“นี่เป็นรายละเอียดที่เราอยากให้คุณเวคาดูก่อนครับ” กรวิทพยักหน้าให้กับผู้ช่วยที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้อง ให้เอาแฟ้มเอกสารที่เตรียมมาส่งให้กับอีกฝ่าย
คีลยื่นมือไปรับมาตรวจดูผ่าน ๆ ก่อนที่จะยื่นให้กับผู้เป็นเจ้านาย
สายตาคมไล่อ่านเอกสารตรงหน้าอย่างละเอียด หากไม่ติดว่านี่เป็นโปรเจคที่พ่ออยากทำ เวคาคงจะเขวี้ยงมันทิ้งไปตั้งนานแล้ว
“เป็นยังไงบ้างครับ ข้อเสนอของทางพวกผมดีมากเลยใช่ไหม ผมว่าทางคุณปริณก็คงจะพอใจกับข้อเสนอนี้แน่ ๆ ครับ”
จากรายละเอียดในเอกสารที่ได้อ่าน เวคาเองก็รู้ดีว่าพ่อของเขาคงพอใจกับข้อเสนอนี้แน่นอน แต่ว่า เขายังอยากได้อย่างอื่นมากกว่านี้
“วันนี้พ่อให้ผมตัดสินใจแทนได้เลย ข้อเสนอที่คุณกรให้มาก็ไม่เลวนะครับ แต่เงินลงทุนจำนวนเกือบร้อยล้านกับคนอีกจำนวนหนึ่งที่ต้องคอยดูแลจนกว่าดีลนี้จะเสร็จ ผมอยากจะขออะไรเพิ่มสักหน่อยก่อนเซ็นเอกสารน่ะครับ”
เขาวางเอกสารลงบนโต๊ะ สายตาจับจ้องไปยังหญิงสาวที่นั่งเงียบอยู่บนโซฟาอีกตัว
“แล้วคุณเวคาอยากจะให้ผมเพิ่มอะไรตรงไหนเหรอครับ จะได้รีบจัดการให้เรียบร้อย” กรวิทถามกลับมาอย่างกระตือรือร้น การได้ร่วมทุนกับ PN กรุ๊ป ต่อให้ต้องเพิ่มเงินหรืออย่างอื่นมากกว่านี้มันก็คุ้ม เพราะผลตอบแทนที่จะได้รับกลับมานั้นเรียกได้ว่ามหาศาล
“ผมไม่ได้ต้องการให้เพิ่มอะไรในเอกสารครับ แต่ผมอยากได้อย่างอื่นมากกว่า”
ระหว่างที่เขาตอบ สายตาคมกริบก็จับจ้องไปยังผู้หญิงของตัวเองที่ยังนั่งอยู่ใกล้กับผู้ชายคนอื่น
“แล้วคุณเวคาอยากจะได้อะไรเหรอครับ”
“ผู้หญิงคนนั้น” เขาตอบแล้วชี้นิ้วไปยังเชอร์รีล “ลายเซ็นของผมแลกกับผู้หญิงคนนั้น คุณกรจะตกลงไหมครับ”
เชอร์รีลนั่งตัวแข็งทื่อ หันสายตามองผู้ชายสองคนตรงหน้าสลับกันไปมา เธอพอจะรู้อนาคตของตัวเองว่าหากออกไปจากห้องนี้เมื่อไหร่เวคาคงจะระเบิดอารมณ์ออกมาแน่ ๆ แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่ากรวิทจะตอบกลับอีกฝ่ายว่าอย่างไร
“คะ คุณเวชอบน้องเชอร์เหรอครับ” กรวิทเอ่ยถาม แล้วหันมามองหน้าหญิงสาวที่นั่งบนโซฟาถัดจากตน
“ถูกสเปกน่ะครับ อยากลองจีบดู แต่ถ้าคุณกรชอบเธอมาก ผมก็ไม่ว่าอะไรนะครับ ส่วนข้อเสนอวันนี้ยังไงผมขอเอากลับไปคิดดูก่อนก็แล้วกัน วันหลังค่อยให้คีลแจ้งมาอีกทีนะครับ”
เวคาพูดออกไปอย่างเป็นต่อ เพราะก่อนที่จะทำการค้าร่วมกับใคร เขาได้หาข้อมูลของบุคคลนั้นมาแล้วเรียบร้อย กรวิทก็เช่นกัน ผู้ชายคนนี้ดูไม่มีพิษไม่มีภัยก็จริง แต่ดันโลภมากนี่สิ
“ไม่มีปัญหาเลยครับคุณเวคา ผมกับน้องเชอร์เพิ่งเจอกันครั้งแรก หากคุณเวคาชอบน้องจริง ๆ ผมพร้อมจะหลีกทางให้ครับ”
เชอร์รีลได้แต่นั่งอึ้งกับสิ่งที่ตัวเองได้ยิน พร้อมกับจ้องหน้ากรวิทอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าผู้ชายที่ดูดีขนาดนี้จะพูดได้หน้าตาเฉย ทำราวกับเธอเป็นสิ่งของ
เวคามองดูอาการของเธอแล้วกระตุกยิ้มมุมปากบางเบา เขารู้อยู่แล้วว่ากรวิทจะต้องตกลงแน่ ให้เลือกระหว่างผู้หญิงกับเงิน ยังไงไอ้ผู้ชายคนนี้ก็ต้องเลือกเงินอยู่แล้ว
“ถ้าอย่างนั้น จะเป็นอะไรหรือเปล่าถ้าผมจะขอไปส่ง น้องเชอร์ เอง” เขาย้ำคำว่า ‘น้องเชอร์’ เน้น ๆ แล้วหันไปมองหญิงสาวที่อยู่ใต้อาณัติของตนเอง
“ได้สิครับ ถ้าเป็นคุณเวคาผมวางใจให้ไปส่งน้องเชอร์ได้เลย” อีกฝ่ายตอบกลับมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “ยังไงคุณเวคาก็ต้องดูแลน้องเชอร์อย่างดีแน่นอน ใช่ไหมครับ”
“ครับ รับรองผมจะดูแลอย่างดีเลยล่ะครับ”
ประโยคสุดท้ายที่เวคาเอ่ยออกมาทำเอาเชอร์รีลขุนลุกซู่ เธอไม่ได้กังวลว่าตัวเองจะเป็นอะไร เพราะอย่างน้อย ๆ ก็รู้จักนิสัยของอีกฝ่ายดีว่าจะไม่ทำร้ายร่างกายเธอแน่นอน ถึงแม้การพูดจาจะทำร้ายจิตใจอยู่บ้างในบางครั้ง
แต่เธอกำลังเป็นห่วงบริษัทของพ่อมากกว่า
“ถ้าอย่างนั้นคุณเวคารีบเซ็นเอกสารเลยดีกว่านะครับ พวกเราจะได้แยกย้ายกันกลับ เมื่อกี้น้องเชอร์บอกว่ามีการบ้านที่ต้องทำอีก เดี๋ยวดึกเกินไปครับ”
“ได้ครับ”
ปลายปากกาถูกจรดลงบนกระดาษ นิ้วเรียวยาวที่จับอยู่ตวัดเขียนลายเซ็นตัวเองลงไป แล้วก็ยื่นกลับไปให้คนที่กำลังรอ
“เรียบร้อยครับ เดี๋ยวผมจะส่งคนเข้าไปอีกทีนะครับ”
“ได้ครับคุณเวคา ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวกลับเลยนะครับ”
ใบหน้าคมพยักตอบรับเบา ๆ แล้วกรวิทก็รีบลุกขึ้นเดินออกจากห้องไป เชอร์รีลจะทักท้วงอะไรตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว
เมื่อกรวิทเดินออกจากห้องจนลับสายตา ตอนนี้ก็เหลือเพียงเธอกับเวคาเพียงสองคน ส่วนคีล ลูกน้องคนสนิทของเขาถูกสั่งให้ออกไปข้างนอกแล้วเรียบร้อย
“ฉันว่า ฉันเคยเตือนเธอแล้วนะเชอร์” เสียงทุ้มต่ำกดคำพูดลอดออกมาตามไรฟันชวนให้คนฟังขนลุกซู่
“เว คือมันไม่ได้เป็นอย่างที่เวเข้าใจนะ”
“แล้วเธอคิดว่าฉันเข้าใจแบบไหนล่ะ เชอร์”
แผ่นหลังกว้างเอนพิงพนักโซฟาในท่าทางผ่อนคลาย ใบหน้าหล่อเหลาที่เข้ากับเรือนผมสีทองนั้นมีรอยยิ้มเคลือบอยู่ แต่มันเป็นรอยยิ้มที่ดูไม่อบอุ่นละมุนเหมือนที่ผ่านมา
“มันก็แค่การมากินข้าวธรรมดาในฐานะคู่ค้าน่ะ พอดีวันนี้พ่อไม่ว่าง เชอร์เลยต้องมาแทน เวอย่าทำอะไรบริษัทพ่อนะ พ่อไม่ได้ส่งเชอร์มาเพื่อดูตัวนะเว”
‘หึ’ เสียงแค่นหัวเราะดังมาจากลำคอหนา ก่อนที่ร่างสูงที่เอนพิงโซฟาอยู่เมื่อครู่จะเปลี่ยนท่าทางโน้มตัวเข้ามาใกล้เธอ
“ดูเหมือนเธอจะร้อนตัวนะ”
“เชอร์เปล่าร้อนตัวนะเว แค่อธิบายเหตุผล”
ฝ่ามือหนาคว้าเอาแก้วเครื่องดื่มที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาแล้วขว้างลงบนพื้นเต็มแรง จนเศษแก้วแตกกระจายเกลื่อน ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วเดินมากระชากแขนเธอให้ลุกขึ้นตาม
“เธอคิดว่าฉันโง่มากเลยเหรอเชอร์ ฮะ!” เวคาตะคอกใส่หน้าเธอเต็มเสียง หัวใจของชายหนุ่มบีบรัดด้วยความเจ็บปวด หากเขารักเธอน้อยลงสักนิด มันอาจจะไม่ยากเย็นในการที่ต้องเลิกกับผู้หญิงคนนี้
“แต่ก็ดีเหมือนกันที่เกิดเรื่องวันนี้ อย่างน้อย ๆ ฉันก็ซื้อเธอมาเป็นของฉันอย่างสมบูรณ์แบบ คราวนี้คงจะอ้างอะไรไม่ได้แล้วสินะ”
“เชอร์ไม่ใช่สิ่งของ เวตกลงกับคุณกรเอง ไม่เกี่ยวกับเชอร์สักหน่อย จะมาใช้วิธีนี้บังคับเชอร์ไม่ได้นะ” เชอร์รีลเองก็ไม่ยอมเช่นกัน
“เหรอ ไม่เกี่ยวเหรอ” เขาถามออกมาพร้อมรอยยิ้มเยาะ “ถ้าอย่างนั้น ฉันบอกให้ไอ้กรยกเลิกสัญญากับพ่อเธอดีไหมนะ ด้วยเหตุผลที่ว่าเธอไม่ยอมเป็นของฉัน ดูซิ..ว่านายชลิตจะทำหน้ายังไง”
ดวงตาสวยเฉี่ยวที่แต่งแต้มสีไว้เพียงจาง ๆ ตอนนี้สั่นระริกพร้อมกับมีน้ำใสคลอหน่วยขึ้นมา
“อย่ามาบีบน้ำตา คิดว่าฉันจะสงสารหรือไง”
“เวจะทำอะไรก็ได้ แต่ห้ามยุ่งกับพ่อเชอร์เด็ดขาด”
สีหน้าเด็ดเดี่ยวที่ฉายชัดออกมามันไม่ได้ทำให้เวคาแปลกใจเท่าไหร่นัก เชอร์รีลเป็นแบบนี้มาตลอด เธอพร้อมจะปกป้องสิ่งที่ตัวเองรักด้วยชีวิต
แต่เสียดายที่เธอไม่เคยคิดจะปกป้องความรักของเขาที่มีต่อเธอบ้างเลย
“เอาไงดีล่ะ เอาเป็นว่าพ่อเธอและบริษัทจะยังอยู่สบายดี หากว่าเธอไม่ดื้อกับฉัน”
ร่างเล็กถูกเขากระชากเต็มแรงให้เดินตามออกมาข้างนอก แล้วลากมาตามทางเดินจนถึงรถยนต์ที่จอดอยู่ ก่อนที่จะเปิดประตูแล้วเหวี่ยงเธอเข้าไปด้านในตรงเบาะหลัง ส่วนเขาก็เบียดมานั่งข้างกัน
“จะไปไหนต่อครับคุณเว” คีลถามขึ้น
“กลับคอนโด”
“ได้ครับ”
///////////////////////////////////////////////////////