เธอวางคางบนบ่า ประนอมลูบแก้มนวลด้วยความสงสารที่ลูกสาวต้องมาลำบากทำงานกลางคืนเพื่อส่งเสียตัวเองเรียนจนจบ โดยไม่รับความช่วยเหลือจากเดือนดาราพี่สาว ซึ่งแต่งงานไปกับไต้พิศาลเมื่อหลายเดือนก่อน
“กลับช้านะลูกวันนี้ แขกที่ร้านมีเยอะหรือไง?”
“ค่ะแม่ ไต้ภีมขึ้นฝั่งเลยเหมาร้านให้ลูกน้องดื่มกินกันสนุกไปเลย” นิรกาญไม่กล้าบอกเรื่องที่เธอเจอมาเมื่อครู่ เพราะกลัวมารดาเป็นห่วง
“ไต้ภีมกลับมาแบบนี้ ยัยเดือนคงอยู่ไม่สุขแน่ๆ” ประนอมเอ่ยด้วยความกังวลใจ เพราะบุตรสาวคนโตมักจะแวะมาเยี่ยมเยือนและเล่าเรื่องไต้ภีมะที่เข้าใจผิดคิดว่าเธอแต่งงานกับพ่อของเขาเพียงเพราะหวังสมบัติ
“พี่เดือนต้องพิสูจน์ตัวเองนะจ๊ะแม่ ถ้าแกไม่ได้เป็นอย่างที่ไต้ภีมพูด พี่แกก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ค่ะ” เธอยิ้มให้มารดาเพราะเห็นฤทธิ์ของไต้ภีมะมาแล้ว แค่ถูกใจเธอก็ให้ลูกน้องมาฉุด ถ้าเกลียดนี่ไม่ตามราวีให้ตายกันไปข้างเลยหรือไง
“กว่าจะทำให้ไต้ภีมยอมรับได้ แม่กลัวเดือนมันจะท้อซะก่อนน่ะสิ” สีหน้าที่ดูกังวลใจของมารดาทำให้นิรกาญอดห่วงพี่สาวขึ้นมาไม่ได้
“พี่เดือนเก่งอยู่แล้วค่ะแม่ เอาตัวรอดได้แน่นอนค่ะ ว่าแต่ทำไมทำขนมเยอะจัง” นิรกาญเอ่ยถามพลางมองขนมใส่ไส้ ตะโก้ ขนมกลีบลำดวน และเม็ดขนุนเหลืองอร่ามน่ากินเต็มถาด
“พี่เดือนโทรมาสั่งจ้ะ พรุ่งนี้เป็นวันครบรอบวันตายของเมียไต้พิศาล” ประนอมบอกพลางจัดขนมใส่ซึ้ง
“นิ่มขออาบน้ำก่อนนะจ๊ะ เดี๋ยวลงมาช่วย” นิรกาญหอมแก้มมารดาแล้วลุกขึ้นไปอาบน้ำ ประนอมมองตามลูกสาวคนเล็กอย่างรักใคร่
กล้าและเส็งผละจากนิรกาญมาก็รีบไปที่คอนโดของเจ้านายหนุ่ม ภีมะมองคนสนิทที่เดินเข้ามาในห้องรับแขกด้วยความแปลกใจ
“พวกมึงสองคนไปไหนมาวะ หายหัวไปซะนาน” ภีมะถามลูกน้องขณะถอดเสื้อผ้าโยนให้ แล้วเดินไปคว้าผ้าเช็ดตัวเตรียมจะเดินเข้าไปอาบน้ำ
“ก็ไปเอาตัวผู้หญิงที่ไต้หมายตามาให้น่ะสิครับ” กล้ารับผ้าไปใส่ตะกร้าขณะตอบ ชายหนุ่มรีบมองหาคนหน้าสวยที่อยากได้มานอนข้างกายแต่ก็ไม่เห็น
“ไหนวะคนที่มึงว่า” ไต้หนุ่มเปลี่ยนใจเดินมาคุยต่อ กล้าและเส็งหันมามองหน้ากัน เส็งจึงเป็นคนตอบคำถาม
“นังนั่นมันบอกเพิ่งไปตรวจเลือดมานะสิครับไต้ ผมสองคนเลยไม่กล้าเสี่ยงหิ้วมาให้”
ภีมะหรี่ตามองลูกน้องทั้งสอง ภาพสาวเสิร์ฟคนสวยลอยเข้ามาในห้วงคำนึง “หึๆ พวกมึงโดนผู้หญิงคนนั้นหลอกแล้วโว้ย! ดูนัยน์ตาตื่นเป็นนางสมันกำลังกลัวนายพรานอย่างนั้น ดอกไม้ยังไม่มีใครต้องแน่ไอ้พวกโง่” ไต้ก๋งผู้มากไปด้วยประสบการณ์ด้านราคะเอ่ยขึ้น ทำเอากล้าและเส็งมองหน้ากันแล้วกระแทกกำปั้นใส่ฝ่ามืออย่างแค้นใจ
“บ้าเอ้ย! พรุ่งนี้เห็นดีกันแน่นังโสเจ้าเล่ห์” กล้านั้นโกรธจนใบหน้าดำหน้าแดง ภีมะมองลูกน้องที่เสียรู้ผู้หญิงกลางคืนเป็นครั้งแรกก่อนจะเดินเข้าไปอาบน้ำอย่างสบายใจเฉิบ
“พรุ่งนี้ไต้เตรียมขึ้นสวรรค์กับคุณโสคนนั้นได้เลย ผมสองคนจะเอามาประเคนให้ถึงที่เองครับนาย” กล้าเอ่ยอย่างมาดมั่นและโกรธแค้น
“พรุ่งนี้กูไม่ว่าง เดี๋ยวกูไปหาแม่นั่นที่เล้าเจ้พลอยเอง แต่คราวหน้าพวกมึงสองคนอย่าเสียรู้เธออีกล่ะ” เสียงกำชับดังออกมาจากห้องน้ำ กล้าและเส็งรับคำแล้วกลับออกไป
แม้จะนอนดึกแค่ไหนแต่นิรกาญก็เป็นคนตื่นเช้า เพื่อช่วยมารดาส่งขนมให้กับแม่ค้า หญิงสาวจึงเป็นลูกมืออยู่ประจำ แต่วันนี้ขนมถูกพี่สาวเหมาไปบางส่วน ทำให้เธอส่งขนมเฉพาะลูกค้าที่คุ้นเคยกันเท่านั้น เมื่อส่งขนมเสร็จนิรกาญก็ต้องเอาขนมไปให้พี่สาวที่คฤหาสน์หลังใหญ่ของไต้พิศาล และภาวนาว่าอย่าให้เจอไต้ภีมะที่นั่นเลย
“เมื่อคืนคงจะดื่มหนักป่านนี้คงยังไม่ตื่นแน่ๆ รีบไปรีบกลับดีกว่า” นิรกาญวางแผนเพื่อเอาตัวรอด ก่อนจะเหมารถสองแถวให้มาส่งที่ประตูด้านหลังคฤหาสน์
เมื่อก็มาถึงคฤหาสน์หลังใหญ่ นิรกาญก็โทรให้พี่สาวออกมารับที่ประตูหลัง เพราะเธอไม่อยากเจอใครในคฤหาสน์หลังนั้น รอสายไม่นานเสียงแหบพร่าของไต้พิศาลก็ดังขึ้น
“บ้านไต้พิศาล”
“คุณท่านคะ นิ่มน้องสาวพี่เดือนเองค่ะ” หญิงสาวทักทายอย่างนอบน้อม
“หนูนิ่มเองเหรอ มีอะไรกับเดือนหรือเปล่า พอดีเดือนเขาดูความเรียบร้อยในครัวอยู่น่ะ” ไต้ชราเอ่ยถามอย่างยินดี เพราะท่านเองก็เอ็นดูน้องเมียคนนี้ไม่น้อย
“แม่ให้เอาขนมมาให้ค่ะ ตอนนี้นิ่มรออยู่ประตูหลัง” นิรกาญพูดพลางมองไปรอบๆ อย่างระแวดระวังตัว เพราะถนนเส้นหลังคฤหาสน์นี้ไม่ค่อยจะมีรถราผ่านเท่าใดนัก
“ทำไมไม่เข้าประตูหน้าล่ะหนูนิ่ม ญาติเดือนก็เหมือนญาติฉันเหมือนกัน”
“นิ่มเกรงใจค่ะ ยังไงรบกวนคุณท่านให้คนมารับขนมด้วยนะคะ” นิรกาญวางสายเสร็จก็ยืนรออยู่ข้างประตูเหล็กอย่างร้อนใจ
ขณะเดียวกันภีมะก็ขับรถโฟว์วิลสีดำตรงมาที่ประตูด้านหลังอย่างประจวบเหมาะ ดวงตาคมเข้มจ้องมองร่างสมส่วนในชุดกางเกงสี่ส่วนกับเสื้อยืดสีขาวพอดีตัวยืนอยู่ ชายหนุ่มก็แสยะยิ้มทันที
“เฮ้อ! นั่นมันนังโสเจ้าเล่ห์คนนั้นนี่หว่าไอ้เส็ง” กล้าชี้ไปที่ประตู เส็งที่ทำหน้าที่ขับรถจึงรีบเลี้ยวเข้าไปจอดใกล้ๆ เล่นเอานิรกาญตกใจขยับห่างออกจากถนนแทบไม่ทัน กล้าและเส็งรีบเปิดประตูลงมา ส่วนภีมะกลับนั่งมองหญิงสาวที่ต้องตาในรถเงียบๆ