บทที่ 13 อาการของคนไม่มีสิทธิ์

4368 Words
บทที่ 13 อาการของคนไม่มีสิทธิ์ เกวลินยิ้มมีความสุขมากที่วันนี้ตื่นขึ้นมาไม่มีเสียงของไซนัสและโทนี่เรียกให้เธอรำคาญ เพราะเขาทั้งสองได้พากันไปเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งตลอดหลายเดือนที่มีไซนัสและโทนี่ปกครอง เกวลินไม่เคยเป็นตัวของตัวเอง เพราะเขาทั้งสองจะคอยบงการให้เธอทำนั้นทำนี้ ซึ่งเธอเข้าใจว่าชายหนุ่มทั้งสองเป็นห่วงและหวังดีกับเธอ แต่นั่นก็ทำให้เธออึดอัดและไม่ได้รับอิสรภาพเลย “อีกสองเดือนเท่านั้นนะ เราก็จะได้เห็นหน้ากันแล้วนะครับ” เกวลินลุกนั่งหลังแนบหมอนพิงพนักเตียง มือสองข้างลูบลูกในท้องพูดคุยกับแก ยามแกเอาแต่ดิ้นเตะมือของเธอ “เฮ้ย!” เกวลินถอนหายใจ เมื่อมองกระปุกยาต้านโรคไทรอยด์ที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง เธอหยิบกระปุกยาเทลงใส่มือ สองจิตสองใจว่าจะกินดีไหมวันนี้ “แม่ขอโทษนะครับที่ต้องกินไอ้ย***านี้ทุกวัน” เกวลินพูดกับลูกเสียงเบาหวิว ดวงตาคู่งามไหวระริกมองลูกมองยาในมือ แล้วเธอก็ตัดสินใจดื่มน้ำผสมยาสองเม็ด ผ่านไปสองวินาทีหลังกินยาแล้ว เกวลินขยับตัวไปนั่งหย่อนขาตรงขอบเตียง แล้วถามลูกในท้องว่า “หิวไหมครับ บอกแม่สิวันนี้ลูกแม่อยากกินอะไรครับ” ลูกดิ้นขลุกขลักในท้องเหมือนแกจะรับรู้สิ่งที่เธอพูด คุณแม่ท้องโตจึงยิ้มแล้วลุกขึ้นเดินอุ้ยอ้ายไปที่ห้องครัว เปิดตู้เย็นมองของกินเต็มตู้ “ทำไมต้องนึกอยากกินไอ้ยำนี้ด้วยนะ” เกวลินหยิบหมูยอออกมาจากตู้เย็น แล้วภาพในอดีตของเขาและเธอก็ค่อยๆชัดเจนขึ้น.. เตชินท์เดินผ่านห้องนั่งเล่นไปยังระเบียงนอกห้อง ซึ่งพื้นที่ตรงนี้เกวลินได้ทำเป็นห้องครัว เขาค่อยๆเปิดประตูแล้วเดินเบาเหมือนแมวเข้าไปยืนข้างหลังเมีย แขนกำยำสองข้างสอดเข้ากอดเอวคอดไว้หลวมๆ แล้วพูดเสียงทุ้มชิดใบหูด้านหลังของเมียว่า “เมียใครนะ ทำไมตัวหอมจัง..” “อุ๊ย! พี่ชินท์ มาเงียบๆเกวตกใจหมดเลย” เกวลินอุทานเสียงดัง พร้อมย่นคอหนีเมื่อพี่ชินท์คอยจะเอาเปรียบจูบข้างแก้มของเธอ “ทำอะไรกินเหรอ กลิ่นหอมฟุ้งไปถึงหน้าประตูห้องเลย” เตชินท์ยังกอดเอวคอดกิ่ว ใบหน้าหล่อก็คลอเคลียจูบตอดเล็กตอดน้อยซอกคอหอมกรุ่น “ไข่เจียวหมูสับ กับน้ำพริกละลายน้ำปลา แล้วก็ยำหมูยอใส่มาม่าค่ะของโปรดของพี่ไงค่ะ” เกวลินเบื่อที่จะห้ามชายหนุ่ม เธอจึงยืนให้เขากอด “อื้อ น่ากินทุกอย่างเลย” เตชินท์มองกับข้าวในถาด แล้วจับให้คนตัวน้อยสูงแค่ราวนมของเขาหันมายืนเผชิญหน้ากัน “อย่าค่ะพี่” เกวลินยกมือขึ้นดันคางหนาไว้ ไม่ยอมให้พี่ชินท์โน้มหน้าลงมาจูบ “ให้พี่ช่วยซอยต้นหอมผักชีไหม” เตชินท์จับมือน้อยด้วยมือข้างเดียว และก่อนที่จะเอาไปคล้องคอ เขาก็จูบมือสองข้างของเธอ “ไม่เป็นไรค่ะ เกวทำใกล้จะเสร็จแล้วค่ะ” เกวลินเอาแขนออกจากคอหนา พลางแกะมือใหญ่ออกจากเอว แล้วเธอก็เดินเข้าไปในห้องหยิบขวดน้ำในตู้เย็น เตชินท์เดินตามน้องไปยืนกลางห้อง เขายิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อเห็นเมียรักเดินย้อนกลับมาหาเขา ซึ่งน้องน้อยได้เอาขวดน้ำให้ “ขอบใจนะ” เตชินท์พยักหน้าดื่มน้ำเย็นจนหมดขวด แล้วโยนขวดเปล่าใส่ถังขยะ “พี่ไปนั่งพักที่โซฟาเถอะค่ะ” เกวลินถูกพี่ชินท์หยีผมเล่น เธอจึงย่นจมูกใส่เขา แล้วเก็บขวดน้ำเปล่าที่สามีโยนใส่ถังขยะขึ้นมา แล้วเอาไปเก็บไว้ในถุงใหญ่ที่มีกระป๋องเบียร์ขวดน้ำอัดลมหลายร้อยชิ้น ‘พรุ่งนี้คงขายได้เงินหลายร้อยแน่’ เธอพูดคนเดียวในใจ “พี่อยากช่วยเธอนี่” เตชินท์เดินไปหยิบเบียร์ในตู้เย็น แล้วเดินย้อนกลับมายืนกระแซะขอบประตู เขาจิบเบียร์พลางมองน้องก้มๆเงยๆนั่งๆทำกับข้าว “ช่วยให้เกวทำกับข้าวช้าลงนะสิ” เกวลินบอกสามี พร้อมทั้งชิมยำหมูยอ “ให้พี่ช่วยชิมก็ได้” เตชินท์ไม่รอคำตอบของเมีย เขาดื่มเบียร์หมดกระป๋องโยนกระป๋องเบียร์ทิ้งขยะ แล้วเดินเข้าไปยืนข้างหลังน้อง จับน้องให้หันมาแล้วเขาก็โน้มหน้าลงจูบปากอิ่มอย่างดูดดื่ม “อื้ออ พะ พี่” เกวลินครางอือๆในลำคอ เมื่อถูกพี่ชินท์จูบกระชากวิญญาณ “เส้นมาม่าในปากของเธออร่อยมากเลยนะเกว รสชาติแบบนี้แหละที่พี่ชอบ หวานเผ็ดเปรี้ยวครบรสเลย” เตชินท์พูดชิดเรียวปากอิ่ม ในตอนนี้ไม่รู้เธอเมาเบียร์ในปากของสามีหรือเมารสจูบของเขากันแน่ ซึ่งเธออ่อนปวกเปียก ครางเสียงอู้อี้ชิดกลีบปากหนาว่า “ปละ ปล่อยเกวได้แล้ว กะ เกวหายใจไม่ออกค่ะ..” “ดวงใจของพี่ เธอสวยจนพี่อยากจะกินเธอตรงนี้เสียเหลือเกิน” ถึงจะหยุดสูบอากาศหายใจของเมีย แต่คนหื่นก็ไม่ยอมปล่อยน้องให้เป็นอิสระ เขาอุ้มหน้างามให้แหงนขึ้นจนคอน้องตั้งเพื่อได้มองสบตากัน “คนผีทะเล หน้าไม่อาย” เกวลินว่าพี่ชินท์โดยการตีหน้าอกแกร่ง “เป็นผัวเมียกันจะอายทำไม รู้ไหมคู่ไหนๆเขาก็มีเซ็กส์กันได้ทุกที่ที่ต้องการแหละ ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำหรือระเบียงนอกบ้าน หรือแม้แต่ในรถ เขาก็ทำกัน” เตชินท์ยังกอดน้อง ใบหน้าหล่อก็คลอเคลียคอยจะจูบเธออยู่ตลอดเวลา “บ้า เกวไม่คุยกับคนลามกแบบพี่ละ ปล่อยค่ะ” เกวลินดันหน้าพี่ชินท์ ขัดขืนจนได้อิสระภาพ “โอเค พี่ปล่อยเธอก็ได้ แต่คืนนี้เธอเจอดีแน่ พี่จะเอาเธอตั้งแต่โซฟาและบนพื้นแล้วไปจบกันที่เตียงนอนเลย” คนหื่นพูดไปพลางเดินตามหลังน้องเข้าห้อง “คนลามก” เกวลินยืนหั่นหมูยอพูดแผ่วเบาโดยไม่รู้ตัว และมีดในมือก็หล่นลงพื้นเสียงดัง ‘เพล้งง!!’พร้อมเลือดแดงฉาดหยดลงพื้น ทำให้คนท้องที่ตกอยู่ในห้วงความทรงจำสะดุ้งตื่น “โอ๊ย! บ้าเอ้ย! นี่เราใจลอยนึกถึงเรื่องเก่าๆที่ไม่น่าจดจำ จนมีดบาดมือเลยเหรอ” เกวลินนิ่วหน้าเพราะเจ็บแผล พลางตำหนิตัวเองที่คิดถึงผู้ชายใจดำคนนั้น และก่อนที่เธอจะล้างเลือดที่ไหลอาบนิ้วมือ “นี่เราเป็นอะไรนะ รู้อยู่เต็มอกว่าเขามีครอบครัวใหม่ไปแล้ว ทำไมในสมองยังจะจดจำสิ่งที่เขาทำให้ด้วยนะยัยเกว” เกวลินสะอื้นในอก ว่าจะเข้มแข็งไม่ร้องไห้เสียน้ำตาให้กับผู้ชายหลายใจ แต่เธอก็ทำไม่ได้เมื่อก้มลงดูดเลือดตรงปลายนิ้วที่ถูกมีดบาด พลางให้นึกถึงเตชินท์ ซึ่งเวลาเธอมีแผลถูกมีดบาด เขามักอ่อนโยนดูดเลือดและทำแผลทายาให้เธอเสมอ… ในห้องนั่งเล่นสไตล์ญี่ปุ่น..โอชินั่งอยู่บนเบาะติดพื้นพรม มือข้างหนึ่งยันหัวเข่า ส่วนอีกข้างถือไอโฟนรุ่นใหม่ ดวงตาของชายชราสุกประกายวาววับเมื่อเห็นภาพวีดีโอที่ลูกชายคนเดียวไลฟ์สด “บ๊ะ ไอ้ลูกคนนี้นี่ ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นนี่หว่า ฮาๆๆ” โอชิหัวเราะชอบอกชอบใจผสมพูดเสียงดังอยู่คนเดียว ซึ่งชายชราไม่ทันได้สังเกตว่ามีใครเดินเข้ามาหา “คุณพ่อค่ะ // สวัสดีครับคุณพ่อ..” “อ้าว เจสลูกพ่อ เตชินท์มากันแล้วเหรอ” เสียงทักทายของลูกสาวและลูกเขยที่โค้งคำนับ ทำให้โอชิเงยหน้าขึ้นมอง แล้วชายชราก็ลุกขึ้นเดินไปยังห้องโถงรับแขกสไตล์ฝรั่งเศส “คุณพ่อมีอะไรหรือเปล่า ทำไมต้องให้เด็กโทรหาพวกเราคะ” ก่อนที่ เจสสิก้าจะเดินตามพ่อไปยังห้องนั่งเล่นนั้น เธอได้มองหน้าสามี ซึ่งเตชินท์ก็พยักหน้าให้เธอ “นั่งลงก่อน” โอชินั่งบนโซฟา แล้วบอกให้ลูกสาวและลูกเขยนั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้าม “เดี๋ยวผมชงให้เองครับ” เตชินท์ขันอาสา เขาคลานเข่าไปนั่งตรงหน้าโต๊ะรับแขก ชงชาให้ชายชรา “ขอบใจนะ” โอชิพอใจมากที่เตชินท์ชงชาแบบญี่ปุ่น “คุณพ่อมีอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ ทำไมคุณพ่อดูอารมณ์ดีกว่าทุกวันล่ะคะ” เจสสิก้าส่ายหน้าไม่ยอมรับชาที่สามียื่นให้ “ใช่ๆ วันนี้พ่อมีความสุขมากที่สุดเลย” โอชิไม่ยอมมองหน้าลูกสาวและลูกเขย เพราะจุดสนใจของเขาคือภาพของไซนัสที่ประคบประหงมหญิงสาวท้องโตใกล้คลอด “ใครกันค่ะที่ทำให้คุณพ่อมีความสุขได้ขนาดนี้” เจสสิก้าถามพ่อแล้วหันไปพูดกับเตชินท์ว่า “ดูสิชินท์ คุณพ่อนั่งยิ้มคนเดียวอีกแล้ว..” ครั้งนี้เตชินท์ขยับตัวลุกเล็กน้อยนั่งบนโซฟาตัวเดียวกับเจสสิก้า พลางถามโอชิว่า “คุณพ่อมีเรื่องสำคัญหรือเปล่าครับ ถึงได้ให้คนโทรหาพวกเรา..” “ไซนัสไงที่ทำให้พ่อเป็นแบบนี้” โอชิจิบชาพลางเหลือบตามองหน้าลูกสาวและลูกเขย “ทำไมเหรอคะ ไซนัสทำไมเรื่องอะไรเหรอคะ” เจสสิก้ามองหน้าสามี แล้วหันไปจ้องหน้าพ่อ ซึ่งชายชราเอาแต่ยิ้มเมื่อมองโทรศัพท์ในมือ “น้องชายของเจสกำลังจะมีหลานให้พ่ออุ้มนะ พ่อจะได้เป็นปู่แล้วนะเจส” โอชิหัวเราะหึๆ พร้อมทั้งยื่นมือถือของตัวเองให้ลูกสาวดู “ไซนัสนะเหรอค่ะจะมีลูก” เจสสิก้าไม่เชื่อในคำพูดของพ่อ เธอจึงแอบหัวเราะผสมพูดในใจคนเดียวว่า ‘มันจะมีลูกได้ไง ไอ้บ้าไซนัสมันมีผัวนะไม่ใช่มีเมียสักหน่อย..’ “ใช่ เจสดูนี่สิ ไซนัสส่งมาให้พ่อดู หนูคนนี้ไงน้องสะใภ้ของลูก” โอชิชี้นิ้วบอกให้ลูกสาวดูคลิบในมือถือ พร้อมทั้งบอกคุยโวว่า อีกไม่กี่เดือนไซนัสและผู้หญิงในคลิบก็จะแต่งงานกัน “ใครคะผู้หญิงคนนี้” เมื่อเห็นหน้าตาของผู้หญิงที่พ่อบอกว่า เธอคนนี้จะมาเป็นน้องสะใภ้ เจสสิก้าก็ทำหน้างุนงง เหมือนเคยเห็นที่ไหน แต่ก็นึกไม่ออก “ไซนัสยังบอกอีกนะว่า หลานพ่อเป็นผู้ชาย นี่เดือนหน้าก็จะคลอดแล้วด้วย” โอชิพูดไม่หยุด ซึ่งชายชรายังบอกลูกสาวเรื่องการวางแผนจะกลับไปร่วมงานแต่งของลูกชายคนเล็กกับผู้หญิงในคลิบ “เด็กผู้ชายเหรอ” เจสสิก้าอิจฉาริษยาไม่อยากเชื่อไซนัสจะมีลูกจริงๆ เธอไม่อยากดูต่อจึงยื่นมือถือรุ่นใหม่ของพ่อให้สามี ด้านเตชินท์พยักหน้าให้ภรรยาเอามือถือมาดู เมื่อเห็นไซนัสกำลังนั่งไลฟ์สดพูดอยู่กับโทนี่ เตชินท์ไม่ใช่ผู้ชายโง่จะดูไม่ออกว่าโทนี่กับไซนัสเป็นพวกรักร่วมเพศ เขาจึงไม่ได้สนใจอะไร และกำลังจะเอาโทรศัพท์คืนให้ภรรยา แต่เขาก็ชะงักเมื่อเห็นเสี้ยวหน้าของผู้หญิงอุ้มท้องโตใกล้คลอด “เกวลิน!..” เสียงพูดของสามี ถึงจะไม่ชัดเจนแต่ก็ทำให้เจสสิก้าถามว่า “ชินท์พูดอะไรคะ?..” “มะ ไม่นี่ครับ” เตชินท์หน้าเครียด ไม่ยอมมองภรรยาเมื่อตอบคำถาม เพราะจุดสนใจของเขาในตอนนี้คือยิ้มหวานมีความสุขของผู้หญิงท้องโตในคลิบ “เจสกับเตชินท์ ก็จะได้เป็นป้าและลุงแล้วนะ” ด้านโอชิคุยโวบอกลูกสาวลูกเขย ท่าทีนิ่งไม่ยอมคุยและสีหน้าเคร่งเครียด มือที่ถือโทรศัพท์ก็กำแน่นจนมือชื้นเหงื่อนั้น ทำให้เจสสิก้าถามสามีว่า“ชินท์ คุณโอเคไหมค่ะ ทำไมเหงื่อแตกเต็มหน้าอย่างนี้ค่ะ..” “นี่ครับ มือถือของคุณพ่อ” เตชินท์ไม่ตอบ แต่เมื่อภรรยากำลังจะเช็ดหน้าให้เขาก็รีบจับมือเธอไว้ พร้อมเอามือถือให้พ่อภรรยา “ไม่สบายหรือเปล่าคะ หรือคุณยังเวียนหัวอยู่” เจสสิก้ามองหน้าสามี ด้านโอชิปิดคลิบในโทรศัพท์ทันทีเมื่อเห็นอาการของลูกเขย ซึ่งชายชราเป็นห่วงลูกเขยมากจึงถามว่า “เตชินท์ไม่สบายเหรอ..” “คงจะเป็นโรคกระเพาะมั้งค่ะ ชอบอาเจียนตลอด” เจสสิก้าบอกพ่อแทนสามี พลางยื่นมือไปเช็ดเหงื่อตรงข้างขมับที่เต้นตุ๊บตั๊บให้สามี “ไปหาหมอหรือยังเตชินท์” โอชิมองหน้าของลูกเขย “เดี๋ยวผมมานะครับ” เตชินท์ไม่ตอบคำถามของพ่อภรรยา เขายิ้มให้ชายชราแล้วลุกขึ้นยืน และก่อนที่จะเดินออกไปเขาได้โค้งคำนับพ่อภรรยา “ชินท์จะไปไหนคะ” เจสสิก้ารีบร้อนลุกขึ้นยืน เมื่อเห็นสามีก้าวเดิน เธอก็คว้าแขนหนาจับไว้แน่นไม่ยอมให้ชายหนุ่มไปไหน “คุณพ่อคงไม่ว่าผมนะครับ ถ้าผมจะออกไปทำธุระสักหน่อย”เตชินท์ไม่ตอบคำถามของภรรยา เขายืนก้มหน้าเมื่อพูดขออนุญาตจากโอชิ “อะไรกันค่ะชินท์ วันนี้เป็นวันหยุดของคุณไม่ใช่เหรอ อีกอย่างคุณบอกว่าจะอยู่กับฉันนี่ค่ะ” เจสสิก้าเขย่าแขนของสามี ซึ่งเธอจะเอ่ยถามต่อ แต่ก็ต้องหยุดพูด เมื่อเสียงมือถือของเตชินท์ดังขึ้น ตื้ดด!!! ตื้ดดดด!!!!!.. เตชินท์เหมือนถูกยกภูเขาออกจากอก เขาหายใจโล่งเมื่อเห็นเบอร์โทรของลูกน้อง และก่อนที่จะรับสายอะซุมเขาก็พูดกับโอชิว่า “พอดีผมนึกขึ้นได้ว่า วันนี้มีนัดสำคัญครับ..” “กับใครคะ ทำไมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย” เจสสิก้าไม่พอใจจึงถามและเขย่าแขนกำยำ พร้อมส่งเสียงถามดังลั่นห้องรับแขก ด้านเตชินท์ไม่ตอบ เขาแกะมือของเธอออกจากแขน แล้วรีบรับสายพูดกับลูกน้องคนสนิทว่า “อะซุม เดี๋ยวอีกหนึ่งชั่วโมงฉันไปถึง นายช่วยต้อนรับคุณคาชิบะแทนฉันไปก่อนนะ..” อะซุมไม่เข้าใจในคำพูดของเจ้านาย ชายหนุ่มลุกออกจากที่นอนเดินไปยืนตรงหน้าต่าง แหงนหน้ามองตึกสูงใหญ่เชียดฟ้า แล้วพูดในใจว่า ‘อะไรของเขาวะ ส่งข้อความให้เราโทรหา นี่ยังมาบอกให้เราต้อนรับคุณคาซิบะอีก’ “เอ่อ คุณเตชินท์ครับ คือว่า” อะซุมพูดอ่ำอึ้ง “แค่นี่นะ เดี๋ยวฉันไป” เตชินท์ไม่ยอมให้ลูกน้องได้ตอบ ซึ่งเขาเอาแต่ออกคำสั่งอะซุม แล้วรีบตัดสายโทรศัพท์ทิ้งทันที “อะไรของเขาวะ พูดไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย วันนี้คุณเตชินท์มีนัดกับคุณคาซิบะเหรอวะ” อะซุมเกาหัวงงกับคำพูดของเจ้านาย “นี่ลูกน้องของคุณไม่รู้เหรอ ว่าวันนี้เป็นวันพักผ่อนของคุณ” เจสสิก้าหน้างอใส่สามี “นัดคุยงานกับคาชิบะเหรอเตชินท์” ด้านโอชิถามลูกเขย “ครับ” เตชินท์ขานรับไม่เต็มปาก เมื่อรู้ตัวว่าโกหก “อื้อ งั้นก็รีบไปเถอะ ปล่อยให้ท่านประธานคนที่สามของบริษัทต้องรอนานแบบนี้มันจะไม่ดีนะ” เมื่อเห็นเตชินท์โค้งคำนับ โอชิก็โบกมือให้ลูกเขยรีบไป “คุณเจส ผมไปก่อนนะครับ ถ้าเสร็จธุระแล้วผมจะรีบกลับมาหานะครับ” เตชินท์บอกภรรยาด้วยการหอมแก้มของเธอ แล้วเขาก็รีบเดินออกจากบ้าน