ตอนที่2

918 Words
เนื่องจากได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของท่านชายใหญ่แห่งแคว้นไท่จงมามาก ทั้งที่มีรูปโฉมงดงามราวภาพวาด แต่กลับอารมณ์ร้าย โหดเหี้ยม และไร้ความปรานี หากไม่พอใจก็สามารถทำให้ผู้คนหรือสถานที่แห่งนั้นหายไปได้ในพริบตา ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีผู้ใดกล้าสบสายตาเวลาสร้างความขุ่นเคือง “ช่างเถิด ข้าเหนื่อยแล้ว” เสียงทุ้มจากบุรุษร่างสูงกำยำเอ่ยอย่างเบื่อหน่าย จากนั้นค่อยปรากฏกายต่อหน้าผู้คนด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ รุ่ยฝานเห็นทางรอดจึงรีบเสนอตัวทันที “เช่นนั้นให้ข้านำทางนะเจ้าคะ อวี้เอ๋อร์ มานี่เร็วเข้า!” รุ่ยฝานรีบเรียกรุ่ยอวี้เข้ามาหาตนเพื่อตามไปปรนนิบัติท่านชาย ทว่ากลับถูกซ่างเจียงห้ามปรามเอาไว้อย่างรวดเร็ว “ท่านชายของข้าต้องการพักผ่อน นางผู้นี้คงไม่จำเป็น แต่ท่านชายของข้าถูกใจเสียงขลุ่ยยิ่งนัก” เมื่อรุ่ยฝานได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกตกใจ เนื่องจากมือขลุ่ยมีเพียงจ้าวหลันผู้เดียวเท่านั้นที่บรรเลงได้ ทว่าจ้าวหลันไม่เคยได้รับการอบรมให้ปรนนิบัติลูกค้า ยิ่งกับท่านชายใหญ่แล้ว หากนางกระทำผิดพลาดไป มิเท่ากับหาเรื่องให้โดนตัดหัวหรอกหรือ “เอ่อ…นักดนตรีของข้าไร้มารยาทเกินไป เกรงว่าจะทำให้ท่านชายขุ่นเคือง” “บังอาจ! เจ้าเป็นผู้ใดถึงกล้าคิดแทนท่านชายใหญ่แห่งไท่จง!” ซ่างเจียงตวาด รุ่ยฝานกลัวตายก็รีบลนลาน แม้จะทำให้รุ่ยอวี้ขายหน้า แต่หัวของนางสำคัญกว่านั้น จึงรีบสั่งให้เด็กรับใช้ไปเรียกตัวจ้าวหลันออกมาจากหลังม่านทันที ไม่นานร่างเล็กสั่นเทาก็ค่อยๆ เดินออกมาจากหลังม่านด้วยความหวาดกลัว นางกลัวจนไม่กล้ามองสิ่งใดนอกจากพื้น ทำได้เพียงแค่ก้มหน้าเดินตามหลังเด็กรับใช้อย่างระมัดระวัง ท่านชายใหญ่แห่งไท่จง แค่ได้ยินชื่อก็สั่นหนาวไปทั้งหัวใจแล้ว หากเขารู้ว่านางเป็นใคร คงไม่ปล่อยให้มีชีวิตอยู่ต่อไปเป็นแน่… จ้าวหลันกำชายผ้าแน่นด้วยความกังวลและประหม่า เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่ถูกเรียกตัวเช่นนี้ ทั้งที่นางไม่เคยถูกเรียกเนื่องจากอยู่หลังม่านมาโดยตลอด หรือว่าชะตาของนางจะขาดลงในวันนี้เสียแล้ว รุ่ยฝานเห็นสภาพมอมแมมของจ้าวหลันก็รู้สึกอับอาย นางรู้ว่าจ้าวหลันถูกกลั่นแกล้งอย่างหนักแต่ก็มิได้ใส่ใจ แต่ใครจะไปคิดกันเล่าว่าท่านชายใหญ่จะถูกใจเสียงขลุ่ยของนางเสียได้ หากเป็นเช่นนี้มิเท่ากับลบหลู่เบื้องสูงหรอกหรือ ไท่ซือเฉินใช้สายตาคมกริบสำรวจดูสภาพของสตรีเจ้าของเสียงขลุ่ยที่ตนถูกใจก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ หากไม่เป็นเพราะนาง คนเหล่านี้คงไร้เงาหัว “ข้าจะพักผ่อน นำทางไป” รุ่ยฝานรีบตอบรับทันทีอย่างรู้งาน “ข้าจะนำทางท่านไปที่ห้องพักที่ดีที่สุดเองเจ้าค่ะ และจะรีบส่งนางให้ท่านโดยเร็ว” จากนั้นรุ่ยฝานก็รีบสั่งให้เด็กรับใช้รีบพาจ้าวหลันไปชำระร่างกายโดยเร็ว พร้อมกับกำชับอย่าให้เกิดข้อผิดพลาดดังเช่นเมื่อครู่อีก จ้าวหลันถูกลากไปยังห้องชำระโดยทันทีท่ามกลางความริษยาของเด็กรับใช้ผู้อื่น แต่นอกจากความริษยาแล้วก็ยังรู้สึกเวทนาในชะตากรรมของนางไม่แพ้กัน เนื่องจากพวกตนได้ยินมาว่าท่านชายไท่ซือเฉินมักชอบทรมานนางโลมจนเกือบตายอยู่หลายคน หากทำให้ไม่สบอารมณ์เพียงครู่เดียว ศีรษะก็อาจจะหลุดออกจากคอได้ในทันที ผู้คนจึงขนานนามว่าเป็นท่านชายปีศาจ และด้วยเหตุนี้จึงทำให้ท่านอ๋องส่งท่านชายไปอยู่จวนนอกเมือง ที่กลับมาในเมืองหลวงครั้งนี้ก็เพราะงานฉลองปีใหม่เพียงเท่านั้น เรื่องราวสกุลอ๋องต่างเป็นเรื่องเล่าขบขันยามว่างของชาวบ้าน ราษฎรต่างรู้ว่าท่านชายใหญ่ไร้ซึ่งผู้หนุนหลังเนื่องจากมีมารดาเป็นสามัญชน พระชายาองค์ปัจจุบันก็มีท่านชายรองที่เป็นทายาทมีผู้สนับสนุนมากมาย ด้วยเหตุนี้ท่านชายใหญ่จึงถูกกีดกันจากงานราชการ แต่ก็ยังเป็นเหมือนเสี้ยนหนามรอวันถูกกำจัดอยู่ดี แต่กระนั้นผู้คนก็ยังยำเกรงเพราะไม่ว่าอย่างไรก็เป็นถึงบุตรชายคนโตของสกุลอ๋องไท่จง “ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้าย หากเจ้ายังมีลมหายใจถึงวันรุ่งขึ้น ก็ให้นับว่าเป็นโชคดีเสียเถิด” นางรับใช้ผู้หนึ่งเอ่ยขณะช่วยสหายขัดตัวจ้าวหลัน เพื่อส่งนางไปเป็นเครื่องบรรณาการแด่ท่านชายใหญ่ในราตรีนี้ “แต่ถึงอย่างไรก็น่าอิจฉาอยู่ดี ว่ากันว่าหากปรนนิบัติได้ดีก็อาจขึ้นสวรรค์” สตรีอีกคนกล่าวพร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างขบขัน ไม่ว่าจะเป็นถ้อยคำริษยาหรือทำนายดวงชะตาก็ไม่ทำให้จ้าวหลันหายสั่นกลัวอยู่ดี ยิ่งเห็นนางรับใช้ประโคมเครื่องหอมลงบนร่างกายของนางมากเท่าใด ก็ยิ่งทำให้นางหวาดหวั่นมากขึ้นเท่านั้น ไท่ซือเฉิน ท่านชายแห่งแคว้นไท่จง หากไม่เป็นเพราะแคว้นจ้าวจงของนางล่มสลาย นางก็คงได้แต่งเข้าจวนของเขา คู่หมั้นหมายยาวนานถึงสิบปีจนเส้นวาสนาได้ขาดจากกัน ทว่าวันนี้นางกลับหนีชะตากรรมไม่พ้น สุดท้ายก็ต้องตกอยู่ในเงื้อมมือของเขาเช่นเดิม โชคชะตาช่างโหดเหี้ยมยิ่งนัก!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD