พอได้ฟังคำกล่าวของนางเฉียวซื่อ หญิงสาวก็คิดได้ทันทีว่าน่าสนใจอย่างยิ่ง พวกหมั่นโถว ซาลาเปา ขนมจีบแม้นจะเป็นของกินทั่วไป แต่กินง่ายขายคล่องมิใช่น้อย นางคิดว่าหากจะลองฝึกฝนทำก็ไม่น่าจะเสียหาย อีกทั้งขนมกับอาหารที่นางทราบและทำเป็นส่วนใหญ่ก็เป็นขนมกับอาหารไทยซึ่งในดินแดนแห่งนี้คงไม่น่าจะมีเครื่องปรุง หรือผู้คนจะกินกันเป็น
“หว่านหวานสนใจอย่างยิ่งเจ้าค่ะ เช่นนั้นพรุ่งนี้ท่านแม่ลองบอกถึงเครื่องปรุงต่าง ๆ มาให้ข้าด้วยจะได้ไปซื้อมาฝึกฝนกัน”
“เจ้าจะเร่งทำพรุ่งนี้เลยหรือ?”
“เจ้าค่ะ เราต้องกินต้องใช้ทุกวัน ช้าไปเงินที่มีก็ยิ่งหมดไป แล้วนี่ยังเหลือหลังคาที่จะต้องซ่อมแซมอีกคงหมดเงินไม่น้อยเจ้าค่ะจึงต้องเร่งลงมือแล้วหากช้าไปฤดูฝนมาเยือนพวกเราคงลำบากไม่น้อย”
สองแม่ลูกพูดคุยปรึกษากันไปต่างก็ยิ้มแย้มกันไป สุดท้ายพออิ่มก็หันไปมองทางด้านเด็กน้อยหว่าหวาที่พอท้องอิ่มแล้วหนังตาจึงหย่อนยานพลางหาวปากกว้างเห็นแล้วเผยหว่านอีก็หัวเราะ แล้วบอกแก่มารดาว่าจะพาเด็กหญิงเข้านอนก่อน แต่ด้วยนางเป็นคนมาจากยุค 2022 เรื่องช่องปากสำหรับเด็กหญิงจึงสำคัญมาก
“ไปขัดถูฟันบ้วนปากก่อนจึงนอนได้รู้หรือไม่?”
“แต่ทุกวันไม่เห็นต้องทำเลยเจ้าค่ะท่านแม่”
“แต่นับจากนี้เราจะทำด้วยกันทุกวัน” กล่าวแล้วเผยหว่านอีนั้นก็เป็นฝ่ายลงมือทำให้บุตรสาวดูก่อนเป็นตัวอย่างหว่าหวาน้อยนั้นนิสัยเดิมไม่ดื้อด้านกับมารดาอยู่แล้ว เด็กหญิงนั้นจึงทำตามด้วยดี จากนั้นนางจึงหันไปอุ้มเด็กน้อยพาดหัวไหล่ไปส่งยังเตียงนอนตบก้นไม่นานเผยหว่าวาก็หลับสนิทไปเรียบร้อย
“ท่านแม่มาเถอะ หว่านอีไปส่งท่านเข้านอนเอง” พอมืดค่ำคนสายตาเช่นนางเฉียวซื่อนั้นก็มองอันใดไม่เห็นทั้งสิ้นจึงต้องเป็นหน้าที่ของเผยหว่านอีพามารดาเข้าห้องนอนและกางม่านมุ้งลงคลุมเตียงให้มารดาอย่างดี
“กระโถนขับถ่ายอยู่ตรงนี้นะเจ้าคะท่านแม่”
เผยหว่านอีนำมือของหญิงชราตาบอดมาจับยังที่วางกระโถนขับถ่ายในยามค่ำคืนจากนั้นนางจึงดับเทียนไขจนหมดเพราะบ้านนี้เก่ามาก อีกสิ่งคนตาบอดย่อมไม่จำเป็นต้องจุดเทียนไขเอาไว้นอกจากไม่ให้ประโยชน์อาจเกิดโทษมหันต์เอาได้ พอส่งทุกคนเข้านอน นางก็มาสำรวจดูประตูหน้าต่างเพราะบ้านนี้มีเพียงสตรีกับเด็ก ต้องระวังภัยเอาไว้ย่อมดีที่สุด
“คงต้องเริ่มทำบัญชีครัวเรือนก่อนเป็นอันดับแรก”
พอดูทุกสิ่งจนเรียบร้อยหญิงสาวก็คิดถึงการวางแผนทำ ‘บัญชีครัวเรือน’ เงินมีจำกัด ญาติพี่น้องไม่มี ครั้นจะหาคนช่วยจึงอย่าได้หวังบิดาตายจากนางก็แต่งงานออกมาแล้วแถมยังถูกหย่าขาดขับออกจากจวนสามีเพราะบังเอิญองค์หญิงใหญ่ที่ฮ่องเต้แสนจะรักนั้นต้องการสามีของนาง อนาคตจึงอย่าได้หวังพึ่งพาผู้อื่นได้อีกนอกจากพึ่งพาตนเองเท่านั้นผู้ใดจะอยาก ‘ช่วยเหลือ’ หญิงหม้ายที่องค์หญิงใหญ่ชิงชังดีเท่าใดนางกับลูกไม่ถูกสังหาร เพียงแต่ถูกเนรเทศมาอยู่ไกลหลายพันลี้จากเมืองหลวงของหนานฉู่เท่านั้นก็นับว่าโชคดีมากแล้ว
แถมยังมี ‘บ้าน’ กับ ‘ที่ดิน’ ให้พอได้อาศัยอยู่อาศัยทำมาหากิน เผยหว่านอีค้นได้แท่นหมึกเก่ากับพู่กันพร้อมทั้งสมุดพับเก่าที่แม้นจะมีสีเหลืองแทบกรอบ แต่มันยังพอจะใช้ได้นำมาเขียนเป็น ‘สมุดบันทึก’ ว่าบัดนี้นางมีทรัพย์สินเท่าใด แล้ววางแผนว่าต่อไปจะต้องทำสิ่งใดบ้าง เริ่มจากพรุ่งนี้นางต้องเตรียมตัวออกไปซื้อเครื่องปรุงมาฝึกฝนทำซาลาเปากับหมั่นโถวและขนมจีบไส้ต่าง ๆ
ต้องไปหาทำเลเช่าเอาไว้เป็นหน้าร้านซึ่งจะได้เอาไว้ขาย หญิงสาวจดสิ่งต่าง ๆ จนดึกเพราะในสมองมีแต่ความคิดว่าตนเองในฐานะ ‘หัวหน้าครอบครัว’ จะต้องคิดทุกสิ่งให้รอบคอบที่สุด แต่อายุจริงของนางเพียงสิบหกปี ประสบการณ์ในชีวิตแทบไม่มี ยังดีนะที่ว่าบิดากับมารดาในอดีตชาติของนางนั้นเลี้ยงดูและสั่งสอนมาอย่างดี
แล้วไหนนับจากจำความได้แล้วนางจะยังถูกคุณตาและคุณยายเลี้ยงดูสั่งสอนมาด้วยตัวเองทั้งคู่นอกจากบิดาและมารดาดังนั้นถึงสิบหกปีที่ได้มีชีวิตอยู่นั้นจึงมิใช่กินเที่ยวและเล่นเหมือนเด็กในวัยเดียวกันอย่างเดียว นางยังได้ความรู้และคำสั่งสอนเพื่อนำมาเป็นประโยชน์ในภพชาติใหม่นี้ใช่น้อย
“ท่าน...แม่...” เผยหว่าหวารู้สึกตัวตื่นมาแล้วไม่พบมารดาจึงร้องเรียก ทำให้คนที่กำลังคิดนั่นวางแผนนี่ต้องวางทุกสิ่งลงแล้วปีนขึ้นเตียงไปหาคนตัวน้อย นางถามหนูน้อยว่าปวดท้องปัสสาวะหรือไม่เด็กน้อยแม้นจะงัวเงียแต่ก็พยักหน้า นางจึงอุ้มอีกฝ่ายไปขับถ่ายเสียให้เรียบร้อย
“ท่านแม่...”
“หือ?...”
“ท่านแม่ไม่เหมือนก่อนหน้านี้เลยนะเจ้าค่ะ อดีตท่านแม่ชอบดุด่าบ่นหว่าหวาในยามที่หว่าหวาฉี่รดที่นอนแต่คืนนี้ท่านแม่กลับปลุกหว่าหวาขึ้นมาฉี่โดยไม่ดุดันหรือตีเลย”
เผยหว่านอีในวันนี้ดึงศีรษะน้อยมาจุมพิต แล้วลูบไล้ศีรษะอย่างนึกสงสารเด็กน้อยเพราะในอดีตในยามที่เผยหว่านอีอารมณ์ดีนางย่อมเป็นมารดาที่ดีทว่าในยามใดที่นางอารมณ์เสียก็เอาทุกสิ่งมาลงกับเด็กน้อยไม่รู้ความนั้นเสียก็บ่อยครั้งโดยเฉพาะมีบ้างที่นางน้อยใจในโชคชะตาที่ต้องจำใจแต่งงานออกมาพร้อมกับพี่สาวตลอดชีวิตหญิงสาวผู้นี้ล้วนรู้สึกไม่เป็นธรรมเสมอมาเพราะพี่สาวนั้นทั้งงดงามและสดใสต่างจากนางที่ร่างกายอ่อนแอสามวันดีสี่วันป่วยไข้แม้แต่บิดาแท้ๆ ยังเบื่อหน่ายถึงขั้นไม่อยากพบหน้าพอแต่งงานคนเป็นสามีก็รักใครเพียงฝาแฝดคนพี่ที่ดีและรักนางจากใจคงมีเพียงพี่สาวกับนางเฉียวซื่อเท่านั้นย่อมไม่แปลกที่นางจะมีอารมณ์ไม่ปกติอยู่บ้างอีกสิ่งหนาวนี้เผยหว่านอีก็มีวัยเพิ่งครบยี่สิบเอ็ดหนาวเท่านั้นย่อมรำคาญบ้างในยามเลี้ยงบุตรสาวหรือบุตรสาวตัวน้อยไม่เป็นดังที่นางคาดหวังนั่นเอง
“สัญญากันว่านับจากนี้ท่านแม่จะปลุกเจ้ามาฉี่ทุกคืนดีหรือไม่หากมีสิ่งใดผิดท่านแม่จะบอกให้เจ้าแจ้งใจต่อความผิดก่อนจึงจะดุด่าหรือตีดีหรือไม่หว่าหวาคนดีของท่านแม่?”
เด็กน้อยหว่าหวานั้นจึงหันไปกอดลำคอของมารดาแนบแน่นแล้วจึงพยักหน้าพร้อมยื่นนิ้วก้อยมาตรงหน้าเผยหว่านอี หญิงสาวก็ส่งนิ้วก้อยของตนเองไปเกี่ยวกระหวัดร้อยรัดกับปลายนิ้วน้อยแล้วจุมพิตกระหม่อมซึ่งมีเส้นผมนุ่มหอมกรุ่น
“หว่าหวารักท่านแม่ที่สุดเลยเจ้าค่ะ” เด็กหญิงกล่าวความในใจออกมาให้มารดาทราบเผยหว่านอีจึงแย้มยิ้มด้วยความสุขอย่างแท้จริงนับจากนางกลายเป็นนางกลายเป็นคนพิการเมื่อสามเดือนก่อนเลยก็กล่าวได้
“ท่านแม่ก็รักหว่าหวา รักท่านยายมากเลยจุ๊บไปเถอะมาเข้านอนกัน” ไม่มีสามีนางก็คิดว่าตนเองย่อมอยู่ได้ สามีและบิดาเช่นเจียงซู่ไม่มีย่อมดีกว่า ให้นางเลี้ยงดูเด็กหญิงผู้นี้เพียงผู้เดียว ไม่แน่อนาคตของเผยหว่าหวาคงรุ่งเรืองกว่าอยู่เป็นคุณหนูใหญ่เจียงอย่างแน่นอน
...บุรุษที่หวังเกาะชายกระโปรงของสตรีให้อนาคตตนเองยิ่งใหญ่ กับสตรีใดเขาก็ไม่คู่ควรทั้งสิ้น!...