ตอนที่ 9

1676 Words
เฌอนั่งรอภายในรถเงียบๆไม่กล้าถามอะไรออกไป จนกระทั่งประตูรถเปิดแล้วบอสสิงห์เข้ามานั่งด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะทำในสิ่งที่ทำให้หัวใจเหมือนจะหยุดเต้นไปชั่วขณะ เขาล้มตัวนอนตักแล้วจับมือเธอไปจูบซ้ำๆไม่หยุด แววตาที่เขามองดูหวานปนดุแม้จะไม่ยิ้มออกมาให้กันเลยก็ตาม “เมื่อกี้คนรู้จักพี่เอง” คนรู้จักที่แปลว่านอนด้วยกันแล้วแต่มันก็แค่คนเหงามาเจอกันเท่านั้นเอง “เขาดูไม่พอใจเฌอนะคะที่มากับบอสคืนนี้” หลายคนเลยแหละที่ไม่พอใจที่เธอมาพร้อมกับเขา แล้วคืนนี้ก็ทำให้ได้รู้ว่าบอสสิงห์เป็นเพลย์บอยมากกว่าที่คิดเอาไว้ “ช่างมันสิ! พี่พอใจแค่นี้ก็พอแล้ว” เขาไม่จำเป็นต้องรอให้ใครพอใจสักหน่อยเพราะระหว่างเรามันคือความรักที่ไม่เคยมีใครเข้าใจเลยว่าการรอคอยคนคนหนึ่งโดยที่ไม่มีการติดต่อมันทรมานขนาดไหน ใช่ว่าที่ผ่านมาเขาไม่พยายามลืมนะแต่นั่นแหละคือจุดเริ่มต้นความคิดถึงแสนสาหัสตลอดหลายปี “แล้วนี่จะไปส่งเฌอเลยใช่ไหมคะ?” “คืนนี้อยู่เป็นเพื่อนพี่หน่อยนะ พี่พึ่งมีเรื่องมา พ่อก็โทรมาด่าไม่หยุด หลังจากนี้คงจะมีแต่ปัญหาเข้ามาแน่ๆ พี่ยังไม่รู้เลยว่าจะรับมือยังไงไหว” เขาหาทางรับมือทุกปัญหาได้แน่แต่การทำตัวอ่อนแอมันคงจะทำให้เฌอใจอ่อนลงบ้างแล้วยอมไว้ใจพอจะไปบ้านด้วยกัน จากนั้นเขาจะทำในสิ่งที่เลวที่สุดคือกอดเธอไว้ในแน่นพร่ำบอกรักตลอดทั้งคืนจนเหงื่ออาบชะโลมไปทั้งตัวเมื่อบูชาความรักที่มีให้เธอด้วยร่างกายตลอดจนกว่าจะฟ้าสาง “ก็ได้ค่ะ” ไม่รู้ว่าเพราะความอ่อนแอหรือแววตาเหมือนคนอ่อนแรงนี้ทำให้รู้สึกว่าเขากำลังเจ็บปวดมาก ถึงภายในรถจะมืดแค่แสงไฟจากข้างทางส่องให้เห็นประกายนัยน์ตาเหมือนว่าเขากำลังร้องไห้อยู่จนรู้สึกสงสารและเป็นห่วง เธอเข้าใจว่าคนเราต่อให้เข้มแข็งขนาดไหนก็ต้องมีมุมอ่อนแอกันบ้างแต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะกล้าแสดงมันออกมา บอสสิงห์อาศัยความมืดภายในรถอำพรางทุกอย่าง แต่เธอรู้สึกได้จากแววตาและน้ำเสียงว่าคืนนี้เขาต้องการให้เธออยู่ด้วยจริงๆ เธอคิดถูกใช่ไหมที่จะอยู่กับคนอันตรายอย่างเขา? รถแล่นเข้ามาจอดที่บ้านหลังใหญ่มีรั้วกั้นจากโลกภายนอกสูงประมาณสองเมตร ภายในบริเวณบ้านแม้จะมืดมากแต่รู้สึกถึงความเงียบสงบเต็มไปด้วยต้นไม้สูงและสวนดอกไม้เล็กๆที่ประดับไปด้วยดอกไม้หลายสายพันธุ์และบ่อน้ำพุ แต่มืดขนาดนี้ทำให้ดูไม่ออกว่าปลูกอะไรบ้างแต่ที่แน่ๆบ้านนี้มีสระว่ายน้ำด้วย ทำไมบ้านกับคนดูไม่เข้ากันเลยนะ บอสสิงห์เหมือนความโกลาหลวุ่นวายต่างจากบ้านที่ดูสงบสุขมาก ที่นี่มีสายลมอ่อนๆพัดมาปะทะผิวบ้าง อากาศในยามดึกก็เย็นขึ้นมากเลยละ เธอรู้มาว่าบอสสิงห์อยู่กับกวินท์สองคนเท่านั้นแล้วดันโสดทั้งคู่อีกด้วยนะ “พี่กวินท์จะไปไหนคะ?” มาถึงพี่กวินท์ก็ขับรถอีกคันกำลังจะออกไปซะงั้น “มันคงจะไปเที่ยวคลายเครียดมั้ง เฌออย่าสนเลยมันก็เป็นแบบนี้แหละ พอดีเราเจอเรื่องแย่ๆมาต้องหาที่ระบายออกไปบ้าง” กวินท์ตั้งใจเปิดโอกาสให้เขาได้ใกล้ชิดเธอมาขึ้นต่างหากละ กวินท์มันรู้ว่าเขารอวันนี้มานานแล้วทรมานกับความคิดถึงขนาดไหนเพราะเราไม่ใช่แค่เจ้านายลูกน้องทั่วไป แต่ว่าเราเป็นเหมือนคนในครอบครัวเดียวกันเลยด้วยซ้ำ “งั้นคืนนี้เราต้องอยู่กันสองคนเหรอคะ?” “พี่จะไปนอนห้องกวินท์เอง ส่วนเฌอก็นอนห้องพี่แล้วกัน” “ไม่มีห้องรับแขกเหรอคะ?” “มีสิแต่พี่ขี้เกียจไปปลุกแม่บ้านมาจัดเตรียมให้มันดึกมากแล้วป่านนี้คงจะหลับกันหมด” “งั้นก็ได้ค่ะ เอ่อ…บอสจะว่าอะไรไหมถ้าเฌอขอยืมเสื้อผ้าใส่ด้วย เฌอไม่มีชุดค่ะ” “ชอบตัวไหนก็หยิบเอาถ้าเป็นเฌอพี่ไม่หวงอยู่แล้ว” ปรกติเขาไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับของใช้ส่วนตัวแม้แต่ชิ้นเดียว เขาชอบอะไรที่เป็นส่วนตัวมากขนาดลงทุนหลายแสนสร้างบ้านพักคนงานและบอดี้การ์ดบางคนให้อยู่ห่างจากบ้านหลังนี้อยู่หลายร้อยเมตร แล้วยังกั้นรั่วไว้อย่างมิดชิดด้วยซึ่งทุกคนไม่มีปัญหาเพราะเข้าใจและไม่มีใครอยากเข้ามายุ่งเท่าไรนัก ซึ่งบางครั้งเขาก็เอาคนมาซ้อมที่นี่ด้วย “มันมืดหน่อยนะ ดึกๆคนรับใช้จะไม่มาบ้านใหญ่กัน” ใครมันจะกล้าเข้ามาละในเมื่อถูกสั่งห้ามเอาไว้แล้ว “อยู่กับพี่กวินท์สองคนเหงาแย่เลย” ชายโสดทั้งคู่นี่เนอะแต่คนระดับนี้แล้วผู้หญิงคงไม่ขาดหรอกมั้ง บอสสิงห์จับมือเธอพาเดินขึ้นบันไดก่อนจะเปิดไฟแล้วพามาถึงหน้าห้องนอน เขาเดินเข้ามาเอาชุดของตัวเองออกไปแล้วชี้ให้รู้ว่าชุดเขาอยู่ไหนบ้าง ห้องนอนเรียบๆโทนสีดำคงจะทำให้หลับสบายมากจนลืมเวลาเช้าแน่ “ถ้าอาบน้ำเสร็จแล้วลงไปหาพี่ข้างล่างนะ ดื่มเป็นเพื่อนพี่สักหน่อยแก้เครียดน่ะ” “บอสสิงห์อย่าเมาละเฌอประคองขึ้นห้องไม่ไหวนะ” “ถ้าพี่เมาก็ทิ้งไว้ตรงนั้นแหละไม่ต้องเสียเวลาประคองหรอก ตัวพี่ใหญ่กว่าเฌอเยอะเดี๋ยวจะหนักเปล่าๆ” บอสสิงห์เดินออกไปแล้วเธอถึงถอดเครื่องประดับต่างๆออก จนมาถึงกำไลข้อมือที่ทำให้ยิ้มได้แบบไม่มีเหตุผล ชุดที่ใส่ทำให้รู้สึกอึดอัดไม่สบายตัวพอได้ถอดออกค่อยโล่งขึ้นมาหน่อย เธอเดินมาเข้าห้องน้ำพึ่งจะเห็นว่ามีคนแอบเปิดน้ำอุ่นทิ้งไว้ให้ แล้วมีขวดน้ำมันหอมระเหยให้เลือกอีกหลายกลิ่น เขาจัดวางของทุกอย่างรอเธอหมดเลย “เป็นคนใส่ใจคนเก่งเหมือนกันนะเนี่ย” ความจริงบอสสิงห์อาจจะเป็นคนอบอุ่นมากก็ได้เพียงแต่ว่าใช้ตัวตนร้ายๆปิดบังเอาไว้ต่างหาก