโต๊ะอาหาร มีแต่รอยยิ้ม เจ้าชายกินข้าวหมดจาน
“เอาข้าวเพิ่มไหม”
เจ้าชายพยักหน้า เขาที่เพิ่งถูกไล่ล่า ถูกยิง เกือบเอาชีวิตไม่รอด กลับรู้สึกมีความสุขกับชีวิตตอนนี้มากๆ
ถ้าเขามีครอบครัว เขาอยากใช้ชีวิตแบบนี้ มีบ้านไม่ต้องหลังใหญ่โต ไม่ต้องมีคนมากมายเดินเพ่นพ่านเต็มไปหมด มีแค่เขากับภรรยา นั่งทานอาหาร พูดคุยกันบ้าง ไม่ต้องเคร่งมารยาท นั่งตัวเกร็งจนอาหารแทบไม่ย่อย กับข้าวก็ไม่ต้องมากมายหลายอย่าง ขอแค่เป็นฝีมือจากภรรยาที่ทำไว้ให้เขา แม้เป็นอาหารง่ายๆ เขากลับรู้สึกว่ามันอร่อยกว่าที่พ่อครัวในวังทำซะอีก