เจสสิก้าเมื่อถูกสามีขโมยหอมแก้ม ซึ่งเธออายสายตาของพ่อมาก จึงแกล้งทำเสียงเขียวคาดโทษสามีว่า “คุณพ่อ ทำไมไม่ห้ามชินท์บ้างค่ะ..” “นี่ยัยเจส เตชินท์เขาไปคุยงานนะ” โอชิลุกขึ้นเดินมือไขว้หลังไปยืนตรงหน้าต่าง มองเตชินท์รีบร้อนขึ้นรถและขับออกไป “แต่ว่า..” เจสสิก้าบ่นสามีให้พ่อฟัง พลางเอามือถือของตัวเองมาดู ‘มาหาผมที่เดิม ถ้าไม่มาภาพนี้จะถึงมือคุณลุงโอชิและผัวรักของคุณ..’ “ยาคุชิ นี่คุณจะจองล้างจองพลาญฉันไปถึงไหน” เจสสิก้าหน้าซีด รีบลบภาพเปลือยของเธอและยาคุชิในมือถือทิ้งทันที “มานั่งนี่มะ” ด้านโอชิกวักมือเรียกลูกสาว พลางเดินไปนั่งที่เดิม “ไม่!” เจสสิก้าตอบพ่อเสียงห้วน “เจสจะไปไหนลูก” โอชิถามเมื่อเห็นลูกสาวเดินไปยังห้องโถงประตูหน้าบ้าน ซึ่งชายชราก็เดินตามลูกสาว “ถ้าชินท์เค้าถามหาหนู พ่อช่วยบอกชินท์ด้วยนะ ว่าหนูจะไปทำธุระกับลูกค้าเหมือนกัน” เจสสิก้าบอกพ่อ แล้วเธอก็รีบร้อนเดินออกจากบ้าน… ที่เมืองไทย.. เกวลินฝืนยิ้มมองหน้าไซนัสและโทนี่ ดวงตาเศร้ามองมือข้างหนึ่งของไซนัสลูบลูกในท้อง ซึ่งเธอสัมผัสได้ว่าลูกชายของเธอไม่ชอบใจที่ไซนัสแตะต้อง ถึงดิ้นอย่างรุนแรงจนเธอต้องนิ่วหน้า “ซี้ดด เบาๆสิลูกแม่” เกวลินกัดริมฝีปากจนเลือดซึม เมื่อลูกในท้องทำให้เธอเจ็บ เธออยากจะปัดมือของไซนัสออกจากหน้าท้องเหลือเกิน “ลูกพ่อทำคุณแม่เจ็บอีกแล้วนะครับ” ไซนัสยังไลฟ์สดเพื่อส่งต่อให้โอชิดู ซึ่งเขาทำเป็นชายแข็งแกร่งพูดคุยกับลูกของเกวลิน “คุณไซนัสค่ะ หยุดไลฟ์สดเถอะค่ะ ฉันรู้สึกไม่ดีต่อครอบครัวของคุณเลยที่ต้องโกหกแบบนี้” เกวลินเบือนหน้าหนีไม่ยอมเข้ากล้อง คำพูดของเกวลิน ทำให้ไซนัสเงยหน้าออกจากท้องโต สีหน้ามีความสุขเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นไม่พอใจ และก่อนที่จะยกเลิกไลฟ์สดเขาก็ลุกขึ้น พร้อมทั้งพูดเสียงตึงว่า “ผมขอโทษนะครับที่ทำให้คุณเกวลำบากใจ..” “ฉันรู้สึกว่า ตัวเองเป็นนักต้มตุ่นยังไงยังงั้นเลยค่ะ” เกวลินโล่งใจเมื่อได้เป็นอิสระ ไม่มีไซนัสนั่งตรงปลายเท้าคอยลูบท้องและแนบหน้าฟังลูกเธอดิ้น ไซนัสพูดเสียงดังชัดเจนว่า “คุณนี่ หะ..” แต่ก็ไม่ทันได้พูดจบประโยคว่า ‘คุณนี่เห็นแก่ตัวจัง ถึงเวลาให้ช่วยก็ทำอ้างโน้นอ้างนี้’ แต่โทนี่รู้ทันว่าไซนัสจะพูดอะไร เขาจึงพูดแทรกขึ้นเพื่อตัดปัญหาว่า “ผมว่าคุณเกวคงเหนื่อยมากแล้ว ไป ผมพาไปพัก..” “ไม่เป็นไรคะ ฉันเดินเองได้” เกวลินส่ายหน้ายกมือห้ามไม่ยอมให้ โทนี่เข้าใกล้ ซึ่งเธอประคองตัวเองลุกขึ้นยืน มืออุ้มท้องโตใกล้คลอด ส่วนอีกข้างเท้าเอวพร้อมทั้งเดินอุ้ยอ้ายเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง และเมื่อเกวลินปิดประตูห้องเสียงดัง แกร๊กก!! ไซนัสที่ยืนหันหน้าเข้ากระจกหน้าต่าง เขาก็หันมามองหน้าโทนี่ แล้วพูดด้วยอารมณ์เสียว่า “นับวันยิ่งทำตัวน่ารำคาญ คิดว่าตัวเองเป็นใคร!..” ด้านโทนี่ลุกขึ้นยืนเดินไปที่เค้าน์เตอน์บาร์ เขาเทเหล้าใส่แก้วสองใบ แล้วเดินไปหาไซนัสพลางยื่นแก้ววิสกี้ให้ แล้วพูดเสียงเบาบอกแฟนหนุ่มว่า “นี่คุณพูดเบาๆสิ เดี๋ยวเธอก็ได้ยินหรอก..” “ผมเบื่อที่จะต้องเอาอกเอาใจเธอแล้วนะ อันนั้นก็ไม่ได้อันนี้ก็ไม่ดี ผมจ้างเธอนะไม่ได้ข้อให้เธอทำให้ฟรีๆสักหน่อย” ไซนัสกัดฟันพูดกล่าวโทษคนท้องอย่างเสียหาย แล้วยกแก้วจรดริมฝีปากดื่มน้ำเมาจนหมดแก้ว “คิดเสียว่า เราทำเพื่อลูกของเรา” โทนี่เอาแก้วในมือของไซนัสไปวางไว้ตรงขอบหน้าต่าง แล้วเขาก็จับให้ชายหนุ่มร่างบอบบางเหมือนผู้หญิงหันมายืนเผชิญหน้ากัน และก่อนที่จะก้มลงไปจูบปากหยัก โทนี่ก็ดื่มเหล้าจนหมดแก้วเอาแก้วไปวางไว้ใกล้แก้วของไซนัส “ถ้าไม่อยากได้ลูกของเธอ ผมจะไม่ยื่นมือเข้าไปทำเรื่องบ้าแบบนี้หรอก นี่จะครบปีแล้วนะที่เธออยู่กับเรา เราถามว่าใครเป็นพ่อเด็กเธอยังไม่บอกเราเลย” ไซนัสพูดอู้อี้เหมือนเสียงผู้หญิง เมื่อถูกจูบกระชากวิญญาณจนต้องยกมือจับปกคอเสื้อของโทนี่ไว้แน่น “ไม่รู้เรื่องราวชีวิตของเธอแบบนี้แหละดีแล้ว..” โทนี่ยิ้มเมื่อไซนัสพูดพร้อมทั้งส่งปลายลิ้นซอนไซเข้ามาสัมผัสลิ้นของเขา ซึ่งไซนัสจูบตอบโทนี่พลางคำรามเสียงกระฮึ่มว่า “เราจะได้หลอกเอาลูกของเธอง่ายขึ้นใช่ไหม..” ด้านโทนี่จูบตอบอย่างดุเดือด และเขาหยุดจูบเมื่อไซนัสอ่อนเป็นขี้ผึ้งรนไฟ ซึ่งโทนี่ได้กระซิบเสียงแหบแห้งชิดต้นคอของชายหนุ่ม “คุณนี่ฉลาดมาก..” “อุ๊ย! โทนี่ คุณจะทำอะไร” ไซนัสร้องเหมือนเสียงผู้หญิง เมื่อถูกโทนี่ย่อตัวแล้วซ้อนก้นอุ้มขึ้นให้ขาสองข้างขนาบเอว “เมียอารมณ์เสียแบบนี้ต้องพาไปอาบน้ำ” โทนี่พูดชิดซอกคอของไซนัส มือสองข้างที่ประคองบั้นท้ายของชายหนุ่มนั้นก็กดลงให้ร่องก้นได้สัมผัสเนื้อแท้ของเขาที่ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ “น่าเกลียด พูดได้ไงเมีย” นี่แค่ได้เสียดสีความแข็งแกร่งของโทนี่ผ่านกางเกงยีน ไซนัสถึงกับสั่นสะท้านซ่านจนรูขุมขนลุกซู่ซ่า “คุณเป็นเมียผมอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้วนะ” โทนี่อุ้มไซนัสเข้าไปในห้องนอนเดินผ่านเตียงขนาดกว้างตรงไปยังห้องน้ำ และก่อนที่จะปล่อยให้ไซนัสยืน เขาสองคนก็จูบกันอย่างเร่าร้อน “ผมอยากจัดงานแต่งเร็วๆนี้จัง” ไซนัสหน้าร้อนผ่าว ดวงตาคู่เข้มปัดมาสคาร่าลุกวาวเมื่อเห็นโทนี่แปรงร่างเป็นเด็กแรกเกิด “ต้องรอให้เกวลินคลอดและพักฟื้นสักเดือน เราค่อยจัดงานแต่ง” โทนี่นั่งบนขอบอ่างอาบน้ำ เขาพูดพลางเปิดน้ำและเทครีมอาบน้ำใส่อ่าง “ว่าไปเกวลินก็มีประโยชน์สำหรับเรานะ ยิงนกทีเดียวได้ทั้งสองอย่าง” ไซนัสกลืนน้ำลายลงคอพลางเลียริมฝีปาก เมื่อเห็นโทนี่กำลังเล่นอยู่กับเนื้อแท้ของเขา “ถอดเสื้อผ้าสิแล้วมานั่งนี้ เดี๋ยวผมจะถูหลังให้” โทนี่เข้าไปนอนแช่น้ำอยู่ในอ่าง มือของเขาก็กำเอ็นแข็งแกร่งชักขึ้นชักลง ไซนัสทำตาม ไม่ถึงห้าวินาทีเขาก็เป็นเด็กแรกเกิด เดินเข้ายืนตรงขอบอ่าง และยังไม่ทันได้ก้าวเข้าไปในอ่างน้ำ ไซนัสก็ครางเสียงกระฮึ่ม เมื่อโทนี่จับเนื้อแท้ของเขาเข้าไปในปาก “ทะ โทนี่ คุณทำอะไรของคุณ ซีดด!!!..” “ผมอยากกินทุกอย่างที่เป็นของคุณ” โทนี่พูดทั้งที่เลียและดูดหัวปลาช่อนสีเนื้อ “คนบ้ากาม” ไซนัสกัดฟันพูด มือสองข้างจับหัวของโทนี่ให้อยู่นิ่งๆ แล้วเป็นเขาเองที่โยกเอวดันความแข็งแรงใส่ปากหยัก “ชอบให้ผมทำแบบนี้ใช่ไหม” โทนี่พูดงึมงำเมื่อได้กินน้ำหวานที่ไหลเยิ้มออกมาผสมน้ำลายของตัวเอง เขาเหลือบตาขึ้นมองหน้าไซนัส และหยุดทำเมื่อเห็นแฟนหนุ่มสั่นสะท้านไปทั้งตัว ด้านไซนัสเข่าทรุด แต่ถูกโทนี่ประคองจับให้หันหน้าเข้าหาผนังห้อง “ทะ โทนี่ บะ เบาๆนะ เมื่อคืนนี้คุณทำผมระบมไปทั้งตัวเลย..” “ซีดด!! แน่นมากไซนัส” โทนี่คำรามเสียงกระฮึ่ม เมื่อความแข็งแกร่งเข้าไปอยู่ในรูสวาทสีน้ำตาล “โทนี่ขยับสิ แรงๆเลย ผมชอบ” ด้านไซนัสทำหน้าเหยเกหันหลังมองโทนี่ และเมื่อโทนี่ไม่ทำตาม ก็เป็นเขาเองที่กระแทกๆก้นใส่เอ็นร้อนของโทนี่ “ผมจะออกแล้วนะ คุณถึงไหนแล้ว” โทนี่ยืนแนบแผ่นหลังของไซนัส มือข้างยื่นไปจับเนื้อแท้ของไซนัสชักขึ้นชักลง ส่วนอีกข้างก็ประคองหน้าหล่อให้หันมาจูบปากกันอย่างเร่าร้อนรุนแรง เหมือนเอวสอบโยกอัดความเป็นชายใส่รูด้านหลังสีน้ำตาลอย่างบ้าคลั่ง ”ผะ ผมก็ไม่ไหวเหมือนกัน ผะ ผมจะออกแล้วเหมือนกัน“ ไซนัสครางกระเส่าเหมือนผู้หญิงเวลาโทนี่กระแทกจนตัวสั่นคลอนและมือหนาก็ยังชักเนื้อแท้ของเขาจนขยายใหญ่ขึ้น น้ำหวานก็ไหลเต็มมือของโทนี่ “งั้นเรามาเสร็จพร้อมกันนะ” โทนี่จูบแผ่นหลังของไซนัส แล้วซ้อนอุ้มก้นของไซนัสให้นั่งบนขอบเคาน์เตอน์อ่างล่างหน้า เขาจับท่อนเนื้อฉ่ำน้ำรักใส่เข้าไปในรูสวาทสีสวย กระแทกแรงๆไปพร้อมทั้งช่วยจับท่อนเอ็นของไซนัสชักขึ้นชักลง ซึ่งไซนัสก็โอบกอดคอหนาจูบปากแลกลิ้นกันคำรามเสียงดังใส่กัน และต่างฝ่ายช่วยกันประคับประคองความปราถนาจนถึงจุดหมายปลายทางในที่สุด…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD