เมียหมอ 1 : ปลัดภคิน

1717 Words
“สวัสดีครับกำนันม่วง” “ไหว้พระเถอะปลัด ไปไงมาไงถึงมาถึงที่นี่ได้” ชายวัยกลางคนส่งยิ้มให้ปลัดหนุ่มอย่างอารมณ์ดี วันนี้อากาศค่อนข้างสดชื่น ไม่ร้อนไม่หนาวไป เหมาะที่จะมานั่งตากลมสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด “ผมเพิ่งกลับจากน่านครับ ผ่านมาทางนี้พอดี เลยแวะเอาของฝากมาให้” “ลำบากแย่เลยพ่อ” เสียงของบุคคลที่สามเรียกความสนใจจากชายต่างวัยทั้งสองคนได้เป็นอย่างดี กำนันม่วงส่งยิ้มให้เมียรัก ในขณะที่ปลัดหนุ่มยกมือขึ้นไหว้ผู้หญิงที่ใครๆ ต่างก็รู้ดีว่ามียศใหญ่กว่ากำนันม่วงหลายเท่า ใหญ่กว่ากำนัน ก็คือเมียกำนันนั่นเอง “ไม่ลำบากเลยครับ เห็นแล้วนึกถึงคุณน้ากับกำนันพอดี ก็เลยอยากซื้อมาให้” “ขอบใจจ้ะ” อรอนงค์รับของฝากจากมือชายหนุ่ม ก่อนจะลอบมองใบหน้าหล่อเหลาอย่างชอบอกชอบใจ ผู้ชายคนนี้มีชื่อว่าภคิน เพิ่งเข้ามาเป็นปลัดที่นี่ได้ไม่นาน อายุก็เพิ่งจะสามสิบต้นๆ หน้าตาหล่อเหลาคมเข้มคายแบบชายไทยแท้ สูง มีกล้ามเนื้อ รูปร่างดีจนสาวๆ พากันเป็นปลื้มทั้งอำเภอ แต่ก็ต้องผิดหวังไปตามๆ กัน เพราะปลัดหนุ่มไม่ได้สนใจใคร เอาแต่เทียวเข้าเทียวออกบ้านกำนันม่วงตั้งแต่ที่ลูกสาวคนเล็กกลับมาจากกรุงเทพฯ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าปลัดภคินสุดหล่อกำลังสนใจชมพู่ ลูกสาวคนสุดท้องของกำนันม่วง และแน่นอนว่ากำนันม่วงและอรอนงค์เองก็รับรู้ถึงความรู้สึกนั้น ทั้งคู่ไม่ได้ขัด แต่ก็ไม่ได้ส่งเสริมออกนอกหน้าจนดูน่าเกลียด พวกเขาทั้งสองไม่คิดจะเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับความรักของลูกๆ ลูกจะรักใครชอบใครก็ไม่ว่า ขอแค่เป็นคนดีก็พอ ถือคติที่ว่า ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ ผูกอู่ตามใจผู้นอน “มาเหนื่อยๆ นั่งพักเถอะจ้ะพ่อ นี่พร้าวมันออกไปนา ชมพู่ก็ไปด้วย อีกเดี๋ยวคงกลับมา” แม้จะไม่ได้บังคับลูกเรื่องคู่ครอง แต่ในเมื่อรู้สึกถูกใจ อรอนงค์จึงไม่คิดขัดขวาง หลายครั้งยังเปิดทางให้ปลัดได้เข้ามาสานสัมพันธ์กับลูกสาวตัวเองด้วยซ้ำ แต่ดูเหมือนว่าชมพู่จะยังไม่ค่อยสนใจปลัดเท่าไหร่นัก เธอก็ได้แต่หวังว่าผู้ชายดีๆ แบบปลัดภคินจะมีน้ำอดน้ำทนพอ และไม่ถอดใจไปง่ายๆ “รบกวนด้วยนะครับ” ปลัดหนุ่มไม่ปฏิเสธ ยกยิ้มละไมเมื่อรู้ว่าวันนี้จะได้เจอคนที่ถูกตาต้องใจ เขาเจอชมพูครั้งแรกเมื่อต้นปี หญิงสาวหน้าตาสวยน่ารักกำลังต่อรองราคากับแม่ค้าที่ขายของแพงเกินไปที่ตลาดในตัวเมือง แต่ที่น่าประทับใจคือเธอไม่ได้ต่อราคาให้ตัวเอง แต่กลับต่อราคาให้คุณยายคนหนึ่งที่อายุราวเจ็ดสิบปี เขายืนมองเธอเถียงกับแม่ค้าอยู่อย่างนั้นจนชนะ รอยยิ้มหวานเกิดขึ้นเมื่อหันกลับมายื่นของให้คุณยาย ทั้งยังมีน้ำใจพาคุณยายไปส่งที่ท่ารถสองแถวอีก นั่นคือความประทับใจแรกที่เขามีต่อเธอ หลังจากนั้นเขาก็รู้ว่าชมพู่คือลูกสาวของกำนันม่วงที่เพิ่งเรียนจบจากกรุงเทพฯ มา ตัวเขาเองก็สนิทสนมกับกำนันม่วงพอสมควร จึงใช้โอกาสนี้มาที่บ้านอีกฝ่ายบ่อยๆ เขาไม่ได้มาจีบชมพู่โจ่งแจ้ง แต่แค่อยากมาเห็นหน้าเห็นตาให้ชื่นใจเท่านั้น ด้วยรู้ดีว่าชมพู่ยังเด็ก เพิ่งเรียนจบได้ไม่เท่าไหร่ คงยังไม่คิดเรื่องคู่ครองในตอนนี้ ตราบใดที่ชมพู่ยังไม่คิดมีใคร เขาก็รอได้เสมอ “เสียงเจือยแจ้วเชียว สงสัยคงมากันแล้ว” กำนันม่วงชะเง้อคอมอง เสียงพูดคุยเอ็ดตะโรจนลั่นทุ่งเป็นเรื่องปกติของสองพี่น้องและลูกสมุนอีกสองคนไปแล้ว ตั้งแต่ชมพู่กลับมาบ้านก็คึกคักขึ้น บางทีก็คึกคักมากเกินไป หาเรื่องให้พ่อแม่ปวดหัวได้ทุกวัน “ได้ข่าวว่าเมื่อเดือนก่อนชมพู่ตกต้นไม้ใช่ไหมครับ น้องเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ” “โอ้ย มันจะเป็นอะไร หัวแข็งจะตาย แปปเดียวก็วิ่งปร๋อ” อรอนงค์เป็นคนตอบคำถามนั้น จำได้ดีว่าวันนั้นลูกสาวตัวดีร้องโอดโอยเสียยกใหญ่ แต่พอทำแผลกลับมาบ้านกลับปกติดีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอไปเช็กสมองอีกครั้งที่โรงพยาบาลก็ปกติดี เชื่อแล้วว่าลูกสาวคนนี้มันหัวแข็งจริงๆ “ผมกังวลแทบแย่ แต่งานก็ยุ่งจนไม่ได้เข้ามาเยี่ยม” “ขอบใจจ้ะพ่อ ชมพู่รู้มันคงดีใจที่มีคนห่วงขนาดนี้เนอะพ่อกำนัน” “ใช่ๆ ชมพู่มันเป็นเด็กขี้อ้อน...” กำนันม่วงยังไม่ทันได้ยกยอปอปั้นลูกสาวตนเองให้ปลัดฟังต่อ เสียงร้องโอดโอยก็ดังลั่นจนทั้งสามคนสะดุ้งสุดตัว “โอ้ยยย!!!!!!!!!! คันๆๆๆๆๆๆ คันโว้ยยยยยย!!!!!!!” “ใครเป็นอะไรอีก!” กำนันม่วงลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินเข้าไปตามร่องคลองเล็กๆ โดยที่มีอรอนงค์และปลัดภคินเดินตามไปด้วย เดินเข้าไปเพียงไม่กี่เมตรก็เจอกับชายสามคนที่ยืนมุงอะไรซักอย่างอยู่ กำนันไม่รีรอรีบเดินเข้าไปดูทันทีว่าเกิดเรื่องอะไร “ไอ้พู่ เอ็งลงไปทำอะไรในคลอง!!!!” . . “พู่มันอยากกินมะม่วงเลยปีนขึ้นไปเก็บ แต่ดันไปเจอรังมดแดงเข้า เลยโดนกัดจนทนไม่ไหว ลงไปแช่ตัวในน้ำให้มดมันออก” แค่ฟังวีรกรรมของลูกสาวคนเดียวกำนันม่วงก็แทบจะลมจับ ภาพของลูกสาวตัวดีที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ในคลองตื้นๆ เนื้อตัวเปื้อนไปด้วยโคลนเหม็นๆ ทำให้ผู้เป็นพ่อและแม่อยากกัดลิ้นตาย ยิ่งไม่ได้มีแค่คนในครอบครัวที่เห็นภาพนั้น ยังมีปลัดหนุ่มที่หมายมั่นปั้นมือว่าอยากจะได้มาเป็นลูกเขยเห็นด้วยอีก แค่คิดถึงตรงนี้พวกเขาก็อยากจะกระโดดลงคลองแทน และเอาหน้าซุกโคลนเสียให้รู้แล้วรู้รอด “คันมากเลยแม่” “สม!” ถึงจะพูดแบบนั้นแต่อรอนงค์ก็ทายาให้ลูกสาวไม่หยุด เห็นผิวขาวจัดของลูกขึ้นเป็นตุ่มแดงๆ มากกว่ายี่สิบตุ่มแล้วก็อยากจะร้องไห้ 'จะขายออกไหมลูกสาวฉัน' เธอมองรอยแดงบนตัวลูกและแอบคิดในใจ “ฉันไม่เป็นอะไรหรอกแม่ ไม่ต้องทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ขนาดนั้นก็ได้ เดี๋ยวก็หาย” “เออๆ ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว” อรอนงค์ทายาลงบนตุ่มสุดท้าย