“พี่จุ๋ม...” ทักดนัยเดินไปรับโทรศัพท์ภายในที่จันจิราต่อสายเข้ามา หลังจากเขาและกัญญาณัฐนั่งมองหน้ากัน โดยที่ไม่มีใครพูดอะไรมาสิบนาทีแล้ว
“คุณแทนคะ ประชาสัมพันธ์แจ้งว่ามีคนมาขอพบค่ะ ชื่อคุณแดเนียล แจ้งไว้ว่าเป็นเพื่อนคุณแทนค่ะ”
“เดี๋ยวผมออกไปหาเอง บอกให้เค้ารอตรงนั้นแหละ”
“ค่ะ”
“เดี๋ยว” ทักดนัยรีบวางสายแล้วเดินไปรั้งแขนกัญญาณัฐเอาไว้ ก่อนจะค่อยๆ ปล่อยมือออก เมื่อเธอใช้หางตามองการแตะต้องของเขา
“เอาเป็นว่า ลืมๆ มันไปแล้วกันนะคะ ฉันไม่อยากอึดอัดจนทำงานต่อไม่ได้ คุณไม่ต้องรู้สึกผิด เพราะคุณไม่ได้ทำอะไรผิด ขอตัวค่ะ”
“ผม...”
“ฉันโอเคจริงๆ ค่ะ ตอนนั้นฉันคงเมามาก เลยทำอะไรแบบนั้นลงไป ถ้าคุณเห็นใจฉัน ก็อย่าบอกเรื่องนี้กับใครนะคะ”
“ผมไม่ได้คิดจะบอกเรื่องนี้กับใครอยู่แล้ว”
“ขอบคุณมากค่ะ” กัญญาณัฐพยายามยิ้มให้เขาเท่าที่จะยิ้มได้ อยากจะพูดแบบนี้ตั้งแต่แต่งตัวเสร็จ แต่ก็ไม่กล้าพูดออกไปสักที เธอไม่ได้ถือโทษหรือโกรธเคืองใดๆ เขาเลย ที่โกรธน่ะคือตัวเองมากกว่า ใจง่ายและอ่อนไหว และกลัวเหลือเกินว่าเขาจะรังเกียจและมองว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ไร้ค่า
“กวาง!” เสียงทักทายที่เต็มไปด้วยความตกใจ แต่ก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มถูกส่งให้กัญญาณัฐ
“กูบอกให้รอข้างหน้าไง” ทักดนัยรีบเดินออกมาจากห้องทำงาน หลังจากเห็นเหตุการณ์ผ่านช่องประตูที่กำลังจะปิดลง
“เป็นความผิดของพี่จุ๋มเองค่ะ พี่บอกน้องที่ประชาสัมพันธ์ช้าไป เดี๋ยวพี่ไปเอาน้ำมาเสิร์ฟแขกคุณแทนนะคะ” จันจิรายอมรับผิดและเดินแยกออกไป
“กวางรู้จักแทนแล้วเหรอ” แดเนียลไม่สนใจทักดนัย แต่หันไปถามเพื่อนของคนรัก
“เพิ่งรู้จักวันนี้ คุณแทนเป็นเจ้านายใหม่ของกวาง”
“ดีเลย วันงานแต่งก็ไม่มีเวลาแนะนำให้รู้จักกัน โทษทีนะกวาง” แดเนียลจับบ่ากัญญาณัฐเบาๆ มันไม่ได้เป็นการลวนลามแต่อย่างใด เป็นเรื่องปกติและเคยชินของชาวต่างชาติอย่างเขาอยู่แล้ว
“กวางขอตัวก่อนนะ”
“เดี๋ยวๆ ไปกินกาแฟด้วยกันก่อน”
“ตามสบายเลยแดน เราต้องทำงาน”
“ไอ้แทนไม่ว่าหรอก ที่จะไปกินกาแฟนี่ก็คุยเรื่องงานกันด้วย”
“งานอะไร” ทักดนัยเป็นฝ่ายถามบ้าง หลังจากยืนเป็นอากาศอยู่สักพัก
“อยากรู้ไปก็กินกาแฟด้วยกันดิ กวางไปด้วยกันนะ”
“ไม่ดีกว่า กวางเกรงใจ”
“เกรงใจอะไร คนกันเองทั้งนั้น เร็วดิไอ้แทน” แดเนียลพูดจบก็กอดคอกัญญาณัฐ เพื่อบังคับให้เธอไม่ปฏิเสธ โดยที่คนยืนมองอย่างทักดนัยนั้นคิดอะไรบางอย่างได้ เพราะว่าไอ้เพื่อนฝรั่งคนนี้มันถึงเนื้อถึงตัวกับทุกคนตามความเคยชินล่ะมั้ง ผู้หญิงที่มีใจให้อยู่แล้วอย่างเธอเลยอ่อนไหวได้ง่าย... แต่เลิกรักได้ยาก
“แปลกใจล่ะสิ ว่ากูจะคุยงานเรื่องอะไร” เมื่อมาถึงร้านกาแฟ แดเนียลก็เอ่ยถามเพื่อนรักอย่างอารมณ์ดี
“เออ มีอะไร งานกูกับมึง มีอะไรเกี่ยวข้องกันด้วยเหรอ”
“กวาง บอกเขาหน่อย”
“บริษัทของคุณแดน...”
“โอ้โห! เรียกซะทางการเลย เรียกเราว่าแดนเหมือนปกตินั่นแหละกวาง หรือถ้าเกรงใจไอ้แทนนะ ลืมไปได้เลย เพื่อนกันทั้งนั้น”
“อือ เรียกแทนเฉยๆ ก็ได้” ทักดนัยเห็นเธอลังเลและไม่สบายใจ จึงบอกพร้อมกับหยิบแก้วกาแฟขึ้นมาดื่ม
“บริษัทของแดน คือบริษัทที่ท่านประธานคนเก่าทำสัญญาเช่าโกดังไว้เก็บสินค้าที่บริษัทเรานำเข้ามาค่ะ”
“ที่พ่อเพิ่งเซ็นสัญญาไปเดือนก่อนน่ะเหรอ” ทักดนัยตกใจ รู้อยู่แล้วว่าเพื่อนเปิดบริษัทให้เช่าโกดังสินค้า และมีอสังหาริมทรัพย์อีกมากมายที่ร่วมลงทุนกับนักธุรกิจทั้งชาวไทยและต่างชาติ แต่ไม่คิดว่าจะได้ร่วมงานกันในที่สุด
“พ่อมึงคงอยากให้มึงทำงานง่ายขึ้นว่ะ” แดเนียลออกความเห็น
“ก่อนหน้านี้พ่อมึงไม่เซ็นสัญญากับกู เพราะไปเช่าโกดังของเพื่อนท่านแทน ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยน มึงเป็นผู้บริหาร ท่านคงอยากให้มึงมีพันธมิตรดีๆ แบบกูไง”
“ได้สัญญาไปกี่ปีล่ะ”
“5 ปี”
“ผูกขาดสัส” ทักดนัยส่งสายตาตำหนิเพื่อน
“กูก็อยากมีรายได้ที่แน่นอนนะเว้ย บริษัทมึงมีนักการตลาดเก่งๆ แบบกวาง ยังไงก็กำไรทุกปีอยู่แล้ว แบ่งๆ เงินให้กูน่ะถูกแล้ว จะเอาไปให้คนอื่นทำไม จริงไหมกวาง”
“แดน”
“ครับ”
“มีอะไรสำคัญกว่านี้หรือเปล่า ถ้าไม่มีกวางจะกลับไปทำงาน มีงานค้างตอนที่ลาไปช่วยงานแต่งแดนกับแพทเยอะเลย” กัญญาณัฐบอกด้วยความใจเย็น
“อ๋อ มีสิ เราจะบอกกวางว่าขอบคุณมากนะ ขอบคุณที่ทำให้แพทมีความสุข เพราะมันทำให้เรามีความสุขตามไปด้วย ขอบคุณกวางมากๆ ขอบคุณจริงๆ ที่เพื่อนเป็นที่ดีของเรา เรายังจำได้นะ วันแรกที่แพทพาเราไปเจอเพื่อนคนอื่น ไม่มีเพื่อนคนไหนของแพทยอมรับเราเลย มีแต่กวางนี่แหละที่พยายามบอกคนอื่นๆ ว่าฝรั่งก็มีหัวใจเหมือนผู้ชายไทยคนอื่นๆ ตอนนั้นสาวๆ คงกลัวว่าเราจะมาหลอกให้แพทรัก แล้วก็บินกลับประเทศไปล่ะมั้ง” แดเนียลบอกพร้อมกับเขย่าสองมือของกัญญาณัฐเบาๆ
“โอเค สบายมาก... จริงๆ แค่ส่งข้อความมาบอกก็ได้”
“ไม่ได้หรอก มันไม่จริงใจเท่าบอกกันต่อหน้า แล้วเราก็มีเรื่องจะคุยแทนด้วย”
