Ep4(จบบท) : หน้าที่ของเชลย By...kanokrot

1733 Words
“พี่ว่าอะไรนะ!...” ขมิ้นร้องขึ้นเสียงดัง ทำให้คนที่กำลังนั่งใบหน้าตึงเครียดในห้องครัวถึงกับสะดุ้งตกใจ ปลายนิ้วชี้ยกขึ้นแหย่เข้าไปในรูหู เมื่อรู้สึกมันสั่นสะเทือนจนลั่นเปรี๊ยะเพราะไอ้เสียงปรอทแตกของคนเป็นน้องสาว “คุณเสือแกพาพี่ไปฉุดสาวมาจากกรุงเทพฯ...” เข้มบอกย้ำน้องสาวชัดๆอีกรอบ ก่อนจะถอนหายใจหนักหน่วง คิดไปคิดมาไม่น่าให้ความร่วมมือกับเจ้านายของตัวเองเลย นี่มันเป็นการหาเรื่องซวยให้ตัวเองชัดๆ ดูก็รู้ คุณคนสวยคนนั้นไม่ได้เต็มใจให้ฉุดเลยสักนิดเดียว... “ตายๆๆ ผู้หญิงคนนั้นเขาเป็นลูกเต้าเหล่าใครล่ะจ๊ะพี่ แล้วคุณเสือแกหน้ามืดไปฉุดเขามาทำไม ฉันก็เห็นแกมีสาวๆมาตามล้อมหน้าล้อมหลังออกจะเพียบ ไม่น่าจะขาดแคลนจนถึงขั้นต้องไปฉุดใครเขามา...” “ก็คุณนิ่มไง เอ็งจำเด็กน่ารักๆคนนั้นได้หรือเปล่า...” “คุณนิ่ม...คุณหนูที่ถักเปียสองข้างนะเหรอพี่” “ใช่...ลูกสาวของคุณละไมนั่นแหละ” “ตายแล้ว!พี่ นี่ถ้าหากคุณผู้หญิงบ้านใหญ่รู้เข้า มีหวังได้ซวยกันยกเซ็ตอย่างไม่ต้องสงสัยแน่ๆเลยพี่...” “เอ็งก็อย่าเผลอสาระแนไปฟ้องท่านก็แล้วกัน ปล่อยให้คุณเสือแกจัดการแก้ปัญหานี้ด้วยตัวของแกเองเถอะ ไอ้เรามันเป็นขี้ข้าเขา ถึงจะรู้อันไหนดีไม่ดี แต่ปากเอ็งจะไปสั่งห้ามเขาได้ไหมล่ะ ทางที่ดี เราสองคนก็หุบปากแล้วทำตามคำสั่งของคุณเสือเป็นพอ เรื่องอื่นเราก็ปิดหูปิดตาซะ จะได้ไม่เดือดร้อน...” “มันจะดีหรือพี่ แล้วครอบครัวคุณนิ่ม เขาจะไม่แจ้งความจับคุณเสือของเราหรอกเหรอ เล่นไปดักฉุดลูกสาวเขามาแบบนี้...” ขมิ้นมองหน้าพี่ชายเขม็ง “ก็คงไม่น่ามีปัญหาอะไรหรอกมั้ง เพราะคุณเสือแกรู้จักคนบ้านนั้นดีอยู่แล้ว...” ตอนนี้เข้มไม่ได้นึกห่วงคนบ้านนั้น แต่ที่ตัวเองนึกห่วงคือคุณหนูบ้านนั้นที่โดนฉุดมาต่างหากล่ะ เมื่อหลายวันมานี้ เจ้านายรักของตัวเอง แทบจะไม่อยู่ห่างจากคุณหนูนิ่มนางฟ้าเดินดินได้สักวินาที ไอ้ที่หนักหนาและอดสงสารไม่ได้ ก็คุณเสือของมันเล่นใช้งานคุณหนูแสนบอบบาง โดยการให้ทำสวนกลางดินกลางแดดร้อนเปรี้ยงปร้างน่ะสิ ลูกคุณหนูเกิดมาจากตะกูลผู้รากมากดีผิวพรรณบอบบางอย่างนั้นใครมันจะไปทนทานได้ไหวกันเล่า... “แล้วคุณนิ่มนี่โตขึ้นสวยมากไหมพี่ ฉันชักอยากเห็นหน้าของเธอขึ้นมาแล้วสิ...” “สวยสิ ไม่งั้นคุณเสือจะลงทุนไปดักฉุดด้วยตัวเองเลยหรือไงล่ะ ใช้ให้พวกพี่ไปทำแทนก็ได้...” “อย่างงั้นเองหรอกเหรอพี่ โอ้ย! งั้นไม่ได้การณ์ซะแล้วล่ะ ขอฉันไปดูให้เห็นกับตาหน่อยสักหน่อยเถอะ ทำไมคุณเสือถึงได้กล้าทำอะไรพิเรนอย่างนี้ได้นะ ไม่รู้หรือไง คุณหญิงท่านทั้งรักและก็เมตตาคุณนิ่มเธอมากขนาดไหน ถ้ารักถ้าชอบเขา ทำไมคุณเสือถึงไม่เข้าตามตรอกออกตามประตูล่ะพี่...” พอได้รู้ว่าหญิงสาวที่ถูกเจ้านายรักฉุดมาเป็นใคร ขมิ้นก็ถึงกับนั่งไม่ติดเก้าอี้ รีบลุกขึ้นพรวดพราดมองค้อนคนให้ความร่วมมืออย่างขุ่นเคืองใจ “พี่นะพี่เข้ม ทำไมไม่รู้จักห้ามปรามคุณเสือเอาไว้บ้าง ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลังกันให้ดีซะก่อน ระวังผลที่ได้มันจะไม่คุ้มกับผลเสีย” “เอ็งก็หัดใจเย็นๆเสียบ้างเถอะโว้ยขมิ้น ถ้าคุณเสือแกหมดสนุกแกก็จัดการไปสู่ขอคุณนิ่มเองนั่นแหละ ถ้าเอ็งอยากจะช่วย ก็ช่วยไปดูแลคุณนิ่มแกหน่อย ไม่รู้ป่านนี้จะทานข้าวทานปลาหรือยัง ก่อนพี่จะขับรถกลับมา ยังเห็นคุณเสือแกใช้ให้ขุดดินอยู่ในสวนกล้วยอยู่เลย...” “อะไรนะพี่!!!” เป็นอีกครั้งที่เข้มต้องยกมือขึ้นปิดหูกับเสียงปรอทแตกของน้องสาว “เอ็งจะแหกปากเสียงดังทำไมนักหนาวะ ก็นั่งกันอยู่ใกล้แค่นี้เอง กลัวคนอื่นเขาจะไม่ได้ยินไปได้...” “ก็ฉันตกใจนี่พี่ก็...” คนบอกว่าตกใจส่งค้อนควักไปให้พี่ชาย “เออ...ข้าก็ตกใจเสียงเอ็งเหมือนกันขมิ้น...” ขมิ้นได้แต่ยกฝ่ามือขึ้นตบอกตัวเองเบาๆพร้อมกับขยันส่งค้อนให้พี่ชายตาหลับตาเหลือก นี่ยังมีอะไรจะเซอร์ไพรส์เกิดขึ้นมาอีกหรือเปล่าหนอ คุณเสือนะคุณเสือ โตแล้วยังจะคิดทำเรื่องพิเรนไปดักฉุดสาวมากลั่นแกล้งเขาอยู่อีก อะไรมันจะยิ่งกว่าละครน้ำเน่าหลังข่าวปานฉะนี้ คิดแล้วก็คงต้องรีบไปดูคุณหนูนิ่มเธอสักหน่อย เพราะตัวเองมัวแต่ไปทำธุระในเมืองมาหลายวัน เลยไม่รู้เหตุการณ์ความเคลื่อนไหวของเจ้านายตัวเอง...          ภายในตัวบ้านไม้สักหลังกระทัดรัดชวนมอง  ซึ่งโดยรอบของตัวบ้านไม้ล้วนปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใหญ่นาๆพรรณดูหลากหลายชนิด บางต้นปลูกไว้เพื่อใช้รับประทาน และบางต้นปลูกไว้เพื่อใช้เป็นร่มเงาเอาไว้บดบังแสงแดดจร้าของดวงอาทิตย์  ปวีณจึงมักจะมาขลุกตัวอยู่กับบ้านสวนหลังนี้มากกว่าการขึ้นไปดูแลกิจการที่กรุงเทพฯ...  อาชีพชาวสวนเป็นอาชีพในฝันของปวีณเคยนึกอยากทำมันมาตั้งแต่เด็ก หากเขามีโอกาส เขาก็อยากจะสานต่อเจตนารมณ์เดิมของผู้เป็นบิดาให้สำเร็จจงได้... เมื่อบิดาของเขาเป็นเพียงคนทำสวนธรรมดาๆคนหนึ่ง และบังเอิญโชคชะตานำพาหญิงสาวงดงามจากเชียงใหม่ให้มาพบเจอและตกหลุมรักกันถึงที่นี้ จึงก่อเกิดเรื่องราวความรักต่างชนชั้นขึ้นมากมาย จนเมื่อความรักของทั้งคู่สุกงอมเต็มที่ ทั้งคู่จึงตกลงปลงใจแต่งงานกัน และได้มีโซ่ทองคล้องใจนั่นก็คือเขานั่นเอง...  ในช่วงที่มารดาของเขาตั้งครรภ์อ่อนๆ บิดาของเขาจึงตัดสินใจโยกย้ายตัวเองขึ้นไปบริหารงานทที่เชียงใหม่อย่างเต็มตัวแทนคุณตา เมื่อทางนั้นน่าจะสร้างอนาคตที่ดีที่สุดสำหรับลูกและภรรยาได้ โดยปล่อยไร่สวนของตัวเองให้ชาวบ้านซึ่งไร้ที่ทำกินในระแวกนี้ ได้ทำการเช่าพื้นดินทำกินกันต่อไปจนถึงปัจจุบันนี้... “เร่งมือเข้าหน่อยไม่ได้หรือไง ฉันหิวจนไส้จะขาดตายอยู่แล้วนะ หึ...