ถ้าชมพู่มันไม่เกามากผิวคงไม่เสียจนเป็นรอยด่างดำ “เดือนก่อนหัวแตก วันนี้มดกัด เดือนหน้าจะเป็นอะไรอีกพู่เอ้ย ตั้งแต่กลับมาอยู่บ้านเอ็งทำให้พ่อกับแม่จะเป็นลมอยู่ทุกวี่วันรู้บ้างไหม” “ฉันไม่ได้อยากให้มันเกิดเหมือนกันแหละแม่ แต่สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง ไอ้ฉันมันก็แค่คนธรรมดา ก็ต้องพลาดกันบ้างสิจ๊ะแม่” “พอๆ เอ็งไม่ต้องมาสำบัดสำนวน กินยาแล้วก็นอนได้แล้ว แม่จะไปนอนแล้วเหมือนกัน” อรอนงค์ตัดบท คุยกับลูกสาวคนนี้แล้วปวดหัว ไม่ทำเรื่องให้ตกใจ ก็ชอบพูดอะไรก็ไม่รู้ที่เข้าใจยาก เธอมันเรียนน้อย ไม่ได้จบปริญญาตรีแบบลูกเสียเมื่อไหร่ “ฝันดีจ้ะแม่” ชมพู่โอบกอดร่างอวบของมารดา ไม่ใช่ว่าเธอชอบทำให้พ่อแม่ปวดหัวเสียเมื่อไหร่ แต่ที่เกิดขึ้นมันก็เป็นอุบัตเหตุทั้งนั้น ทำยังไงได้ พอใกล้มีประจำเดือนทีไรเธอก็อยากกินมะม่วงเปรี้ยวๆ ทุกที . . “พู่นอนแล้วหรือแม่” กำนันม่วงเอ่ยถามเมื่อคู่ชีวิตเดินออกมาหาที่ระเบียงห้อง ชายกลางคนรีบดับบุหรี่เพราะรู้ดีว่าเมียรักไม่ชอบ เขาเองก็เลิกไปตั้งแต่มีเจ้าพร้าวแล้ว น้อยครั้งจริงๆ ที่จะหยิบมาสูบให้หายอยากหรือหายเครียด แต่วันนี้มันเครียดจนต้องหยิบมาสูบในรอบหลายเดือน “ต้องสูบบุหรี่เลยหรือพ่อ” “นิดเดียว ไม่ได้สูบเยอะ” อรอนงค์ไม่ได้ตอบอะไร เธอเดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตรงข้ามกับกำนัน “เครียดมากหรือ” “อืม...” กำนันม่วงไม่ปฏิเสธ อันที่จริงเขาไม่เคยโกหกอรอนงค์เลยต่างหาก “นับวันพู่มันก็ยิ่งแสบขึ้น ถ้าเราไม่รีบหยุด ก็ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะทำให้พ่อแม่หัวใจวายตายวันไหน” “ผิดที่ฉันเองแหละ ฉันตามใจลูกมากไป” “ไม่ใช่หรอก แม่ก็ตามใจพร้าวเหมือนกัน ไม่เห็นมันดื้อรั้นเท่าพู่มันเลย” ก็จริง อรอนงค์เถียงไม่ออก ลูกทั้งสองคนเธอตามใจทั้งคู่ อยากทำอะไรก็ให้ทำ อยากได้อะไรก็ได้ มะพร้าวลูกคนโตอยากเรียนที่เชียงใหม่เธอก็ไม่ขัด ชมพู่สอบติดมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ เธอก็สนับสนุน เธอไม่รู้ว่ามันผิดพลาดตรงไหน ทำไมชมพู่คือได้แสบเกินใครขนาดนี้ “บางที เราคงต้องทำอะไรซักอย่าง” “พ่อกำลังคิดอะไรอยู่” “พ่อกำลังคิดว่า ถ้าพู่มันมีลูกมีผัว มีครอบครัวเป็นของตัวเอง มันก็อาจจะเป็นผู้เป็นคนมากขึ้น” “แต่ลูกยังไม่มีคนรักเลยนะพ่อ” อรอนงค์แย้ง เธอถามลูกสาวหลายครั้งแล้ว แต่ชมพู่ก็ปฏิเสธตลอด ลูกสาวเธอไม่เคยคบหาใครมาก่อน ไม่เคยรักใครด้วย แล้วจะให้ไปแต่งงานกับใคร “ไม่เป็นไรหรอก” กำนันม่วงยกชาขึ้นจิบ “ปลัดภคินสามารถทำให้ชมพู่รักได้แน่ พ่อมั่นใจ” เรื่องที่จะไม่บังคับลูกเรื่องความรักคงต้องเว้นชมพู่ไว้ เพราะถ้าไม่ทำอะไรเลยซักวันลูกสาวคงได้พิการก่อนออกเรือนเพราะความแสบเกินพิกัดนั่นแน่ๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD