ตอนที่ 15 : สองบุคลิกในคนเดียว
ช่วงดึกของวันเดียวกัน
คลับหรูใจกลางเมือง
ขบวนรถคันหรูขับมาจอดหน้าประตูทางเข้าวีไอพีของคลับใจกลางเมือง ประตูรถเปิดออกด้วยคนด้านนอกก่อนจะเผยชายหนุ่มร่างสูงที่อยู่ในเสื้อเชิ้ตสีดำปลดกระดุมเม็ดบนออกสามเม็ดเผยแผงอกแกร่งที่ถูกการดูแลและออกกำลังกายมาอย่างหนัก ริมฝีปากหนาไม่มีแม้แต่รอยยิ้ม ไม่ต่างจากสายตาคมกริบที่ไร้ซึ่งความรู้สึก เท้าแกร่งเดินเข้าไปในคลับด้วยความคุ้นชิน น้อยครั้งที่จะมีใครเห็นพายุในสไตล์การแต่งตัวแบบนี้นอกจากคนที่คุ้นเคยเท่านั้น ผู้คนส่วนใหญ่มักเห็นพายุในคราบนักธุรกิจที่แต่งตัวเนี๊ยบตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
เสียงเพลงในคลับหรูเป็นจังหวะที่ฟังสบายๆ เน้นพบปะสังสรรค์พูดคุยกัน ไม่เหมือนกับผับที่มีเสียงเพลงดังกระหึ่มจนไม่ได้ยินเสียงพูดคุยนอกจากเสียงเพลง สายตาคมกริบมองไปยังกลุ่มชายหนุ่มสองคนที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว บนโต๊ะเต็มไปด้วยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลากหลายชนิด
"เฮ้ นึกว่าจะทำแต่งานจนลืมเพื่อนฝูง"โฬมชายหนุ่มมาดเข้ม ใบหน้าคมสไตล์ไทยเหลือบเห็นเพื่อนคนสนิทเดินเข้ามาก็อดที่จะพูดแดกดันไม่ได้
"สวัสดีครับผู้บริหารสุดหล่อขยี้ติ่ง เอ้ย ขยี้ใจสาว"แม็กซ์เวลชายหนุ่มตาน้ำข้าวพูดด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์ตามสไตล์ลูกครึ่ง
"ถ้าปากพวกมึงว่างมากก็แดกเข้าไปซะ น่ารำคาญ สั่งมาขนาดนี้มึงกะเอามาอาบกันหรือไง" พายุพูดพลางส่ายหัว เขาไม่ได้สะทกสะท้านกับคำพูดแดกดันของเพื่อนเลยสักนิด เพราะมันคือเรื่องปกติเวลาเจอหน้ากัน
"อารมณ์ไม่ดีแสดงว่าไม่ได้ปลดปล่อย หลังคลับมีห้องว่างเผื่อต้องการ กูได้ข่าวว่ามึงมาใช้บริการที่นี่บ่อยเพราะไม่ชอบให้กลิ่นผู้หญิงติดเตียง" แม็กซ์เวลกระตุกยิ้มมุมปากเพราะรู้ดีว่าพายุมักใช้ด้านหลังของคลับเป็นที่ปลดปล่อยกับหญิงสาวบรรดานางแบบที่เดินให้แบรนด์สตอร์มซีเครท ชื่อแบรนด์บ่งบอกถึงความลับน่าค้นหาก็ไม่ต่างจากเจ้าของแบรนด์ที่มีความลับหลายอย่างที่คนทั่วไปไม่รู้
"หึ...กลิ่นผู้หญิงนี่คงไม่ใช่กลิ่นน้ำหอมจริงไหม เอาเบาๆบ้างน้ำจะได้ไม่กระฉอก"
"ฮ่า ฮ่า..." แม็กซ์เวลถึงกับกลั้นขำไม่อยู่เมื่อได้ยินโฬมขยายความคำพูดของเขา
"ช่วยไม่ได้ของกูมันใหญ่" พายุไหวไหล่พร้อมกับหยิบเหล้าสีทองอมน้ำตาลมาเทใส่แก้วคริสตัลจนเกือบเต็ม และจัดการกระดกลงคอจนหมดราวกับในแก้วนั้นเป็นเพียงน้ำเปล่าดื่มเพื่อดับกระหาย
"ไม่เถียงเรื่องความใหญ่"
"ธุรกิจมึงผ่านไปได้ด้วยดี ได้ยินมาว่ามีพนักงานหักหลังมึงเอาไฟล์ไปให้บริษัทของเซญ่าเหรอวะ" โฬมถามขึ้นเพราะข่าวคราวของเพื่อนก็มาถึงหูเขาเหมือนกัน
"อืม...แต่ได้ไฟล์ที่กูร่างแบบขึ้นมาเล่นๆ ไม่ใช่คอลเลคชั่นล่าสุด"
"คงว่างมากนะมึงที่ร่างแบบขึ้นมาเล่นๆเพื่อล่อเหยื่อ แต่ไม่ว่าจะธุรกิจอะไรหนอนบ่อนไส้แม่งก็อยู่ไปทั่ว"
"ไอ้เวรนั่นคงไม่มีแม้แต่เศษกระดูกแล้วใช่ไหม" ริมฝีปากหนาของแม็กซ์เวลยิ้มอย่างรู้ทันเพื่อนสนิท
"แล้วถ้าเป็นมึงละแม็กซ์ มึงจะปล่อยให้มันมีลมหายใจเหรอไง" พายุไม่ได้ตอบคำถามของแม็กซ์เวลโดยตรงแต่ใช้คำถามที่แฝงคำตอบถามกลับไป
"หึ ไม่เหี้-เหมือนกันก็คงอยู่ด้วยกันไม่ได้ ต่อหน้าคนอื่นแสนดีฉิบหาย ลับหลังเลวระยำสุดตีน"
"กูจะถือว่าเป็นคำชม" คำพูดของพายุทำเอาทุกคนยิ้มให้กัน ต่อให้จะแดกดันกันขนาดไหนก็ไม่เคยมีความโกรธ พวกเขาผ่านร้อนผ่านหนาวกันมาเยอะกว่าที่จะมายืนถึงจุดนี้ได้ ถึงแม้แต่ละคนจะทำธุรกิจที่แตกต่างกัน พอถึงช่วงที่ว่างพร้อมกันก็มักจะนัดมาพูดคุยแบบนี้เสมอ
"เด็กผู้หญิงคนนั้นหน้าคุ้นๆนะไอ้พายุ" โฬมยกยิ้มมุมปากพลางส่งสายไปให้เพื่อนได้รับรู้เมื่อเห็นเด็กสาววัยเข้าสู่วัยรุ่นกำลังเดินเข้ามากับเด็กหนุ่มอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน
"ว้าว...ไม่ได้เจอน้องสาวมึงนานสวยใช่เล่น เมื่อก่อนยังถักเปียสองข้างใส่ชุดนักเรียนเดิมตามมึงต้อยๆ ไม่คิดว่าพอโตขึ้นจะซ่อนรูปขนาดนี้" แม็กซ์เวลพูดด้วยน้ำเสียงกะลิ้มกะเหลี่ย
เพล้ง
แก้วเหล้าคริสตัลในมือพายุถูกเขวี้ยงไปตรงหน้าแม็กซ์เวลทันทีหลังจากที่พูดจบโชคดีที่เจ้าของคำพูดนั้นหลบทัน สายตาคมกริบมองเพื่อนสนิทอย่างไม่ชอบใจ โชคดีที่บริเวณโต๊ะที่พวกเขานั่งอยู่เป็นโซนวีไอพีคนที่มาจากทางเข้าคลับสำหรับคนทั่วไปจะไม่เห็นเพราะเป็นมุมที่ลับตาคน ถึงแม้เสียงแก้วแตกจะเล็ดลอดออกไปจนทำให้คนในคลับหันมองหน้ากันแต่กลับไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ
"เกือบได้ไปเย็บแผลที่โรงพยาบาลแล้วไหมล่ะมึง มึงก็รู้ว่ามันหวงน้องสาวแค่ไหน นี่เสือกได้เห็นพราวฟ้ามากับผู้ชายอีก มันไม่อาละวาดคลับแตกก็ดีแค่ไหนแล้ว" โฬมรู้ดีว่าพายุหวงน้องสาวมาก เขาเองก็เห็นพายุประคบประหงมพราวฟ้ามาตั้งแต่เด็ก รู้ดีว่าพายุเลี้ยงน้องอย่างกับไข่ในหิน ถึงแม้พราวฟ้าจะดูแก่นแก้วเกินวัยก็ตาม "มึงต้องปล่อยวางบ้างไอ้พายุ น้องมึงก็ไม่ใช่เด็กๆแล้ว อีกอย่างยุคสมัยนี้ผู้หญิงผู้ชายจะอยู่ด้วยกันมันก็เรื่องปกติ แค่สอนให้รู้จักป้องกันก็ไม่มีผลเสีย"
"หุบปาก น้องของกู กูรู้ว่าต้องทำอะไร" พายุยังคงใช้น้ำเสียงหงุดหงิดตอบกลับเพื่อน มือหนากำหมัดแน่นอยากจะตะบันหน้าไอ้เวรนั่น
"นี่แค่น้องสาวยังขนาดนี้ กูไม่อยากนึกถึงตอนมึงมีเมียเลยจริงๆ ถ้าเกิดเห็นเมียอยู่ใกล้ผู้ชายมึงคงเดินเอาปืนไปจ่อหัวไอ้เวรนั่นแล้ว"
"ขอบใจสำหรับคำแนะนำ" พายุลุกขึ้นพร้อมกับหยิบปืนที่ซ่อนไว้ข้างเอวออกมาและเดินไปหาเป้าหมายเมื่อเห็นเด็กหนุ่มคนนั้นกำลังเดินแยกออกไปจากน้องสาว
"กูว่ามึงพูดอะไรผิดไปนิดนะไอ้โฬม เหมือนมึงกำลังชี้โพรงให้กระรอก ส่งปืนไปให้ไอ้เด็กหนุ่มนั่น" แม็กซ์เวลมองหลังเพื่อนสนิทที่เดินดุ่มๆออกไปโดยไม่บอกกล่าว
"กูแค่เปรียบเทียบไหมล่ะ จะว่าไปก็อยากเห็นมันมีเมียเหมือนกัน"
"มึงเตรียมตั้งสุสานไว้รอรับศพจากมือไอ้พายุได้เลย" ทั้งคู่มองหน้ากันพลางส่ายหัวเบาๆ ได้แต่หวังว่าเด็กหนุ่มคนนั้นจะยังมีลมหายใจ
พายุเดินตามหลังเด็กหนุ่มคนนั้นมาโดยที่ไม่ให้เป้าหมายรู้ตัว จนเด็กหนุ่มมายืนอยู่หน้าเคาท์เตอร์บาร์เพื่อสั่งเครื่องดื่ม ไม่นานเครื่องดื่มสองแก้วก็วางอยู่ด้านหน้าเด็กหนุ่มคนนั้น สายตาคมกริบจับจ้องไม่วางตาเมื่อเห็นเด็กคนนั้นหยิบซองที่ใส่ยาเทลงในแก้วเหล้าเพียงหนึ่งแก้ว มือหนากำปืนในมือแน่นด้วยความโกรธแต่เขาไม่สามารถเดินออกไปตอนนี้ได้เพราะยังมีผู้คนอยู่แถวนั้น ถ้าเขาถือปืนออกไปตอนนี้มีหวังทุกคนได้แตกตื่นแน่
"คืนนี้เธอคงได้สนุกกับเรานะพราวฟ้า เราจะทำให้เธอมีความสุขทั้งคืน" เด็กหนุ่มพูดขึ้นเบาๆพลางยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ มือหนาควงแก้วเหล้าสีหวานเบาๆเพื่อให้ยาละลาย โซนที่สั่งเหล้าอยู่คนละโซนกับที่พราวฟ้านั่งอยู่ ทำให้เธอไม่เห็นว่าเขากำลังตั้งใจจะมอมเหล้าเธอ "แก้วเดียวก็จอด"
แก่ก
ในจังหวะที่เด็กหนุ่มเดินใกล้มุมมืดที่พายุหลบอยู่ ปืนกระบอกสีดำเงาวับก็จ่อเข้าที่หัวของเด็กหนุ่มทันที ทำเอาคนที่กำลังจะเดินไปหยุดชะงักตัวแข็งทื่อ
"มึงน่าจะจอดก่อนน้องสาวกูนะ" น้ำเสียงเข้มชวนขนลุกพูดขึ้น
เด็กหนุ่มค่อยๆหันหน้ามาเผชิญกับเจ้าของปืนพร้อมกับแสดงอาการหวาดระแวง ถึงจะเห็นคนในมุมมืดเพียงแค่เงาแต่น้ำเสียงนั้นทำเอาเสียวสันหลังวาบ สายตาเหลือบมองปืนสีดำเงาวับที่จดจ่ออยู่กลางหน้าผากเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"เอาแก้วนั้นกลับไปวางที่เดิมและไสหัวออกจากร้านนี้ไปซะก่อนที่ลูกกระสุนมันจะฝังหัวมึง" พายุยังคงใช้น้ำเสียงอำมหิตขู่เด็กหนุ่มจากมุมมืด มีเพียงแค่พายุที่เห็นใบหน้าของฝ่ายตรงข้าม
"อย่ามาอำผมดีกว่า สนใจผู้หญิงที่ผมควงมาคืนนี้กะจะใช้วิธีสกปรกขู่เหรอ...โคตรทุเรศเลย แน่จริงออกมาให้ผมเห็นหน้าหน่อยดิ หลบอยู่มุมมืดก็เหมือนพวกขี้ป๊อด" เด็กหนุ่มสบถออกมาอย่างหัวเสีย แต่ก็แอบระแวงปืนที่จ่ออยู่ไม่น้อย
"หึ...ถ้ากูออกไป แม้แต่ลมหายใจมึงจะไม่เหลือ กูให้มึงเลือกระหว่างเดินออกจากร้านไปเงียบๆคนเดียวกับอยู่เงียบๆคนเดียวในหลุมศพ"
แก่ก
พายุกระชับปืนให้มั่นหวังยิงเป้าหมายให้ตายในนัดเดียว
เด็กหนุ่มมองไปรอบๆ ไม่ใช่แค่ปืนที่จ่อหัวอย่างเดียว แต่กลับถูกสายตาของชายฉกรรจ์นอกเครื่องแบบที่แต่งตัวเหมือนนักท่องราตรีจับจ้องไม่วางตา บางคนถึงกับเลิกเสื้อขึ้นให้เห็นว่าตัวเองมีปืน เด็กหนุ่มรอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
"นี่มันบ้าอะไรกันวะ"
"กูจะนับถึงสาม ถ้ายังไม่เลือกกูจะเลือกให้มึงเอง...หนึ่ง...สอง...สะ"
"เออก็ได้วะ ฝากไว้ก่อนเหอะ" เด็กหนุ่มรีบวางแก้วเหล้าบนโต๊ะและเดินออกไปอย่างลนลาน คำพูดเหมือนไม่กลัวแต่เนื้อตัวสั่นเทาไม่หยุด
ปืนสีดำถูกเก็บเข้าข้างเอวเหมือนเดิมก่อนที่ร่างสูงจะออกมาจากมุมมืดนั้นหลังจากเด็กผู้ชายเดินออกจากคลับไปแล้ว สายตาคมกริบส่งสัญญาณไปที่ลูกน้องที่ประจำอยู่ทุกจุดของคลับ ก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปาก
"เตียงที่โรงพยาบาลน่าจะยังพอว่างสำหรับคนอย่างมึง นอนเล่นที่โรงพยาบาลสักเดือนสองเดือนคงดีไม่ใช่น้อย อยู่ที่ว่าลูกน้องกูจะมือหนักมากน้อยแค่ไหน" พายุพูดพลางติดกระดุมเสื้อให้เรียบร้อยเหลือเพียงกระดุมเม็ดบนเพียงเม็ดเดียวที่ไม่ได้ติด และเดินไปหาน้องสาวสุดรักที่นั่งฟังเพลงไม่รู้อีโหน่อีเหน่
"คนสวยครับ ขอนั่งด้วยคนได้ไหม" พายุใช้น้ำเสียงอ่อนโยนทักเด็กสาวที่นั่งหันหลังให้เขา
"หื้ม...พี่พายุ" พราวฟ้าหันมาตามเสียงที่คุ้นเคยและแสดงสีหน้าแปลกใจทันทีเมื่อเห็นพี่ชายในที่แบบนี้ "มาได้ไงคะเนี่ย"
"เพราะรู้ว่าเด็กแสบแอบหนีเที่ยวกลางคืนก็เลยจะมารับกลับบ้านไง" มือหนาลูบผมน้องสาวอย่างอ่อนโยน
"แอบให้คนสะกดรอยตามพราวเหรอคะ แต่เอ่อ...คือ..." พราวฟ้าพูดด้วยน้ำเสียงกระอักกระอ่วนเพราะเธอไม่ได้มาคนเดียวแต่มากับแฟนหนุ่มที่กำลังศึกษาดูใจกันอยู่
"มากับแฟนใช่ไหม พี่ไม่ว่าอะไรหรอกเราโตแล้ว ไหนขอดูหน้าว่าที่น้องเขยหน่อยสิ พี่เดินมาเห็นแต่พราวนั่งอยู่คนเดียว ขอพี่ชายคนนี้สแกนให้น้องสาวสักนิด" พายุพูดอย่างยิ้มๆ
"โหย...โล่งอกคิดว่าจะโดนดุซะแล้ว ขอบคุณนะคะที่เข้าใจวัยรุ่น งั้นพราวขอโทรหาเขาก่อนนะ เห็นว่าจะไปเอาเครื่องดื่มให้ แต่ไม่เห็นมาสักที" พราวฟ้าพูดพลางกดโทรศัพท์ต่อสายหาชายหนุ่มคนสนิท แต่แล้วคิ้วต้องขมวดเป็นปมด้วยความแปลกใจ และพยายามกดต่อสายหาอีกครั้ง
"มีอะไรหรือเปล่า" ทุกการกระทำของน้องสาวอยู่ในสายตาของพายุทั้งหมด ทำให้เขารู้ได้ทันทีว่าคนที่เดินออกไปก่อนหน้านี้คงกำลังสนุกสนานกับลูกน้องของเขาอยู่ที่ไหนสักแห่งใกล้กับคลับนี้
"โทรไปไม่รับเลยค่ะ หายไปไหนนะ ยังคุยกันดีๆอยู่เลย ไหนว่าจะไปเอาเครื่องดื่มหวานๆมาให้"
"เขาอาจจะมีธุระด่วนจนต้องรีบกลับไปแล้วก็ได้ พี่ว่าเรากลับกันดีกว่า ถ้าไปห้องน้ำก็คงไม่ใช่เพราะพี่ก็พึ่งเดินออกมาก่อนจะมาหาพราว ไม่มีใครสักคนเลย"
"ให้ตายเถอะ อย่าบอกนะว่าทิ้งกันดื้อๆแบบนี้เลย เจอหน้าเมื่อไหร่จะตะบันหัวให้แตกเลยคอยดู คุยกันได้ไม่เท่าไหร่ลายก็ออกจนได้" พราวฟ้าพูดด้วยท่าทางฉุนเฉียว
"ส่งรูปและชื่อที่อยู่ให้พี่หน่อยสิ เดี๋ยวพี่ให้ลูกน้องตามตัวให้ เพื่อเขาจะมีธุระด่วนจริงๆ พี่ไม่อยากให้พราวคิดมาก"
"ขอบคุณนะคะพี่ชายที่แสนดีของน้อง ขอบคุณที่เข้าใจน้องทุกเรื่อง" พราวฟ้าระบายยิ้มกว้างส่งให้พี่ชาย
"ทีนี้จะกลับบ้านได้ยังครับคนสวย ราชรถเปิดประตูรถรอแล้วครับ" พายุส่งรอยยิ้มอ่อนโยนพร้อมกับยกแขนขึ้นเพื่อให้พราวฟ้าคล้องแขนเขาเดินออกไป "ให้พี่ชายเป็นคู่ควงกลับบ้านหนึ่งวันนะ"
"ได้ค่ะ" พราวฟ้าคล้องแขนพี่ชายและพากันเดินออกจากคลับหรู
ในเพียงพริบตาใบหน้าอ่อนโยนก็แปลเปลี่ยนเป็นใบหน้าเรียบนิ่งดั่งอสูรร้ายทันที สายตาคมกริบปรายตามองมุมลับที่เพื่อนของเขานั่ง เชื่อว่าพวกมันคงจับตาดูการกระทำของเขาอยู่
แปะ แปะ แปะ
"รางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมต้องยกให้มัน" แม็กซ์เวลปรบมือให้กับการกระทำของเพื่อน พวกเขาเห็นทุกการกระทำของพายุตั้งแต่แรกแค่ไม่ได้ยินสิ่งที่พายุพูด แต่เห็นจากสีหน้าและท่าทางที่ต่างกันสุดขั่วก็อดที่จะชื่นชมความเลวเพื่อนไม่ได้
"แสนดีฉิบหาย...กูแทบเปลี่ยนอารมณ์ไม่ทัน ใครได้มันเป็นผัวกูไม่รู้เลยว่ามันจะใช้บทไหนแสดง หวังว่ามันจะใช้บทผู้ชายอ่อนโยนเป็นพระเอกกับเมีย ถ้าใช้บทตัวร้ายกูคงสงสารเมียมัน"
แม็กซ์เวลพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของโฬม