เธอรู้สึกเหมือนถูกจับโยนขึ้นฟ้า ความรู้สึกวูบวาบ ประหนึ่งล่องลอยอยู่บนท้องฟ้ากว้างเวิ้งว้างสุดลูกหูลูกตา มีเพียงปุยนุ่นรองรับอยู่ใต้ร่าง ทั้งอ่อนนุ่มและอบอุ่นจนเธอหลงละเมอ ปล่อยตัวปล่อยใจลอยละล่องตามการชักนำ เสียงคำรามแหบห้าว กับเสียงลมหายใจหอบโยน ประสานไปกับเสียงครางหวานแหลม เธอแน่ใจว่าตัวเองกรีดร้องเสียงดังลั่น... เมื่อเอื้อมมือแตะบันไดสวรรค์ชั้นฟ้าได้สำเร็จ
เอียนทรุดฮวบ เขาเกือบหัวเราะลั่น พอมีเวลาสำรวจรอบตัว นี่เป็นครั้งแรกที่เขาหลุดการควบคุมตัวเอง!! เอียนเล่นกิจกรรมผาดโผนกับอานิลา ในห้องแคบๆ และร้อนเหมือนอยู่ในเตาผิง ที่นอนเก่าๆ รองรับร่างกาย เขาทำลงไปได้ยังไงนะ...อานิลามีเวทมนต์อะไร ถึงทำให้เขาไม่คิดหน้าคิดหลัง จ้องแต่จะฟาดเธออย่างเดียว
ตอนที่ 3. บทพิศวาสบาดผิว
“เป็นยังไงบ้าง เจ็บมากมั้ย ผมไม่ขอโทษหรอกนะ เป็นเพราะเธอนั่นแหละ จากนี้ไปผมจะพยายามสอนเธอมากกว่านี้ บทเรียนขั้นต่อไปจะขึ้นสูงๆ แต่ต้องเปลี่ยนที่นะ แบบนี้มันร้อนชะมัด” เอียนพูดกลั้วเสียงหัวเราะ อานิลานอนขดเป็นก้อนกลมๆ เนื้อตัวเธอแดงก่ำเหมือนกุ้งต้ม ผิวขาวนวลอมสีชมพูระเรื่อ ชวนให้อยากกลับไปซ้ำอีกครั้ง
แต่...อากาศร้อนจนเอียนทนไม่ไหว แถมผนังห้องก็บาง จนได้ยินเสียงแปลกๆ จากห้องข้างๆ เขาคงต้องอดทน กลั้นความปรารถนาไว้ ยังไงอานิลาก็ต้องอยู่กับเขาอีกนาน
อานิลากะพริบเปลือกตาปริบๆ ร่างกายของเธอยังอิ่มสุขกับความเสียวสยิวที่ได้รับมาหมาดๆ เนื้อตัวเธอเต้นกระตุก ความซ่านสยิวแล่นพล่านไปทั้งตัว เธอรู้สึกถึงความหฤหรรษ์ที่ได้รับอย่างเต็มเปี่ยม เอียนเป็นผู้ชายเสน่ห์แรง เขาร้อนแรงจนเธอแทบละลาย แถมดวงตาคู่นั้นยังบ่งบอกอะไรอีกหลายๆ อย่าง เขายังไม่พอในรสรัก เพียงแต่สถานที่ไม่เหมาะสม เธอกำลังเผชิญหน้ากับผู้ชายทรงพลังหรืออย่างไรกัน แต่อานิลารู้สึกไม่อยากถอย เธอควรสู้ เมื่อเธอสามารถคว้าหนุ่มสุดฮอตปรอตแตกมาครองได้ เธอคงต้องลองดูสักตั้ง หากเธอจะสามารถครอบครองหัวใจของเขาได้...ไม่มีใครรู้ อนาคตเท่านั้นล่ะที่บอกได้ เธอคงได้แต่หวัง แต่กว่าจะถึงตอนนั้น เธอเชื่อมั่นว่าตัวเองทำได้สำเร็จ เมื่อเอียนเองก็ดูลุ่มหลงเธอไม่น้อย
กว่าจะออกมาจากห้องแคบๆ ได้ อานิลาเสียจูบให้กับเอียนไปหลายครั้ง เขาเฝ้าวนเวียนดื่มด่ำกับกลีบปากหวานหอมของเธอ และกว่าจะตัดใจยอมออกมาจากห้องนั่นได้ ก็ร่ำๆ จะได้เรียนบทรักครั้งต่อไป ดีทว่ามีเสียงคนแทรกเข้ามาให้ได้ยิน เอียนจึงจำยอมตัดใจ แต่ก็ยังไม่วายจะดูดดื่มเรียวปากอิ่มของเธอ ก่อนจะออกมาจากห้องจนได้...
เขากุมมือเธอเอาไว้ ใช้มือข้างเดียวในการขับเคลื่อนรถยนต์ เอียนรู้สึกกระชุมกระชวย จวบจนถึงคฤหาสน์โคล มือแข็งแรงก็ยังไม่ปล่อย ยังคงเกาะกุมเอาไว้อย่างแนบแน่น
“ปล่อยก่อนค่ะ ฉันอาย!!” ผิวแก้มแดงก่ำ กับเสียงสั่นๆ แทบทำให้เอียนอดใจไม่อยู่ เขาเกือบกดจมูกลงบนผิวแก้วนวลใส หากไม่มีใครบางคนเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน
“จะ เจ้านาย”
“เดวิด ทำไมยังอยู่ที่นี่?” เอียนถามเสียงแข็ง
“เจ้านายสั่งให้ผมรอที่นี่ครับ” เดวิดแย้ง เอียนห้ามไม่ให้เขากับคาดิโอตามไป
“ใช่ครับ เจ้านายให้ผมกับเดวิดรอ”
เอียนถอนใจบ่นพึมพำ “นี่มันเที่ยงคืนแล้ว ไม่ง่วงหรือไงวะ”
คาดิโออมยิ้ม มองเลยไปยังผู้หญิงที่แอบอยู่หลังเจ้านาย
“มองอะไรวะ!!” เอียนตวาด สีหน้าเคร่งขึ้นเล็กน้อย
เดวิดปรามเพื่อน พร้อมกับส่ายหน้า
แต่เพราะความอยากรู้ คาดิโอเลยยั้งปากไม่ทัน
“เจ้านายพาใครมาด้วยครับ”
“อย่าเสือก!!” เอียนตะคอกใส่ เขาเองก็ไม่รู้จะบอกยังไงเหมือนกัน มันเกิดขึ้นเร็วมาก แม้แต่เขาเองก็อดแปลกใจไม่ได้ เขาสอดมือไปช่วยอานิลา ตอนที่เธอทะเลาะกับผู้จัดการร้านอาหาร จากนั้นเขาก็พาเธอกะเตงติดตัวไปด้วย สุดท้ายก็ลงเอยกัน เหมือนที่เขารู้สึกในครั้งแรกที่สบตาอานิลา
‘เขาอยากได้เธอ’
เป็นความรู้สึกที่เขาให้คำจำกัดความไม่ถูก แววตาของอานิลาทำให้เขาตัดใจทิ้งเธอไม่ลง
“ถ้าเจ้านายไม่คิดจะใช้อะไรพวกผมอีก ผมกับคาดิโอขอไปนอนนะครับ” เอียนจับมือของอานิลาข้างหนึ่ง ปั้นหน้าเฉยชาใส่สองหนุ่มบอดี้การ์ดส่วนตัว แล้วก็เดินเข้าไปภายในคฤหาสน์โคลพร้อมกัน...
“ฉันหิวค่ะ” อานิลาขืนตัวไว้
“เธอชวนผมกินมื้อดึกหรือไง ตอนเที่ยงคืนนี่นะ” เอียนบ่นพึมพำ เขาอยากอาบน้ำ แล้วนอนบนเตียงนุ่ม มีอานิลานอนใกล้ๆ
“ฉันหิวจริงๆ ค่ะ ฉันควรกินอะไรก่อนอน ฉันไม่อยากให้ท้องฉันร้องครางจนคุณนอนไม่หลับ” อานิลาพูดเสียงอุบอิบ เธอใช้ชีวิตตอนกลางคืนเป็นส่วนใหญ่ การกินของเธอเลยสวนทางกับคนรอบตัว
ในขณะทีทุกคนนอนหลับ อานิลากับคนอีกกลุ่มหนึ่งยังคงทำงานอยู่
“ตามใจ” เอียนไม่อยากขัด เขาต้องปรับเปลี่ยนอานิลาหลายอย่าง
จนกว่าเธอจะคุ้นกับการอยู่ร่วมกับเขา
เดวิดกับคาดิโอชะเง้อมองเจ้านาย กับสาวน้อยหน้าใส ที่เอียนกุมมือไว้ไม่ปล่อย
“เกิดอะไรขึ้นวะ” เดวิดพึมพำ
“กูกับมึงอยู่ด้วยกันตลอด กูก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะ” คาดิโอพึมพำตอบ
ทั้งสองหนุ่มงงเป็นไก่ตาแตก เจ้านายหายไปครึ่งคืน กลับมาก็มีพฤติกรรมแปลกๆ จนเขารู้สึกแปลกใจ
เสียงหัวเราะเสียงทุ่มเถียงกันดังเล็ดลอดออกมา คฤหาสน์ที่เคยมีแต่ความเงียบเหงา เปลี่ยนแล้ว...มีความสุขเข้ามาแทนที่...มีชีวิตชีวาเพิ่มขึ้น
“อิ่มจัง อิ่มเหมือนท้องจะแตก” เอียนบ่นอุบ เขาทิ้งตัวนอนแผ่ยกมือลูบท้องที่โป่งบวมแบบที่ไม่เคยเห็น เขาไม่เคยคิดว่าอานิลาจะมีฝีมือเรื่องการปรุงอาหาร มื้อดึกที่เอียนไม่เคยได้ลิ้มรส นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปีทีเดียว
“อาหารสดในตู้เย็นของคุณ ฉันสามารถกินได้ทั้งปีเลยนะคะ”
“หะ เธอว่าไงนะ” เอียนทรงตัวนั่งตรงๆ เขาขยับเข้าไปใกล้อานิลาที่นั่งเอนกายบนโซฟาตัวเดียวกัน
“เธอคงไม่รู้ คฤหาสน์หลังนี้มีคนงานกี่คน”
“นั่นสิคะ คุณคงมีคนงานไม่น้อย ว่าแต่ ทำไมฉันไม่เห็นใครเลย” อานิลาเอียงคอมอง
“แหม...ทูนหัว นี่มันเที่ยงคืนแล้วนะ รอให้เช้าเถอะ เธอจะตกใจ” เอียนพึมพำเสียงแหบปร่า เขาง่วงจนแทบฝืนลืมตาไม่ขึ้น เขาควรพักผ่อนได้แล้ว แม้ร่างกายจะแย้ง แต่สังขารของเขาทนไม่ไหว
“คุณง่วงเหรอคะ?” อานิลากระซิบถาม
“อือ” เอียนครางตอบ
“แล้วจะให้ฉันอนที่ไหนคะ?” เธอถามต่อ
“นอนที่นี่แหละ ผมนอนไม่หลับแน่ถ้าไม่ได้กอดเธอไว้” เอียนปรือเปลือกตามอง
“ฉันลืมเอากระเป๋ามาด้วยค่ะ” อานิลาแย้ง
“ไม่จำเป็น” เอียนตอบ คืนนี้เอียนไม่คิดจะสวมเสื้อผ้าสักชิ้นอยู่แล้ว อานิลาเองก็ไม่จำเป็น
อานิลสะบัดค้อนให้
“เหนียวตัวชะมัด” เอียนบ่น เขาไม่เคยนอนโดยที่ไม่อาบน้ำก่อน แต่เวลานี้เขาอยากนอนก่อน เขาอิ่มจนฝืนหนังตาไม่ไหวแล้ว
อานิลาอมยิ้ม ผู้ชายทรงอำนาจก่อนหน้านี้หายไปแล้ว เอียนตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับเด็กสามขวบ ที่งอแงไม่อยากอาบน้ำก่อนนอน
“อานิลาจ๋า...มองผมแบบนี้ เดี๋ยวจะเหนื่อยนะ” อานิลากะพริบเปลือกตาปริบๆ เธอยังไม่เข้าใจความหมาย แต่เมื่อคิดออก เธอก็เกือบร้องกรี๊ด เพราะเอียนลุกขึ้นมาอุ้มเธอดื้อๆ พร้อมทั้งเดินตรงไปยังห้องน้ำด้านข้าง ไม่ฟังเสียงปรามของอานิลาสักนิด
“คุณจะทำอะไรคะ”
“เธอช้า ผมอยากนอนแล้ว ง่วง...”
“แน่ใจนะคะว่าคุณจะรีบนอน...คุณไม่ได้ง่วงสักหน่อย” อานิลาดักคอเอียน
“ง่วงจริงๆ แต่ก่อนนอน ขอชื่นใจสักนิดก็ไม่แปลกนี่”
“คุณไม่เหนื่อยเหรอคะ” อานิลาสอดมือกอดรอบลำคอเอียนไว้
“เหนื่อยแค่ไหนเชียว ผมไหวน่า” เอียนโน้มใบหน้ามาใกล้ๆ เขากระซิบตอบเสียงปร่า ดวงตาไหวระริก เต็มไปด้วยไอปรารถนากระจายกรุ่น
“บ้า!!” อานิลากระซิบต่อว่า จากนั้นเธอก็ซุกใบหน้ากับแผงอกแน่นตึงของเขา
เสียงหัวเราะของเอียนดังก้อง มีเสียงแทรกด้วยเสียงครางดังผะแผ่ว ที่ยิ่งทวีความดังขึ้น ห้องน้ำเย็นฉ่ำ เดือดระอุ เมื่อเอียนเปลี่ยนห้องน้ำเป็นสนามรัก ที่มีแต่เสียงครางกระเส่าเพราะความซ่านเสียว เป็นความมหัศจรรย์ที่ต้องแอบซ่อนจากสายตาผู้คน มันเป็นความล้ำลึกที่มีความเป็นส่วนตัว...ไม่สามารถเปิดเผยสู่สายตาผู้คนได้ มันเป็นความลับของสวรรค์ เป็นกิจกรรมของมนุษย์โลก เป็นการสืบเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ชาติ ก่อกำเนิดชีวิตใหม่ๆ ที่ใสบริสุทธิ์...เป็นการดำรงอยู่ เพื่อขยายอาณาเขต...สร้างความเป็นปึกแผ่นในครอบครัว...