ไม่รู้จะกระเดือกลงคอหรือเปล่า ไอ้อาหารฝีมือลูกคุณหนูอย่างเธอน่ะไม่ใช่มันดูดีแต่น่าตาหรอกนะ เพราะฉันเห็นมานักต่อนัก ข้างนอกสุกใสข้างในมันเป็นโพรง...” คนโดนเร่งต้องเม้มริมฝีปากเข้าหากันเอาไว้ ไม่ให้ตัวเองเผลอส่งเสียงกรี๊ดออกมา เมื่อความอดทนของเธอใกล้จะหมดลงเต็มที แต่ก็ไม่มีแรงมากพอจะทำอย่างนั้น เมื่อวันนี้ทั้งวันเธอแทบจะไม่ได้พักมือจากการทำงานงกๆตามคำสั่งของไอ้ผู้ชายเฮ็งซวยคนนี้ คนที่เธอยังไม่รู้จักแม้แต่ชื่อของมันเลยด้วยซ้ำ มันใช้งานเธอยิ่งกว่าทาสเสียอีก... “ถ้าช้านักฉันจะได้กินอย่างอื่นแทนไอ้อาหารบนเตานั่นซะ...” “คนบ้า ไม่เห็นหรือไงว่าฉันก็เร่งมือทำอยู่นี่ จะให้มันเร็วขนาดไหนคนมีสองมือสองเท้าจะเร่งอะไรนักหนาก็ไม่รู้ ถ้าหิวมากนักล่ะก็ งั้นแกก็มาทำกินเองเสียสิมันจะได้ทันใจแกไง...” นาทยสุรีร้องประท้วงเสียงฮึดฮัด วางทัพพีคนแกงลงกับโต๊ะเสียงดัง “อย่ามาทำปากดีกับฉันนะหนูนิ่ม...” เสียงห้าวตวาดลั่น “แล้วก็เลิกเรียกฉันว่า..แก...เสียด้วย เพราะฉันเป็นผัวของเธอไม่ใช่เพื่อนเล่น...” ร่างใหญ่ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ชี้นิ้วสั่งด้วยใบหน้าดุดัน “ฉันจะเรียกอะไรมันก็เป็นสิทธิ์ของฉัน คิดว่าแกเป็นใคร สูงส่งมาจากไหนมิทราบ ยิ่งแกห้ามฉันก็จะเรียกว่า...แก...แก...แก...มีอะไรไหม ไอ้โรคจิต...” คนท้าทายลอยหน้าลอยตา ยิ่งเห็นเขาโกรธจนนั่งก้นไม่ติดเก้าอี้ หญิงสาวก็แอบชอบใจ ดีจะได้รู้ซะบ้าง คนอย่างเธอในยามดีก็ดีใจหาย แต่ถ้าลุกขึ้นมาร้าย ใครหน้าไหนเธอก็ไม่กลัวทั้นนั้น อย่าคิดว่าเห็นภายนอกเธอดูนุ่มนิ่มอ่อนหวาน ดูเหมือนคนหัวอ่อนแล้วจะยอมใครง่ายๆ ถ้าดีมาเธอก็ดีตอบแต่ถ้าร้ายมาเธอก็จะสู้จนหัวชนฟ้าให้มันรู้ดำรู้แดงกันไปข้างหนึ่งเหมือนกัน... “มีสิ...มีเยอะเสียด้วย...” ร่างใหญ่สมชายกระโจนลุกพรวดเข้าใส่ร่างน้อย แต่คนรอท่าอยู่แล้ว ก็หลบวูบได้ทันแบบฉิวเฉียด ร่างใหญ่จึงเซถลาจนเกือบล้มดีที่ชายหนุ่มคว้าขอบโต๊ะเอาไว้ได้ทันเสียก่อน “แม่ตัวดี...จะหนีผัวไปไหนฮะ...กลับมาทำอาหารให้เสร็จเดี๋ยวนี้เลยนะ...โธ่โว้ย...ให้มันได้อย่างนี้สิแม่ตัวแสบ...” คนกัดฟันกรอดๆร้องสั่งอย่างหัวเสีย ใบหน้าหล่อถมึงทึงขึ้นมา ในใจคิดคาดโทษหญิงสาวตัวร้ายเอาไว้ อย่าให้จับได้เชียวนะ พ่อจะจับกดไม่ต้องให้เห็นเดือนเห็นตะวันกันเลยทีนี้... ส่วนคนวิ่งหนีออกมาได้ ต้องถอนหายใจออกมาเสียงดังเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งใจ แต่ยังคงตั้งหน้าตั้งตาวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต เมื่อหญิงสาวเองก็ไม่รู้ว่าตรงนี้เขาเรียกว่าอะไร เมื่อมองไปรอบๆก็เห็นมีแต่ต้นไม้ใหญ่ปลูกเอาไว้ระรานตาเต็มไปหมดทั้งสองฝั่งถนนดิน...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD