bc

Hellish Island เกาะนรกสร้างรัก

book_age16+
79
FOLLOW
1K
READ
comedy
like
intro-logo
Blurb

**ลงตัวอย่าง** เชิญติดตามต่อที่ เมป หรือ รีดอะไรท์ โดยการพิมพ์หาชื่อเรื่อง หรือนามปากกา

น.นิรา หรือ พัชรทอง **

จากทริปวันหยุดสุดชิลเปลี่ยนผันแปรเป็นทริปแห่งหายนะ เพราะภับพิบัติทางธรรมชาติ มิหนำซ้ำเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองนอนเกยชายฝั่งอยู่บนเกาะอาถรรพ์ที่ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะเอ่ยถึงมัน! 

แต่คนดีอย่างฉันย่อมตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ เมื่อได้พบกับผู้ชายเปลือยกายร่างกำยำคอยช่วยเหลือ...

แถมมิหนำซ้ำดันเผลอพลาดพลั้งจับไอ้จ้อนของเขา นั่นจึงเป็นเหตุที่ได้สละโสดแบบไม่ทันตั้งตัว!

chap-preview
Free preview
บทที่หนึ่ง เกาะอาถรรพ์
โอ้ทะเลแสนงาม ฟ้าสีครามสดใส มองไม่เห็นเรือใบล่องอยู่ในท้องทะเล เสียงคลื่นซัดดังกระทบฝั่งตลอดเวลา หมู่ปลาแหวกว่ายตามน้ำ บ้างก็ทวนน้ำเล่น บางชนิดก็รวมอยู่กันเป็นกลุ่ม บางชนิดก็ฉายเดี่ยว สายลมอ่อน ๆ โบกพัดต้นไม้บริเวณริมหาดลู่ลมลงแทบจะติดพื้นทรายละเอียดสีขาวนวล ผืนทรายที่นวลขาวมีสัตว์หลากชนิดอยู่ริมฝั่งอาทิแม่ปูสีส้มตัวโตเดินเอียงนำลูกปูลงรูหลังจากเดินสวนสนาม และยังมีสัตว์อีกชนิดกำลังนอนหงายหน้าให้แสงแดดยามบ่ายสาดส่องเผา มันนอนแน่นิ่งได้สักครู่ใหญ่ก็สำลักน้ำออกมา “แค่ก ๆ” เสียงไอพร้อมกับน้ำที่ค้างคาสะสมอยู่ในท้องพรั่งพรูทะลักล้นออกมา ร่างบางพลิกตัวนอนคว่ำหลังเริ่มรู้สึกร้อนผ่าวบริเวณ ใบหน้าและเมื่อฝ่ามือแตะพื้นทรายเสียงร้องอย่างเจ็บปวดและสะบัดมือข้างที่เจ็บทันทีตามสัญชาตญาณมนุษย์ ฉันลืมตามองมือตนเองด้วยภาพที่พร่ามัว ปูตัวโตใช้ก้ามของมันงับห้อยตัวอยู่ที่นิ้วชี้ข้างขวาจากนั้นจึงสะบัดด้วยความโมโหจนเจ้าปูตัวนั้นร่วงลงสู่น้ำทะเล ค่อย ๆ ใช้แรงทั้งหมดที่มีพยุงตัวนั่งและประมวลเหตุการณ์ทั้งหมดที่เพิ่งเกิดขึ้นกับตัวเอง เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมายังสนุกสนานอยู่บนเรือสำราญเบิกบานใจกับเพื่อน แล้วจู่ ๆ บางอย่างก็ชนกระแทกเรือ? หรือเรือแล่นชนกระแทกสิ่งนั้น? แล้วทำไมตอนนี้ถึงมาอยู่ที่นี่ ตรงนี้แถมยังคนเดียว ไม่มีอะไรข้าวของติดตัวมาเลยนอกจากนาฬิกามือที่ล็อกแน่นอยู่ในข้อมือและเสื้อชูชีพที่ล็อกแน่นอยู่กับตัวตลอดเวลา พยายามมองไปรอบเกาะก็พบว่าที่นี่ไม่มีอะไรเลยเช่นกันไม่ว่าจะสิ่งปลูกสร้างหรือผู้คน มองไปทางไหนก็ป่า ก็น้ำ “ที่นี่ที่ไหน” ฉันพึมพำกับตัวเอง ยกมือขึ้นบังแดดหรี่ตามองวัตถุสีดำบางอย่างกำลังถูกน้ำทะเลซัดอยู่ริมฝั่ง รีบวิ่งตรงเข้าไปและหยิบมันขึ้นมาไว้ในอ้อมกอด “นึกว่าหายซะแล้ว” ใช้มือตบปัดเศษดินทรายที่เลอะเปรอะเปื้อนกระเป๋าเป้สะพายหลังใบเล็ก หันมองหาพื้นที่ร่มสำหรับนั่งพักหลังจากนั้นจึงพยายามคิดทบทวนเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ****** “ธาร ธารรักรีบขึ้นเรือได้แล้ว มัวแต่โอ้เอ้อยู่นั่น!” ลูกบัวตะโกนเรียกเพื่อนสาวที่กำลังใจจดจ่อกับขนมขบเคี้ยวในร้านสะดวกซื้ออยู่นานสองนาน “รอเพื่อนหนูสักครู่นะคะ เห็นผอม ๆ แบบนั้นแต่กินจุมาก” เธอหันไปฟ้องคนขับเรือข้ามฟาก “แป๊บหนึ่ง เสร็จแล้ว” ฉันรีบควักเงินจ่ายค่าสินค้าและยัดทุกสิ่งลงในเป้ใบโปรด รูดซิปปิดโยนขึ้นหลังวิ่งตรงไปยังลูกบัวเพื่อนร่วมทริปล่องเรือดำน้ำดูปากการังและอีกหลายกิจกรรม “ทำอย่างกับบนเกาะจะไม่มีของกินอย่างนั้นแหละ เอากระเป๋าแกไป” เธอดันกระเป๋าสัมภาระทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดสิบสี่นิ้วคืนไปยังเจ้าของ “นิดหน่อยทำเป็นบ่น” ฉันรับมันมาไว้ในมือเดินตรงขึ้นเรือเรือสปีดโบ๊ทเพื่อข้ามไปยังเกาะที่ได้ทำการจองแพ็กเกจท่องเที่ยวไว้ล่วงหน้านานนับเดือน ความจริงแล้วทริปนี้ไม่ได้มีแค่ฉันกับลูกบัวแต่ยังมีเพื่อนร่วมทริปอีกสองคนที่เทกระจาดทำทริปเกือบล่มไม่เป็นท่าและที่ได้มากันสองคนก็เพราะว่าฉันจะไม่มีทางโยนเงินทิ้งไปฟรี ๆ น่ะสิ “ถ่ายรูปลงสตอรี่กัน” ฉันยื่นมือถือให้กับลูกบัวและขยับตัวพิงลำตัวเรือ ใช้สองมือจับราวเหล็กให้มั่นคงและยิ้มสู้กล้อง แต่ก็ต้องขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงชัตเตอร์ดังติดต่อกันไม่พัก “เสร็จแล้ว” เธอยื่นมือถือคืนเจ้าของ “ไหน ผอมหรือเปล่า?” เมื่อรับมาก็ไม่รอช้ากดเข้าแกลลอรี่ “ผอมกว่านี้ก็ไม่เสียบผีแล้ว” เธอมองเพื่อนตัวกะทัดรัดอย่างกับหมากระเป๋า “ร้อยภาพ!! ตั้งใจถ่ายหน่อยสิไอ้บัว!” ฉันถอนหายใจอย่างหน่ายใจ “อย่าเวอร์ไปหน่อยเลย สิบกว่าภาพเองเถอะ!” เธอกลอกตาขึ้นข้างบน เบ้ปากและเมินหน้าหนี ฉันไม่สนใจตอบโต้ ตั้งใจก้มหน้าเลือกภาพที่แทบจะไม่ต่างกันเลยสักมุม เมื่อได้ภาพที่ถูกใจแล้วก็กดอัปโหลดขึ้นไปยังแพลตฟอร์มเพื่อโอ้อวดบรรยากาศสุดชิลในวันหยุดสุดสัปดาห์ “อัปเดตไม่สำเร็จทั้งที่คลื่นก็มี” จบประโยคฉันเหลือบมองอาการของเพื่อนสุดซื่อเล็กน้อย เป็นไปตามคาด เธอตกหลุมพราง “คลื่น? แถวนี้มีเสาสัญญาณด้วยเหรอ?” ลูกบัวสะดุดกับคำพูดของเพื่อนที่กำลังชูไม้ชูมือเหนือฟ้าเพื่อรับสัญญาณโทรศัพท์ ฉันเห็นท่าทางของเพื่อนก็หลุดหัวเราะร่วนอย่างอดไม่ได้ ไม่คิดเลยว่าจะซื่อขนาดนี้ “ขำอะไรของแก?” เธอย่นหน้าขมวดคิ้ว “มีสัญญาณก็บ้าแล้ว!” “อ้าว ก็แกบอกมีคลื่น” ใบหน้าและแววตาฉายแววฉงนสงสัย “นี่ไงคลื่น” ฉันชี้ไปยังผืนน้ำทะเลที่กำลังกระเพื่อมตามแรงลมแรงเรือ “นี่มุขหรือเปลือกหอย” ลูกบัวถอนหายใจพรืดยาว สีหน้าเรียบเฉยเบื่อหน่ายกับมุขไม่ฮาพาเพื่อนเครียด “ไม่เห็นมีมุกหรือเปลือกหอยเลย” “ยัง ยังไม่หยุดอีก สลับกันได้แล้ว” ลูกบัวยื่นโทรศัพท์ตัวเองให้กับฝ่ายตรงข้าม เธอก็ต้องการรูปภาพสวยงามไว้อวดเช่นกัน ในขณะที่ฉันและลูกบัวกำลังดื่มด่ำกับธรรมชาติก็เห็นผ่านเกาะหนึ่งเข้า “นั่นไงเกาะ!” เธอสะกิดเรียกธารรักพร้อมกับยกมือถือถ่ายด้วยอาการตื่นเต้นที่จะได้เหยียบผืนดินเสียที เธอเบื่อที่จะนั่งโคลงเคลงจะแย่อยู่แล้ว ฉันหันไปมองตามคำบอก เกาะอยู่ตรงนั้นแต่ทำไมรู้สึกเหมือนว่าเรือขับไกลออกไปทุกที ไม่เห็นจะมีวี่แววว่าคนขับเรือจะเลี้ยวตรงไปหาเลยสักนิดจึงเอ่ยปากถามลุงคนขับเรือ “ลุงคะนั่นใช่ที่ที่เราจะไปไหม?” “ไม่ใช่หรอกหนู เลยไปอีกชั่วโมงโน่น” เขาตอบโดยไม่ต้องหันไปมองว่าสิ่งที่เธอถามหมายถึงอะไร “งั้นมันคือเกาะอะไรเหรอคะ? บนเกาะสวยไหมคะ? เผื่อจะได้มาเที่ยว” ใกล้วันกลับอาจจะมาแวะที่เกาะนี้ มองจากมุมนี้แล้วเกาะตรงหน้านี้ช่างเขียวชอุ่ม ต้นไม้หนาแน่นเหมาะสำหรับคนหิวโหยธรรมชาติ “เกาะร้างน่ะ ไม่มีใครเขากล้าเข้าไปหรอกหนู เกาะอาถรรพ์เกาะนรกนั่นน่ะ” เมื่อเกาะที่ไม่มีใครกล้าเหยียบถูกกล่าวถึง เขาจึงเริ่มเล่าขานถึงตำนานอาถรรพ์ที่พูดกันมาปากต่อปากตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ หากใครได้ย่างกรายเข้าไปแล้วก็ยากที่จะกลับออกมา เหตุการณ์สะเทือนขวัญล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อยี่สิบห้าปีที่แล้วได้มีกลุ่มนายทุนเข้าพื้นที่ไปสำรวจหวังจะเนรมิตให้เกาะนี้กลายเป็นสวรรค์ของเหล่านักท่องเที่ยวเพื่อกอบโกยกำไรอันมหาศาล แรกเริ่มนั้นชาวบ้านคนในพื้นที่ก็พยายามประท้วงให้ล้มเลิกโครงการนั่นถ้าไม่อยากฉิบหายบรรลัย เพราะมันเต็มไปด้วยสิ่งลี้ลับ เป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าภูติผีปีศาจ เมื่อเหล่านายทุนทั้งหลายได้ยินได้ฟังเรื่องราวก็ต่างพากันหัวเราะกับความงมงายไร้สาระและเร่งเวลาส่งทีมเข้าไปสำรวจให้เร็วขึ้น “จนป่านนี้ก็ยังไม่มีใครกลับออกมา เรื่องนี้ข่าวกระจายโด่งดังอย่างรวดเร็วในวงในพวกมีเงินมีอำนาจเลยไม่มีใครหน้าไหนกล้าแตะเกาะนั้นอีก” “บนเกาะนั้นเกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?” ลูกบัวถามด้วยความสงสัยหลังจากตั้งใจฟังเรื่องราวเกาะนรกที่เพิ่งแล่นเรือผ่าน “แล้วเหตุการณ์ครั้งนั้นมีคนรอดชีวิตไหมคะ?” ฉันถามเพิ่มเติมจากลูกบัว เขาส่ายหน้า “ไม่มีใครรู้หรอก นายทุนใหญ่โครงการนั้นรอดก็เพราะไม่เคยขึ้นไปบนเกาะเลยสักหน” เมื่อเรื่องราวของเกาะอาถรรพ์จบลงทันใดนั้นเองท้องฟ้าที่สว่างสดใสกลับมืดครึ้ม เมฆสีดำขนาดใหญ่เข้ามาบดบังแสงอาทิตย์เพียงไม่กี่วินาที เหล่านกกาพากันบินว่อนส่งเสียงร้องระงมอย่างโกลาหล แรงลมพัดลอดผ่านช่องว่างของเรือมันโหมกระหน่ำอย่างต่อเนื่องพร้อมสายฝนที่ร่วงหล่นติดกันเป็นแพจนแทบมองไม่เห็นทางข้างหน้า จู่ ๆ ท้องฟ้าที่มืดครึ้มกลับสว่างวาบเป็นช่วง ๆ พร้อมกับเสียงร้องดังกระหึ่มดังสนั่นไปทั่วสารทิศ เสียงกรีดร้องของสองหญิงสาวร้องขึ้นพร้อมกันด้วยความตกใจหวาดหวั่นแต่ถูกกลบด้วยเสียงของน้ำที่รั่วไหลจากลงจากฟากฟ้า “จับไว้! ชูชีพอยู่กับตัวใช่ไหมหนู!” ลุงขับเรือตะโกนบอกผู้โดยสาร เขาพยายามหมุนพวงมาลัยบังคับให้เรือไม่เสียศูนย์พร้อมกับคว้าชูชีพที่ห้อยติดข้างเรือนำมาใส่ให้กับตัวเอง ฉันหรี่ตาลงเล็กน้อยเพื่อสู้กับเม็ดฝน กวาดตามองหาราวเหล็กสำหรับจับยึด ให้ตายเถอะ ราวเหล็กที่สามารถจับได้อย่างมั่นคงมีเพียงทางด้านหน้าหัวของเรือเท่านั้นที่มั่นคงแต่ด้วยความแรงของคลื่นและลมที่ซัดขึ้นมาตรงนั้นอย่างต่อเนื่องทำให้มันไม่ปลอดภัยเอาเสียเลย “ตรงนั้นแก! จับตรงนั้น!” ฉันตะโกนบอกเพื่อนก่อนจะพุ่งตัวเข้าใส่ ใช้แขนทั้งสองล็อกและเกี่ยวเอาไว้ “หา! ตรงนั้นเนี่ยนะ!” ใบหน้าของเธอซีดเผือดเมื่อเห็นน้ำทะเลซัดเข้าอย่างต่อเนื่อง เธอพยายามมองหาจุดปลอดภัยจุดอื่นแทน ทว่าตรงนั้นกลับดีที่สุดแล้ว ลูกบัวกลั้นใจพุ่งตัวไปยังราวเหล็กฝั่งตรงข้ามธารรักและใช้แรงทั้งหมดที่มีเกาะเกี่ยวไม่ให้กระเด็นตก “ลุง!!” ฉันร้องเสียงหลงเมื่อมองไปทางลุงคนขับเรือที่เซไปเซมาอย่างทุลักทุเล “ลุงระวัง!” สิ้นเสียงเตือนที่เอ่ยออกไปจอภาพก็ค่อย ๆ ดับลง รู้สึกแค่เพียงเหมือนร่างกายที่อ่อนปวกเปียกกำลังลอยตัวอยู่กลางอากาศราวกับมีปีกบินขึ้นสูงและร่วงลงสู่ที่ต่ำทันที “ธาร!!” ลูกบัวตัวเย็นวาบสั่นระริกเมื่อเห็นภาพเหตุการณ์เพื่อนลอยหายลงสู่ทะเลไปต่อหน้าต่อตา เพียงไม่กี่วินาทีเธอก็เปลี่ยนไปโฟกัสเหตุการ์ณใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นภายในสาม...สอง...หนึ่ง และทุกอย่างก็นิ่งเงียบไปพร้อมกับเสียงกรีดร้องสุดท้ายราวกับไม่เคยมีเหตุระทึกเกิดขึ้นในทะเล ณ จุดนี้มาก่อนเลย ****** ฉันเหม่อมองทอดสายตาไปยังเส้นขอบฟ้าเมื่อภาพความทรงจำผุดเข้ามาในหัวถึงเหตุการณ์พายุบนเรือ ก้มมองเวลาที่ข้อมือ สามชั่วโมง? แล้วท้องฟ้าแจ่มใสนี่มันอะไรกัน? ทุกคนอยู่ที่ไหน? ในขณะที่กำลังเหม่อคิดไม่ตกกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นกับตัวไม่ถึงวันก็มีเสียงบางอย่างตกลงกระทบกับพื้นดังตุ๊บ เมื่อหันไปตามเสียงที่มาใจก็ร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่ม พระเจ้าช่วยกล้วยทอด! ลูกมะพร้าวลูกโตสีเขียวสดกำลังสั่นเล็กน้อยก่อนจะนิ่งสนิท เกือบจะสิ้นชีพใต้ต้นมะพร้าวนี่เสียแล้ว แหงนหน้ามองยอดต้น หนึ่ง สอง สาม สี่...โอ้โห! มีเป็นสิบ ๆ ลูกเลยโว้ย! โชคดีที่มันร่วงลงมาแค่ลูกเดียวไม่งั้นศพไม่สวยแน่ รีบคลานตัวเองออกห่างจากรัศมีแรงโน้มถ่วงดีกว่า หัวใจยังไม่ทันหายตื่นตระหนกกับลูกมะพร้าว เรื่องราวบางอย่างที่เพิ่งได้รับข้อมูลมาก็พุ่งชนเข้ามาในหัว เรื่องราวของเกาะอาถรรพ์! ตายทุกคน!! ฉันอยู่บนเกาะแห่งนี้!!!

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

เล่ห์รักนายหัว

read
6.7K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
14.3K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
39.5K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
4.1K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
13.6K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook