“ลัคกี้ไม่เคยกัดใคร ครูไม่ต้องกลัวหรอกค่ะ” เด็กน้อยบอกพลางลูบหัวน้องหมาตัวโตที่อยู่ข้างๆ
“ไม่เคยกัดก็ใช่ว่าจะไม่กัด อีกอย่างครูก็ยังไม่อยากเป็นคนแรกที่โดนมันกัด เพราะฉะนั้นเรารีบมาเรียนกันดีกว่าเนอะ เผื่อเสียงเพราะๆ ของเปียโนจะทำให้ลัคกี้สงบลงได้ มาค่ะ เรามาทำความรู้จักด้วยเสียงดนตรีนะคะ” ครูสาวว่าพลางเดินมานั่งที่เก้าอี้เปียโน จากนั้นก็เริ่มบรรเลงเพลงจังหวะสนุกสนานพร้อมกับแนะนำตัวเองไปด้วย
“รู้ไหมว่าเสียงดนตรีมันมีความพิเศษยังไง” ครูสาวหันมาถาม ในขณะที่เด็กน้อยก็ส่ายแทนคำตอบ
“พิเศษตรงที่มันสามารถสื่อสารได้ว่าเรากำลังรู้สึกอะไร งั้นเดี๋ยวครูจะเล่นเพลงนี้ให้หนูฟัง แล้วให้หนูลองทายดูนะคะว่าครูกำลังรู้สึกอะไร” สิ้นเสียงมีนาก็รัวนิ้วลงบนคีย์บอร์ดเล่นเพลง Eine kleine Nacht – Mozart ดูเหมือนจังหวะสนุกสนานจะสะกดเด็กน้อยให้นั่งฟังนิ่งด้วยความสนใจ
“เป็นไงคะ ฟังแล้วพอจะรู้ไหมว่าครูกำลังรู้สึกยังไง” เล่นเสร็จครูสาวก็หันมาถามนักเรียนที่นั่งฟังตาแป๋ว
“มีความสุขค่ะ” เด็กน้อยจันทร์เจ้าตอบไปตามความรู้สึกที่ตัวเองสัมผัสได้
“ว้าว! เก่งมากค่ะ เห็นไหมคะว่าหนูมีพรสวรรค์ ครูเชื่อว่าถ้าหนูได้เล่น หนูจะต้องมีความสุขเหมือนครูแน่ๆ เลยค่ะ งั้นเรามาเริ่มกันเลยดีไหมคะ”
“เมื่อกี้ครูยังกลัวหมาจนหน้าซีด แล้วทำไมตอนนี้ครูถึงมีความสุขล่ะคะ หรือว่าเสียงดนตรีทำให้ครูเลิกกลัวหมาแล้ว” ครูสาวถึงกับสะอึกก่อนจะหันไปมองหน้าน้องหมาด้วย อา…แน่นอนว่าเธอยังกลัวอยู่
“ฮ่าๆๆ น่าจะใช่แน่ๆ เลย แต่ความสุขยิ่งกว่าของครูก็การได้มาสอนหนูวันนี้นะ เสียงดนตรีทำให้ครูลืมกลัว แล้วหนูล่ะมีอะไรที่กลัวและอยากให้เสียงดนตรีช่วยให้หายกลัวไหม” เด็กน้อยพยักน้อยๆ
“งั้นเรามาช่วยกันสร้างเสียงเพราะๆ ให้ความสุขขับไล่ความกลัวกันนะคะ” เธอว่าพลางยื่นมือไปหาเด็กน้อย ในขณะที่รายนั้นก็ค่อยๆ เดินเข้ามาหา เห็นแบบนั้นครูสาวจึงไม่รอช้ารีบยกนักเรียนตัวน้อยขึ้นมานั่งบนตัก จากนั้นก็เริ่มสอนให้รู้จักตัวโน้ตแต่ละตัว แน่นอนว่าภาพครูสาวกับนักเรียนตัวจิ๋วล้วนแล้วแต่อยู่ในสายตาใครบางคนที่กำลังยืนยิ้มน้อยๆ อยู่ข้างประตู
“แล้วจะยิ้มทำไมนักหนาวะ” เมื่อรู้สึกว่าตัวเองเผลอยิ้มนานเกินไป เขาจึงสบถกับตัวเองแล้วรีบเดินออกไปเร็วๆ