ตอนที่ 7 ขอแต่งงาน

3180 Words
เมื่อฮุ่ยหมิงเห็นดังนั้นก็ลอบแย้มรอยยิ้มออกมา นางแกล้งพูดชื่อของหวงเฟยเทียนเพื่อให้ยัยป้าแม่เลี้ยงตกใจและร้อนรนขัดขวางนาง ฮุ่ยหมิงรู้ดีอยู่แล้วว่าถึงอย่างไรยัยป้าแม่เลี้ยงต้องหาทางขัดขวางนางแน่ แต่จะขัดขวางได้นานหรือไม่ต้องดูอีกที นางต้องใส่ไฟเพิ่มให้ดี ยิ่งไฟโทสะของพวกเขาโหมแรงเท่าไหร่ ทางรอดของนางก็มากขึ้นเท่านั้น นางต้องถ่วงเวลาเพื่อรอให้หวงเฟยหลงมาถึง ตอนนี้ ฮุ่ยหมิงได้แกล้งเอ่ยชื่อหวงเฟยเทียนออกไปแล้ว ตามบทหวงเฟยหลงต้องมาถึงแล้วไม่ใช่หรือ ทำไมตอนนี้เขายังไม่โผล่หน้ามาอีก นางต้องถ่วงเวลาอีกนานแค่ไหน “เหตุใดเจ้าจึงกล่าวเช่นนั้น” ฮ่องเต้ทรงตรัสถามจางฮูหยิน ออกไป ดูจากท่าทางร้อนรนของนางแล้ว ลูกชายคนรองอย่างหวงเฟยเทียนคงมีความสัมพันธ์สนิทสนมกับจางลี่เซียนลูกสาวของนางไม่น้อย “เอ่อ ทูลฝ่าบาทเพคะ จางฮุ่ยหมิงลูกสาวของหม่อมฉันวาสนานางไม่ดีนัก ชื่อเสียงของนางอื้อฉาวไม่น้อย แต่งเข้าไปคงทำให้องค์รัชทายาทลำบาก หากประชาชนไม่ยอมรับนางแล้วขับไล่ ลูกสาวของหม่อมฉันไม่แย่หรือเพคะ คนเป็นแม่อย่างหม่อมฉันจะทนได้เช่นไรหม่อมฉันเป็นห่วงนางมากไม่อยากให้นางเผชิญชีวิตเลวร้ายเช่นนั้น” เมื่อได้สติจางฮูหยินที่ลืมตัวไปชั่วขณะก็รีบหาเหตุผลมาโต้แย้ง ฮุ่ยหมิงกรอกตามองบนไปหลายทีแต่ไม่ได้พูดสิ่งใดออกมา โอ้โหบทบาทแม่เลี้ยงแสนดี ยัยป้าแม่เลี้ยงของนางช่างหน้าหนาหน้าทนจริงๆ พูดออกมาได้ไม่อายปาก “ลูกเองก็ไม่อยากแต่งงานกับนาง หากนางแต่งเข้ามาแล้วต้องลำบากเช่นจางฮูหยินว่า ลูกมิกลายเป็นสามีเห็นแก่ตัวทำร้ายชีวิตนางหรือสเด็จพ่อ” หวงเฟยเทียนรีบพูดเสริม ถึงนางจะงดงามเย้ายวนปานใดแต่เมื่อเทียบกับจิตใจแล้ว สำหรับเขานางช่างไร้ค่า “ใช่แล้วลูกรัก หากเจ้าแต่งเข้าไปแล้วต้องทุกข์ยากลำบาก คนเป็นพ่อแม่อย่างพวกเราไหนเลยจะทนไหว” เสนาบดีจางช่วยพูดเสริมเมื่อภรรยาส่งสายตาให้เขาช่วยพูด “พี่หญิงท่านอย่าได้คิดเอาชนะข้าเกินไป จนละเลยความสุขส่วนตัวของท่านเองเลยเจ้าค่ะ” จางลี่เซียนทำใจกล้าพูดกับฮุ่ยหมิงด้วยน้ำเสียงสั่นเทาพร้อมกันนั้นร่างบางของนางก็สั่นเทาน้อยๆ ตามไปด้วย โอ้โห พวกเจ้าช่างเสแสร้งหวังดีกันเก่งเหลือเกิน โดยเฉพาะจางลี่เซียนน้องสาวตัวดี