“งั้น... กวางขอตัวนะ”
“บาย... ไว้ไปกินข้าวที่คอนโดเรากับแพทนะ”
“โอเค” กัญญาณัฐรับปากไปส่งๆ เอาไว้ค่อยปฏิเสธทีหลังแล้วกัน เธออยากออกไปจากตรงนี้เต็มทน
“มีอะไร จะต่อสัญญาเป็นสิบปีเหรอ ยังไม่ต่อนะ ขอดูระบบการจัดการของมึงก่อน” ทักดนัยถามเพื่อนที่มองหน้าเขาเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง
“คืนงานแต่งกู มึงพักห้องไหน”
“ก็ห้องที่มึงให้คีย์การ์ดกูมานั่นแหละ”
“นั่นแหละ ห้องอะไร”
“กูจำไม่ได้ ถามทำไม”
“ตอนกูถามในแชทก็ไม่รู้จักตอบ เสียเวลาฉิบหาย” แดเนียลตำหนิเพื่อน
“มึงมาถามแค่นี้เหรอ”
“เออ ก็โรงแรมได้คีย์การ์ดคืนไม่ครบ เค้าปรับเงินกูห้าพัน”
“หายไปกี่อัน”
“อันเดียว ห้อง 1216 ใครแม่งนอนห้องนั้นวะ”
“มึงทำหายตั้งแต่แรกแล้วหรือเปล่า โทษคนอื่นไปทั่ว”
“ไม่มีทาง เพราะตอนกูแจกคีย์การ์ด กูยังไม่เมา”
“เรื่องของมึง”
“แปลกๆ นะมึงไอ้แทน” แดเนียลมองเพื่อนอย่างพิจารณา ท่าทางน่ะนิ่งเฉย แต่สายตามันไม่นิ่งเอาเสียเลย มองไปทางอื่นและหลบสายตาเขาตลอด
“มีอะไรอีกไหม ถ้าไม่มี กูจะได้ไปทำงาน”
“มี”
“อะไร”
“แพทบอกกูว่าตอนงานแต่งเห็นมึงมองกวางตลอดเลย มึงสนใจเหรอ”
“เปล่า เมียมึงมีเวลาสนใจคนอื่นด้วยเหรอวะ” ทักดนัยตอบสั้นๆ แต่ครั้งนี้เขาไม่หลบสายตาคู่สนทนาเหมือนก่อนหน้า
“คิดว่ามึงสนใจ กูจะได้แนะนำให้รู้จักอย่างเป็นทางการ”
“กูรู้จักแล้ว”
“เผื่ออยากรู้จักมากขึ้น กวางเป็นคนดีนะ นิสัยน่ารักมากด้วย คนชั่วๆ อย่างมึง ได้แฟนนิสัยดีๆ แบบกวางก็น่าจะดี”
“ที่หลอกด่ากู กูไม่เป็นไรหรอกนะ แต่ที่กูสงสัยคือมึงรู้ได้ยังไงว่าเค้านิสัยดี เค้าเป็นแค่เพื่อนของเมียมึง”
“กูรู้แล้วกัน” แดเนียลพูดจบก็ลุกจากไปโต๊ะ พร้อมกับความคิดที่ว่า... ไอ้เพื่อนคนไหนลืมคืนคีการ์ดให้โรงแรมวะ แต่สำหรับคนที่ยังนั่งอยู่ที่เดิม ได้แต่โล่งใจ หยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดเหงื่อที่ออกเต็มมือ หลังจากนั่งเครียดอยู่หลายนาที