Episode 5 ออกมาเจอ

1598 Words
1 อาทิตย์ต่อมา         ตอนนี้ผ่านมาหลายวันแล้วที่เรามาอยู่ในร่างของโยเกิร์ตตอนนี้เราต้องยอมรับว่าเราไม่ใช่คุณหญิงราชวดีอีกแล้วแต่เป็นโยเกิร์ตที่เป็นนางร้ายในหนังสือนิยายปริศนาที่เราอ่านตอนอยู่ในอดีต ที่ผ่านมาใน 1 อาทิตย์ นั้นเราพยายามอย่างมากในการเรียนรู้วิถีชีวิตของคนที่นี่แต่โชคดีที่คนที่บ้านนั้นพยายามช่วย เราโกหกพวกเขาว่าจำอะไรไม่ค่อยได้อยากให้สอนเรื่องต่าง ๆ ให้หน่อย ทั้งวิธีการใช้โทรศัพท์และการใช้ลิฟท์มันเป็นสิ่งมหัศจรรย์มากเพราะเราไม่จำเป็นต้องเดินลงบันไดนานเราเรียกมันว่าวัตถุเคลื่อนย้าย^^ และวันนี้ก็เป็นวันที่เราจะออกจากสถานที่ที่เรียกว่าโรงพยาบาลแล้ว... และที่ผ่านมาผู้ชายที่ขึ้นว่าทำร้ายโยเกิร์ตนั้นเขาไม่มาเยี่ยมหรือคำไถ่ถามเลย เขาใจร้ายมาก ๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมโยเกิร์ตถึงรักเขามากมายขนาดนั้น         “ไปกันเถอะลูก” เสียงของแม่บอกกับเราขณะเตรียมตัวกลับบ้านคราวนี้เราคงได้ใช้ชีวิตเป็นโยเกิร์ตจริง ๆ แล้ว         “ค่ะ คุณแม่” หมับ! เราเดินไปจับมือคุณแม่เพื่อออกจากห้องสี่เหลี่ยมนี้ ส่วนคุณพ่อวันนี้ไม่มาเพราะต้องทำงาน         “แม่ดีใจนะที่ลูกคิดได้ว่าควรปล่อยมือของออกัสได้สักที” ขณะที่กำลังเดินคุณแม่ก็พูดขึ้นเนื่องจากที่ผ่านมาหลายวันแล้วที่เราไม่ได้พูดถึงผู้ชายที่ชื่อออกัสเลย ในความทรงจำเป็นทางผู้ใหญ่ฝั่งนั้นที่มาสู่ขอแท้ ๆ แต่เวรกรรมกับมาตกที่โยเกิร์ต         “ค่ะ ลูกคิดว่าลูกเหนื่อยแล้วที่ต้องวิ่งตามเขา เขาไม่รักจะทำยังไงได้ละค่ะ”         “ว่าแต่ทำไมช่วงนี้ลูกชอบแทนตัวเองว่าลูก?” คุณแม่ถามอย่างสงสัยเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราพยายามแก้ไขแล้วแต่มันไม่สำเร็จสักที เพราะเราติดการแทนตัวเองแบบนั้นกับท่านพ่อท่านแม่หน่ะสิ         “แค่...ดูละครน่ะค่ะเห็นว่าน่ารัก...ดี” ช่วงที่อยู่ที่นี่เราไม่ค่อยได้ทำอะไรนอกจากดูสิ่งที่เข้าเรียกว่าละครที่มีคนแสดงในสิ่งที่เรียกว่าโทรทัศน์         “อ่อ แม่ก็คิดว่าน่ารักดีงั้นเรารีบกลับบ้านกันเถอะแม่สั่งให้คนเตรียมอาหารที่ลูกชอบทั้งนั้นเลย”         “ค่ะ คุณแม่” บ้านโยเกิร์ต         เราเข้ามาในบ้านของโยเกิร์ตซึ่งนั่งสิ่งที่เรียกว่ารถยนต์มาใช้เวลาไม่นานก็ถึงแล้ว และบ้านหลังนี้ก็ใหญ่โตมาก มากกว่าสิ่งที่เราจินตนาการไว้ตอนอ่านซะอีก         “จะไปอาบน้ำก่อนหรือทานข้าวก่อน?” คุณแม่ถามเมื่อกำลังเดินเข้าบ้าน         “ทานก่อนก็ได้ค่ะจะได้พักทีเดียวเลย แล้วคุณพ่อละคะ”         “ไม่ต้องรอจ้ะวันนี้มีประชุม”         “ได้ค่ะ...” กึก! เราชะงักนิดหน่อยเมื่อมองไปที่คนในบ้านทุกคนต่างก้มหัวกันใหญ่         “เป็นอะไรกันไปเตรียมโต๊ะอาหารสิ” คุณแม่บอกก่อนคนพวกนั้นก่อนจะเดินแยกออกไป คนพวกนั้นในความทรงจำของร่างเก่าเธอใจร้ายกับบรรดาสาวใช้มากเวลาอารมณ์เสียคนพวกนั้นจะเป็นคนรองรับของโยเกิร์ตเสมอเวลาเธอหงุดหงิดและโมโหมาจากออกัสคนใช้จะต้องได้รับบาดแผลจากโยเกิร์ตเสมอ         เฮ้อออ เราคงต้องทำให้พวกนั้นยอมรับสินะ         “ขะขออนุญาตตักอาหารค่ะ..” สาวใช้มือสั่นมากขณะกำลังตักข้าวให้         แป๊ะ!         “ขะขอโทษค่ะคุณหนู!!!”         “นังแววแกทำไมไม่ตั้งใจฮะ?! คุณหนูค่ะเดี๋ยวป้าจัดการมันเองค่ะ!!” เรากำลังงงว่าแค่ตักอาการหกทำไมต้องโวยวายกันขนาดนั้น อ่อ อาจจะเพราะโยเกิร์ตคนโมโหร้ายก็ได้         “ไม่เป็นไรแค่ตักใหม่ก็พอ...” เราบอกและเหมือนว่าคนพวกนั้นจะตกใจมากที่เราพูดแบบนั้นออกไป         “คะคะ?”         “เรา..ฉันบอกว่าไม่เป็นไรแต่ครั้งหน้าระวังหน่อยแล้วกัน”         “เอาเถอะ...โยเกิร์ตไม่ได้ว่าอะไรก็ตักข้าวใหม่และออกไปกันได้แล้ว” เสียงคุณแม่ทำให้คนใช้นั้นออกไปกันหมด เหลือเพียงป้าหัวหน้าที่ยืนอยู่เท่านั้นเรากับคุณแม่ก็ทานข้าวและคุยกันไปเรื่อยเปื่อยเราสงสัยอะไรคุณแม่ก็ตอบคำถามอย่างไม่สงสัยเลย         แกร๊ด!         “อิ่มแล้วเหรอลูก?” เสียงวางช้อนดังทำให้คุณแม่หันมาถามเรา ความจริงเราใช้ช้อนไม่ค่อยเป็นแต่ฝึกตอนที่อยู่โรงพยาบาลมาบ้างแล้ว         “ค่ะ งั้นลูกขอตัวก่อนขึ้นห้องก่อนนะคะ”         “ได้จ้ะ”         เราเดินขึ้นชั้นสองของบ้านซึ่งเราสามารถจดจำทุกพื้นของบ้านได้เนื่องจากความทรงจำเก่าเวลาเราทำอะไรได้ตามปกติไม่ต้องสงสัยกันนะว่าเกิดจากอะไร มันเป็นเพราะความทรงจำของโยเกิร์ตที่มีอยู่ก่อนแล้วซึ่งนั่นทำให้เราสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ เราเดินมาที่ห้องซึ่งตอนนี้เป็นของเราเรียบร้อย         กึก! และเมื่อเข้ามาในห้องเราก็ต้องตกใจนิดหน่อยเพราะในห้องมีรูปของออกัสเต็มไปหมดซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่เรารู้จักหน้าตาของเขา พอมอง ๆ ดูแล้วเราว่า...ไซมอนหล่อกว่าตั้งเยอะ         เอ๊ะ?         แล้วทำไมเราต้องชมเขาด้วยเนี่ย หลังจากวันนั้นเขาก็ไม่มาเยี่ยมเราเหมือนกัน         “ว่าจะนอนพักสักหน่อย” เราบ่นกับตัวเองก่อนจะจัดการเก็บข้าวของที่เกี่ยวข้องกับออกัสลงถังขยะแต่มันเยอะมากจนเราเริ่มเหนื่อยซะแล้วสิ...         เอาไว้จัดการต่อวันหลังแล้วกันเมื่อคิดอย่างนั้นแล้วเราก็จัดการอาบน้ำเพื่อพักผ่อนแต่เสื้อผ้าของโยเกิร์ตแต่ละชุดนั้น...เราสงสัยว่ามันผ้าขี้ริ้วหรือเปล่า?         ตัวนิดเดียวเหมือนจะปกปิดอะไรไม่หมด         “บ้านนี้ออกจะมีฐานะทำไมปล่อยให้ลูกสาวแต่ตัวน้อยชิ้นขนาดนี้นะ?” เราเลิกสนใจและเลือกเสื้อผ้าที่พอจะใส่ได้มา หลายวันต่อมา..         วันนี้เป็นวันที่เราจะออกจากบ้านเพื่อไปเจอออกัสเรานัดเจอเขาผ่านโทรศัพท์ตอนแรกไม่ยอมมาเจอก็นะเขาเกลียดเราจะตาย.. หมายถึงเจ้าของร่างเก่าน่ะ         “จะไปแล้วเหรอลูก?” คุณแม่ถาม         “ค่ะ อยากจบ ๆ เรื่องทั้งหมดแล้วและก็ไปให้ความสำคัญกับการเรียนแทน” เราตอบคุณแม่ที่เดินมาถามเรา         “ดีมากแม่ภูมิใจในตัวลูกที่สุด...งั้นตาลีไปส่งแล้วกัน”         “ขอบคุณค่ะคุณแม่” เรายกมือไหว้ก่อนจะเดินออกจากบ้านไปก็พบลุงลีคนขับรออยู่ก่อนแล้ว         “เชิญครับคุณหนู”         “ค่ะ ขอบคุณนะคะ^^” เรายกมือไหว้ขอบคุณเพราะลุงลีอายุมากกว่าหลายปี         “อะเอ่อ ครับผม” ลุงลีอึกอักนิดหน่อยเพราะโยเกิร์ตไม่เคยทำอะไรแบบนี้ ต่อไปนี้เราจะทำให้โยเกิร์ตเป็นที่น่าจดจำในเรื่องดี ๆ ไหน ๆ ก็ได้มาอยู่ร่างแล้วเราก็อยากให้ทุกคนจำแต่สิ่งดี ๆ ของโยเกิร์ตเท่านั้น ห้างสรรพสินค้า         “ขอบคุณมากนะคะลุงลี ลุงกลับไปก่อนก็ได้ไม่ต้องรอเดี๋ยวหนูจะโทรหา”         “ได้ครับ คุณหนู” เราบอกก่อนจะลงจากรถและเดินเข้ามาในที่ ๆ เรียกว่าห้างสรรพสินค้าผู้คนมากมายทั้งชายและหญิง ร้านค้ามากมายที่มีให้เลือกซื้อแต่ว่าเราไปที่ร้านที่เรานัดออกัสไว้ก่อนดีกว่า... ร้านอาหารไทย         เรานัดมาที่นี่ร้านเพราะว่ามันเป็นร้านเดียวที่เราพอจะรู้จักอาหาร.. แหะ ๆ         เราเข้ามาในร้านนี้นานแล้วแต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าออกัสและจะมาเลย เขาคงตั้งใจมาช้านั่นแหละเพราะทุกครั้งที่โยเกิร์ตนัดเขาถ้าไม่ผิดนัดก็มาสายเสมอ         “ลูกค้าจะสั่งอาหารเลยไหมคะ?”         “เอ่อ... สั่งเลยก็ได้ค่ะเอาเป็นต้มย้ำกุ้งแล้วก็ข้าวผัดค่ะ” เราสั่งอาหารไปนิดหน่อย         พรึ่บ!         “มีอะไรก็รีบพูดมารู้ไหมว่ามันน่ารำคาญแค่ไหนที่ต้องมาเจอคนอย่างเธอ!” ออกัสมาถึงก็นั่งลงที่ฝั่งตรงข้างก่อนพูดยืนยาวอย่างไม่พอใจที่เรานัดเขาออกมา         “ไม่ทานอะไรก่อนเหรอ?” เราชวนตามมารยาทเท่านั้นเอง         “ไม่! อย่าทำตัวน่ารำคาญโยเกิร์ตแค่ฉันมาก็บุญหัวของเธอนักหนาแล้ว!!” หยาบคายที่สุดเรารู้ว่าเขาไม่ชอบเราแต่ต้องพูดขนาดนี้เลยเหรอ?         ทั้งที่ตัวเองทำให้เราเจ็บเพราะผู้หญิงอื่น ทั้งที่เป็นคู่หมั้นเราแท้ ๆ แต่เขากลับทำเหมือนว่าเราเป็นคนผิด         “ใจร้าย... ทั้งที่นายให้ฉันต้องเข้าโรงพยาบาลแต่นี่คือคำที่ฉันได้รับเหรอ?”         “เพราะเธอจะทำร้ายข้าวตังไงมันทำให้ฉันเข้าใจว่าผู้หญิงอย่างเธอมันอำมหิตเกินคน” แต่ที่ทำเพราะโยเกิร์ตต้องปกป้องคู่หมั้นของตัวเองผู้หญิงคนนั้นไม่หน้าด้านกว่าเหรอที่เขามายุ่งกับคนที่เขามีคู่หมั้นอยู่แม้อีกคนจะไม่เต็มใจก็ตาม         “เห้อ~ ฉันคิดว่าคนที่อำมหิตคือผู้หญิงที่ยุ่งกับชายที่มีเจ้าของแล้วอย่างตั้งใจมากกว่า”         “โยเกิร์ต...!”         “แต่ช่างเถอะต่อไปนี้นายจะรักหรือชอบใครก็เรื่องนายเพราะฉันจะไม่เข้าไปยุ่งอีกต่อไปแล้ว”         “พร่ำอะไร..”         “ถอนหมั้น..ฉันจะถอนหมั้นกับนาย ออกัส”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD