ตอนที่1
“จ้าวหลัน! จ้าวหลัน! เจ้าอยู่ที่ใด! วันนี้ต้องต้อนรับท่านชายใหญ่ จะมัวชักช้าไม่ได้! หากเจ้าทำให้เสียเรื่อง ข้าจะขายเจ้าให้พ่อค้าทาส!” เสียงแหลมของสตรีนางหนึ่งตวาดขึ้นอย่างไม่พอใจเมื่อเห็นว่านักดนตรีของนางหายไปหนึ่งคน ทำให้นางระบำไม่สามารถซ้อมการแสดงรอบสุดท้ายได้
“นายหญิงรุ่ยฝาน ขะ ข้ามาแล้ว ข้า…ข้าขอโทษ…” สตรีเจ้าของชื่อรีบวิ่งเข้ามาด้วยสีหน้าตื่นตระหนก จากนั้นรีบคุกเข่าลงกราบไหว้เพื่อขอความปรานี “อย่า อย่าขายข้าเลย ข้า ข้า…” นางอึกอักไม่กล้าฟ้องว่าเหตุใดตนจึงมาสาย ทว่าหากสังเกตจากสภาพของนาง ก็น่าจะรู้ได้ว่าเพิ่งถูกกลั่นแกล้งมา แต่ผู้ใดเล่าจะสงสารเวทนา เวลานี้จึงทำได้เพียงแค่อ้อนวอนขอความเห็นใจเท่านั้น
“น่ารังเกียจเสียจริง! เสื้อผ้าเปียกแฉะเช่นนี้ไม่ต่างจากผ้าขี้ริ้วเลยสักนิด! ไปประจำที่ของเจ้าเสีย! อย่าให้เสียงาน!” ทว่านายหญิงแห่งหอรุ่ยเยว่หาได้สนใจสภาพของคนตรงหน้าแต่อย่างใด เพราะนางต้องการเพียงแค่ผลลัพธ์เท่านั้น หากนางสามารถทำให้ท่านชายใหญ่แห่งแคว้นไท่จงพึงพอใจได้ หอนางโลมของนางก็จะได้รับความนิยมมากขึ้นกว่าเดิม
เมื่อคิดถึงความเจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้า เรื่องที่จ้าวหลันถูกกลั่นแกล้ง นางจึงไม่คิดจะใส่ใจแม้แต่น้อย ในเมื่อซื้อตัวจ้าวหลันมาจากตลาดค้าทาส สถานะต่ำที่สุดเช่นนี้ หากตายไปก็มิได้ส่งผลต่อนางเลยสักนิด
“ขะ ขอบพระคุณนายหญิง ขอบพระคุณเจ้าค่ะ” จ้าวหลันก้มคำนับอย่างเกรงกลัว จากนั้นรีบไปประจำที่ของตนท่ามกลางเสียงหัวเราะขบขันของเหล่านางรับใช้วัยกระเตาะที่มักรวมหัวกลั่นแกล้งนางเป็นประจำ
หากไม่เป็นเพราะมีความสามารถในการเล่นดนตรี นางคงไม่มีชีวิตรอดมาถึงเวลานี้ ต่อให้ต้องถูกเหยียบย่ำเพราะสถานะทาสสงครามมากเท่าใด ขอแค่มีชีวิตอยู่ต่อไปได้ก็พอ
อดทนไว้ ข้ามิใช่ท่านหญิงจ้าวอู่หรานอีกแล้ว แต่เป็นเพียงจ้าวหลันเท่านั้น ข้าจะต้อง…มีชีวิตอยู่ต่อไป
จ้าวหลันกล้ำกลืนความเจ็บปวดลงคอ หากมิได้รับการรักษาภายในคืนนี้ สุขภาพของนางคงแย่กว่าเดิม ทว่าจะทำให้นายหญิงขุ่นเคืองมิได้เด็ดขาด
“จ้าวหลัน ปากเจ้าซีดหมดแล้ว เด็กพวกนั้นก็เหลือเกิน รู้ทั้งรู้ว่ามีงานใหญ่ ก็ยังไม่ละเว้น” รุ่ยเยว่ปลอบสหายด้วยความสงสารครั้นเห็นสภาพของนางเปียกชื้นไปทั้งตัว ดูก็รู้ว่าเพิ่งถูกกลั่นแกล้งมา เวลานี้นางจึงทำได้เพียงแค่ช่วยเหลือด้วยการยื่นผ้าเช็ดหน้าให้เพียงเท่านั้น
รุ่ยเยว่มองใบหน้าซีดเซียวของจ้าวหลันด้วยความสงสาร เพียงเพราะนางเป็นทาสจากสงคราม มีสถานะต่ำต้อยที่สุดในแคว้น อยากจะกลั่นแกล้งเท่าใดก็ย่อมได้ อีกทั้งจ้าวหลันยังมีใบหน้างดงามกว่านางโลมทั่วไป มีความสามารถด้านดนตรี จึงทำให้เกิดความริษยา การกลั่นแกล้งจึงหนักข้อขึ้นทุกวันจนร่างกายบอบช้ำไปหลายส่วน
“ขอบคุณ…” จ้าวหลันรับผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดปลายผมเปียกชุ่มของตน จากนั้นค่อยๆ เดินไปนั่งประจำที่ที่อยู่หลังม่านการแสดง
จ้าวหลันเหลือบมองมือของตนที่เป็นอวัยวะสำคัญในการดำรงชีวิต เพราะหากไม่มีสิ่งนี้ นางก็เป็นแค่คนไร้ประโยชน์ และอาจถูกนำไปขายให้พ่อค้าทาสต่างเมือง
นางไม่อยากกลับไปอยู่ในนรกแห่งนั้นอีกแล้ว…
สถานที่แห่งนี้ ต่อให้นางถูกกลั่นแกล้ง แต่ก็ยังมีข้าวให้กินจนอิ่มท้อง มีที่ให้ซุกหัวนอนแม้จะเป็นห้องเก็บที่อยู่หลังสุขาก็ตาม และหากไม่เป็นเพราะคำสั่งเสียของมารดา นางก็คงไม่ได้มีชีวิตยืนยาวมาถึงสิบแปดปีเต็มเช่นนี้
จากสูงสุดสู่ขุมนรกไร้ก้น ต้องกลายเป็นทาสไร้ถิ่นฐาน ต้องขอบคุณวิชาดนตรีซึ่งเป็นวิชาหนึ่งเดียวที่นางตั้งใจศึกษา จึงทำให้นางมีชีวิตรอดมาได้ถึงวันนี้
เสียงของนายหญิงดังขึ้นเมื่อนางระบำอันเป็นตัวเอกของงานเลี้ยงต้อนรับในครั้งนี้ย่างกรายขึ้นมาบนเวที จ้าวหลันค่อยๆ หยิบขลุ่ยขึ้นมาแนบริมฝีปาก จากนั้นค่อยๆ เป่าบรรเลงเพื่อนำการแสดง ก่อนที่เสียงดนตรีประเภทอื่นจะดังขึ้นเพื่อส่งเสริมให้บุปผางามหนึ่งเดียวบนเวทีโดดเด่นยิ่งกว่าผู้ใด
รุ่ยอวี้เป็นนางโลมที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างยาวนาน ทันทีที่เปิดตัวก็ได้รับความสนใจจากเหล่าคุณชายในทันที ทว่าวันนี้นางกลับถูกวางตัวเป็นผู้ที่จะต้องปรนนิบัติแก่ท่านชายใหญ่แห่งแคว้นไท่จง ดังนั้นการแสดงในวันนี้จะให้เกิดข้อผิดพลาดมิได้
แม้ว่าหัวใจของจ้าวหลันจะสั่นรัวราวกับจับไข้ แต่นางก็ยังสามารถประคองไปได้จนจบการแสดง ทว่าหลังจากจบการแสดงของรุ่ยอวี้แล้ว กลับมีเสียงปรบมือจากคนผู้หนึ่งดังก้องไปทั่วทั้งห้องโถง ทำให้เหล่าข้ารับใช้ในหอนางโลมต่างหันไปมองด้วยความสนใจทันที ไม่เว้นแม้แต่นายหญิงที่ใบหน้าซีดเผือดลงหลังจากเห็นแขกผู้มาเยือนก่อนเวลานัดหมาย
“คารวะท่านชายใหญ่เจ้าค่ะ ไม่คิดว่าท่านจะมาก่อนเวลา ข้า เอ่อ ข้าจึงไม่ได้เตรียมต้อนรับท่าน ต้องขออภัยด้วยเจ้าค่ะ” รุ่ยฝานรีบเข้าไปประจบ ทว่ากลับถูกซ่างเจียงคนสนิทของท่านชายใหญ่เข้ามาตำหนิ
“สามหาว! นี่เจ้าจะกล่าวว่าท่านชายของข้าเสียมารยาทที่มาเร็วหรืออย่างไร!”
รุ่ยฝานตกใจรีบคุกเข่าลงทันที
“ขอ ขออภัยเจ้าค่ะ! ข้ามิได้คิดเช่นนั้นเลยสักนิด! ขอท่านชายโปรดอภัย!”
เมื่อทั้งห้องโถงเห็นนายหญิงของตนก้มศีรษะแนบพื้นเช่นนั้น ก็รีบทำตามโดยทันที ไม่เว้นแม้แต่ผู้ที่อยู่หลังม่าน