1
ประเทศไทย (เชียงใหม่)
ไร่สิรันยากรณ์มีเนื้อที่นับพันไร่ บ้านหลังใหญ่สไตล์คลาสสิกที่รับรองแขกได้ถึงสามสิบคน ถูกสร้างขึ้นโดย โดมินิก ซาเก้ ร็อฟเวลล์ บิดาของเสกสรรและเพชรดนัย ที่สร้างให้กับแม่ยายอย่างคุณหญิงเพียงดาว หรือที่คนงานในไร่เรียกว่า ‘คุณเพียง’ ภรรยาของหม่อมหลวงอภิชาต หรือ ‘คุณหลวง’ ที่เสียชีวิตไปด้วยโรคหัวใจล้มเหลว หลังจากที่บุตรสาวแต่งงานออกเรือนไปได้หกปี
ต่อมาเพียงดาวได้รับอุปการะเด็กสาวคนหนึ่งมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เธอมักบริจาคทุนการศึกษาให้เป็นประจำทุกปี ‘แพรลานนา’ เป็นเด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มที่เธอถูกชะตาตั้งแต่แรกเจอ ทั้งเรียนเก่ง ว่านอนสอนง่าย เป็นที่รักใคร่ของเหล่าคนงานในไร่ และทุกวันที่กลับจากโรงเรียนเด็กสาวจะเข้าไปช่วยเพียงดาวทำบัญชีรายรับรายจ่ายของไร่เสมอ
พอเด็กสาวอายุ 17 ปี เริ่มเข้าสู่วัยแรกแย้ม ก็กลายเป็นที่ร่ำลือไปทั่วกับความงามของใบหน้าจิ้มลิ้มหวานหยด เป็นที่หมายปองของใครต่อใคร ด้วยความเป็นห่วงเพียงดาวจึงสั่งคนตามไปเฝ้าดูเด็กสาวแบบใกล้ชิด
ขณะเดียวกันหลานชายแท้ๆ อย่างเสกสรร (แดเนียล) กับ เพชรดนัย (คารอส) ก็กลับมาเที่ยวที่ไร่เพียงปีละครั้งหรือสองครั้ง และแต่ละครั้งจะอยู่ไม่เกินห้าวัน
PD Casino...(ประเทศอังกฤษ)
ไลน์ ! ไลน์ ! ไลน์ !
ร่างสูงที่กำลังนัวสาวอยู่บนเตียงหยุดชะงัก ล้วงมือถือในกระเป๋าออกมาเปิดดูข้อความอย่างสนใจ
‘จะมีการดูตัวคุณแพรที่ไร่อีกสองวันข้างหน้าครับบอส’
“อะไรวะ ?” เสกสรรสบถออกมาเสียงดังอย่างหัวเสีย
“เรามาต่อกันเถอะค่ะ” นางเอกดังออดอ้อนด้วยสายตาเย้ายวน พร้อมกับลูบไล้หน้าอกกว้างอย่างหลงใหล
“ปล่อย!” เสกสรรผลักหญิงสาวออกจากตัวพร้อมกับขยับลงจากเตียงอย่างรวดเร็ว ราวกับคนที่ถูกน้ำร้อนสาดใส่
“กะ...เกิดอะไรขึ้นคะ” ดีนี่เอ่ยถามอย่างมึนงง ‘ทำอย่างกับโดนเมียโทร. ตามแน่ะ’ นางเอกดังมองหนุ่มโสดอย่างตัดพ้อ
“กลับไปได้แล้ว นี่เช็คของคุณ !” เสกสรรส่งเช็คที่เซ็นไม่ถึงสองวินาทีลงบนโต๊ะ ก่อนจะเดินไปเทบรั่นดีลงในแก้วด้วยท่าทางหงุดหงิด
“อะ...อะไรกัน เรายังไม่ได้...”