พูดอย่างกับว่าข้าอยากเอาชนะเจ้า อยากแย่งคนรักของเจ้าเสียเหลือเกิน มีอะไรดีอยากให้ข้าแย่ง ก่อนเถอะ พูดแบบนี้ยังได้ประกาศความสัมพันธ์ของตัวเองกับหวงเฟยเทียนแบบเนียนๆ ด้วย เจ้าเล่ห์เชียวนะหากเจ้ากลัวข้าอย่างปากว่าจริง คงไม่กล้าเป็นเมียน้อยพี่สาวตัวเองหรอก กลัวปลอมๆ หน่ะสิเห็นแล้วหงุดหงิด ฮุ่ยหมิงได้แต่แยกเขี้ยวใส่จางลี่เซียนในใจ “เช่นนั้นเจ้าลองคิดให้ดีหรือไม่ หากแต่งเข้าไปต้องเจอกับเรื่องเลวร้ายเหล่านั้นเจ้าจะทนไหวหรือ” ฮ่องเต้หวงป๋อหลินถามนางขึ้นอีกครั้ง “ทูลฝ่าบาทเพคะ ที่ท่านพ่อท่านแม่และลี่เซียนพูดมาก็ไม่ผิดนัก องค์รัชทายาทไม่อยากแต่งงานกับหม่อมฉันเห็นทีคงจะฝืนใจใครไม่ได้ แต่หม่อมฉันยังทราบมาว่าพระองค์มีองค์ชายใหญ่หวงเฟยหลงอีกคน เหตุใดเขาจึงไม่ได้มาดูตัวเพคะ” ฮุ่ยหมิงอดทนรอต่อไปไม่ไหวจึงทำใจกล้าเอ่ยปากสอบถามไป นางไม่อยากเลือกแต่งกับใครนอกจากหวงเฟยหลง ตอนนี้แม้แต่เงาของเขานางยังไม่เห็นด้วยซ้ำเขาไม่ได้เข้าร่วมการดูตัว ฮ่องเต้เองก็ไม่ได้ตรัสถึงเขาแม้เพียง ครึ่งคำ นางถ่วงเวลามานานขนาดนี้แล้วแถมยังเล่นไปตามบทบาทในนิยาย เวลานี้เขาต้องมาถึงแล้วทำไมยังไม่มีวี่แววของเขาอีก “องค์ชายใหญ่หวงเฟยหลงไปปราบโจรกฎบที่เขาเหลียงซานยังไม่กลับมา ข้าไม่อยากบังคับเขาจึงไม่ได้ให้เข้าร่วมการดูตัวครั้งนี้” ฮ่องเต้หวงป๋อหลินตรัสออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ฮุ่ยหมิงรู้สึกเหมือนตัวเองถูกฟ้าผ่าลงมาที่หัวมึนงงไปหมด ทำไมถึงไม่เป็นแบบในเนื้อเรื่องหล่ะ นางทำอะไรผิดพลาดไปอย่างนั้นหรือ ฮุ่ยหมิงได้แต่คิดทบทวน นางแค่เปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องบางส่วน ทำไมถึงได้มีผลกระทบรวดเร็วเช่นนี้ แย่แล้วตอนนี้นางแย่แล้วจริงๆ จะทำอย่างไรต่อไปดี ยังมีทางเลือกอะไรให้เลือกได้อีกบ้างต้องรีบคิดหาทางออกแล้ว “ฝ่าบาทเพคะ ขออภัยที่หม่อมฉันต้องทูลให้ทราบว่าหม่อมฉันให้สัญญากับองค์ชายใหญ่ไว้แล้วว่าจะแต่งให้เขา ในเมื่อเขาไม่อยู่ในตัวเลือกหม่อมฉันเลือกไม่แต่งกับใครได้หรือไม่ หากไม่ใช่หวงเฟยหลงหม่อมฉันไม่อยากแต่งงานกับผู้ใดทั้งนั้นเพคะ” ฮุ่ยหมิงกลั้นใจพูดออกไปแม้จะรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองพูดเสี่ยงตายเพียงใด นางไม่ยอมไปทนทุกข์ในวังหลวงแน่นอน ไม่รู้ว่าฮ่องเต้จะทรงรับฟังนางบ้างหรือไม่ “บังอาจนัก เจ้าให้สัญญากับเขาเมื่อใดกัน เจิ้นถึงขนาดพาองค์ชายมาให้เจ้าเลือกแต่เจ้ากลับไม่เลือก เจ้ารู้หรือไม่ว่าการขัดราชโองการมีโทษประหารชีวิตทั้งตระกูล” ฮ่องเต้หวงป๋อหลินพูดด้วยน้ำเสียงเดือดดาล หากนางไม่เลือกแต่งกับองค์ชายคนใดที่เขาพามา เขาคงโดนถอนหงอกจากเหล่าขุนนางเพราะดึงดันจะทำตามสัญญาทั้งที่นางไม่มีคุณสมบัติเหมาะสมแน่นอน เขาไม่เชื่อว่าหวงเฟยหลงให้สัญญาแต่งงานกับนาง เนื่องจากข่าวที่ได้ยินมาตลอดคือฮุ่ยหมิงมีใจให้กับหวงเฟยเทียน หากนางอยากประชดหวงเฟยเทียนโดยการแต่งงานกับหวงเฟยหลงเขาไม่มีวันยอมให้เป็นอย่างนั้นแน่ ที่สำคัญเมื่อสามวันก่อนเขาได้ออกราชโองการให้เฟยหลงไปแล้ว กษัตริย์ตรัสแล้วไม่คืนคำ เขาไม่สามารถบังคับหวงเฟยหลงให้แต่งกับฮุ่ยหมิงได้ เมื่อได้ยินว่าฮุ่ยหมิงจะแต่งงานกับองค์ชายใหญ่อย่างหวงเฟยหลงเสนาบดีจางและจางฮูหยินก็รู้สึกโล่งใจ แต่ก็ต้องตกใจสุดขีดอีกครั้งเมื่อฮ่องเต้พูดถึงโทษประหาร ลูกสาวตัวร้ายของเขาวางแผนจะฆ่าทิ้งทั้งครอบครัวหรืออย่างไร เขารีบลนลานเข้ากราบทูลฮ่องเต้ทันที “ฝ่าบาทโปรดเย็นพระทัยก่อน กระหม่อมจะพูดกับนางให้ดีนางย่อมตกลงแน่นอนพะยะค่ะ” พูดเสร็จก็หันมาคุยกับฮุ่ยหมิง “เหตุใดเจ้าจึงเลือกองค์ชายใหญ่ เขานั้นหรือให้สัญญาแต่งงานกับเจ้า โอกาสดีๆ แบบนี้จะหาที่ไหนได้อีก องค์ชายมีให้เลือกถมเถไปเจ้าก็เลือกมาสักคน อย่าชักช้าเสียเวลา” เสนาบดีจางพูดกับฮุ่ยหมิงเสียงดังพร้อมกับส่งสายตากดดันให้ ส่วนจางฮูหยิน ที่อยู่ใกล้ก็ส่งสายตาโกรธเคืองมาเช่นกัน “พี่หญิงท่านอย่าได้ประชดพี่เฟยเทียนเลยเจ้าค่ะ หากท่านต้องการเลือกพี่เฟยเทียนท่านก็เลือกเถิด อย่าได้ทำร้ายตัวเองด้วยวิธีนี้เลยข้าสามารถยอมรับได้เจ้าค่ะ” จางลี่เซียนหันมาพูดกับ ฮุ่ยหมิงด้วยน้ำเสียงปนสงสารระคนเห็นใจ ฮุ่ยหมิงอยากจะกรีดร้องออกมากับคำพูดของจางลี่เซียน คนเหล่านี้เพี้ยนไปแล้วหรืออย่างไรที่คิดว่านางประชดรักหวงเฟยเทียนโดยการแต่งงานกับหวงเฟยหลง นี่มันตรรกะป่วยจิตอะไรกัน คนพวกนี้ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ จริงอยู่ที่เมื่อก่อนฮุ่ยหมิงคนเดิมหลงรักหวงเฟยเทียนจนโงหัวไม่ขึ้น ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ครอบครองเขา แต่นางไม่ใช่ คนเราจะเปลี่ยนแปลงกันไม่ได้เลยหรือ นางจำเป็นต้องรักหวงเฟยเทียนไปตลอดชีวิตหรืออย่างไร “เจ้าแต่งงานกับองค์รัชทายาทไม่ได้ เลยวางแผนแต่งงานกับองค์ชายใหญ่ที่มีฐานะใกล้เคียงกับองค์รัชทายาทเพื่อแก้แค้นอย่างนั้นหรือ เจ้าร้ายกาจเกินไปแล้ว เจ้ากับเขาพูดกันนับคำได้ใครจะเชื่อเรื่องที่เจ้ากุขึ้นมากัน หากองค์ชายใหญ่กลับมารู้ว่าเจ้าแอบอ้างมีสัญญาแต่งงานกับเขาเจ้าย่อมมีโทษ ถึงเจ้าไม่กลัวโทษประหารแต่พวกข้ากลัว” เสนาบดีจางพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเดือดดาล “ก็ท่านพ่อกับท่านแม่ขัดขวางข้าไม่ให้แต่งงานกับองค์ รัชทายาทไม่ใช่หรือเจ้าคะ แล้วเหตุใดพอข้าบอกว่าจะแต่งงานกับองค์ชายใหญ่พวกท่านจึงไม่ช่วยข้า” ฮุ่ยหมิงรีบตอบโต้อย่างรวดเร็ว เมื่อกี้ยังขัดขวางนางอยู่เลย พอนางบอกจะแต่งกับคนอื่นดีใจ เหตุใดตอนนี้ถึงพากันกลัวจนหัวหดเสียหล่ะ ตัวนางเองตอนนี้ก็เริ่มหวาดกลัวเช่นกัน ยุคสมัยนี้แม้แต่ความตายของตนเองยังถูกผู้อื่นพรากไปโดยง่าย นางยังไม่ได้ทำความผิดด้วยซ้ำกลับต้องโทษประหารเสียแล้ว “อย่างนั้นข้าให้เจ้าพูดอีกครั้ง ในบรรดาองค์ชายทั้งสาม เจ้าจะแต่งกับผู้ใด หากครั้งนี้เจ้ายังเล่นลิ้นโต้เถียงไปมาข้าจะลงโทษประหารทั้งหมด” ฮ่องเต้หวงป๋อหลินให้โอกาสนางเลือกครั้งสุดท้าย วันนี้เขาเสียเวลามามากพอแล้ว เขาต้องการจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด “หม่อมฉัน เอ่อ หม่อมฉัน” ฮุ่ยหมิงพูดติดอ่างตะกุกตะกัก ถึงนางจะเข้มแข็งเพียงใดสุดท้ายก็เป็นเพียงหญิงสาวคนหนึ่ง เมื่อถึงเวลาจวนตัวน้ำตาเม็ดใหญ่ก็ไหลลงมาอย่างห้ามไม่อยู่ ฮุ่ยหมิงทั้งหวาดกลัวและเสียใจ นางรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับนางเอาเสียเลย หวงเฟยเทียนไม่ได้มีใจให้กับนาง ส่วนหวงเฟยหลงที่นางหวังพึ่งพาก็หายเงียบไม่รู้เป็นตายเช่นไร นี่มันชีวิตของนางความสุขของนาง ทำไมนางถึงไม่มีสิทธิ์เลือกหรือปฏิเสธด้วยตนเอง ยิ่งคิดน้ำตายิ่งไหลหวงเฟยหลงจะกลับมาหรือไม่ ในนิยายก็เขียนเอาไว้แล้วว่าเขากลับมาไม่ใช่หรือ นางบอกว่าจะแต่งงานกับเขาก็ไม่มีใครเชื่อ หวงเฟยหลงท่านอยู่ที่ใดช่วยกลับมาบอกพวกเขาที