บทที่4 ดูแลคนป่วย
ช่วงบ่ายร่างอรชรนอนเปลือยเปล่าไม่มีท่าที่ว่าจะตื่น ผ้าห่มผืนใหญ่ถูกมือหนาเหริกขึ้นมาจากปรายเท้าเอามากองที่เอวบางและก้มดูร่องรักที่บวมเป่งจากการร่วมรักยาวนานติดต่อกันหลายชั่วโมง
"โถ่ที่รัก" เวกัสมองร่องรักของแฟนสาวแล้วพูดออกมาเบาๆก่อนจะหันไปมองหน้าเธอที่นอนหลับตาพริบอยู่ เวกัสค่อยๆเอาปากหนาจูบลงตรงหน้าผากมนเบาๆ
"ฮะโหล เอาเจลประคบเย็นยาแก้ปวดอักเสพมาให้ด้วย" เสียงเวกัสโทรสั่งการกับลูกน้อง
"ครับนาย"
เวลาผ่านไปแค่สิบนาทีลูกน้องของเขาก็จัดการหาของที่เจ้านายต้องการมาได้ครบทุกอย่าง
"มีอะไรก็ไปทำ วันนี้ฉันไม่รับแขก"
"ครับนาย"
"ที่รักคุณควรตื่นมาทานยานะครับ" เสียงเวกัสกระซิบข้างหูเบาๆ ก็ไม่สามารถปลุกให้คนที่เริ่มมีไข้ตื่นขึ้นมาได้
"ผมคงจะรุนแรงไปสินะครับครั้งหน้าผมจะแผ่วลงนะครับ" พูดจบก็ก้มลงไปจูบแฟนสาวทันทีก่อนจะทำการเอาผ้าชุบน้ำที่เตรียมไว้เช็ดตัวให้เธอ เอาเจลเย็นประคบร่องรักเพื่อให้บรรเทาอาการบวมเป่งของเธอลง
เวลา 20:00
ร่างบางงัวเงียอยู่ในพันธนาการในอ้อมกอดอันอบอุ่นของคนตัวโต
"อื้ออ" เสียงคนป่วยงัวเงียตื่นขึ้นมาพอมองดูรอบๆจนทั่วห้องครั้งหนึ่งก็เห็นเวกัส นอนข้างๆเตียงนอนยังมีกระมังใบเล็กและผ้าชุบน้ำเช็ดตัวให้คนที่นอนป่วยอยู่
"ตื่นแล้วหรอครับ" พอเห็นเธอตื่นก็เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เบาลง
"อืม"
"กินข้าวก่อนนะ แล้วค่อยกินยา" เวกัสไม่รอช้าพอพูดเสร็จก็เรียกแม่บ้านให้เอาอาหารขึ้นมาด้านบนห้องทันที
"อืม"
"เจ็บไหม" ถามด้วยความเป็นห่วงอาการของแฟนสาว
"เจ็บ" ร่างบางตอบออกมาเพียงสั้นๆไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากพูดแต่เธอแถบจะไม่มีแรงพูดประโยคยาวๆเลยด้วยซ้ำ
"ขอโทษนะที่รุนแรง" ทั้งขอโทษทั้งทำหน้าตาสลดเมื่อเห็นร่างบางพูดกับเขาแค่เป็นคำๆ เวกัสใจหายวาบคงคิดว่าเธอคงเกลียดตนไปแล้ว
"เกลียดฉันหรือเปล่า" ซึ่งเขาไม่ชอบให้อะไรมันค้างคาใจจึงเลือกที่จะถามออกไปตรงๆ
"เปล่า" จะให้เธอเกลียดคนที่แอบหลงรักมานานได้ยังไงยิ่งเขาก็อยากจะครอบครองเธอ เธอก็เกลียดไม่ลงแล้ว
"ไม่เกลียดแต่ก็ไม่อยากคุยกับคนที่กระทำเลวๆกับเธอใช่หรือเปล่า" ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกน้อยใจที่หญิงสาวไม่ค่อยพูดหลังจากตื่นมาก็แบบถามคำตอบคำ แล้วจะให้เขาคิดยังไง
"เป็นเด็กขี้น้อยใจสินะ" เสียงที่เปล่งออกมาก็แทบจะไม่มีแรงเนื่องจากพิษไข้จากการกระทำของคนที่กำลังตั้งเนื้อตั้งตัวแสดงสีหน้าน้อยใจอยู่ข้างๆ น้ำเสียงแหบแทบจะไม่มีแรงของเธอไม่ฉุดให้คนที่น้อยอกน้อยใจรู้สึกตะหงิดเลยสักนิด
"แล้วจะให้คิดยังไงละก็พี่ไม่ยอมคุยกับผมถามไปตั้งยาวตอบแค่ อืม อืม อืม อยู่นั้นแหละ" ด้วยความน้อยใจจึงใส่อารมณ์แล้วพูดไปด้วยก่อนจะเตรียมตัวลุกออกไปเพื่อที่จะสงบสติอารมณ์ร้ายของตัวเอง
หมับ
"จะไปไหน" ร่างบางบนเตียงคว้าหมับเข้าที่ข้อมือของเวกัส ทำเอาร่างสูงที่กับลังจะออกไปก็หันกับมามองเธอด้วยสายตาที่สับสน
"ฟังนะ ไม่ใช่ไม่อยากคุยด้วยแต่ฉันป่วยไม่มีแรงจะพูดและตอนนี้ก็พยายามพูดอธิบายให้นายเข้าใจอยู่" พอร่างบางพูดจบก็เริ่มหอบเหนื่อยขึ้นมาทำเอาเวกัสตกใจรีบยิบแก้วน้ำที่เตรียมไว้ให้ร่างบางมาดื่มทันที
"ก็ใครมันจะไปรู้พอแล้วไม่ต้องพูดเเล้วอาหารมาพอดีเลย ไม่มีแรงขนาดนี้เดียวป้อนให้นะ" ตอนนี้เวกัสที่รู้แล้วว่าทำไม่เธอถึงไม่ค่อยพูดก็เริ่มเอาใจเธอขึ้นมาทันทีความน้อยใจได้หายไปหมดแล้วตอนนี้ ที่เห็นเธอพยายามอธิบายให้เขาจนเหนื่อยหอบเพราะพิษไข้
"อืม" แค่เธอตอบคำเดียวก็ทำให้ร่างหนาข้างเตียงยิ้มแทบจะแก้มปริถ้าเป็นเมื่อครู่คงคิดน้อยเนื้อต่ำใจไปต่างๆนาๆ
"กินเยอะๆจะได้ทานยา หายป่วยไวๆ" ร่างสูงยังคงตักข้าวป้อนเธออยู่อย่างนั้นพร้อมกับหว่านล้อมคนที่กินข้าวแทบจะเรียกว่าดมเลยก็ได้
"ทานยาเลยได้ไหมไมอิ่มแล้ว" พอทานไปได้แค่สองคำก็อิ่มขึ้นมาเพราะไม่อยากทานมากกว่า
"ไม่ได้ต้องกินข้าวให้หมดแล้วค่อยกินยาเดียวยามันจะกัดกระเพาะเดียวจะเป็นหนักกว่าเดิมนะ" เวกัสพูดขึ้นมาตักเตือนเเบบผู้ใหญ่กับคนที่บ่ายเบี่ยงการรับประทานอาหาร
"กะ ก็ได้" พอได้ยินเสียงชายหนุ่มเหมือนจะดุๆเธอจึงต้องจำใจกินข้าวจนหมดแล้วทานยาแก้ปวดอักเสพ
"เมื่อกี้เช็ดตัวให้ไปแล้วรอบหนึ่งจะนอนต่อก็ได้นะ เดียวก็คงง่วงเพราะฤทธิ์ยาอยู่ดีนอนเถอะฝันดีนะ" หลังจากดูแลแฟนสาวที่เขารอใช้คำว่าแฟนกับเธอมานานก็พูดไปยิ้มไป วิธีการที่เขากระทำกับเธอนั้นความจริงเธอควรโกรธเกลียดหรือแค้นเขา แต่เธอกับไม่มีมันสักข้อนี้คือข้อสงสัยที่เวกัสยังคิดไม่ออก
"อืม ขอบใจนะแฟนใครทำไมน่ารักจัง" พอสิ้นเสียงของเจ้าแสนก็ทำเอาหน้าผู้ชายอย่างเวกัสเห่อร้อนออกมาเลยทีเดียว