“ผมไม่มีอารมณ์ คุณจะรีบใส่เสื้อผ้าในห้องนี้ หรือเอาออกไปใส่ข้างนอก ผมให้สามนาที” เสกสรรเอ่ย ก่อนจะยกบรั่นดีขึ้นกระดกดับความร้อนรุ่มในใจ
‘พระเจ้า! อายุก็แค่ 22 ทำไมต้องรีบอยากมีสามีนัก!’
“ดีนี่ทำอะไรผิดคะ ทะ...ทำไม...” นางเอกดังส่ายหน้าอย่างรับไม่ได้ ที่รู้ว่าตนพลาดโอกาสจะได้ลิ้มลองรสที่แซบเว่อร์ของของคาสโนวาคนดัง ที่เหล่านางแบบต่างคุยฟุ้งว่าแซบนักแซบหนา
“คุณเหลืออีกสองนาที” เสกสรรเอ่ยเตือนอย่างไม่สนใจ
“พระเจ้า !” หญิงสาวกลอกตาเซ็ง ก่อนจะคว้าเสื้อผ้าขึ้นมาสวมลวกๆ แล้วเดินไปหยิบเช็คบนโต๊ะ จากนั้นก็รีบออกจากห้องด้วยความรู้สึกผิดหวังและเสียหน้าที่ถูกไล่
ทันทีที่นางเอกดังออกห้องไป เสกสรรก็โทร. บอกบอดี้การ์ด ให้นักบินเตรียมสแตนด์บายรอที่เครื่องบินส่วนตัวภายในหนึ่งชั่วโมง เพราะตนจะบินด่วนกลับประไทย
ระหว่างที่นั่งเครื่อง เสกสรรก็เอาแต่ถามตัวเองไปมาอย่างสับสน เขาเกลียดการผูกมัด เกลียดการต้องรักใครสักคน เกลียดแหวนแต่งงาน เกลียดคำมั่นสัญญาและพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ที่จะบอกว่าหลังจากนี้เขาและเธอจะเป็นเสมือนคนคนเดียวกัน พระเจ้า ! แล้วนี่เขากำลังทำอะไรอยู่ ? เขาวิ่งหนีความรู้สึกของตัวเองเหมือนที่ผ่านมาไม่ได้อีกแล้ว
หลังจากลงจากเครื่องบิน เสกสรรก็รีบตรงไปยังรีสอร์ตของพ่อเลี้ยงธนากรที่อยู่ติดกับไร่ของผู้เป็นยาย โดยที่ตนได้เช่าบ้านพักเอาไว้หลังหนึ่งเมื่อเดือนก่อน เพื่อให้คนสนิทจับตาดูความเคลื่อนไหว
ร่างสูงเร่งฝีเท้าเดินขึ้นไปยังชั้นสามของบ้าน ก็เห็นมือขวาคนสนิทนั่งอยู่ใกล้ๆ กับหน้าต่างบานใหญ่ กำลังเฝ้าสังเกตความเคลื่อนไหวผ่านเลนส์ของกล้องส่องทางไกลด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“เป็นไงมั่ง !”
“บอส ! มาเงียบๆ แบบนี้ ผมตกใจหมดเลย” ไทเลอร์สะดุ้งเฮือก รีบยกมือขึ้นลูบหน้าอกไปมา
“แล้วมึงจะให้กูร้องเพลงเดินขึ้นมาหรือไงฮะไอ้เจมส์ !” เสกสรรต่อว่าพร้อมกับนั่งลงข้างๆ อีกฝ่ายอย่างหงุดหงิด
“แหม บอสละก็...”
“ตกลงได้อะไรคืบหน้าหรือยัง ?”
“ผมเพิ่งทราบข่าวว่าพรุ่งนี้จะมีคนมาดูตัวคุณแพร โชคดีนะครับที่บอสมาทัน !” ไทเลอร์เอ่ย พลางขยับกล้องขึ้นส่องดูความเคลื่อนไหวต่อ
“พรุ่งนี้งั้นเหรอ เอาไงดีวะ ? เฮ้ย ! แล้วนี่มึงส่องดูอะไรนักหนาวะ เอากล้องมานี่ซิ” เสกสรรดึงกล้องส่องทางไกลมา แล้วส่องไปยังพิกัดเดิมที่คนสนิทส่องดูก่อนหน้า
“เชี่ย ! นี่มึงแอบดูดาวเรืองเหรอ” เสกสรรหันกลับมาถามอย่างไม่พอใจ
‘นี่ส่งมันมาเฝ้าดูแพรลานนา แต่มันกลับมาส่องดูสาวรับใช้ของเธอ พระเจ้า ! ให้มันได้แบบนี้สิวะ’
“โธ่ ! บอสก็คิดไปได้นะครับ ขยับขึ้นไปส่องที่ชั้นสองสิครับ คุณแพรเธอนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ตรงหน้าต่างนั่นไง” ไทเลอร์รีบแย้ง
‘แหม โยนดอกคำปู้จู้มาให้กันได้ ฮึ่ย ! แค่คิดก็สยองสุดๆ’
“ระวังเถอะ ! เกลียดอย่างไหนจะได้อย่างนั้น !” เสกสรรหยอกคนสนิทที่ทำหน้าขุ่นเคือง
“เหมือนบอสใช่ไหมครับ ฮ่าๆๆ” ไทเลอร์หยอกกลับ รีบขยับหลบเท้าของผู้เป็นนายอย่างรู้ทัน
“แน่จริงก็อย่าหลบสิวะ !” เสกสรรด่าพร้อมกับขยับเท้ากลับที่เดิม พลางคิดในใจ ‘มันจะเหมือนกันได้ไงวะ เพราะเขาไม่ได้เกลียดเธอสักหน่อย !’
ชายหนุ่มขยับกล้องขึ้นไปดูที่ชั้นสอง ตามที่ไทเลอร์บอก หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นมาทันทีที่ได้เห็นใบหน้าอ่อนหวานอีกครั้ง !
‘พระเจ้า ! ทำไมมือของเขาต้องสั่นด้วยวะ’
“มึงมีแผนอะไรไหม ?” เสกสรรถามขณะจ้องมองสาวเจ้าผ่านเลนส์กล้อง
“บอสบอกมาเลยครับ ว่าจะเอายังไง !”
“ก็จะเอาน้องแพรทำเมียไง !” เสกสรรตอบเสียงเรียบๆ
“บอสแน่ใจเหรอครับ !” ไทเลอร์หันมาถามอย่างไม่เชื่อหู
“ก็แน่สิวะ ! มึงมีปัญหาอะไร” เสกสรรถามกลับอย่างไม่พอใจ
“ผมว่าบอสปล่อยเธอไปเถอะครับ ให้คุณแพรเธอได้เจอผู้ชายดีๆ ที่พร้อมจะดูแลเธอ…”
ผัวะ ! โครม !
“โอ๊ยยย !” คนที่เอ่ยยังไม่ทันจบเหาะลงไปกองอยู่ที่พื้นทันใด
“อย่าเสือก ! กูคิดมาดีแล้ว” เสกสรรต่อว่าอย่างหงุดหงิด
“แหม ! อารมณ์ร้ายจริงๆ เลย แล้วคุณแพรเธอจะยอมง่ายๆ เหรอครับ ?” ไทเลอร์ถาม พลางขยับลุกขึ้นให้ห่างจากเท้าของผู้เป็นนายอย่างหวาดหวั่น กลัวว่าจะมีรอบสองต่อ
“มึงก็คิดแผนมาสักแผนสิวะ ว่าจะทำยังไง !” คนอยากได้เมียเอ่ยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“เฮ้อ...ถ้าจะทำตอนนี้ ก็คงต้อง...” ไทเลอร์บรรยายต่อเป็นฉากเป็นตอนราวกับผู้กำกับหนังฮอลลีวูด เสกสรรนั่งฟังอย่างตั้งใจ
เช้าวันต่อมา...
“คุณแพรเจ้า ! คุณแพร เปิดประตูหน่อยเจ้า” ดาวเรืองเคาะประตูพร้อมกับตะโกนเรียกหญิงสาวอยู่หน้าห้องมาได้พักใหญ่ๆ จนน้ำมนต์ต้องไปขอกุญแจสำรองจากเพียงดาว
เพียงดาวตามมาดูเพราะรู้สึกเป็นห่วงและสังหรณ์ใจแปลกๆ ใกล้เวลาที่แขกจะมาร่วมรับประทานอาหาร แต่แพรลานนายังไม่ออกจากห้องนอน
“ไขกุญแจเข้าไปดูเลยแม่น้ำมนต์” คุณหญิงเพียงดาวบอกอย่างร้อนใจ
“ค่ะคุณเพียง !” น้ำมนต์สาวน้อยหน้าตาสะสวยวัย 21 ปีที่เพิ่งเรียนจบปริญญาตรีมาหมาดๆ รับคำพร้อมกับไขกุญแจออก แต่ยังไม่ทันได้เปิดประตูห้องก็ได้ยินเสียงร้องดังขึ้นจากห้องที่อยู่ถัดไป ทุกคนหันมองหน้ากันอย่างตกใจที่ได้ยินเสียงของแพรลานนาดังขึ้นในห้องนอนของเสกสรร
คนที่กำลังงัวเงียตื่น ควานหาแขนของตุ๊กตาหมีตัวโปรด แต่วันนี้เธอรู้สึกว่าแขนมันใหญ่กว่าทุกครั้ง แถมขนนุ่มๆ ของมันก็หายไป ! ที่สำคัญ...มันอุ่นๆ และกำลังดิ้นส่ายไปมา !
แพรลานนาลืมตาขึ้นมอง ในขณะที่มือก็ยังจับกุมส่วนที่คิดว่าเป็นแขนของตุ๊กตาตัวโปรดเอาไว้มั่น ! เธอกะพริบตามองภาพตรงหน้าช้าๆ ก่อนจะ...
“กรี๊ดดดด” หญิงสาวกรีดร้องอย่างตกใจที่เห็นเสกสรรนอนยิ้มอยู่บนเตียง แถมเจ้าตัวไม่ได้ใส่เสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียว และที่ทำให้เธอเกือบช็อกหัวใจวาย ก็ตรงที่มือของเธอกำลังกอบกุมความเป็นชายของอีกฝ่าย !
“สวัสดีจ้ะน้องแพร แหม ! นี่ชอบมากถึงขั้นจับไม่ยอมปล่อยเลยหรือคะ !” เสกสรรหยอกเย้าคนที่ทำหน้าเหมือนถูกผีหลอกอย่างขำๆ
“กรี๊ดดดดด” คนที่เพิ่งได้สติรีบปล่อยมือจากแขนที่สาม แล้วตวัดมือบางลงบนใบหน้าของอีกฝ่ายทันที
เพียะ !
ชายหนุ่มสะบัดหัวไปมาสองสามครั้ง ก่อนจะหันไปมองเจ้าของฝ่ามือที่ประทับรอยบนใบหน้าอันหล่อเหลาของตนอย่างขุ่นเคือง !
“ให้ตายสิ ! เมื่อกี้ใช่มือหรือคะน้องแพร ?” เสกสรรสบถถามอย่างหัวเสีย พระเจ้า ! เห็นดาวระยิบระยับไปหมดเลย !
ปัง ! ปัง ! ปัง !
“เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะตาต้อม ! ไขกุญแจเลยแม่น้ำมนต์” เพียงดาวแทบอยากจะพังประตูเข้าไป หลังจากที่ได้ยินเสียงกรีดร้องของแพรลานนาดังขึ้น
ด้านหนุ่มเสกสรรที่ได้ยินเสียงเคาะประตูและไขกุญแจจะเข้ามาในห้องนอนของตน จึงดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมช่วงเอวเพื่อปิดบังของสงวน จากนั้นก็รวบคนที่ทำหน้าเหมือนเห็นผีเข้ามากอดแนบชิด แล้วก็ก้มลงจูบริมฝีปากบางทันที
ผัวะ !
“กรี๊ดดดด” ทันทีที่เปิดประตู ดาวเรืองกับน้ำมนต์ก็กรีดร้องเสียงดังอย่างตกใจ ที่เห็นหลานชายคนโตของคุณเพียงดาวกอดจูบกับแพรลานนาอยู่บนเตียง ในสภาพที่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้า และมีแค่ผ้าห่มปิดบังช่วงล่างเอาไว้
“แม่ดาว ! แม่น้ำมนต์ ! ออกไปก่อนแล้วก็ปิดประตูให้ด้วย” เพียงดาวถึงกับสั่นจนลมแทบจับ
“เจ้า / ค่ะ” สองสาวรับคำก่อนจะรีบออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
“ต้อม ! อธิบายมาเดี๋ยวนี้ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วน้องแพรมานอนอยู่ในห้องพี่เขาได้ไงลูก !” เพียงดาวเอ่ยถามเสียงเย็น
แพรลานนาตวัดมือบางลงบนซีกหน้าของคนที่จัดฉากให้ทุกคนเข้าใจเธอผิดๆ ทันที
เพียะ !
“ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะคนบ้า ! คุณเพียงคะแพรอธิบายได้ค่ะ เมื่อคืนแพรนอนอยู่ในห้อง แต่พอตื่นนอนขึ้นมาก็มาอยู่ที่นี่ แล้วพอคุณต้อมได้ยินเสียงเคาะประตูห้อง ก็ดึงแพรเข้าไปจูบค่ะ” แพรลานนารีบอธิบาย พร้อมกับปัดมือหนาที่พยายามจะดึงเธอเข้าไปกอดอย่างรู้สึกรังเกียจ
เพียงดาวตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดระหว่างแพรลานนากับหลานชายคนโตที่รับเอาความเป็นตะวันตกมาเต็มตัว หาได้มีความเป็นไทยแม้แต่น้อย และเธอไม่เชื่อกับสิ่งที่เห็นอย่างเด็ดขาด เพราะเลี้ยงแพรลานนามาตั้งแต่เด็ก ไม่มีทางที่หญิงสาวจะทำเรื่องเสื่อมเสียให้อับอาย
“หยุดเลยนะน้องแพร ! หยุดใส่ร้ายพี่สักที !” เสกสรรหันไปตวาดสาวเจ้า ก่อนจะหันไปทางผู้เป็นยายแล้วเล่าเรื่องเท็จเป็นฉากๆ
“ต้อมมาถึงไทยเมื่อวันก่อน เพื่อทำธุระด่วนที่เชียงใหม่ พอทำเสร็จก็ว่าจะกลับเข้ากรุงเทพฯ แต่เพราะคิดถึงยาย เลยให้บอดี้การ์ดขับรถมาที่ไร่ ระหว่างทางต้อมหลับไป จึงไม่รู้ว่าบอดี้การ์ดที่มาใหม่ ขับรถเข้าไปในไร่ของพ่อเลี้ยงธนากร พอต้อมตื่นถึงรู้ว่าเข้าไร่ผิด พ่อเลี้ยงกรก็ออกมาหา ต้อมก็เลยขอฝากรถไว้ที่ไร่ของเขา จากนั้นก็เดินลัดเลาะมาทางประตูเล็กระหว่างไร่ แล้วรีบมาที่เรือนใหญ่ พอเข้ามาในห้อง กำลังจะเข้านอน ก็ได้ยินเสียงเคาะประตู ต้อมจึงเดินไปเปิด ก็เห็นน้องแพร...”
“ไม่จริง !” แพรลานนาหน้าซีดกับเรื่องที่อีกฝ่ายบอก
“อย่ามาเถียงนะน้องแพร !” เสกสรรเอ็ดคนที่ขัดจังหวะ ก่อนจะเล่าต่อ
“ต้อมกำลังจะเอ่ยถามว่ามีอะไร แต่ก็ถูกน้องแพรโน้มคอต้อมลงไปจูบ จากนั้นน้องพยายามซุกไซ้ต้อมอย่างหนัก แล้ว...แล้วเราก็เป็นของกันและกันอย่างที่คุณยายเห็นนี่แหละครับ !”
“ไม่จริงค่ะคุณเพียง คุณต้อมโกหก ! คุณเพียงก็รู้ว่าน้องแพรไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้น” แพรลานนาปฏิเสธเสียงแข็งกับนิทานที่อีกฝ่ายสร้างขึ้น
“ทำสิแพร ! คุณยายดูที่ต้นคอต้อมสิครับ นี่น้องแพรเป็นคนดูด แล้วเมื่อคืนตอนที่เรามีอะไรกัน น้องแพรยังข่วนหลังต้อมอีก นี่ไงครับ ! ต้อมแสบหลังไปหมดเลย ยายต้องจัดการให้ต้อมด้วยนะครับ !” เสกสรรโชว์รอยต่างๆ ให้ผู้เป็นยายดู ก่อนจะเรียกร้องความเสียหาย
“คนบ้า ทำไมต้องใส่ร้ายแพรแบบนี้ ฮือๆๆๆ” แพรลานนาปล่อยโฮออกมาอย่างเก็บไม่อยู่ เธอไม่คิดว่าผู้ชายตรงหน้าจะสร้างเรื่องเก่งได้ขนาดนี้
“นี่ไง ! ถ้าเมื่อคืนต้อมอัดคลิปไว้ซะก็สิ้นเรื่อง น้องแพรจะได้ไม่ต้องมานั่งปฏิเสธสิ่งที่ทำ หึ ! ทีเมื่อคืนเรียกร้องซะจนพี่ไม่ได้หลับได้นอน แต่พอตื่นขึ้นมากลับทำเป็นจำอะไรไม่ได้ เฮ้อ...ผู้หญิงสมัยนี้ลืมง่ายจริงๆ นะครับ”
เสกสรรเอ่ยขึ้นเสียงดัง พร้อมกับสะบัดหน้าหนีอย่างงอนๆ ทำเอาเพียงดาวกับแพรลานนาที่ร้องไห้อยู่ถึงกับหยุดชะงัก อ้าปากค้างกับการกระทำของชายหนุ่มอย่างมึนๆ งงๆ
“โอ๊ย ! จะเป็นลม แม่ดาว ! แม่น้ำมนต์ ! ยังอยู่ข้างนอกไหม ?”
เพียงดาวยกมือขึ้นทาบอกเบาๆ ก่อนจะเรียกสองสาวที่คิดว่าอยู่หน้าห้อง
“อยู่เจ้า ! / อยู่ค่ะคุณเพียง” ด้านสองสาวที่แอบฟังการสนทนาอย่างใกล้ชิดติดขอบประตูห้อง พอได้ยินเสียงเรียกจึงเผลอขานรับอย่างลืมตัว
“เข้ามาข้างในนี้หน่อย !” เพียงดาวเอ่ยเสร็จสองสาวก็พากันเปิดประตูห้องเข้ามาทันใด
“เจ้า / ค่ะ” สองสาวที่เข้ามาเอ่ยถามอย่างพร้อมเพรียงแต่ไม่กล้าหันไปมองบนเตียงของเสกสรร
“ตาต้อมไปอาบน้ำใส่เสื้อผ้าแล้วขึ้นไปพบยายบนห้อง ส่วนน้ำมนต์เธอพาคุณแพรกลับไปที่ห้องอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วตามขึ้นไปที่ห้องฉัน ยายจะรอที่ห้องนะน้องแพร ! ส่วนเธอแม่ดาวเรืองมาช่วยพยุงฉันกลับห้องที !” เพียงดาวสั่งการเสร็จก็เดินออกจากห้องไปทันที โดยมีดาวเรืองช่วยประคอง
น้ำมนต์รีบไปหยิบเสื้อคลุมมาส่งให้แพรลานนา หญิงสาวขอบคุณเบาๆ พลางรับมาสวมและผูกเชือก แต่ก่อนจะขยับลงจากเตียงเสกสรรก็ดึงแขนเอาไว้ซะก่อน
“เดี๋ยวก่อนน้องแพร ! น้ำมนต์เธอช่วยไปเรียกเจมส์ที่ห้องให้หน่อย บอกว่าอีกสิบห้านาทีให้ขึ้นมาหาฉันบนห้อง แล้วเธอก็ไปรอน้องแพรที่ห้องได้เลย” เสกสรรหันไปบอกน้ำมนต์ที่ก้มหน้าอยู่
“เอ่อ...คุณเสกสรรคะ แต่คุณเพียงบอกว่า...”