ข้ารอมานานขนาดนี้ทำไมถึงไม่มีวี่แววของท่านเลย ฮุ่ยหมิงแสยะยิ้มให้ตนเองหนึ่งที นี่นางกำลังรออะไรอยู่อย่างนั้นหรือ ตอนนี้นางมืดแปดด้านยิ่งคิดน้ำตาก็ยิ่งไหล ไม่สามารถเอื้อนเอ่ยคำใดออกมาได้ มีแต่คำถามในใจว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้ “ถวายบังคมพะยะค่ะฝ่าบาท องค์ชายใหญ่หวงเฟยหลง ขออนุญาตเข้าเฝ้าพะยะค่ะ” กงกงชราเข้ามารายงานฮ่องเต้ให้ทราบ ฮุ่ยหมิงที่ก้มหน้าร้องไห้เหมือนหัวใจถูกบีบคั้น เมื่อได้ยินชื่อหวงเฟยหลงน้ำตานางก็เหือดแห้งไปทันที ตอนนี้พูดได้เพียงว่านางดีใจจนบอกไม่ถูก เหมือนชีวิตที่เคยเหี่ยวแห้งถูกอาบไปด้วยหยดน้ำแห่งความหวังอีกครั้ง นางหัวเราะออกมาเสียงดังทั้งน้ำตาอย่างไม่อาย ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างแตกตื่นกันยกใหญ่ ไม่ใช่ว่านางเสียใจจนเป็นบ้าไปแล้วหรือ “เขากลับมาแล้วอย่างนั้นหรือมีเรื่องด่วนหรือไม่ ช่างเถอะ เจ้าไปพาเขาเข้ามา” ฮ่องเต้หวงป๋อหลินหันไปถามข้ารับใช้ แต่ไม่ทันใจจึงรับสั่งให้พาหวงเฟยหลงเข้าเฝ้าทันที พึ่งกลับมาก็รีบเร่งเข้าเฝ้าเช่นนี้ ลูกชายของเขาคงมีเรื่องด่วนเป็นแน่ อีกอย่างจะได้สอบถามให้ชัดเจนว่าเขามีสัญญาแต่งงานกับจางฮุ่ยหมิงหรือไม่ เมื่อเข้ามาถึงภายในจวนหวงเฟยหลงก็รีบตรงดิ่งมาหาร่างบางของฮุ่ยหมิงทันที เห็นแค่ด้านหลังของนางเขาก็จำนางได้เหตุใดนางจึงร้องไห้ถึงเพียงนี้ ใครทำอะไรนาง หวงเฟยหลงรู้สึกเจ็บปวดในใจไปหมด เรี่ยวแรงที่มีเหมือนค่อยๆ สลายหายไปยามเห็นหยาดน้ำตาของนางหลั่งริน เขาไม่ชอบเห็นฮุ่ยหมิงร้องไห้เสียใจอย่างนี้เลย “หมิงเออร์ เจ้าเป็นอะไรไป ใครทำอะไรเจ้า” หวงเฟยหลงรีบพุ่งตัวไปพยุงฮุ่ยหมิงให้ลุกขึ้นทันที เขายกมือซับน้ำตาให้อย่างแผ่วเบา ใบหน้าของนางที่เลอะคราบน้ำตาเช่นนี้ช่างทำให้เขา ปวดใจนัก “เฟยหลงเป็นท่าน ฮือ ท่านกลับมาแล้ว” ฮุ่ยหมิงปล่อยโฮออกมาพร้อมกับสวมกอดเขา นางหวาดกลัวเหลือเกินที่แห่งนี้ไม่เหมือนกับโลกที่นางจากมาทุกอย่างแตกต่างกันสิ้นเชิง นางเหมือนอยู่ตัวคนเดียวไร้ที่พึ่งพา มีเพียงเขาเป็นแสงสว่างในหนทางที่นางจะก้าวเดินต่อไป “ขอบคุณที่ท่านกลับมา” ฮุ่ยหมิงกระซิบบอกและพยายามซุกหน้าเข้าไปในอ้อมกอดอันอบอุ่นของเขา นางอยากขอบคุณเขา อย่างน้อยในโลกใบนี้นางยังมีเขาเป็นที่พึ่งพา “อะแฮ่ม” ฮ่องเต้พยายามกระแอมไอขัดจังหวะสอง หนุ่มสาวที่ยืนกอดกันประเจิดประเจ้อท่ามกลางสายตาผู้คน ถึงอย่างนี้นทั้งสองคนก็หาได้สนใจใคร จนเขารู้สึกกระดากอายแทนเสียเองจึงรีบเอ่ยถามหวงเฟยหลงขึ้นมา “เฟยหลง หวงเฟยหลง เจ้ากลับมาก็รีบขอเข้าเฝ้าข้าเลย มีธุระเร่งด่วนอันใดรึ” ต้องเรียกถึงสองครั้งสองคราลูกชายหน้าไม่อายถึงยอมหันหน้ากลับมาคุยกับเขา “เอ่อ สเด็จพ่อขอประทานอภัยพะยะค่ะ ลูกเพียงเห็น หมิงเออร์ร้องไห้ จึงอยากปลอบใจนางให้สงบลงก่อน ที่ลูกขอเข้าเฝ้าก็เพื่อขอให้พระองค์พระราชทานสมรสให้แก่นางกับลูกพะยะค่ะ สเด็จพ่อโปรดกรุณาด้วย” หวงเฟยหลงค้อมหัวเคารพฮ่องเต้อย่างนอบน้อม “หือ หมิงเออร์อย่างนั้นรึ เจ้ากับนางไปสนิทชิดเชื้อกันเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน” ฮ่องเต้หวงป๋อหลินเลิกคิ้วถามด้วยความสงสัย แต่ด้วยท่าทางที่ทั้งสองคนแสดงออกมาเห็นทีว่าเขาคงไม่ต้องพูดอะไรแล้วกระมัง “สเด็จพ่อ เรื่องมันยาวไว้ลูกเล่าให้ฟังวันหลังได้หรือไม่” หวงเฟยหลงตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ได้ เจ้าแน่ใจแล้วหรือว่าจะแต่งกับนาง” ฮ่องเต้หวงป๋อหลินถามย้ำอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่เมื่อหวงเฟยหลงเอ่ยปากขนาดนี้แล้วเขาจะขัดขวางอะไรได้ “ลูกแน่ใจพะยะค่ะ ลูกให้สัญญากับนางไว้แล้วว่าจะกลับมาขอนางแต่งงาน สเด็จพ่อช่วยเป็นพยานให้ด้วยได้หรือไม่” พูดจบหวงเฟยหลงก็หยิบแหวนหยกสองวงออกมาจากอกเสื้อทันที เขาคุกเข่าลงตรงหน้าฮุ่ยหมิงพร้อมกับจับมือเรียวยาวของนางมาสวมแหวนไว้ที่นิ้วนางข้างซ้าย หวงเฟยหลงเห็นวิธีนี้จากชนเผ่าในหมู่บ้านที่เขาไปปราบโจรกบฏแล้วชื่นชอบ รู้สึกว่าวิธีนี้แสดงออกถึงการขอคนรักเป็นคู่ชีวิตได้ดี จึงอยากนำมาใช้กับ ฮุ่ยหมิงบ้าง “หมิงเออร์ เจ้ายินดีจะใช้ชีวิตร่วมกับพี่หรือไม่” หวงเฟยหลงถามนางด้วยสายตาเว้าวอนอย่างรอคำตอบ เขาอยากดูแลนาง ไม่อยากให้นางมีน้ำตาเช่นวันนี้อีก “เจ้าค่ะ ข้าจะใช้ชีวิตร่วมกับท่านพี่เฟยหลง” ฮุ่ยหมิงน้ำตารื้นขึ้นมาอีกรอบ ได้แต่คิดในใจว่าใครกันจะกล้าปฏิเสธคนเช่นท่านหวงเฟยหลง หัวใจของนางเต้นระรัวรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา ในโลกเดิมที่จากมานั้นนางอยู่ได้ด้วยตนเอง ยืนบนขาของตัวเอง ปัญหาทุกอย่างที่ผ่านเข้ามานางก็ต่อสู้ฝ่าฟันด้วยตนเองทั้งสิ้น แต่วันนี้กลับมีเขามาปกป้องรู้สึกว่าหัวใจสั่นไหวไม่น้อย เขาไม่ได้พูดคำหวานแต่คำพูดที่เขาถามนางว่าจะใช้ชีวิตกับเขาหรือไม่ช่างดูมั่นคง หนักแน่น จนนางรู้สึกตื้นตันไม่น้อย “ขอบคุณเจ้ามาก” หวงเฟยหลงพูดด้วยน้ำเสียงดีใจเขาดึงมือฮุ่ยหมิงมาจูบเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นมาสบตากับนางเล็กน้อย เสร็จแล้วจึงหันไปคุยกับฮ่องเต้โดยที่เขาและนางยังจับมือกันอยู่ “สเด็จพ่อราชโองการที่ลูกขอ พระองค์ทรงทำให้เรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่” “เรียบร้อยตั้งแต่สามวันก่อนที่เจ้าส่งจดหมายมาหาข้าแล้ว เจ้ามีอันใดอีกหรือไม่” ฮ่องเต้หวงป๋อหลินสอบถามอย่างสงสัย ลูกชายคนโตของเขายืนยันจะไม่รับรางวัลใด ขอเพียงราชโองการที่เขาออกให้เท่านั้น “ถ้าอย่างนั้นสเด็จพ่อประกาศพร้อมกันกับราชโองการประทานสมรสได้หรือไม่” “ถ้าเจ้าต้องการเช่นนั้นย่อมได้ หากไม่มีอะไรแล้วข้าต้องขอตัวไปจัดการงานแล้ว วันนี้เสียเวลามาพอสมควรไปกันเถอะกงกง” ฮ่องเต้หวงป๋อหลินเดินออกไปพร้อมกับขบวนเสร็จและองค์ชายคนอื่น หากหวงเฟยหลงต้องการแต่งงานกับนางเขาก็ว่ากระไรไม่ได้ ตอนนี้ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ได้ก็เพียงพอแล้ว “พี่เฟยหลงท่านมาช้านะเจ้าคะ ท่านรู้หรือไม่ว่าข้าต้องเจอกับอะไรบ้าง” ฮุ่ยหมิงหันไปมองค้อนวงใหญ่ให้เขา นางต้องร้องไห้เพราะคิดว่าเขาไม่มาไปตั้งเท่าไหร่ยังมีหน้ามาทำหวานใส่นางอีก “พี่ขอโทษเจ้าด้วยหมิงเออร์ พอดีระหว่างทางเจออุปสรรคนิดหน่อย เจ้าอย่างอนเลยนะ” หวงเฟยหลงพยายามออดอ้อนเอาใจฮุ่ยหมิงก่อนจะดึงนางมากอดไว้ เขาไม่ต้องการให้นางเกิดความกังวลใจ จึงไม่ได้บอกว่าอุปสรรคนิดหน่อยของเขามันมากมายเพียงใด ฮุ่ยหมิงที่เขินอายจนหน้าแดงในอ้อมกอดของเขาน่ารักเพียงนี้หัวใจของเขารู้สึกจั๊กจี้ไปหมด เรื่องไม่ดีอื่นใดเขาจะไม่ปล่อยให้เข้าใกล้นางเด็ดขาด หมิงเออร์ของเขาต้องได้รับการทะนุถนอมเป็นอย่างดี ตอนนี้เขามีความสุขเหลือเกินหวงเฟยหลงแอบยิ้มออกมาอย่างปลาบปลื้ม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD