บทที่3
ใบผักผู้น่าสงสาร
ด้านพลวัฒน์ตอนนี้เขากำลังเคร่งเครียดกับงานในไร่จนลืมนึกไปว่าตนเองประกาศขายเรือนหอจนกระทั่งจอห์นสันลูกค้ารายใหญ่ของเขาที่ชอบแวะเวียนมาเที่ยวชมไร่เป็นประจำแต่ทว่ากลับไม่มีบ้านพักต้องไปอาศัยรีสอร์ตโฮมสเตย์ของเขาเรื่องค่าใช้จ่ายไม่ใช่ปัญหาใหญ่ของจอห์นสันเพียงแต่เขาก็อยากมีบ้านพักเป็นของตนเอง พลวัฒน์จึงเสนอขายเรือนหอของเขาเพราะตั้งแต่เขาหย่าร้างกับอดีตภรรยาเขาก็ไม่คิดที่จะกลับไปเหยียบเรือนหอนั้นอีกเลย
"พ่อเลี้ยงจะขายบ้านหลังนั้นจริง ๆ หรือครับแถมขายขาดทุนเสียด้วย"
"ฉันไม่รู้จะเก็บไว้ทำไมมันไม่ได้มีค่าไม่ได้มีความหมายอะไร" พลวัฒน์ตอบด้วยน้ำเสียงเหนื่อย ๆ วันนี้ทั้งวันเขาต้องเร่งช่วยคนงานเก็บส้มให้ทันส่งในรอบเที่ยงคืนของวันนี้
"แล้วพวกแม่บ้านล่ะครับพ่อเลี้ยงจะทำยังไง"
"แม่บ้านที่ถูกส่งมาจากบ้านแม่ฉันก็คงส่งกลับไปหรือไม่ก็ให้เงินสักก้อนจะได้ไปตั้งตัวกัน อยู่ที่นี่ไม่จำเป็นต้องมีแม่บ้านก็ได้ช่วย ๆ กันทำนี่แหละ"
ตอนนี้พลวัฒน์ยังไม่รู้ว่าหลานสาวของอดีตภรรยายังอยู่ที่เรือนหอหลังนั้นแถมคนงานในไร่ก็ไม่มีใครกล้าพูดเรื่องนี้เพราะกลัวว่าใบผักจะถูกไล่ออกจากบ้านบางคนก็สงสารเพราะเธอเป็นเด็กกำพร้าแต่บางคนก็หวังที่จะได้เชยชมดอกไม้งาม
"แล้วนายหัวจะเข้าไปดูบ้านไหมครับเผื่อมีตรงไหนสึกหรอพวกผมจะได้ช่วยกันทำเกิดคุณจอห์นสันมาดูจะได้ไม่มีจุดบกพร่องอะไร"
"ไว้พรุ่งนี้ค่อยไปก็ได้วันนี้เร่งงานให้เสร็จเถอะจะได้พักกัน"
จริง ๆ จะไม่ไปก็ยังได้เพราะว่าบ้านหลังนั้นเพิ่งสร้างมาไม่เท่าไหร่เขาเลิกกับขวัญฤดีไปเพียงแค่ 3 ปีแถมที่บ้านยังมีแม่บ้านคอยดูแลไม่มีทางทรุดโทรมไปได้แน่นอน
วันต่อมา
ช่วงสายของวันนี้พลวัฒน์เดินทางมายังเรือนหอที่เขาไม่คิดจะย่างกายเข้ามา มาถึงเหล่าแม่บ้านก็ต่างเข้ามาทักทายรวมถึงพูดจาให้ร้ายใบผักจากที่พลวัฒน์ไม่รู้เรื่องของเด็กคนนี้กลับกลายเป็นเขาต้องไปดูให้เห็นกับตาว่าเด็กคนนี้ยังอยู่ที่นี่ได้อย่างไรเพราะเธอเป็นคนติดตามของขวัญฤดีทำไมขวัญฤดีถึงไม่พาเธอไปด้วย
ใบผักกำลังทำงานอยู่หลังบ้านวันนี้เธอมีออเดอร์มะระหลาย 10 กิโลที่ต้องส่งภายในเย็นนี้พลวัฒน์เดินเข้าไปใกล้ๆ เขาจ้องมองใบผักด้วยความสงสัยจนเธอเงยหน้าขึ้นมาเห็นดวงตาคู่นั้นก็ยิ่งตกใจเธอไม่เจอหน้าเขามาเป็นเวลาสามปี
"คุณอา!!" ความตกใจของเธอทำให้เธอหงายหลังก้นจ้ำเบ้าด้วยชุดเสื้อผ้าที่เธอสวมใส่ค่อนข้างสบาย ๆ สำหรับเธอแต่อาจจะดูไม่เรียบร้อยสำหรับคนอื่น
"ทำไมยังไม่ออกไปจากบ้านฉันอีก!" พลวัฒน์ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา "หรืออาของเธอต้องการให้เธออยู่สืบเรื่องราวของฉัน ไม่จบไม่สิ้นสินะ!"
"ไม่ใช่นะคะคุณอา คุณอากำลังเข้าใจผิดค่ะ"
"เข้าใจผิดเรื่องอะไรเรื่องที่อาของเธอมีชู้หรือว่าเรื่องที่เธอตั้งใจจะจับผู้ชายวัน ๆ ถึงได้แต่งตัวโสโครกเช่นนี้!"
"คุณอา...."
ใบผักเงยหน้ามองพลวัฒน์ดวงตาของเธอเคล้าไปด้วยหยาดน้ำตาเธอไม่เคยถูกเขาดุไม่เคยถูกเขาด่าสักครั้งพลวัฒน์ที่เธอเคยรู้จักเป็นผู้ชายสุภาพอ่อนโยนและแสนดีกับเธอมากเหตุไฉนครั้งนี้เขาถึงได้เปลี่ยนไปเรากับคนละคน
"พ่อเลี้ยงคะนางนี่มันทำงานขายตัวค่ะเสนียดจัญไรของบ้านเราจริง ๆ!"
"อีเดือนมึงพูดมากเกินไปแล้วใบผักไม่ได้ทำงานแบบนั้นเสียหน่อย พ่อเลี้ยงอย่าไปฟังมันนะคะป้าดูแลใบผักเองป้ายืนยันได้ว่าใบผักไม่ใช่คนแบบนั้นทุกวันนี้ก็ทำงานของเธอส่งเสียตัวเองเรียนเงินเดือนก็ไม่ได้เหมือนคนอื่นเขา"
"แต่ถึงอย่างไรเธอก็ไม่ควรอยู่ที่นี่เก็บข้าวของออกไปจากบ้านฉันได้แล้วอาทิตย์หน้าบ้านหลังนี้จะมีคนเข้ามาอยู่ส่วนทุกคนฉันจะให้เงินสักก้อนไปตั้งตัว"
เหล่าแม่บ้านหันมองหน้ากันด้วยความตกใจจู่ ๆ ก็กำลังจะตกงานเสียอย่างนั้นไหนตอนแรกคนงานในไร่บอกกับพวกเธอว่าพลวัฒน์จะส่งพวกเธอไปอยู่กับคุณท่านที่กรุงเทพฯไง
"หมายความว่าพวกเราถูกไล่ออกหรือคะ"
"ก็ไม่เชิงเพราะว่าจอห์นสันคงไม่จ้างพวกเธอเขามีภรรยาเป็นคนไทยและมีคนติดตามอยู่แล้วส่วนพวกเธอเงินก้อนที่ฉันให้ไปก็ตั้งหลักปักฐานกันให้ดี ส่วนเธอใบผักฉันจะส่งเธอกลับบ้านไปเตรียมตัวได้แล้ว"
"ใบผักลองโทรหาคุณพ่อแล้วค่ะแต่ใบผักติดต่อท่านไม่ได้ อาขวัญเองก็เหมือนกันใบผักไม่รู้จะไปทางไหนใบผักยังต้องเรียนคุณอาคะอย่าเพิ่งไล่ใบผักออกเลยนะคะ" น้ำเสียงสั่นเครือของเธอทำให้พลวัฒน์ถอนหายใจสองมือล้วงกระเป๋ากางเกงสายตาจดจ้องราวกับคนกำลังจับผิดคนตรงหน้า
"นั่นมันเป็นปัญหาของเธอแต่ช่างเถอะฉันไม่ได้ใจไม้ไส้ระกำขนาดนั้นอย่าให้ฉันรู้ก็แล้วกันว่าขวัญให้เธออยู่ที่นี่เพื่อสืบเรื่องราวของฉันทุกวันนี้อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่ามีนักสืบแวะเวียนมาที่ไร่ของฉันเป็นประจำ"
"ใบผักสาบานได้ค่ะว่าใบผักไม่รู้เรื่องนี้จริง ๆ ตั้งแต่วันนั้นที่อาขวัญไป อาขวัญก็ไม่เคยกลับมาหาใบผักได้แต่บอกว่าจะมารับแต่ก็ไม่มา"
"ไว้ฉันจะคิดดูอีกทีก็แล้วกันว่าจะให้เธอไปอยู่หอพักหรือว่าทำงานกับจอห์นสันแค่เด็กคนเดียวไม่น่ามีปัญหาอะไร"
-------------------------
ขอให้โลกนี้ใจดีกับเธอนะใบผัก