นรินดานั่งดูทีวีอยู่คนเดียวเงียบๆ เธอคิดว่าคืนนี้จะค้างที่บ้านของเขา นอนที่โซฟาตัวนี้ก็ไม่เป็นไร ความเงียบเหงาและความหว้าเหว่ทำให้เธอไม่มีที่ไป
จู่ๆ ก็รู้สึกเหงาอย่างไม่ทราบสาเหตุ คิดถึงบิดามารดาจับใจ ยามนี้หากได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา เธอคงได้นั่งดูทีวีกับพวกท่าน
หญิงสาวตบๆ โซฟาไปมาก่อนจะทิ้งตัวลงนอนหลังจากปิดทีวี นอนบ้านของพยัคฆ์ อย่างน้อยก็รู้สึกว่าไม่ได้อยู่คนเดียว
พยัคฆ์เดินออกมาเข้าห้องน้ำ พอเสร็จกิจกำลังจะเข้าห้องนอนเขาก็ชะงักฝีเท้าเมื่อเห็นเงาของเด็กสาวข้างบ้านยังนอนอยู่หน้าทีวี
ชายหนุ่มสบถในใจก่อนจะเดินเข้าไปตรงโซฟา เขาทำท่าจะปลุกเธอขึ้นมาดุด่าว่าทำไมไม่กลับไปนอนบ้าน แต่เห็นร่างที่นอนขดตัวหนาวเหน็บอยู่ตรงหน้าทำให้เขาพูดไม่ออก
ร่างเล็กนอนขดตัวเหมือนเด็กตัวน้อยๆ ใบหน้าเนียนใสอ่อนเยาว์กว่าอายุจริงเข้าไปอีกเมื่อเธอนอนหลับเช่นนี้
นรินดาแทบจะกรีดร้องเมื่อร่างเล็กลอยหวือขึ้นจากโซฟา เธอผวากอดคอหนาเอาไว้ ใบหน้าเหลอหลาเมื่อโดนอุ้มขึ้นกลางอากาศ
“ลุงเสือ”
เธอหลุดอุทานออกมาเมื่อเห็นใบหน้าของเขาชัดเจน
“มานอนทำอะไรตรงนี้”
“ขอโทษค่ะ แต่ที่บ้านไม่มีใคร หนูเหงาขอนอนบ้านลุงเสือได้ไหมคะ”
เขาไม่ตอบว่าอะไรแต่อุ้มเธอพาเข้าไปในห้องนอน คราวนี้คนที่ตกใจอยู่แล้วยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่
แผ่นหลังของนรินดาเบียดกับพื้นเตียงทำให้เธอสะดุ้งสุดตัว ทำท่าจะผวาลุกขึ้นจากที่นอนเขาก็กดเอาไว้
“นอนบนโซฟาไม่ปวดหลังหรือไง”
“เอ่อ...”
เธออึกอักหน้าแดงเมื่อร่างสูงเบียดขึ้นมานอนข้างๆ รีบขยับไปอีกด้านจนแทบตกเตียงเขาก็ดึงกลับมาก่อนทำเสียงดุ
“จะตกเตียงแล้วเห็นไหม”
“หนูดาเกรงใจลุงเสือค่ะ”
“นี่ขนาดเกรงใจนะ”
เขาทำเสียงดุ เธอเลยไม่กล้าพูดอะไรอีก
“นอนเถอะ ดึกแล้ว”
เขาพูดก่อนจะห่มผ้าให้เธอจนถึงอกและพลิกตัวนอนตะแคงไปอีกด้าน
นรินดานอนตัวแข็งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะผ่อนคลายเมื่อเห็นเขานอนหลับไปแล้ว
เธอนอนไม่หลับเอาเสียเลย รู้สึกใจเต้นแรง กลิ่นกายชายหอมกรุ่นทำเอาท้องไส้ปั่นป่วน
หญิงสาวรู้ตัวดีว่าไม่เคยมีความรู้สึกเช่นนี้กับชายคนใดมาก่อน เกิดมาก็ไม่เคยมีแฟน ไม่เคยคบหากับผู้ชายคนไหน เอาแต่ตั้งใจเรียน พอมีความรู้สึกกับพยัคฆ์มันเลยรุนแรงจนเธอมิอาจหักห้าม
นรินดาค่อยๆ ตะแคงหน้ามาหาคนที่นอนหันหลังให้เธออยู่ หญิงสาวค่อยๆ ชะโงกหน้าไปมอง
ใบหน้าคมเข้มที่นอนตะแคงอยู่ผ่อนคลายไม่น้อย เขาดูอ่อนกว่าวัยขึ้นไปอีก
เธอค่อยๆ ไล้นิ้วเบาๆ ไปตามโครงหน้าหล่อเหลา
“อุ๊ย!”
