ภาดาโดนคุณพ่อบ่นอยู่พักใหญ่เพราะเธอไปไหนไม่บอกท่านก่อนทำให้ผู้ใหญ่เป็นห่วง แต่ก็มีแอบถามว่าเธอไปกับใครซึ่งเธอก็บอกคุณพ่อไปตามตรงว่าไปกับกีต้าร์แล้วก็มีเพื่อนไปอีกหลายคน ท่านจึงไม่สงสัยอะไรและยอมวางไปแต่โดยดี
“พ่อว่าไงบ้าง”
“ถามว่าไปกับใครก็เลยบอกว่ามีตัวเองแล้วก็มีเพื่อนอีกหลายคน”
“เอาไว้ฝึกงานเสร็จเราสองคนไปบอกพ่อกับแม่พร้อมกันนะ”
ทั้งสองคนมองหน้ากันด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล ต่างฝ่ายต่างก็ถูกคุณพ่อห้ามให้คบหากันเกินเพื่อนและพวกเขาก็ทำได้มาโดยตลอด แต่ครั้งนี้กลับคบหากันแถมยังมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งแล้ว ถ้าทางผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายรู้ขึ้นมาไม่รู้จะจบลงแบบไหน
“อืม ตามนั้นแหละ”
“กังวลอะไรไหนบอกเค้าสิ”
ชายหนุ่มขยับไปนั่งลงข้างหญิงสาวก่อนจะลูบผมเธออย่างห่วงใยความรู้สึกผิด เพราะถ้าเขาเดาไม่ผิดคุณพ่อของเธอก็คงสั่งห้ามไม่ให้คบกับเขาเหมือนกัน เราสองคนถูกเป่าหูมาตลอดว่าคบกับใครก็ได้แต่ต้องไม่ใช่สองตระกูลเราสองคนก็เลยสร้างกำแพงกั้นความรู้สึกดีๆต่อกันเหลือเพียงแค่ความเกลียดชังที่แสดงออกต่อกัน
“ก็พ่อไม่ให้เค้าคบกับตัวเองไง บอกว่าคบกับใครก็ได้แต่ต้องไม่ใช่ตัวเอง”
“เหมือนกันแหละ พ่อไม่ให้คบกับตัวเองรวมถึงญาดาด้วย”
ทั้งสองคนถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจกับผู้ใหญ่ทั้งสองคน ไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องห้ามทั้งที่ทั้งสองครอบครัวเป็นเพื่อนกันแท้ๆรู้จักกันมานานมากทำไมถึงเป็นแบบนี้ก็ไม่รู้
“ทำไมผู้ใหญ่ถึงไม่มีเหตุผลเลย ความจริงถ้าไม่ถูกเป้าหูแบบนั้นตั้งแต่แรก เราสองคนอาจจะคบกันนานแล้วก็ได้”
“ก็จริงค่ะ เราคงจะรู้ใจกันเร็วกว่านี้”
ทั้งสองคนมองสบตากันก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ แต่ก็นึกภาพที่เราสองคนรักกันไม่ออกเหมือนกันเพราะในอดีตเจอหน้ากันทีไรแทบจะฆ่ากันอยู่แล้ว แต่พอรักกันขึ้นมาเราสองคนก็หวานกันอย่างไม่น่าเชื่อ
“ตัวเองต้องสู้ไปกับเค้านะ ยังไงเค้าก็จะไม่ยอมให้คุณพ่อบังคับเราสองคนเด็ดขาด”
“เค้าก็ไม่ยอมเช่นกัน แต่ดูเหมือนว่าคุณแม่ของเราสองคนท่านไม่ว่าอะไรนะ เอาจริงก็ยังพอมีหวังอยู่แหละ”
กีต้าร์กุมมือคนรักเอาไว้ก่อนจะดึงเธอให้ลุกขึ้นยืน เขาไม่อยากให้ทริปเที่ยวครั้งนี้ของเราสองคนมันเศร้าก็เลยต้องหยุดพักเรื่องที่ทำให้ปวดใจแล้วมาสนุกกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
“ไท่เอาไม่เศร้าแล้ว เราไปเดินเล่นชายหาดถ่ายรู้สวยๆดีกว่า แล้วจะพาไปกินของอร่อยที่จองไว้ด้วย”
“จริงเหรอมีซีฟู้ดมั้ย”
“มีสิรับรองว่าตัวเองถูกใจแน่นอน”
เขาเอ่ยออกมาอย่างมั่นอกมั่นใจ หญิงสาวชอบกินอาหารทะเลมากและยิ่งมีหลายหลายเธอยิ่งชอบ ภาดาร้องออกมาเสียงดังลั่นอย่างดีใจก่อนจะกระโดดกอดคอชายคนรักแล้วให้เขาพาเธอออกไปข้างนอก ตัวเขาเองไม่ได้เหนื่อยอะไรเพราะหญิงสาวตัวเล็กนิดเดียวเพียงแค่กินเก่งเฉยๆไม่รู้ว่าเอาไปเก็บไว้ที่ไหนหมด
“เค้าอยากได้อันนั้นอ่ะ”
หญิงสาวชี้นิ้วไปยังคุณป้าที่ยืนขายของอยู่ริมชายหาด เป็นเครื่องประดับที่ทำมาจากธรรมชาติและมันเป็นสินค้าทำมือที่ชาวบ้านช่วยกันผลิตและเอามาเร่ขาย
“ได้สิลองไปดูกัน”
สองคนเดินมาถึงที่ก็นั่งยองๆเลือกสินค้าที่คุณป้าเอามาขาย เธอสนใจสร้อยคอที่ทำมาจากเปลือกหอยไหนจะสร้อยข้อมืออีก ตุ้มหูหลายหลายมากจนเลือกไม่ถูก กีต้าร์เห็นมงกุฎดอกไม้ก็หยิบมาสวมไว้บนศีรษะของเธอก่อนจะยิ้มออกมา
“เหมาะกับตัวเองมากเลย”
“จริงเหรอ… งั้นเอาอันนี้แหละ สร้อยด้วยนะคะคุณป้า”
“ได้จ้าทั้งหมด 60บาทจ้า”
หญิงสาวดูอึ้งไปกับราคาของสองชิ้น ขายถูกขนาดนี้จะเอากำไรมาจากไหน
“ทำไมขายถูกจังเลยคะ แบบนี้จะได้กำไรเหรอ”
“พวกเราขายแพงกว่านี้ก็ไม่มีใครซื้อหรอกจ้ะ พวกป้าก็ขายเอาแค่พออยู่พอกินไปวันๆเท่านั้น มันก็พอเลี้ยงปากเลี้ยงท้องได้ไม่ลำบาก”
คุณป้าเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสดใส ถึงแม้ว่าเงินมันจะน้อยแต่ก็มีความสุขที่ได้ทำในสิ่งที่ชอบ พวกเราเป็นกลุ่มหมู่บ้านเล็กๆไม่ได้ร่ำรวยอะไร ก็แค่อยากให้คนที่มาเที่ยวได้ใส่เครื่องประดับสวยๆในราคาจับต้องได้ ภาดานิ่งเงียบไปสักพักมองเครื่องประดับตรงหน้าอย่างลังเลก่อนจะเอ่ยถามเสียงอ่อนโยน
“คุณป้ามีลูกมั้ยคะ”
“มีจ้ะ แล้วก็มีหลานด้วยเรียนประถมอยู่เลย ป้ามีลูกตอนอายุน้อยนะก็เลยทันเลี้ยงหลาน เดี๋ยวเลิกเรียนก็มาช่วงขายของถ้ามาเย็นๆก็เจอ”
“อย่างนี้นี่เอง”
หญิงสาวยิ้มกว้างออกมาก่อนจะค้นหานามบัตรของตัวเองแล้วส่งไปให้คุณป้าถือไว้ เธอมองอย่างแปลกใจไม่เข้าใจว่าหญิงสาวต้องการจะสื่อถึงอะไร
“เอาให้ป้าทำไมเหรอ”
“ถ้าอยากฝากของพวกนี้ให้หนูไปขายก็โทรมานะคะ ไม่งั้นก็ลองเอาไปฝากที่โรงแรม PB ดู เดี๋ยวหนูแจ้งพนักงานให้นะคะคุณป้ากับคนอื่นๆจะได้มีรายได้เพิ่มขึ้นมีเงินมาดูแลลูกหลาน”
กีต้าร์มองคนรักด้วยรอยยิ้มแห่งความภูมิใจ เอาจริงภาดาเป็นผู้หญิงที่ใจดีต่อเพื่อนร่วมโลกมากโดยเฉพาะกับคนที่ลำบากกว่า ต้องขอบคุณคุณพ่อกับคุณแม่ของเธอที่สอนมาดีมากขนาดนี้ พวกท่านสอนให้ลูกเห็นคนเท่ากันและให้ช่วยเหลือคนที่ลไบากกวทุกครั้งที่มีโอกาส
“จริงเหรอจ๊ะป้าฝากไปขายได้เหรอ แสดงว่าหนูเป็นเจ้าของโรงแรมนี้เหรอ”
“ใช่ค่ะของหนูเอง ถ้าจะเข้าไปโทรหาหนูก่อนนะคะเดี๋ยวจะให้ทางพนักงานเตรียมสถานที่วางขายให้”
“ขอบคุณนะจ้ะหนู ขอบคุณจริงๆ ป้ากับเพื่อนๆจะได้มีรายได้เพิ่มขึ้น งั้นป้าไปบอกข่าวดีกับคนอื่นๆก่อน แล้วจะโทรไปหานะ”
หญิงสาวพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะยื่นเงินไปให้คุณป้าเป็นค่าสินค้าที่เธอซื้อมา แบงค์ห้าร้อยไม่ต้องทอนเพราะเธออยากช่วยเหลือจริงๆ
“นี่เงินค่ะไม่ต้องทอนนะคะ”
“ป้าขอบคุณหนูมากเลยนะ ทำไมถึงดีแบบนี้แม่คุณเอ้ย ร่ำรวยมีความสุขมากๆนะจ้ะ”
“ไม่ต้องคิดมากนะคะ เราเป็นเพื่อนมนุษย์ด้วยกันไม่ให้ช่วยกันแล้วจะไปช่วยใครจริงมั้ยคะ”
หญิงสาวยิ้มออกมาอย่างมีความสุขก่อนจะลุกขึ้นมองตามคุณป้าที่ตอนนี้ยกมือไหว้ขอบคุณเธอจนแทบร้องห้ามแทบไม่ทัน จากนั้นก็รีบวิ่งออกไปบอกข่าวดีกับคนอื่นซึ่งเธอเห็นก็อดยิ้มตามไม่ได้
“ใจดีจังเลยแฟนใครเนี่ย”
“แฟนตัวเองไงคะ เค้าแค่อยากช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน พวกเค้ามีจิตใจดีทำงานอาชีพสุจริตไม่เบียดเบียนใคร เค้าก็แค่ช่วยให้พวกเค้ามีรายได้เพิ่มขึ้นจะได้มีเงินเลี้ยงดูครอบครัว”
“ตัวเองน่ารักที่สุดเลย”
ภาดาเอ่ยออกมาเสียงหวาน กีต้าร์โน้มใบหน้าไปหอมแก้มพร้อมกับเอ่ยชมไม่หยุด จากนั้นก็กอดคอหญิงคนรักก่อนจะพาเธอไปเดินเล่นริมชายหาดด้วยใบหน้าที่เอิมอิ่มไปด้วยความสุข
ทั้งสองคนมองไปโดยรอบอย่างสบายตา ภาดาวิ่งไปทั่วชายหาดโดยมีชายหนุ่มคอยถ่ายรูปให้ไม่ห่าง และมันเป็นความสุขที่พวกเขาเพิ่งเคยสัมผัส การมีกันและกันมันดีมากอย่างที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน
“ขอบคุณนะคะที่พามาเที่ยว เค้ามีความสุขมากเลย”
หญิงสาวกุมมือชายหนุ่มเอาไว้ก่อนจะเดินเคียงข้างด้วยกันบนหาดทรายขาวแสนสวย เขาหันไปมองหญิงคนรักก่อนจะดึงเธอมาสวมกอดแนบอก
“เค้าก็มีความสุขมากเลย เราจะสู้ไปด้วยกันนะไม่มีใครขวางความรักของเราสองคนได้หรอก”
“จริง… เค้าจะไม่ยอมคุณพ่อแน่นอน”