เมื่อภาดามาถึงชั้นบนของห้องพักเธอก็เคาะประตูห้องของชายหนุ่มอย่างแรงหลายครั้งเพื่อเรียกให้เขาออกมาคุยกับเธอให้รู้เรื่อง กีต้าร์ที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็มายืนกอดอกอยู่หน้าประตูปล่อยให้เธอเคาะไปเพราะอยากจะแกล้งเธอบ้างก็เท่านั้น
“ไอ้บ้ากีต้าร์ออกมาเดี๋ยวนี้นะ”
“เปิดประตูสิวะ”
หญิงสาวโวยวายอยู่นอกห้องก่อนจะหยิบโทรศัพท์กดโทรลงไปที่ล็อบบี้แล้วสั่งให้พนักงานเอาคีย์การ์ดมาเปิดห้องของเขาให้เธอ และเจ้าของโรงแรมสั่งขนาดนี้พวกเธอที่เป็นเพียงแค่พนักงานก็คงจะทำอะไรไม่ได้นอกจากทำตามคำสั่ง ส่วนกีต้าร์ยังไม่ยอมเปิดประตูให้หญิงสาวกอดอกยืนพิงอยู่ตรงโซฟาปล่อยให้คนบ้าดิ้นรนคนเดียวก็สนุกดี
“เปิดเลย”
เสียงจากข้างนอกดังขึ้นและไม่นานประตูก็ถูกเปิดออก สองสายตามองสบตากันพอดีและยิ่งทำให้ภาดาหงุดหงิดขึ้นไปใหญ่เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าเธออยู่ข้างนอกแต่ไม่ยอมเปิดประตูให้
“ทำไมไม่มาเปิดประตูให้ นี่แน่ๆๆๆ”
เธอเดินเข้าไปข้างในก่อนจะตีหน้าอกชายหนุ่มหลายทีเมื่อถึงตัว กีต้าร์ดึงหญิงสาวมากอดแนบอกก่อนจะหันไปมองพนักงานแล้วยิ้มออกมา
“ไปทำงานเถอะครับทางนี้ผมจัดการเอง”
“ได้ค่ะ”
พนักงานรีบปิดประตูแล้วเดินออกไปทันที ไม่รู้ว่าทั้งสองคนทะเลาะอะไรกันรึเปล่าแต่ดูท่าทางมันแปลกในความสัมพันธ์ของทั้งสองคน ซึ่งพนักงานไม่ควรยุ่งอยู่แล้ว
กีต้าร์รวบมือเธอมาไว้แนบอกก่อนจะมองสบตาเธอด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“มาทันเวลาดีนี่ เก่งมาก”
“นายกล้าดียังไงมาขู่ฉัน คิดว่าตัวเองเป็นใครกล้ามากเลยนะที่ทำแบบนี้ สงสัยอยากดะ… อ๊ะ!”
เธอยังพูดไม่จบและมีอะไรให้พูดอีกตั้งมากมายแต่ก็ต้องเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่ออยู่ๆเขาก็ดึงเธอไปจูบ และมันเป็นจูบแรกของเธอด้วยมันควรจะเป็นของผู้ชายที่เธอรักสิไม่ใช่หมอนี่คนที่เธอเกลียด
“อื้อออออ”
หญิงสาวตกใจช็อคหนักมากเพราะไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนี้ ไม่นานชายหนุ่มก็ผละออกพร้อมกับเอ่ยออกมาเสียงเจ้าเล่ห์
“หวงเหรอ…”
“อะ…อะไร หวงอะไร แล้วนายมาจูบฉันได้ยังไงมันคือจูบแรกของฉันนะ กรี๊ดดดดด แล้วทำไมฉันต้องมาเสียให้ผู้ชายที่เกลียดด้วย อ๊ะ”
เธอถูกเขาจูบอีกครั้งและครั้งนี้มันอ่อนโยนละมุนขึ้นกว่ารอบแรกและมันทำให้เธอเคลิ้มเผลอตอบรับสัมผัสของเขาด้วย ไม่นานเขาก็ผละออกอีกครั้งก่อนจะเอาริมฝีปากมาคลอเคลียกับแก้มนวล
“ให้พูดอีกที… ผู้ชายที่เกลียดหรือผู้ชายที่ชอบ”
เธออึ้งไปกับคำถามของเขา และไม่คิดว่าเราสองคนจะต้องมาเปิดใจกับเรื่องนี้ในชีวิตนี้ เพราะที่ผ่านมาเราสองคนตั้งกำแพงต่อกันไว้สูงมากคำพูดกรอกหูตัวเองว่าต่างฝ่ายต่างคือคนที่เกลียด
“คะ… ใครจะไปชอบนายกัน”
“แน่ใจเหรอ”
“อ๊ะ อย่ามาจูบนะคนบ้า”
ภาดาก้มหน้างุดๆเบี่ยงตัวหลบไม่ยอมให้เขาจูบอีก ตอนนี้ใบหน้าของเธอร้อนฉ่าและถ้าไปส่องกระจกดูมันต้องแดงมากแน่นอน น่าอายชะมัดเลยให้ตายสิ
“ตอบคำถามมาเดี๋ยวนี้”
“ทำไมต้องตอบ แล้วนายมาจูบฉันทำไมชอบฉันเหรอไง ชิ กลืนน้ำลายตัวเอง”
“เออ ตอนแรกก็คิดว่าเกลียดนั่นแหละแต่พอเห็นไปกับผู้ชายคนอื่นก็ไม่ชอบไง ไม่อยากให้ไปแบบนี้คงชอบแหละ แล้วเธอล่ะฉันขู่นิดเดียวรีบแจ้นมาหาแทบไม่ทัน แบบนี้จะปฏิเสธเหรอไง”
เขาเอ่ยออกมาตามตรงอย่างไม่ปิดบังและไม่มีทางที่จะยอมรับความรู้สึกของตัวเองฝ่ายเดียวแน่นอนยังไงมันต้องเคลียร์กันให้เข้าใจในวันนี้ เขาเริ่มรู้สึกแปลกกับตัวเองก็ตั้งแต่ที่มาอยู่โรงแรมที่นี่ความรู้สึกมันค่อยๆชัดเจนขึ้นเมื่อได้อยู่ใกล้ชิดกัน
“กะ…ก็”
ภาดาอ้ำอึ้งไม่รู้จะแก้ตัวยังไงเพราะที่เธอรีบมาก็เพราะความรู้สึกแปลกกับตัวเองแบบนี้ และต้องการมาหาคำตอบซึ่งเขาได้พูดมันออกมาแล้วเพราะฉะนั้นเธอควรจะพูดบ้าง
“ก็อะไร”
“ก็ไม่รู้ไง แต่ไม่ชอบเวลาที่นายพาผู้หญิงมานอนด้วย นายมันมั่วไม่เลือกไงระวังจะเป็นโรคตายละ เหอะ”
พูดแล้วก็หงุดหงิดมันน่าโมโหมากสำหรับเขา ยิ่งเธอไม่ชอบเขายิ่งทำไม่รู้ทำไมถึงยั่วโมโหเก่งขนาดนี้ก็ไม่รู้ กีต้าร์ยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น
“แสดงว่าเธอชอบฉันมานานแล้วรึเปล่า เวลาเห็นเดินกับผู้หญิงก็รีบไปฟ้องแม่ ทนเห็นไม่ได้อ่ะดิแบบนี้กลืนน้ำลายตัวเองนานแล้วนะ”
“นายนะสิชอบฉันก่อน”
“เธอแหละชอบฉันก่อน”
ทั้งสองคนไม่มีใครยอมใครทั้งนั้นต่างฝ่ายก็บอกว่าอีกคนชอบตัวเองก่อน ภาดาเงยหน้ามองสบตากับเขาก่อนจะยื่นมือไปบีบจมูกเขาอย่างหมั่นไส้
“นายนั่นแหละชอบฉันก่อน เพราะฉันตั้งใจเรียนเป็นเด็กดีของพ่อแม่ไม่ยุ่งกับผู้ชายนายก็เลยไม่มีโอกาสมาหึงหวงฉันไง พอตอนนี้ฉันจะไปเดตกับผู้ชายคนอื่นทนไม่ได้ถึงขั้นโทรมาขู่เนี่ย”
กีต้าร์คิดตามคำพูดของเธอและมันคงจะจริงอย่างที่เธอพูด เพราะถ้าเกิดเธอคุยผู้ชายเร็วกว่านี้เขาคงรู้ใจตัวเองไปแล้ว ว่าแต่ทำไมคนดีๆตั้งเยอะแยะไม่รักไม่ชอบ มาชอบภาดาซึ่งสวนทางกับผู้หญิงปกติแทบทุกอย่าง เขาเคยคิดมาตลอดว่าทำไมตัวเองถึงรักผู้หญิงคนไหนไม่ได้หรือว่าความรู้สึกมันตายด้าน แต่มาวันนี้เพิ่งรู้ว่าที่รักใครไม่ได้เพราะในหัวใจมีผู้หญิงอื่นไปแล้ว
“อ่ะยอมก็ได้ แล้วนี่จะยังไงต่อ ด่ากันทะเลาะกันทุกวันแล้วมาหึงหวงกันเฉย จะจัดการความรู้สึกบ้าๆนี้ยังไง”
เขาพูดออกมาตามตรง มันอึดอัดที่ต้องเห็นอีกฝ่ายมีใครแล้วอีกคนร้อนรนทนไม่ไหว ไม่มีใครอยู่ในสภาพนี้แล้วมีความสุขหรอก เพราะถ้าเกิดว่าเราสองคนยืนยันจะเป็นเพื่อนแล้วเลิกคิดเรื่องนี้ มีทางเดียวคือต้องแยกกันไปอยู่ที่อื่นไม่ต้องเจอกันเหมือนเคย
“ไม่รู้อ่ะมันมีทางเลือกมั้ยล่ะ”
“ก็มีสองทาง”
“อะไรบ้างล่ะว่ามาสิ”
ภาดารอฟังว่าเขาจะพูดสองข้อนั้นยังไง เพราะตอนนี้เธอก็อึดอัดมากไม่น้อยกว่าเขาหรอก เมื่อก่อนเห็นผ่านๆเธอทำได้แค่โทรไปฟ้องแม่เขา แต่ตอนนี้เราอยู่ใกล้กันมากแล้วถ้าต้องเห็นเขาพาผู้หญิงมานอนกกกอดต่อหน้าบอกตามตรงรับไม่ได้จริงๆ
“ข้อแรกตัดความรู้สึกพวกนี้ออกไป วิธีเดียวคือฉันจะย้ายออกไปอยู่ที่อื่น ไม่ต้องเจอกันเหมือนที่ผ่านมาจะได้ไม่ต้องเห็นไม่ต้องได้ยินว่าอีกฝ่ายทำอะไร”
“แล้วอีกข้อล่ะ”
“คบกันไปเลยจบๆ ในเมื่อใจตรงกันก็ไม่มีอะไรน่ากังวล หรือเธอกังวลอะไร…”
ทั้งสองคนมองสบตากันอย่างคิดหนัก เธอไม่รู้ว่าคนที่ทะเลาะกันมาตลอดครึ่งชีวิตจะมาคบกันเป็นแฟนกันได้ยังไง แต่สิ่งที่เธอกังวลที่สุดในตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องนั้นแต่มันเป็นเรื่อง…
“ฉันเลือกข้อแรกได้มะ นายเจ้าชู้มีผู้หญิงหลายคนฉันรับไม่ไหวหรอก เราคงคบกันไม่ได้ อะ… อะไร”
หญิงสาวมองชายหนุ่มอย่างแปลกใจที่อยู่ๆก็ยื่นมือมาเกี่ยวก้อยตรงหน้าเธอเหมือนเด็ก กีต้าร์แค่อยากจะปรับปรุงตัวเองใหม่อย่างน้อยไม่อยากทิ้งความรู้สึกดีๆที่เพิ่งรู้สึกตัวเอง ถ้าไม่ลองมันจะรู้ได้ยังไงว่ามันดีกว่าตอนนี้
“สัญญาว่าหลังจากนี้ฉันจะไม่ยุ่งกับผู้หญิงคนไหนอีก”
“หน้าตาไม่น่าเชื่อถือเลยนายอ่ะ”
ภาดาไม่ค่อยอยากจะเชื่อเท่าไหร่คนเจ้าชู้คุยผู้หญิงหลายคนจะมาหยุดตอนนี้ได้ยังไง เขาจะยอมทุ่มเทขนาดนี้เลยเหรอ…
“พูดจริง ฉันยอมที่จะไม่ยุ่งกับใครเลยเลิกคุยทุกคนแล้วเธอล่ะว่าไงให้เลือกอีกที”
“คือฉัน…”