เธอลงในอ่างน้ำอุ่นแล้วค่อยรู้สึกสบายตัวขึ้นมาหน่อย ไม่ว่าขาหรือเท้าที่ปวดเหมือนกล้ามเนื้อจะคลายตัวมาก บางทีเธอน่าจะซื้ออ่างอาบน้ำไว้ที่คอนโดบ้างนะ ไม่รู้ว่าใช้เวลาในห้องน้ำนานเท่าไรเพราะออกมาก็เห็นบอสแต่งตัวในชุดนอนเรียบร้อยดีกำลังนั่งดื่มรอเธอบนเตียงแล้ว เขาแทบไม่มองเธอด้วยซ้ำเอาแต่ดื่มเหล้าแล้วเหม่อลอย สงสัยคงจะมีเรื่องเครียดมากแน่ๆเลย “บอสคะมานานรึยัง?” เธอนั่งลงแล้วถามเบาๆ “เฌอมาตอนไหนพี่ไม่รู้สึกตัวเลย!?” กลิ่นหอมจากตัวเธอนี่แหละมันปลุกอารมณ์ได้ดีมากซะจริง รู้ไหมว่าเขาต้องใช้ความอดทนขนาดไหนนั่งรอ แล้วยังต้องแกล้งเมิน แกล้งทำเป็นเครียดเพื่อไม่ให้เธอคิดมากเพื่อที่ทุกอย่างจะได้ง่ายมากยิ่งขึ้น “เครียดเรื่องอะไรคะ หรือว่ามีปัญหากับแฟน?” อาจจะเป็นผู้หญิงในงานหรือคนที่มาดักรอก่อนออกจากงานก็ได้ใครจะไปรู้ละเพราะดูท่าจะสนิทกันดี “ลืมไปแล้วเหรอว่าพี่บอกว่ารักเฌอมากแค่ไหน หรือว่าไม่เคยเชื่อพี่เลย?” เธอเงียบไปแล้วรับแก้วในมือไปดื่มจนหมดก็ยังไม่พูดอะไรต่อสักคำ “เรื่องของเรามันไม่มีทางเป็นไปได้หรอกค่ะ บอสตัดใจเถอะ” นิสัยของเราเข้ากันไม่ได้ดังนั้นควรจบตั้งแต่ตอนนี้จะดีกว่า เขากับเธอดื่มเหล้าแก้วแล้วแก้วเล่าโดยที่เราแทบไม่ได้พูดอะไรกันเลย มีแค่บางครั้งที่เผลอสบตากันเพราะความบังเอิญจนรู้สึกมึนนิดๆแล้วทุกอย่างก็เบลอไปหมด “พี่จะทำให้รู้เองว่าเรื่องของเรามันจะเป็นไปได้แน่” เขาดึงแก้วเหล้าในมือเธอออกก่อนประคองใบหน้าสวยรับจูบที่เต็มไปด้วยความคิดถึงอย่างสาหัสและความรักอย่างหนักแน่นที่มีอยู่ล้นอกปิดไม่มิดแล้ว ริมฝีปากบดเบียดเลาะเล็มช้าๆคละเคล้ารสหวานละมุมด้วยลิ้นที่ปัดป่ายดูดดื่มกันไปมา ก่อนจะผละออกสบตาคู่สวยแล้วจูบซ้ำอีกครั้งปลุกเร้าอารมณ์ที่ตกตะกอนนอนนิ่งให้ลอยฟุ้งขึ้นมาด้วยความต้องการของเราในคืนนี้ จากนั้นจะผูกติดเป็นพันธนาการยึดเหนี่ยวเกินกว่าจะตัดขาดได้ ทุกอย่างในคืนนี้คือความตั้งใจของเขา สำหรับเฌอนั้นคงเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบที่เกิดขึ้นเพราะความอ่อนไหวและฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่เจือจางในกระแสเลือดเปลี่ยนในสติที่มีเลือนรางมากจนปล่อยสัญชาตญาณดิบออกมาตามอำเภอใจ สำหรับเขามันคือความรักที่ต้องรอคอยมานานเกินกว่าจะปล่อยให้เธอหลุดมือไปได้อีกครั้ง สองปีที่ปากแข็งไม่กล้าพูดออกไปเพราะความหยิ่งทะนงตัวดีแต่หวงก้างเงียบๆอยู่ฝ่ายเดียว กับอีกห้าปีที่ต้องทรมานเพราะความคิดถึงทำได้เพียงมองรูปถ่ายแล้วหวังว่าสักวันเธอจะกลับเข้ามาสู่ในอ้อมกอดอีกครั้ง ความทรงจำระหว่างเราจากนี้คือความรัก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD