ตุบ!
“โอ๊ย!!”
เป็นอีกครั้งที่ชายหนุ่มต้องยกมือหนาขึ้นมากุมชัยย์น้อย น้ำผึ้งแทงเข่าเข้าจุดเดิมอีกครั้งทันทีที่เขาพูดจบ หมอชัยย์หน้าเขียวขึ้นมาอีกรอบทันที รอบนี้มันจุก และเจ็บกว่ารอบที่สอง ถึงสองเท่า
“ทะลึ่ง ไอ้บ้า” หญิงสาวสบถออกมาอย่างหัวเสีย แต่อยู่ ๆ เธอก็อมยิ้มออกมา แต่ชายหนุ่มไม่เห็น เพราะเขาเอาแต่ก้มหน้าอยู่ เส้นเลือดบนใบหน้าของเขาปูดขึ้นมา จนมันเขียวไปหมด น้ำผึ้งไม่รอช้าให้คนตัวใหญ่ฉวยโอกาสเธออีกรอบ เธอหมุนตัววิ่งออกจากห้องของเขาทันที
ความเจ็บปวดเริ่มลดน้อยลง หมอชัยย์เหยียดตัวเองลุกขึ้นอีกครั้ง
“หึ” เขาหัวเราะให้กับความน่ารักของเธอ
“เจ็บชะมัด” เขาบ่นขึ้นอย่างคนอดกลั้นความเจ็บปวด เธอเล่นแบบนี้เดี๋ยวก็ได้เจ็บคืนหรอกนะ ชายหนุ่มคิดในใจก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานไปอีกห้องหนึ่งที่อยู่ข้าง ๆ เขา
แอ๊ดด~
หมอชัยย์เปิดและปิดประตูเสียงเบา เขายืนมองหมอรุ่นน้องที่กำลังนั่งหลับตาเพื่อพักสายตาอยู่ เขาเอะใจเล็กน้อยที่ตอนนี้หมอรุ่นน้องยังคงอยู่ในห้อง ไม่กลับบ้านพักไป
“มีอะไรก็พูดมา” หมอรุ่นน้องเอ่ยถามเขาเสียงนิ่ง ทำไมมันดูก้าวร้าวจังวะ เขาคิดในใจหรือว่ายังไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร
“ไม่ลืมตามาคุยกันหน่อยเหรอ” หมอชัยย์เอ่ยถามหมอรุ่นน้อง เพราะนึกว่าเขายังไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่แล้วมันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิด
“ไม่จำเป็น” เขายังคงตอบหมอชัยย์แบบเดิม โธ่ไอ้เด็กแรกเกิด ไม่คิดจะเคารพกันหน่อยเหรอ คิดว่าจบต่างประเทศและได้เกียรตินิยมแล้วจะทำแบบนี้ได้เหรอ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เขาจะพูดอะไรไม่ดีออกไป เพราะเขาจะมาขอความช่วยเหลือ
“ผมรู้ ผมอยู่ให้ก็ได้” พัชตอบออกมาโดยที่หมอรุ่นพี่ยังไม่ได้เอ่ยถาม ก็เพราะว่าเขาเห็นน้ำผึ้งเดินออกจากห้องหมอรุ่นพี่ยังไงล่ะ
“หืออ โอเค ฝากด้วยนะ” หมอชัยย์เอ่ยออกมาอย่าง งง ๆ มันรู้ได้ไงวะ เขาคิดในใจ ปกติแล้วเขาไม่เคยขอให้ใครอยู่เวรแทน และเขาก็ชอบอยู่เวรแทนคนอื่นตลอด เพราะว่าเขาไม่มั่นใจในฝีมือหมอคนอื่นว่าจะผ่าตัดได้ดีเท่ากับเขา
