อุ่นใจรัก 9

896 Words
อุ่นใจรัก 9 “น้องปลอดภัยแล้วนะคะ เป็นการแพ้จากการสารบางชนิดที่น้องอาจจะไปเผลอหยิบจับ หากมีเวลาพาน้องเข้ามาทดสอบการแพ้ได้นะคะ” “ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะคุณหมอ แล้วน้องต้องนอนดูอาการไหมคะ” “ใช่ค่ะ ต้องนอนดูอาการก่อน หากไม่มีอะไรพรุ่งนี้น่าจะกลับได้ค่ะ รบกวนคุณแม่น้องติดต่อห้องพักฟื้นให้น้องด้วยนะคะ” “ได้ค่ะ” ฉันรีบบอกอย่างโล่งอก อย่างน้อยหลานฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว ฉันกลัวจริง ๆ นะ กลัวว่าหลานจะไม่สบายหนักมากกว่านี้ “เดี๋ยวพี่จัดการเอง” พี่อุ่นกระซิบบอกเสียงเบาก่อนจะเดินแยกไปอีกทาง ส่วนฉันเดินตามคุณหมอเข้าไปดูหลานที่หลับอยู่บนเตียง หลังมือเล็ก ๆ นั่นมีสายน้ำเกลือปักอยู่พร้อมกับผ้าสีขาว ๆ ที่พันไว้อีกชั้นคงป้องกันการกระชากสายน้ำเกลือออกด้วยตัวเอง ยิ่งเด็กวัยนี้ด้วยแล้วเรามักจะคาดเดาอะไรไม่ได้หรอกนะ “เชิญญาติรอที่ห้องได้เลยนะคะ” คุณหมอเอ่ยบอกฉันอีกครั้ง ก่อนที่จะมีบุรุษพยาบาลเข็นเตียงไปตามทางและฉันก็เลือกที่จะเดินตามไม่ให้ห่าง ลิฟต์ถูกเปิดออกที่ชั้นชั้นหนึ่ง เมื่อก้าวออกจากลิฟต์ก็พบว่ามีพี่อุ่นใจยืนอยู่พร้อมกับชายชุดดำอีกห้าคน ก่อนเข้าห้องพักก็มีการตรวจเล็กน้อย ไม่นานต้นไม้ก็ถูกเข็นเข้าห้องพักพร้อมย้ายให้นอนบนเตียงคนไข้ในห้องนอน “พักเถอะหลานไม่เป็นอะไรแล้ว” “ขอบคุณนะคะที่พามา” “พี่ยินดีครับ” พี่อุ่นใจยืนซ้อนหลังฉันที่นั่งอยู่บนเก้าอี้อยู่ข้างเตียงคนไข้ ฝ่ามืออุ่นยกขึ้นวางที่ผมฉันก่อนจะออกแรงลูบอย่างปลอบโยน “แล้วคนที่อยู่หน้าห้องคือใครคะ” “พ่อส่งมาครับ ไม่ไว้ใจใครเลย” พี่อุ่นใจบอกฉันเสียงเบา มือข้างหนึ่งยื่นไปดึงชายผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างของต้นไม้อีกเล็กน้อย “ที่นี่เป็นของคนรู้จักเลยง่ายที่จะปิดข้อมูล บลูก็นอนพักเถอะนะเดี๋ยวพี่ดูต้นไม้ให้” “หนูยังไม่ง่วงค่ะ เดี๋ยวหนูเฝ้าต้นไม้เอง พี่ไปพักเถอะนะคะ” เอ่ยบอกกับคนตัวสูงที่ยังยืนอยู่ไม่ห่าง วันนี้เขาออกไปข้างนอกไปถึงต่างจังหวัดด้วยฉันเองก็เกรงใจอยากให้เขาได้พักผ่อนบ้างก็เท่านั้น “งั้นก็ได้ครับ มีอะไรเรียกพี่เลยนะ” “ค่ะพี่” พี่อุ่นใจดีมาก ๆ เขาดูเข้าใจและไม่เซ้าซี้อะไรฉันหากเป็นเรื่องที่ฉันอยากจะทำหรืออยากจัดการด้วยตัวเอง เขาไม่ได้บังคับให้ฉันทำตามสิ่งที่เขาต้องการหรือบังคับขู่เข็ญในเรื่องที่ฝืนใจ แต่เขาจะยื่นข้อเสนอหากฉันไม่ตกลงก็จะไม่บังคับและจะใช้วิธีอื่นมาหลอกล่อให้ฉันยอมตกลงในที่สุด หลอกล่ออย่างมีชั้นเชิงก็ว่าได้ “แง!!” ผ่านไปเกือบสองชั่วโมงฉันที่เพิ่งเช็ดตัวให้ต้นไม้เสร็จเจ้าตัวเล็กก็ตื่นแล้วร้องไห้งอแงเสียงดัง คนที่หลับอยู่บนโซฟาอย่างพี่อุ่นใจถึงกับสะดุ้งตื่นรีบเดินเข้ามาส่องดูทันที “ชู่ ใจเย็น ๆ ลูกอาอยู่นี่ ไม่ร้องไห้นะคะ” อุ้มหลานขึ้นมากกอดแนบอกพยายามยืดมือหลานไว้เพื่อไม่ให้ดึงเข็มที่หลังมือออกเผื่อพรุ่งนี้ต้องให้ยาเพิ่ม แต่น้ำเกลือเพิ่งหมดไปพยาบาลเลยเข้ามาถอดให้แล้วเรียบร้อย “ต้นไม้ลูก อาอยู่นี่นะคะ ไม่ต้องกลัวนะ” เอ่ยปลอบหลานเสียงนุ่ม มือข้างหนึ่งยกลูบที่แผ่นหลังเล็กเบา ๆ พี่อุ่นใจที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ก็ยื่นมือมาลูบผมต้นไม้อย่างปลอบโยนเช่นเดียวกัน เด็กน้อยที่ไม่สบายมีท่าทีสงบลงแต่ยังมีเสียงสะอื้นเป็นพัก ๆ ทั้งยังสะอื้นอย่างน่าสงสาร “หิวไหม? ให้พี่ออกไปซื้ออะไรมาให้กินรองท้องไหม?” พี่อุ่นใจทวนถามเสียงเบาเมื่อเห็นว่าต้นไม้นั้นหลับไปแล้วแต่ฉันยังอุ้มให้หลานหลับอยู่ในอ้อมกอดตัวเองอยู่ “ไม่เป็นไรค่ะ พี่นอนพักต่อ...” “ไม่ง่วงแล้ว เดี๋ยวพี่อยู่เป็นเพื่อน” พี่อุ่นใจบอกก่อนจะก้มหน้าทำอะไรบางอย่างกับโทรศัพท์ตัวเองจากนั้นก็เดินไปยกเก้าอี้มานั่งข้าง ๆ ฉันพร้อมกับมองอย่างสำรวจ “ถ้าไม่ไหวเปลี่ยนให้พี่อุ้มช่วยได้นะ หลานคุ้นกับพี่บ้างแล้ว” “ขอบคุณนะคะพี่อุ่น” “ไม่ต้องขอบคุณแล้ว พี่เต็มใจช่วยทุกอย่างบลู พี่อยากให้เรายิ้มและมีความสุขได้แล้วนะครับ” ดวงตาคมเข้มนั้นจ้องมองฉันไม่ห่าง แต่จะให้ฉันมีความสุขได้ยังไงในเมื่อคนร้ายยังวนเวียนอยู่รอบตัวและฉันก็ยังไม่รู้เลยว่าใครกันแน่ที่จิตใจโหดเหี้ยมทำกับครอบครัวฉันแบบนี้ “พี่จะจับมือบลูไว้เอง ได้โปรดจับมือพี่ไว้นะครับ” ไม่พูดเปล่า แต่อีกฝ่ายยืนยันคำพูดโดยการดึงมือฉันข้างหนึ่งไปจับไว้แน่น เพื่อยืนยันในสิ่งที่เขาเพิ่งเอ่ยจบไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD