2
ณ คฤหาสน์หลังใหญ่ ของตระกูลเพชรพลอยเต็มตระกูล
ผู้สมัครคนแรกเดินเข้าไปในห้องสัมภาษณ์ด้วยท่าทางมั่นใจ ใส่รองเท้าส้นสูงแหลมปริ๊ดสีแดงสด และชุดเดรสรัดรูปสีแดงเข้ม ใบหน้าถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางจนหนา ริมฝีปากได้รูปทาด้วยลิปสติกสีแดงผมยาวสลวยถูกรวบตึงไว้สูง ท่าทางและหุ่นผอมเพรียวแต่หน้าอกสะบึ้มของเธอบ่งบอกสายงานที่ทำได้เป็นอย่างดี
“ปัจจุบันทำงานอะไร” เสียงเข้มของชายวันเจ็ดสิบปลายๆ เอ่ยถามแล้วมองดูผู้หญิงตรงหน้าอย่างพิจารณา
“หนูเป็นพริตตี้ค่ะ ท่านพอจะเคยเห็นหนูทางโทรทัศน์บ้างมั้ยคะ” เธอเชิดหน้าพูดอย่างมั่นใจแล้วยืดหลังตรงแอ่นอกไปข้างหน้าเพื่อเสนอความโดดเด่นที่มี
“ไม่เคยเห็น”
“อ่อค่ะ” เธอยิ้มแห้งๆ แล้วก้มหน้าลงเล็กน้อยเมื่อเห็นปฏิกิริยาของคนตรงกันข้ามว่าไม่พอใจนัก
“คิดยังไงถึงมาสมัครงานนี้”
“หนูอยากมาหาประสบการณ์ใหม่ๆ ค่ะ ทำงานพริตตี้มาหลายปีแล้วน่าเบื่อ” เธอพูดแล้วยิ้มแบบนางงามบนเวทีประกวดแต่ดูแล้วไม่เป็นธรรมชาตินัก
“การมีลูกไม่ใช่งานที่จะมาหาประสบการณ์ได้หรอกนะ” คุณปู่บอกแล้วปิดเอกสารประวัติของเธอ
“ค่ะ”
“กลับไปได้เธอไม่ผ่านการสัมภาษณ์” เสียงเหี้ยมพูดขึ้นแล้วหยิบเอกสารชุดใหม่ขึ้นมาดูก่อนจะส่งสัญญาณให้กับลูกน้องเรียกคนสมัครคนต่อไปเข้ามาและผายมือเชิญผู้หญิงคนแรกออกไป
“เชิญครับ” ลูกน้องคนสนิทเปิดประตูให้ผู้หญิงคนต่อไปเดินเข้ามา
ท่าทางของเธอดูเนียบเหมือนอย่างครูชำนาญการพิเศษในโรงเรียน แต่งตัวด้วยเสื้อและกางเกงสีเรียบเกล้าผมไว้อยู่ระดับพอดี สวมแว่นหนาทาลิปสติกสีนู้ดถือแฟ้มเอกสารหนาๆ เดินเข้ามา
“เคยทำงานอะไรมา”
“ขายประกันชีวิตค่ะ” เธอตอบด้วยเสียงสุภาพและสะกดคำชัดเจน
“อ่อ ฉันนึกว่าเธอจะเป็นครูซะอีก แล้วคิดยังไงถึงมาสมัครงานนี้” ปู่ถามแล้วมองเอกสารประวัติของเธอ
“ฉันคิดว่ามันเป็นงานที่น่าตื่นเต้นดีค่ะ” เธอตอบอย่างมั่นใจ
“อืม แต่เธออายุมากแล้วสินะ น่าเสียดายถ้าเด็กกว่านี้คงจะดี” คุณปู่พูดขึ้นแล้วปิดเอกสารลง
“คะ?”
“ขอโทษนะเธอไม่ผ่าน” คนตรงหน้าเธอพูดจบก็ผายมือให้เธอลุกออกไป ก่อนจะหันไปมองลูกน้องของตัวเองเป็นสัญญาณ
หญิงสาวคนแล้วคนเล่าที่เดินเข้าไปสัมภาษณ์ แต่ยังไม่มีคนไหนที่ผ่านสัมภาษณ์นี้ได้เลย ตอนนี้เหลือเพียงผู้หญิงสองคนที่รออยู่หน้าห้อง
“เชิญคนต่อไปเข้ามา” เสียงของคนหน้าห้องพูดขึ้นก่อนที่ผู้หญิงหน้าตาจืดๆ คนหนึ่งจะเดินเข้ามา เธอสวมแว่นหนาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกระโปรงสีดำดูเรียบร้อย ท่าทางของเธอดูไม่มั่นใจนักแต่ก็เดินมาจนถึงเก้าอี้แล้วนั่งลงพร้อมกับยกมือไหว้คนที่นั่งกับเก้าอี้ตัวใหญ่
“เคยทำงานอะไรมา”
“ก่อนหน้านี้เคยทำงานร้านสะดวกซื้อค่ะ” เธอตอบแล้วกำมือไว้แน่นพลางคิดในใจว่าอยากจะถอนตัวไปจากตรงนี้
“อายุยังน้อยอยู่เลยทำไมถึงมาสมัครงานนี้” คุณปู่ถามแล้วจ้องหน้าของเธออย่างพิจารณา
“พูดตรงๆ คือหนูไม่ได้อยากทำงานนี้เลยแต่ตอนนี้ชีวิตหนูกำลังลำบาก พอเห็นงานนี้เข้าเลยคิดว่ามันคงจะช่วยหนูกับน้องชายให้เรียนต่อจนจบได้” เธอตอบแล้วก้มหน้าลงอย่างสมเพชตัวเอง
“อืม อย่างนี้หนูก็เรียนไม่จบใช่มั้ย”
“ค่ะ คือตอนนั้นพ่อไม่สบายเลยต้องออกกลางคัน” เธอตอบแล้วขยับแว่นตัวเองมองผู้ชายที่ท่าทางน่าเกรงขาม
“อืม แน่ใจเหรอว่าจะทำงานนี้” คุณปู่มองหน้าเธอแล้วขมวดคิ้วแน่น
“เอ่อ คือ หนูอยากรู้ว่างานนี้คือต้องทำยังไงบ้างคะ”
“…” ท่านเงียบไปแล้วเปิดดูเอกสารในมือของตัวเองไปมา ประวัติการทำงานของเธอแทบจะไม่มีเลย ประวัติสุขภาพค่อนข้างดี ผิวพรรณขาวเนียนเหมือนเป็นตั้งแต่เกิด
“คือหนู...”
“ฉันจะอธิบายแบบตรงไปตรงมา งานนี้คือหนูนอนกับหลานชายของฉัน เพื่อมีลูกกับเขา แค่ท้องกับเขาแล้วให้เด็กเกิดมาอย่างสมบูรณ์ ก็จะได้เงินอีกครึ่งหนึ่งไป เงินล้านแรกจ่ายเมื่อนอนด้วยกันคืนแรก” คำอธิบายของคุณปูทำให้หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก
“...”
“ว่ายังไง จะรับงานนี้มั้ยเธอผ่านสัมภาษณ์แล้ว” ท่านถามย้ำแล้วปิดเอกสารลง
“ทางนี้จะเก็บเรื่องทั้งหมดเป็นความลับใช่มั้ยคะ” เธอถามเสียงสั่นถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่น่ากลัวสำหรับเธอแต่อำนาจของเงินมันจะทำให้ชีวิตหลังจากนั้นมีความสุข
“หนูจะต้องย้ายมาอยู่ที่นี่ แต่ไม่ต้องห่วงปู่ไม่ใช่คนใจร้ายใจดำอะไร เข้ามาอยู่เพื่อที่ทางเราจะได้ดูแลอย่างดีมีป้าแม่บ้านที่ทำงานเก่งคอยดูแล เพราะทุกอย่างที่เกี่ยวกับตัวหนูมีผลกับทายาทของเราที่จะเกิดมา” ท่านพูดแล้วเอนตัวพิงกับเก้าอี้ตัวใหญ่
“...”
“หรือจะขอเวลาตัดสินใจ”
“แล้วผู้ชายคนนั้น เอ่อ หมายถึงหลานของท่านเขาเป็นคนยังไงคะ” เธอถามแล้วเช็ดมือที่ชื้นไปด้วยเหงื่อกับกระโปรงตัวเอง
“มันนะเหรอ...เอาไว้เจอกันจะรู้เอง แต่เรื่องโรคภัยไม่ต้องห่วง ก่อนหน้าที่จะทำงานทางเราจะส่งใบรับรองแพทย์เกี่ยวกับการตรวจโรคแบบละเอียดให้หนู” ท่านตอบเหมือนรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
“จะให้วิธีผสมเชื้อไม่ได้เหรอคะ” เธอถามออกไปเหมือนคนที่ไม่ค่อยรู้นัก
“จะทำอย่างนั้นก็ได้ แต่แพทย์บอกกับเราว่าเด็กจะไม่สมบูรณ์เท่าการ...” ท่านเว้นคำตอบเอาไว้เหมือนให้ละไว้ในฐานที่เข้าใจ
“อ่อค่ะ”
“สรุปจะกลับไปคิดก่อนก็ได้นะ”
“...”
“งั้นยังไงติดต่อกลับ...”
“หนูรับงานนี้ค่ะ!” เธอสูดหายใจเข้าเต็มปอดแล้วตอบออกไป จนคนที่ได้ยินยิ้มออกมาอย่างพอใจ
“ดี!! ฮ่าๆ พร้อมเมื่อไหร่เก็บของมาที่บ้านนี้ได้เลย ไอ้ชิดบอกคนสมัครคนอื่นที่เพิ่งมาว่าฉันได้คนแล้ว” ท่านหัวเราะอารมณ์ดีมองหญิงสาวอย่างเอ็นดู
“ครับท่าน” ลูกน้องคนสนิทตอบรับแล้วเดินออกไปแจ้งกับผู้หญิงที่ตอนนี้มาเพิ่มอีกสี่คน เกิดความเสียดายขึ้นไม่น้อย
“อ่อ หนูชื่อเล่นว่าอะไรล่ะฉันจะได้เรียกถูก” ท่านถามอย่างคนใจดี ท่าทางแตกต่างจากที่เพิ่งจะสัมภาษณ์ไปเมื่อกี้เป็นคนละคน
“พายค่ะ”