นรินดาอุทานเมื่อโดนตะครุบนิ้ว เธอดึงมือหนีแต่เขารวบเอาไว้แน่น ก่อนจะขึ้นคร่อมทับ เธอตาโตดันอกกว้างของเขาออกห่าง
“จะทำอะไร”
“ปะ... เปล่าค่ะ”
“นึกว่าจะลักหลับ”
“เปล่านะคะ” เธอรีบปฏิเสธ ใบหน้าเหลอหลา
ดูเหมือนเขาจะไม่เชื่อ พยัคฆ์มองเธอนิ่งเหมือนจะค้นคว้าความจริงในจิตใจของเด็กสาว
“ไม่อยากลองเหรอ”
เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงแทบทะลุออกนอกอก เพียงเสี้ยววินาทีที่เธอพยักหน้า เขาก็จับมือของเธอสอดเข้ามาในเสื้อยืดสีขาวที่สวมใส่อยู่
นรินดาหายใจสะท้านเมื่อสัมผัสกับผิวเนื้อเรียบตึงของวัยหนุ่ม เขาจัดการดึงเสื้อยืดสีขาวออกทางศีรษะ ภายใต้แสงสลัวนั้นเธอมองเห็นกล้ามเนื้อแข็งแรงของเขากำลังตื่นตัวอยู่ภายใต้ฝ่ามือน้อยๆ ของเธอ
พยัคฆ์ปลดกางเกงเลย์ออกจากตัว นรินดาตาโตเมื่อเห็นท่อนลำใหญ่โตอยู่ในกางเกงบ็อกเซอร์สีเข้ม เขาจับมือเธอไปดึงกางเกงตัวนั้นออก ก่อนที่ความเป็นชายจะปรากฏต่อสายตา
เธอรู้สึกถึงความวาบหวาม หัวใจเต้นแรงกระชั้นถี่เมื่อเห็นแก่นกายของบุรุษเพศเป็นครั้งแรก
นรินดาหัวใจเต้นกระหน่ำเมื่อเขาจับมือเธอไปสัมผัสกับแก่นความเป็นชาย มันดีดเด้งเต้นเร่าอยู่ในอุ้งมือของเธอ
ขนสีเข้มจากสะดือเชื่อมต่อลงมายังท่อนลำอวบใหญ่สีจัด เธอกลืนน้ำลายลงคอด้วยความสะท้านเมื่อรู้สึกถึงความแห้งผากของลำคอ
“รูดสิ”
เขาพูดเสียงแหบพร่า เธอก็ทำตามอย่างว่าง่าย
“สองนิ้วพอ”
เขากำกับเมื่อเธอรูดไปทั้งมือ เขาก็จัดการให้เธอทำให้ถูกต้อง
“อ๊า...”
เขาเงยหน้าขึ้นครางขณะที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าของเธอ นรินดาไม่เคยเห็นมุมนี้ของพยัคฆ์มาก่อน เธอหน้าแดงซ่านลามไปถึงใบหูยามเมื่อเห็นใบหน้ากระด้างของเขากระตุก
“ดูดสิ”
เขาบอกอะไรเธอก็ทำตามอย่างว่าง่าย
“เหมือนดูดไอติมน่ะ”
เขากำกับเธอก็ทำตาม เลียไปอย่างถ้วนทั่ว รสชาติของเขาแปลกประหลาดล้ำลึก ก่อนที่เธอจะดูด
“อ๊า...”
เสียงแหบห้าวคำรามลั่นยามเมื่อปากของเธอสวมครอบดูดท่อนลำของเขาจนแก้มตอบ
ยิ่งเขาร้องครางเธอยิ่งดูด มือหนาสอดแทรกจิกเข้ามาในผมนุ่มสลวย เสียงหอบรุนแรงของเขาทำเอาเธอตื่นเต้นหนักเข้าไปอีก
คนไม่เคยถูกกดลงบนเตียงนอนกว้าง ใบหน้าของเขาดูดุดันกระด้างอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แต่มันก็เต็มไปด้วยความปรารถนาอันร้อนแรง
“ถอดออก”
น้ำเสียงของเขายังดุดันอยู่เช่นเดิม มือของเธอสั่นยามเมื่อปลดเสื้อผ้าออกจากตัว เขาถอยห่างมองอย่างปรารถนา เธอกอดตัวเองด้วยความเขินอายยามเมื่อเขาลูบไล้ไปทั่วสรรพางค์กาย
พยัคฆ์จับร่างของเธอพิงไปกับพนักหัวเตียง ก่อนจะจับเธอแยกออกจากกันเป็นท่านั่งชันเข่า
“อ๊า... ลุงเสือ”
เธอร้องเสียงหลงเมื่อเขาก้มงุดลงไปลามเลียกลีบกายสาว
“ละ... ลุงเสือ”
เสียงของนรินดาสะท้านเมื่อเขาซุกหน้าเข้ามาอย่างหนักหน่วง จมูกโด่งเป็นสันของเขาเสียดสีอยู่กับติ่งสวาท เธอก้มมองอ้าปากค้างกับภาพที่เห็น เท้าเล็กๆ จิกไปกับพื้นเตียงด้วยความเสียวซ่าน
มือใหญ่แข็งกร้าวรวบขาของเธอเอาไว้จับถ่างออกจนกว้างมากกว่าเดิม
รินรดาจิกมือกับผมของเขาด้วยความเสียว อ้าปากหอบหายใจอย่างรุนแรงเมื่อความเสียวซ่านเข้าจู่โจมอย่างหนัก
เธอแหงนใบหน้าขึ้นร้องครางก่อนที่ร่างกายท่อนล่างจะเกร็งกระตุกอย่างรุนแรง
หยาดน้ำหวานไหลซึมออกมาจากซอกทางรัก พยัคฆ์ก้มลงซดดูดจนเหือดแห้ง ก่อนจะตวัดลิ้นเลีย
เธอหอบหายใจหน้าแดงก่ำ มองเขาอย่างงุนงง
“นอนหงายสิ”
เขาบอกให้นอนหงายแต่เธอโดนเขาจับให้นอนหงายเสียเอง เป็นครั้งแรกที่รินรดากำลังมึนงงและสับสนในใจ
พยัคฆ์ประคองศีรษะของเธอให้ผงกขึ้นมา คนที่กำลังงุนงงมองท่อนลำใหญ่โตที่เขาใช้มืออีกข้างรูดเบาๆ แล้วเสียดสีมากับร่องฉ่ำเยิ้ม
“อื้อ...” เธอเสียวซ่านจนต้องกัดปาก
เขามองสบตาก่อนจะค่อยๆ กดกายลงไปหา คราแรกเธอใจกล้าหยัดกายเสียดสีกับความแข็งแกร่งนั้น แต่พอเขากดเข้ามานี่สิ เธอถึงกับถอยหนี พาสะโพกกระถดไปทางด้านหลัง
เขารวบสะโพกผายของเธอเอาไว้บดจูบอย่างร้อนแรงแล้วสอดแทรกร่างเข้าไปไม่หยุดหย่อน
นรินดาจิกมือกับแขนแกร่งพยายามพาตัวเองหนีแต่ไม่สำเร็จ เขายิ่งกดคลึงเข้าหาบดจูบเธอรุนแรงขึ้น
เป็นครั้งแรกที่เธอทั้งตื่นเต้นทั้งหวาดกลัว ไม่มีคำปลอบโยนยามเมื่อเขาเคลื่อนกายเข้าไปมาจนถึงครึ่งทาง เธอพาริมฝีปากหนี เขาก็บีบปลายคางตามมาบดจูบอย่างเอาแต่ใจ
“รู้ไหมว่าเรื่องบนเตียงฉันเอาแต่ใจแค่ไหน”
เขากระซิบบอกเสียงดุดัน นรินดาถอนสะอื้นด้วยความเจ็บ แต่เขาไม่ได้คิดจะปล่อย ยังคืบคลานเข้าหลอมรวมเป็นหนึ่ง
“อ่ะ”
เธอร้องเสียงหลงเมื่อกายชายแทรกลึกจนเชื่อมกับเธอแทบเป็นเนื้อเดียวกัน เขาประคองใบหน้าของเธอให้ก้มมองความเป็นชายที่สอดเสียบเข้ามาในร่อง
เลือดสีแดงสดไหลซึมออกมา นรินดาหลับตาด้วยความกลัว เขาจุมพิตที่เปลือกตาจับขาเธอถ่างออกจนกว้างมากกว่าเดิมก่อนจะเริ่มขยับ