กรุงเทพมหานคร
บาร์บาร์ผับ
ตื้ด ๆ ๆ ๆ
วู้ววววววววว!!!
กรี๊ดดดดดดดดดด!!
“มันส์โว้ยยยยยย!!วู้ววววว!!” เสียงเพลงแสงไฟผู้คนมากมายกำลังเต้นและโยกย้ายบ้างคนก็กำลังนัวเนียกันโดยไม่สนใจว่าใครจะมองแต่ในสถานที่แบบนี้ก็ไม่มีใครสนใจอยู่แล้วว่าใครจะทำอะไร
“ไอ้อัลมอนด์ชนแก้วเว้ยยยย!!” ไอ้ฟรอสต์เรียกผมที่กำลังนัวเนียกับกิ๊บซี่ผู้หญิงในสังกัดผมเบอร์หนึ่งตอนนี้
“มา ๆ ชนเว้ยยยยย” เคร้ง! เราชนแก้วกันก่อนจะดื่มและสนุกสนามทั้งที่พรุ่งนี้มีเรียนแต่แล้วไงละไม่ไหวก็แค่โดด
“กิ๊บซี่ไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะมอนด์ ฟอดด!” กิ๊บซี่บอกผมก่อนจะหอมแก้ม
“รีบไปรีบมาคิดถึง ^^” ผมแกล้งหยอด
“มุกเสี่ยวเป็นบ้าเลยแต่ชอบค่ะ งั้นเดี๋ยวมานะคะ จุ๊บ!” เธอจูบปากผมก่อนจะออกไปผมมองตามเธอนิดหน่อยก่อนจะหันมาสนใจเพื่อนที่มีผู้หญิงควงมาเหมือนกันแต่ไม่มีใครจริงจังสักคน
“หวานเกินวะแล้วเมื่อไหร่จะขอเป็นแฟน?” ไอ้บอนซ์ถามผม
“ไม่รู้สิตอนนี้ก็โอเคแล้วนะไม่เห็นต้องเอาสถานะมาผูกมัดเลยนิ” ผมยักไหล่อย่างไม่ได้สนใจถามว่าคบกับกิ๊บซี่แล้วดีไหมก็คงดีนั่นแหละแต่ก็ไม่ได้อยากคบจริงจังตอนนี้เราอยู่แบบนี้ก็สบายใจดีแล้ว
“ผู้หญิงเขาก็ต้องคาดหวังนะเว้ย! คุยกันมานานขนาดนี้”
“แล้วคนคุยต้องจบด้วยการเป็นแฟนทุกคนเหรอวะ? กูว่าไม่นะ”
“ตามใจระวังปากคาบไปแดกใคร ๆ ก็รู้ว่ากิ๊บซี่ฮอตแค่ไหน”
“เหอะ! ถ้าเป็นของที่หมาตัวอื่นคาบไปได้ง่าย ๆ ก็เชิญเถอะกูไม่แดกซ้ำหรอก” ผมบอกก่อนจะยกแก้วขึ้นดื่มเหล้าเข้ม ๆ ต่อ
“เท่สัส!!คนอะไรวะ”
หึ ผมไม่ได้สนใจอยู่แล้วว่าผู้หญิงที่ผมคุยอยู่จะไปเป็นอาหารของใครอยากไปก็ไปผมไม่รั้งไว้อยู่แล้ว และก็ไม่กินซ้ำด้วยเพราะผมไม่ชอบของเหลือเดนใคร
หลายวันต่อมา...
คอนโด NM
Rrrrrr
Rrrrrr
“อื้ออออ~อัลมอนด์คะ...มอนด์” เสียงของกิ๊บซี่เรียกผมที่กำลังนอนอยู่ซึ่งผมไม่ชอบให้ใครมาปลุกเวลานอนไง!
“อย่ากวน!” ผมสะบัดมือของกิ๊บซี่ออกไป
“แต่มันเสียงโทรศัพท์มอนด์นะ! ใครมาอยู่ได้กิ๊บก็จะนอนเหมือนกันนะ” ใครแม่งโทรมาวะ?!
“เธอก็รับเลยและบอกว่าเอากันอยู่ไม่ว่างรับ!!” ผมบอกและมุดผ้าห่มเพื่อนอนต่อ
“เอางั้นก็ได้...ฮัลโหลเอากันอยู่ค่าาา~ไม่ว่างคุย!!” เสียงของกิ๊บซี่รับสาย
“วะว่าไงนะคะ?!!!!”
“กิ๊บ!!!รับแล้วก็วางไปสิวะ!!” ไม่วางสายแล้วยังเสียงดังอีก
“อัลมอนด์!!คะคนชื่ออารีย์เขาบอกว่าเป็นพ่อมอนด์อะ!!” พรึ่บ!! พอได้ยินอย่างนั้นผมก็เด้งตัวขึ้นมาก่อนจะคว้าโทรศัพท์ออกจากมือกิ๊บซี่ทันทีและมองชื่อที่หน้าจอโทรศัพท์
‘อารีย์’
ผมบันทึกชื่อพ่อไว้แบบนี้จริง ๆ
“เฮ้ออ!! ฮัลโหลพ่อ!”
(พ่องงงงง!!มึงดิไอ้ลูกเวร!!มึงให้ใครมารับสายฮะ!!เอากันอยู่พูดมาได้หน้าไม่อาย!!มึงอย่าเอาผู้หญิงแบบนั้นเข้าบ้านนะไม่งั้นกูยิงทิ้งทั้งคู่!!) ยังไม่ได้พูดอะไรพ่อผมก็ด่าสวนออกมาก่อน ผมหันมองหน้าของกิ๊บซี่ที่ได้ยินเสียงพ่อด้วยและทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
“ผมให้กิ๊บซี่พูดแบบนั้นเองแหละไม่รู้ว่าเป็นพ่อไง”
(แล้วมึงเม้มชื่อพ่อว่าอะไร?)
“อารีย์”
(ไอ้ลูกเวร!!!!) ผมเอาโทรศัพท์ออกจากหูเพราะพ่อผมโคตรเสียงดังไม่รู้ว่าจะตะโกนทำไม เหอะ!
“มีอะไรก็พูดมาเถอะพ่อผมง่วงเมื่อคืนอ่านหนังสือดึกไปหน่อย”
(อ่านหนังสือหรือว่าเอาหญิง?)
“เอาหญิงแต่ช่างเถอะพ่อพูดมาได้แล้ว”
(เดือนหน้ากลับบ้านด้วย)
“ไม่กลับ” ผมตอบทันทีเพราะผมไม่ชอบบ้านนอก!!ร้อนก็ร้อนหาความเจริญไม่มีเลยด้วยซ้ำร้านสะดวกซื้อสักร้านกว่าจะเจอต้องขับรถออกไปเป็นร้อยกิโล ห้างก็หายากอีกเรื่องอะไรต้องกลับ
(กลับ!!เพราะมึงปิดเทอมแล้วและกูก็มีเรื่องสำคัญด้วยเพราะงั้นกลับบ้านนนน!!!)
“ไม่กลับบบบ!!!ไม่ชอบ!!ไม่อยากกลับ!!กลับบ้านนอกแล้วมันทรมานมันนรก!!” ผมตอบกลับไป
(นรกมันแดกกะบานมึงตั้งนานแล้วไอ้มอนด์!!)
(ไม่รู้ละมึงต้องกลับบ้านไม่อย่างงั้นอย่าหวังว่ากูจะส่งเงินให้มึงใช้!)
“อ้าวพ่อ!!ทำไมทำแบบนี้อะ!!” ผมถามอย่างงอแง
(ก็มึงมันไม่ได้เรื่องแค่ให้กลับบ้าน 2-3 วันมันจะเป็นอะไรถ้ามันไม่สำคัญกูไม่โทรหามึงหรอกเว้ย!)
“เรื่องอะไร?”
(กูจะแต่งงานใหม่)
“อ่อออ คิดว่าเรื่องอะไรที่แท้ก็...ฮะ?!!” ผมตกใจมากกกก!!ฉิบหายแล้ววว
“ตะแต่งงาน!!พ่อบ้าป่ะเนี่ยแก่แล้วจะแต่งทำไม?!”
(ก็กูรักน้องนางอะอยากแต่งงานด้วยเพราะยังไงมึงก็ไม่กลับบ้านมาดูแลกูอยู่แล้วเพราะงั้นกูแต่งงานหาเมียใหม่มาดูแลยามแก่ดีกว่า)
“โดนหลอกใช่ไหมบอกมา!”
(หลอกพ่อมึงสิ!!น้องนางไม่ได้เป็นคนแบบนั้นมางานแต่งกูด้วยไอ้ลูกเหี้ยยยยย)
1 เดือนต่อมา...
หมู่บ้านโดนเอาว์
บรื้นนนนนนน!!
เฮ้ออออ!!สุดท้ายผมก็ต้องมาเพราะว่าพ่อผมบอกว่าถ้าไม่มาจะไม่ให้เงินตอนนี้ผมยังไม่มีงานทำต้องเกาะพ่อแดกไปก่อนเลยต้องมาอย่างช่วยไม่ได้และกำลังขับรถไปบ้านที่กำลังจะถึงในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าแล้วด้วยส่วนคนที่พ่อจะแต่งงานด้วยได้ข่าวว่าอายุแค่ 29 ปีเอง พ่อผมจะ 60 แล้วนะ!!ห่างกัน 30 ปีผมจะบ้าตายเพราะงั้นผมต้องมาดูว่าผู้หญิงคนนั้นเข้ามาหลอกพ่อมึงหรือเปล่า?!
“เจอดีแน่ยัยผู้หญิงหน้าเงินนน!!”
บรื้นนนนนนนนนนนน!!! ตู้มมมมม!!
“เฮ้ยย!!” โครมมมมม!! และขณะที่ผมกำลังขับรถอยู่ ๆ รถของผมก็ยางแตก!!ทำให้เสียหลักพุ่งลงข้างทางทันที
“แม่งเอ๊ยยยย!!” ปึก! ผมต้องลงจากรถและมาดูด้วยความหงุดหงิดเพราะถนนเฮงซวยแท้ ๆ นะแม่งทำไมไม่ราดยางวะไม่งั้นรถผมคงไม่มีสภาพเป็นแบบนี้หรอก!!
“ร้อนก็ร้อน!!อีกนิดเดียวก็ถึงบ้านแล้วนะ!!” ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อโทรหาพ่อให้ออกมารับ
ตรู๊ดดด
(อยู่ไหนละ?)
“จะถึงละแต่รถยางแตกพ่อออกมารับหน่อยดิ” ผมบอกและมองไปรอบก่อนสายตาจะหันไปเห็นอะไรบางอย่าง
(อ้าว! แล้วเจ็บตรงไหนไหม?)
“ไม่เจ็บแต่เซ็งตอนนี้ก็ร้อนมากกก!พ่อมารับและเอาคนมารับรถหน่อยดิแดดหรือไฟนรกวะเนี่ย?!” ผมบ่น ๆ เพราะไม่ชอบอากาศร้อน
(เกิดศรีสะเกษทำอย่างกับเกิดเกาหลีสำออยไปได้อยู่ไหนเดี๋ยวออกไปรับ!)
“อยู่...” ผมมองเข้าไปมันมีป้ายบางอย่าง
“ศาลเจ้าแม่ชะอมทอง...สุดแสบอะไรนี่แหละ” ผมเดินไปมองใกล้ ๆ แถวนี้ก็ร่มเย็นดีแต่ศาลเจ้าแม่งแปลกตาดีไม่โบราณ
(อ่อ งั้นรอแถวนั้นก่อนแล้วก็อย่าลืมไหว้เจ้าแม่ชะอมละท่านศักดิ์สิทธิ์ชาวบ้านแถวนี้เขานับถือกัน)
“ศักดิ์สิทธิ์แล้วสักยันได้ป่ะพ่อ?” ผมถามกวน ๆ และมองศาลอย่างพิจารณาออกแบบอย่างกับมืออาชีพท่าทางจะแพงนะเนี่ยใครมาทำให้วะโคตรโง่เลยที่เอาเงินมาลงกับอะไรแบบนี้
(เจ้าแม่อะศักดิ์สิทธิ์ส่วนกูเนี่ยจะยันมึงเองรออยู่นั่นแหละกำลังไป)
“โอเค๊!” ผมวางสายก่อนจะส่องเข้าไปในศาลเจ้านั่นชื่อศาลก็แปลกมันเขียนว่า ‘เจ้าแม่ชะอมทองสุดแซ่บ’
“ใครตั้งชื่อวะเสร่อฉิบหายเลย” แถมของที่เอามาไหว้ก็มีแต่ของแพงทั้งนั้นเลยที่อื่นเป็นชุดไทยแต่ที่นี่เป็นชาแนล กุชชี่ ไม่กลัวหายหรือไงมีแต่ของดีเท่านั้น
“ไอ้อัลมอนด์!” เสียงพ่อทำให้ผมหันไปมอง
“หวัดดีพ่องงง!” ผมยกมือไหว้
“เออ! กองไว้ตรงนั้นแหละแล้วก็ไหว้เจ้าแม่ยัง?”
“ไหว้ทำไมพ่อกลับบ้านเถอะโคตรร้อนเลย” ผมปาดเหงื่อ
“ไหว้ก่อนนนนนท่านจะได้ปกปักรักษาเวลามึงอยู่ที่นี่...” พ่อผมพูดและหันไปไหว้ศาล
“แค่ไหว้ก็พอใช่ไหม?” ผมหันไปไหว้อย่างลวก ๆ ก่อนจะเดินไปขึ้นรถพ่อ
“ไอ้เด็กนี่!!”