แต่พอไอ้หมอรุ่นน้องคนนี้เข้ามาความคิดเขาก็เปลี่ยนไป ในช่วงวันแรกเขาให้พัชเป็นผู้ช่วยเขา แต่ไอ้หมอนี่ดันทำตัวเหมือนเขาเป็นผู้ช่วยซะงั้น แต่ได้ดูทักษะแล้ว ไอ้หมอนี่มันไม่ธรรมดา เขาเลยเลือกที่จะให้พัชเข้าเวรแทนเขา
“ปิดประตูให้ด้วย” พัชเอ่ยออกมาเสียงเรียบ ออกแนวว่ากำลังจะไล่หมอรุ่นพี่ออกจากห้อง หมอชัยย์ถอนหายใจให้กับความหัวแข็งของหมอรุ่นน้อง เขาไม่ได้เป็นพวกรุ่นพี่ชอบกร่าง เขาเลยไม่เคยคิดจะบังคับให้ใครเคารพ จะเคารพไม่เคารพก็เรื่องของมัน ตั้งใจทำงานก็แล้วกัน หมอชัยย์คิดในใจขณะเดินออกจากห้องไป
“หึ โดนยัยผึ้งหว่านเสน่ห์วิ่งตามแบบไม่ทันเลยนะ” พัชหัวเราะออกมาอย่างนึกเอ็นดูคู่นี้ เขาได้ยินเสียงคุยกันของสองคนนี้ดังมาถึงห้องของเขา จนเขาถึงกับต้องส่ายหัวไปมาให้กับพวกเขาทั้งสอง
@บ้านพักบุคลากรแพทย์
“คุณจะออกไปไหนน่ะ” ผมเอ่ยถามร่างบางที่กำลังเดินผ่านหน้าผมออกไป เธอยังไม่คุยอะไรกับผมเลย แถมยังเอาแต่อยู่ในห้อง
“ไปดื่ม” เธอตอบเสียงเรียบ อะไรกันคนอุตส่าห์ออกเวรเพื่อมาอยู่ด้วย แต่กลับจะออกไปข้างนอกเนี่ยนะ
“กับใคร” ผมถามอย่างคนหงุดหงิดใจ
“กับเพื่อน เอ๊ะทำไมฉันต้องบอกนายด้วย” เธอว่าพลางทำหน้าเหมือนกับกำลังสับสน
“ผมไม่ให้ดื่ม” จู่ ๆ ผมก็ไม่อยากให้เธอเมาซะงั้น ผมกลัวว่าเธอจะโดนมอมเหล้าน่ะสิ
“โอเค ไม่ดื่ม” หือออ ทำไมเธอตอบตกลงง่ายจังวะ
“งั้นก็ไม่ต้องไป” ผมบอกเธอเสียงเรียบอีกครั้ง ผมหวงเธอง่ะ และวันนี้คือเธอแต่งตัวเหมือนจะไปยั่วอะไรก็ไม่รู้
“ฉันจะไป” เธอตอบอย่างทันควัน คือไงอะ แบบเธอบอกว่าจะไม่ดื่ม แล้วเธอจะไปทำไมกัน หรือว่า
“งั้นผมไปด้วย” ผมตอบพร้อมกับคว้ากุญแจที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาถือไว้
“นายจะไปทำไม” เธอถามผมพร้อมกับขมวดคิ้วเข้าหากัน
“ไปคุมคน” ผมตอบอย่างตรงไปตรงมา พร้อมกับเดินไปส่องกระจกเพื่อดูว่าตัวเองโอเคที่จะออกไปข้างนอกไหม อืม ก็หล่อดี ตอนนี้ผมใส่เสื้อยืดธรรมดา กับกางเกงสามส่วนมันธรรมดาแต่ก็ยังดูดี
“อะไรของนาย ไม่ต้องมาคุมฉันเลย” เธอยังคงดื้อดึงไม่ให้ผมไปด้วย
“งั้น นั่งดูอยู่ห่าง ๆ ก็ได้ จะไม่เข้าไปกวน” แต่ไม่สัญญานะ ผมยิ้มออกมาด้วยความเจ้าเล่ห์
“แล้วแต่” เธอยอมจนได้
“งั้นไปรถผมนะ” ผมว่าพลางเดินนำเธอไปที่รถออดี้คันโปรด
“ชิ” เธอจิ๊ปากก่อนจะเดิมตามมาอย่างว่าง่าย
@Club Friday night [22.00น.]
