20 นาทีที่แล้ว…
@Club Friday night
ท่ามกลางแสง สี เสียง ที่กำลังสาดกระทบคลับแห่งหนึ่ง ผู้คนมากหน้าหลายตากำลังขยับตัวเต้นตามจังหวะเสียงเพลง กลิ่นเหล้า และบุหรี่คลุ้งไปหมด เสียงดนตรีทำให้ทุกคนต้องลุกขึ้นเต้น แต่ยกเว้นหนุ่มสาวสองคนตรงมุมมืดของคลับ
“อย่าดูดนะ ผมมีทำงานแต่เช้า” ชายหนุ่มเอ่ยบอกร่างบางที่กำลังไซ้ลำคอหนาอยู่ หญิงสาวกำลังนั่งซอยสะโพกบนตักชายหนุ่ม เขาพยายามจะเบี่ยงตัวหลบแต่เธอก็พยายามหยัดกายเข้ากับเขา วันนี้ชายหนุ่มมาด้วยชุดแสนจะธรรมดา แต่มันกลับดึงดูดสายตาผู้คนมากมาย รวมถึงหญิงสาวนางนี้
“พี่ดูดหนูได้นะคะ” หญิงสาวผละออกจากลำคอหนาก่อนจะเอ่ยบอกชายหนุ่มเสียงหวาน เธออยากจะลองมีอะไรกับเขา เสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าชายหนุ่มผู้นี้เด็ดอย่าบอกใคร เธอพยายามจะรวบหัวรวบหางเขาหลายรอบแล้ว และรอบนี้ก็เช่นกัน
“พี่มองอะไรอะคะ” หญิงสาวเบียดหน้าอกคู่ใจที่ใหญ่เกินมาตรฐานสาวเอเชียเข้าหาแผ่นอกหนา เธอเห็นเขามองไปทางคลับอีกฝั่งหนึ่งไม่ละสายตา และเหมือนเขาจะมองไปที่ผู้หญิงที่มากับเขา ทั้งสอง คนเป็นอะไรกันน่ะ เธอคิดในใจ
“มองเมียพี่น่ะ” ชายหนุ่มตอบโดยที่ไม่ได้หันหน้าไปมองหล่อน
“อะไรนะคะ” เธอผละหน้าออกเล็กน้อยหลังจากที่ได้ยินชายหนุ่มตอบเสียงเรียบ เขาไม่ตอบกลับเธอ
“พี่อย่าพูดเล่น บ่อยนักสิคะ น้องใจไม่ดีเลย” เธอทำเสียงออดอ้อนสุดฤทธิ์
“ไม่ได้พูดเล่น ไปก่อนนะ” ชายหนุ่มพูดจบไม่รอให้หญิงสาวนางนั้นตอบกลับอะไร เขาลุกขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้หญิงสาวนางนั้น
พรึ่บ!
เธอล้มลงออกจากตักชายหนุ่มทันที หน้าของเธอเกือบล้มคมำไปแนบโซฟา แต่ยังดีที่เธอใช้แขนยันโซฟาไว้ เธอหันไปมองเขาตามแผ่นหลังหนา ตาเธอกำลังจ้องเขม็งอย่างเคียดแค้น ทำไมล่ะ ทำไมเขาถึงไม่อยากจะ***เธอ
[00.00 น.]
พวกคุณคิดว่าผมกำลังเห็นอะไร ร่างสูงโปร่งที่วันนี้สวมชุดเดรสสั้นสีดำคลับ ตัดกับสีผิวขาวอมชมพูของร่างบาง เธอกำลังเดินนวยนาด บิดสะโพกไปมาหมายจะไปหาไอ้หน้าหล่อ แต่น้อยกว่าผม ที่กำลังยืนมองเธอตาเยิ้ม
ผมเดินอย่างรวดเร็วฝ่าผู้คนที่กำลังเต้นกันอย่างเมามัน นานพอสมควรกว่าผมจะฝ่าฝูงชนไปได้ และตอนนี้ผมกำลังเห็นน้ำผึ้งกำลัง ยืนเอาแขนข้างหนึ่งค้ำบาร์ ส่วนอีกข้างเธอกำลังเสยผมเพื่ออ่อยผู้ชายตรงหน้าเธอ
มันมองเธอไม่ละสายตา ผมทนเห็นภาพแบบนั้นไม่ไหว ยังไงดีล่ะ ‘แม่งโคตรจะหึง’ ผมเดินเข้าไปหาเธออย่างไว ก่อนจะเอื้อมมือไปกระชากแขนเธอเข้าหาตัวผม
พลั่ก!
ตุบ!
“มาทำอะไรตรงนี้ครับ คุณเมีย!!!” ผมเอ่ยกระแทกเสียงออกไปอย่างหัวเสีย พร้อมกับเน้นย้ำกับคำว่าเมียอย่างชัดถ้อยชัดคำ
“0.0” เธอเบิกตากว้างจ้องมองมาที่ผม มือบางกำลังยันหน้าอกผมออก
“ไม่ได้ยินเหรอ” ผมถามย้ำอีกครั้ง บอกเลยผมทนไม่ไหว
“คุณกำลังทำให้เธอเจ็บนะ” ไอ้หน้าขาวนี่พูดออกมาอย่างเป็นห่วงเธอ ทำเอาผมหงุดหงิดเข้าไปอีก แต่แล้ว
พลั่ก!
เพียะ!!
เธอผลักผมออกก่อนจะตบหน้าผมอย่างแรง หน้าผมหันไปตามแรงตบ ผมหน้าชา เอิ่ม เธอตบหน้าผมต่อไอ้หน้าขาวนี่ ผมเสียใจว่ะ
“นายพูดบ้าอะไรของนายฮะ” เธอกลังโมโห ผมไม่เข้าใจ ผมพูดผิดตรงไหนก็เธอเป็นเมียผมจริง ๆ
“ก็คุณเป็นเมียผม” ผมหันหน้าไปจ้องดวงตาเธอนิ่ง ดวงตาเธอสั่นไหว มันกระตุกเหมือนเธอกำลังจะใจอ่อนให้กับผม แต่แล้ว
“ถ้าฉันเป็นเมียนาย ผู้หญิงครึ่งคลับนี้ก็เมียนายทั้งนั้น” เธอพูดออกมาอย่างข่มความโกรธ แต่นั่นมัน
“แต่ผมไม่ได้คิดอะไร แบบที่ผมคิดกับคุณ” ผมตอบเธอออกไปตรง ๆ
“-_-” เธอนิ่งงัน
“หรือว่า…” ผมพูดขึ้นมาหลังจากที่เห็นเธอเงียบ แต่ก็ต้องหยัดนิ่งไป เพราะว่ากลัวคำตอบเธอ
“-_-|”
“คุณไม่ได้คิดอะไรกับผม?” ผมถามเธอออกไปเสียงสั่น บอกตรง ๆ โคตรจะกลัวคำตอบ
“-_-?” เธอยังคงนิ่ง สีหน้าของเธอกำลังคิดหนัก ผมรับรู้ได้
“คุณไม่ได้คิดอะไรกับผมเลยเหรอ?” ผมถามย้ำกับเธออีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอยอมตอบผม คำตอบของเธอมันช่าง
“ใช่ ฉันไม่เคยคิดอะไรกับนาย” ปวดใจ เธอพูดเสียงเบา แต่มันกลับดังก้องมากในโสตประสาทของผม ก้อนเนื้อหัวใจของผมมันกระตุก ชาวาบ ผมจ้องมองใบหน้าสวยของเธอนิ่ง เธอใจแข็งชะมัด ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากัน
“โอเค เข้าใจละ” ผมตอบเธอเสียงเบา มันไม่ได้ยินหรอกนะ เพราะเสียงในคลับมันกลบหมด แต่ทว่าถ้าหากเธอจ้องริมฝีปากผมเธอจะเข้าใจมัน ผมมองหน้าเธออีกครั้งในหัวของผมมันเบลอไปหมด ถ้ายืนอยู่นานดวงตาผมคงมีน้ำตาไหลแน่ ผมละสายตาออกจากเธอ ก่อนจะเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้าง หมุนตัวออกจากตรงนั้น
ผมเดินฝ่าผู้คนโดยไม่ได้หันกลับไปมองเธออีกเลย ยังไงดีล่ะ มันแบบ เจ็บมาก ๆ แต่บอกเธอไม่ได้ เพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกัน และเธอก็ไม่ได้คิดอะไรกับผมด้วย
“พี่คะ พี่คะ ชนแก้วไหมคะ”
“พี่ชัยย์หรือเปล่าคะ พอดีอยากทำความรู้จัก”
“พี่คะ อย่าเพิ่งกลับสิคะ หนูมองพี่ตั้งนาน”
ตามระยะทางที่ผมเดินผ่าน มีผู้หญิงมากหน้าหลายตาเดินเข้ามาทำความรู้จักผม ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ผมคงอยู่ที่นี่อีกยาว แต่ตอนนี้ผมกลับเซ็งจนไม่ได้ตอบกลับใครสักคน ผมเดินตามทางเดินมาหยุดอยู่หน้าคลับ ผมเดินเข้าไปหาการ์ดหน้าคลับ
“น้อง บุหรี่มวนหนึ่ง” ผมเอ่ยบอกการ์ดหน้าคลับพวกเขารู้จักผมดี การ์ดยื่นบุหรี่ให้ผม ผมหยิบมาคีบใส่ปากก่อนที่การ์ดจะจุดไฟให้ ผมเดินออกไปยืนดูดบุหรี่ที่จุดที่เขามีไว้สำหรับดูดบุหรี่
ผมยืนหันหลังพิงกำแพงก่อนจะพ่นควันบุหรี่ออกเป็นระยะ ผมไม่ได้สูบมันนานแล้ว ถ้าผมไม่เครียดจริงไม่ยกขึ้นมาดูดหรอก เพราะละอายใจต่อคนไข้ เพราะผมชอบบอกให้คนไข้งดบุหรี่ แต่สมัยเรียนผมดูดมาหมดทุกอย่างแล้วล่ะ
นิโคตินกำลังกล่อมประสาทให้ผมผ่อนคลาย มันช่วยได้ ผมอัดมันเข้าปอดอย่างแรง เพราะกลัวว่ามันจะออกฤทธิ์น้อยไป
ผมยืนมองควันบุหรี่ที่ฟุ้งออกไปไกล ตามท้องฟ้าที่กำลังดำมืดสนิท ผม…ไม่ได้รู้สึกแบบนี้มา 5 ปีแล้วสินะ จู่ ๆ ภาพในอดีตก็ฉายชัดขึ้นมาในหัว มันเหมือนกับว่ามันกำลังวนลูปกลับมาอีกครั้ง แต่แล้วก็มีเสียงเรียกของใครบางคนดังขึ้น ทำให้ผมหยุดชะงักความคิดนั้นลง
“พี่คะ ยืนอยู่คนเดียวมันเหงาไปเหรอคะ” ร่างบางของผู้หญิงคนหนึ่งเอ่ยขึ้น ผมไม่รู้ว่าเธอเป็นใครแต่เธอสวยดี เธอยิ้มให้ผมอย่างอ่อนหวาน แต่ผมก็ยืนมองเธอนิ่ง เหมือนจะบอกว่า ‘ไม่มีอารมณ์’ แต่เธอก็ยังคงยืนไม่ไปไหน ผมละสายสายตาจากเธอหันไปเขี่ยผงบุหรี่ที่ผนัง ก่อนจะเหม่อมองไปอีกครั้ง…