ที่ไร่สิรันยากรณ์ทุกคนที่นี่จะเรียกสองหนุ่มเสกสรรกับเพชรดนัยเป็นชื่อภาษาไทยมาแต่ไหนแต่ไรตามคำสั่งของเพียงดาว ถึงแม้สองหนุ่มจะดูเหมือนว่าไม่มีส่วนไหนเหมือนคนไทยเลยก็ตาม แต่ก็พูดไทยได้ชัดเจนทุกคำเลยทีเดียว ที่นี่จึงไม่มีใครเรียกชื่อภาษาอังกฤษของทั้งสองเลย
“ทำตามที่สั่ง !” เสกสรรสั่งเสียงเข้มทำเอาน้ำมนต์ถึงกับสะดุ้งโหยง
“ค่ะ !”
น้ำมนต์ตอบรับ ก่อนจะรีบออกจากห้องไป ทั้งที่ไม่อยากทิ้งแพรลานนาแม้แต่น้อย แต่เธอก็เกรงกลัวเสกสรรอยู่ไม่น้อย เพราะเคยได้ยินพวกผู้ใหญ่คุยกันว่าสามีของคุณพราวดารานั้นเป็นมาเฟียทรงอิทธิพลอันดับต้นๆ ของโลก ทำให้คนงานที่นี่ไม่มีใครกล้าขัดใจเสกสรรและเพชรดนัยแม้แต่คนเดียว
“คุณเป็นบ้าอะไร ทำไมต้องสร้างเรื่องบ้าๆ ขึ้น ฉันไปทำอะไรให้ ถึงต้องมาแกล้งกันแบบนี้ !” แพรลานนาถามทันทีเมื่ออยู่ตามลำพังกับอีกฝ่าย
“แพรจ๊ะ พูดกับผัวน่ะ ! พูดให้มันเพราะๆ หน่อยสิคะ ต่อไปให้เรียกว่า พี่ต้อม อ้อ ! เมื่อคืนพี่อัดคลิปเอาไว้ แต่ไม่กล้าเปิดให้คุณยายฟัง กลัวท่านจะช็อกเป็นอะไรไปเสียก่อน แต่นี่เห็นแก่ที่เราเป็นของกันและกันแล้ว พี่ต้อมจะเปิดให้ฟังค่ะ” เสกสรรเดินไปหยิบมือถือที่หัวเตียง
แพรลานนายืนนิ่งราวกับถูกสาปไปชั่วกัปชั่วกัลป์กับคำว่า ‘ผัว’ ที่เสกสรรเอ่ยออกมาราวกับเธอและเขาเป็นสามีภรรยากันแล้วจริงๆ
‘อีตาบ้านี่ไม่เข้าใจที่เธอพูดเมื่อกี้หรือไง ถึงได้ทำเหมือนกับว่าคุยกันคนละเรื่อง แล้วยังจะมาเปิดคลิปบ้าคลิปบออะไรอีก’
‘อื้อ...ได้โปรด...อื้อ...ช่วยน้องแพรด้วย’
‘จะให้พี่ช่วยอะไร...หืม...น้องแพร’
‘ได้โปรด...เร็วๆ น้องแพรจะทนไม่ไหวแล้ว’
‘พระเจ้า ! สวยอะไรอย่างนี้น้องแพร’
“ไม่จริง !” แพรลานนายกมือขึ้นมาปิดหูอย่างรับไม่ได้
‘ให้ตายสิ ! เมื่อกี้มันเสียงเธอชัดๆ แล้วเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น ทำไมเธอถึงจำอะไรไม่ได้เลย’