“เอ๊ะ นั้นมันพี่ชัยย์ นี่หน่า” เสียงเล็กแหลมของชะนีนางหนึ่งเอ่ยขึ้นทันทีที่ฉัน กับหมอชัยย์เดินเข้ามาที่คลับ ฉันที่กำลังยืนมองหาเพื่อนถึงกับต้องชะงัก
“ครับ” เขาตอบเธอเสียงหวาน โถ่ ไอ้ผู้ชายเจ้าชู้ ปากว่าจะมาคุมฉันที่ไหนได้อยากมาเที่ยวซะเองมากกว่า ไม่ทันที่ฉันจะได้หันไปด่าเขา แต่แล้วเขากลับถูกชะนีตัวนั้นเดินลากแขนเขาไปนั่งที่โซฟาหัวมุมทันที มันไวเกินไป ว่าไหม
เขาไม่มีท่าทีขัดขืนแม้แต่น้อย โธ่เอ๊ยหงุดหงิด ฉันเดินออกไปหายัยแคทอย่างกับคนอารมณ์เสีย ยัยแคทที่ยืนโบกไม้โบกมือให้ฉันอยู่โต๊ะ อีกฝั่งของร้าน ฉันรีบมุ่งไปหาเธอทันที
“แกมากับใครน่ะ หล่อจังวะ” แคทยิงคำถามใส่ฉันทันทีที่มาถึง
“เมต” ฉันตอบเสียงเรียบ แต่ยัยแคทถึงกับตาโต
“เมตคนนั้น ที่แกบอกว่าเขาเป็นคนสอน sex ให้แกเหรอ” ยัยแคทพูดพร้อมกับทำตาโตไปด้วย
“อือ” ฉันพยักหน้ารับ อย่างไม่อายใด ๆ ทั้งสิ้น
“แล้วทำไมแกไม่จับเขาทำแฟนเลยวะ หรือว่าเขาไม่เด็ด” ยัยแคทพูดขึ้นทำเอาฉันเขินทำตัวไม่ถูก ฉันไม่รู้หรอกนะว่ามันเด็ดไหม เพราะลองแค่กับเขาคนเดียว แต่ฉันว่าก็คงไม่มีใครเด็ดกว่านี้แล้วล่ะมั้ง
“ฉันไม่ชอบคนเจ้าชู้ แกก็รู้ว่าทำไมฉันไม่ชอบ” ฉันมีเหตุผลที่ไม่ชอบคนเจ้าชู้ เขามันเจ้าชู้ตัวพ่อ ไม่เชื่อก็มองเขาตอนนี้สิ เขากำลังนัวเนียกับผู้หญิงคนนั้นอย่างออกรส ส่วนผู้หญิงคนนั้นเหมือนกับกำลังกระหายเขาอย่างรุนแรง
“เออว่ะ เห็นแบบนี้แล้วอยากลองพิสูจน์เองเหมือนกันว่าจะเด็ดไหม ทำไมเข้าคลับมาไม่ถึงวิ ถึงโดนลากไปขนาดนั้น” ยัยแคทพูดพร้อมกับทำหน้าทำตาหยาดเยิ้ม สายตาของเราทั้งคู่ยังมองไปที่ผู้ชายกับผู้หญิงที่กำลังนัวเนียกันไม่ปล่อย
“ตกลงแกจะสอนฉันไหม” ฉันหันไปถามยัยแคท วันนี้ฉันออกเวรก็จริง แต่ยัยแคทถึงกลับต้องให้เพื่อนเข้าเวรแทน เพราะฉันบอกเธอไปว่าจะเข้าคลับอีกทีอาทิตย์หน้า แต่จู่ ๆ ก็ได้ออกเวรซะงั้น
“สอนสิ แกคิดว่าฉันจะยอมทิ้งงานมาเพื่ออะไรล่ะ เพราะฉันอยากให้แกมีแฟนสักทียังไงล่ะ” เธอว่าพลางกวาดสายตาไปทั่วคลับเพื่อมองหาใครสักคน ก่อนที่จะชี้ให้ฉันดู
“แก คนนั้นน่ะ เอาเลย ฉันว่างานดี” เธอพูดพลางชี้ไปทางผู้ชายตัวสูงคนหนึ่ง เขากำลังยืนใช้แขนข้างหนึ่งค้ำบาร์เหล้าอยู่ ส่วนมืออีกข้างกำลังยืนถือแก้วไวน์ไปด้วย เขาดูเท่ และดูดีใช้ได้เลย
“ฉันต้องทำไง” ฉันถามยัยแคทออกไปเสียงเรียบ เธอไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไร ยัยแคทยกนิ้วชี้และนิ้วกลางขึ้นมาสองนิ้ว เธอยกขึ้นมาจ่อที่ดวงตาของเธอ ก่อนจะเอาออกมาจ่อที่ดวงตาของฉันสลับไปมา เหมือนกำลังจะบอกว่าดูไว้เป็นตัวอย่าง ก่อนที่เธอจะลุกขึ้นถือแก้วไวน์ไปที่บาร์ตรงนั้น
แต่ว่าเธอไม่ได้เข้าไปหาผู้ชายคนนั้นที่เธอชี้ แต่เธอเข้าไปหาผู้ชายอีกคน ท่าทางของเธอ จริตของเธอมันยอดเยี่ยมชนิดที่ว่าผู้ชายคนนั้นถึงกับมองเธอตาเยิ้ม
ฉันนั่งมองอยู่สักพัก ในที่สุดยัยนั่นก็ตกผู้ชายคนนั้นได้ เธอกับเขาเดินจูงแขนกันไปทางห้องน้ำ ไวจังวะ ฉันคิดในใจ
“เอาวะ ฮึบ! จะมีผัวให้ได้” ฉันว่าพลางยกกำปั้นขึ้นเพื่อให้กำลังใจตัวเอง ฉันมองไปที่เป้าหมาย เขาเป็นผู้ชายดูนิ่ง ๆ ไม่น่าจะเจ้าชู้อะไร เพราะถ้าเจ้าชู้ก็คงเหมือนหมอนั่นที่เอาแต่นัวเนียผู้หญิงทันทีที่เข้ามา
ฉันเดินย่างก้าวอย่างช้า ๆ พร้อมกับบิดสะโพกไปมาเหมือนที่ยัยแคททำ เหมือนผู้ชายคนนั้นจะรู้ตัว เขาจ้องมองมาที่ฉันเหมือนกัน ฉันเดินไปพลางเอามือข้างหนึ่งม้วนลอนผมเบา ๆ แบบนี้มันโอเคไหมนะ ฉันเดินเข้าไปใกล้เขามาก แต่ไม่ได้ไปหยุดที่หน้าเขา เขามองฉันไม่ละสายตา เหมือนจะสำเร็จแฮะ
ฉันใช้แขนข้างหนึ่งค้ำไว้ที่บาร์ ส่วนมือข้างหนึ่งยังคงม้วนผมอยู่ ฉันหันข้างไปทางเขา ฉันแอ่นสะโพกออกไปด้านข้างให้มากที่สุด ก่อนจะใช้มือที่ม้วนผม เสยผมขึ้นเบา ๆ ฉันดูออกว่าเขากำลังตาค้าง ฉันกำลังจะเอ่ยพูดทักทายเขาแต่แล้ว
พลั่ก!
ตุบ!
“มาทำอะไรตรงนี้ครับ คุณเมีย!!!”