ความสามารถของเจ๊ใหญ่ยังใช้ได้อยู่

1910 Words
“อาหวาเจ้าควรจะเล่าทุกอย่างให้อากับพี่ชายของเจ้าฟังบ้างนะก่อนที่จะมีอะไรที่น่าตกใจไปมากกว่านี้ อาคิดว่ามันต้องมีอีกแน่ๆ ใช่หรือไม่” “เจ้าค่ะท่านอา..อาหวาจะเล่าให้ท่านอาและพี่ใหญ่ฟังเจ้าค่ะ อาหวาก็เพิ่งจะได้รู้พร้อมกับพวกท่านนี่แหละว่ามีของสิ่งนี้อยู่มันเรียกว่ามิติเก็บของเจ้าค่ะและเป็นมิติเก็บของที่ใหญ่มากๆ มันกว้างใหญ่พอๆ กับจวนของเราเลยทีเดียวแต่มันเป็นแค่พื้นที่โล่งกว้าง ไม่ได้มีต้นไม้และสิ่งปลูกสร้างใดๆ ทั้งสิ้นส่วนเรื่องอื่นอาหวาจะเล่าให้ทุกคนฟังที่จวนเจ้าค่ะ” “เจ้าจะพูดว่าแค่ได้ย่างไร ของสิ่งนี้นอกจากเทพเซียนแล้วใครเขามีกันเล่า เวลาใช้งานมิติเจ้าต้องระวังมากๆ ของสิ่งนี้ไม่ควรจะมีใครรู้ว่ามันมีอยู่จริงเจ้าเข้าใจหรือไม่อาหวา เจ้าใหญ่” ไท่หยุนได้กำชับหลานๆ ทั้งสองอย่างดิบดี “ขอรับ/เจ้าค่ะ ท่านอา” “ไปร้านสมุนไพรกันเถอะอาต้องซื้อยาให้พ่อของเจ้าด้วย” “เอ่อ..ท่านอา ยาของท่านพ่อไม่ต้องซื้อก็ได้เจ้าค่ะ” “ทำไมล่ะ หรือว่าเจ้า” นั่นยังไงล่ะนางมีเรื่องให้ประหลาดใจเพิ่มอีกแล้ว “เจ้าค่ะ อาหวามียาให้ท่านพ่อแล้ว” “อืมม..เช่นนั้นเราไปขายแค่สมุนไพร ไปกันเถอะเจ้ายังไม่ได้เดินตลาดเลย” แล้วอาหลานก็มาถึงร้านสมุนไพร.. ร้านสมุนไพรแห่งนี้เป็นร้านขายและรับซื้อสมุนไพรระดับกลางที่ทำการซื้อขายกันมานานกับท่านอาของหว่าหวา “อาหยุนเจ้ามาพอดีเลย เข้ามาๆ” ชายชราผู้นี้น่าจะเป็นเจ้าของร้านแน่ๆ เขาเอ่ยทักทายท่ายท่านอาด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความยินดีอย่างกับว่ารอคอยท่านอาอยู่อย่างนั้นแหละ “สวัสดีท่านหมอจวงรอข้าอยู่หรือมีอะไรรีบร้อนเล่าท่านหมอ” ท่านหมอจวงคือหมอยาที่รับปรุงยาแทบทุกขนานและเป็นเจ้าของร้านสมุนไพรแห่งนี้ เป็นท่านปู่ท่าทางใจดีมากๆ “รอบนี้เจ้ามีโสมบ้างหรือไม่จะเป็นโสมชนิดใดก็ได้ข้าไม่เกี่ยงอายุแต่อย่าอ่อนปีจนเกินไป เจ้ามีติดมาบ้างหรือไม่ล่ะอาหยุน” “โธ่..ท่านหมอจวงล้อข้าเล่นแล้วที่ท่านพูดถึงน่ะมันโสมนะไม่ใช่ถังหูลู่” “อั้ยหยา เจ้านี่ใครล้อเจ้าเล่นกัน ตอนนี้โสมเป็นที่ต้องการอย่างมากแม้แต่ในกองทัพเองยังต้องการมากโข มีตัวยาหลายตัวที่จำเป็นต้องใช้โสมในการปรุงยา แม้จะใช้เพียงน้อยนิดแต่มันก็จำ เป็นอย่างมาก โสมที่มีอยู่ตอนนี้ก็มีไม่เพียงพอ ในส่วนที่มีอยู่น้อยนิดนั้นยังต้องส่งเข้าวังหลวงถึงแปดส่วน โสมจากแคว้นอื่นก็แพงเสียจนแตะต้องไม่ได้ข้าจึงต้องรอเจ้าอยู่นี่ยังไง” “หากว่าท่านรอแล้วข้ามีให้ก็ว่าไปอย่าง ข้าก็จนปัญญาจะหาแล้วภูเขาและชายป่าแถวบ้านมันก็อุดมสมบูรณ์ดีอยู่หรอก สมุนไพรดีๆ อย่างอื่นก็พอจะหาได้แต่โสมนี่ข้าไม่เห็นมาสองปีแล้วข้าจะพยายามเพิ่มขึ้นอีกก็แล้วกันเผื่อจะมีโชคบ้าง” “อือๆ ขอบใจนะอาหยุน แล้วนั่นใครมากับเจ้าด้วยล่ะ” “อ่อ..นั่นหลานๆ ของข้าเองลูกของพี่ใหญ่น่ะ อาหลาง อาหวา มาทักทายท่านหมอจวงสิ เจ้าใหญ่ไท่หลางท่านเคยเห็นแล้วมากับข้าบ่อยๆ แล้วนี่ไท่หว่าหวาเข้าเมืองครั้งแรกหลังจากนางหายป่วย” “สวัสดี ขอรับ/เจ้าค่ะ ท่านหมอจวง” “อืม เด็กดีๆ รูปหน้า ตา คิ้ว จมูก ดีจริงๆ วาสนาดี” แม่หนูนี่ช่างมีวาสนาของผู้ยิ่งใหญ่โดยแท้ “ฮ่าฮ่าฮ่า ท่านหมอนอกจากท่านจะเป็นหมอยาแล้วท่านยังเป็นหมอดูด้วยหรือขอรับ” “อาหยุน เจ้านี่ช่างขัดข้านัก ข้าแค่ดูจากตำราว่าไว้ก็เท่านั้น นี่แม่หนูอยู่ที่บ้านอาของเจ้าเป็นเช่นนี้หรือไม่เล่า” “คิคิ เจ้าค่ะ ท่านหมอเรียกข้าว่าอาหวาก็ได้เจ้าค่ะ” ท่านหมอจวงผู้นี้ช่างเป็นคนอารมณ์ขันจริงๆ น๊าา หืม ‘แม่หนูคนนี้ช่างมีวาสนาจริงๆ มีดวงอุปถัมภ์ของผู้ยิ่งใหญ่รออยู่ภายหน้า’ ‘เอ๋..นี่ใช่ดวงตาสวรรค์หรือไม่นะ นั่นไงใจดีแล้วยังร่ำรวยอีกนะเจ้าคะท่านหมอตำลึงทองเต็มถุงเชียว’ หว่าหวาเปล่าสอดรู้สอดเห็นนะเจ้าคะ แค่คิดอยากจะเห็นมันก็เห็นเองนะ ที่หว่าหหวาคิดนั้นไม่ผิดเลยสักนิดเพราะนั่นคือการทำงานของดวงตาสวรรค์ สามารถมองเห็นสิ่งที่คนมองไม่เห็นสามารถรับรู้ในสิ่งที่คนอื่นไม่อาจรับรู้ ขอแค่เพียงนางต้องการช่างวิเศษนัก “ท่านหมอจวง ท่านก็ช่างรู้จักหาพวกพ้องดีแท้” “หึๆ ไหนเล่าสมุนไพรของเจ้าที่นำมารอบนี้” ไท่หยุนรออยู่แล้วจึงได้ยกสมุนไพรตากแห้งออกจากตะกร้าใบใหญ่ออกมาให้ท่านหมอจวงช่างน้ำหนัก “ดีมากเจ้าก็ยังหาสมุนไพรดีๆ ได้เสมอเลยนะ ข้าให้ยี่สิบตำลึงเงินเจ้าพอใจหรือไม่” “ข้าพอใจแน่นอนขอรับท่านหมอจวง ถ้าเช่นนั้นพวกข้าขอลาท่านหมอเลยนะขอรับ” สามอาหลานกล่าวลาท่านหมอเสร็จสรรพก็พร้อมจะเดินออกจากร้าน “อาหยุนรอสักประเดี๋ยวสิข้าฝากยาบำรุงไปให้มารดาของเจ้าด้วย นางยังคงสบายดีอยู่นะ” เอ๋..ท่านหมอจวงคิดอะไรกับท่านย่าของอาหวาหรือไม่เนี่ย แฮ่ะๆ..อาหวาล้อเล่นนะดูๆ แล้วท่านหมอจวงผู้นี้แค่คิดถึงตามประสาสหายเก่าแค่นั้นเองแหละเจ้าค่ะ “อ่อ..ขอบคุณขอรับท่านหมอจวงท่านแม่ก็ยังคงสบายดีและแแข็งแรงมากด้วยขอรับ ท่านหมอจวงข้าไปแล้วจริงๆ นะขอรับ” “อืม..ไปให้พ้นเลยข้าไม่รั้งเจ้าไว้แล้วล่ะเจ้าเด็กบ้านี่ หึๆ” หมอจวงพูดเชิงขับไล่ แต่ใบหน้ากลับเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ท่านอา อาหวาไม่รู้จะซื้ออะไรที่ตลาดเจ้าค่ะ แล้วตลาดมีของแปลกๆ ไหมล่ะเจ้าคะ” “มีสิ ท้ายตลาดนี่เอง” แล้วท่านอาก็พาหว่าหวากับพี่ใหญ่มายังท้ายตลาด “ร้านนั้นยังไงล่ะอาหวาเข้าไปดูสิ ร้านนี้มีเครื่องปรุงรสและเครื่องเทศทั้งแบบธรรมดาและแปลกๆ อาก็ซื้อของจากร้านนี้แหละให้ท่านย่าของเจ้า” หว่าหวาเข้ามาในร้านพร้อมกับกวาดตามองไปทั่ว โอ้ว...ในที่สุดนางก็เจอของดี นั่นยังไงเล่านางแทบกรีดร้องเมื่อเจอเจ้าสิ่งนั้น “อาหวาเจอสิ่งที่ต้องการแล้วเจ้าค่ะนั่นไงท่านอา พี่ใหญ่ มันคือเย่จึ ท่านยายท่านขายเย่จึยังไงหรือเจ้าคะ” [เย่จึ-มะพร้าว] “อันนั้นข้าขายลูกละยี่สิบอีแปะ เจ้าอยากได้กี่ลูกล่ะแม่หนู ข้ามีทั้งหมดสิบลูก” “ข้าเอาหมดเลยเจ้าค่ะ แล้วท่านยายไม่มีอีกหรือเจ้าคะ” “ต้องรออีกสักสองถึงสามวันให้ลูกชายของข้ากลับมาจากทางใต้ก่อนคงจะเอามาเยอะอยู่เหมือนกัน หากว่าเจ้าจะเอาข้าจะเก็บไว้ให้” “เอาสิเจ้าคะเอาทั้งหมดเลย ข้าซื้อเยอะขนาดนี้ท่านยายไม่ลดให้ข้าบ้างหรือเจ้าคะ” “โธ่..แม่หนู ของมันมาไกลขนมาแต่ละครั้งก็ลำบากกำไรก็น้อยนิด งั้นยายให้นี่เจ้า (ขิงดำ- เฮยเจียง มันคือความคิดของท่านยายเอง) ยายว่ามันคือขิงดำ ยายลองกินแล้วไม่ชอบเลยแต่ยายยกให้เจ้าก็แล้วกัน อันนี้ลูกชายของยายก็ขนมาจากทางใต้เหมือนกัน” ท่านยายพูดพลางยื่นของห่อใหญ่ให้หว่าหวา นางเพ่งมองห่อของที่ท่านยายยื่นให้อย่างสนใจ ขิงดำที่ไหนกันเล่านี่มันกระชายดำชัดๆ นางได้ของดีอีกแล้ว “ขอบคุณเจ้าค่ะท่านยาย นี่เจ้าค่ะสองร้อยอีแปะท่านยายต้องเก็บเย่จึไว้ให้ข้าด้วยนะเจ้าคะ” “อืม..ข้าไม่ลืมหรอกน่า” “เดี๋ยวอาให้เจ้าใหญ่ไปเอารถม้า มาด้านหลังตลาดนี่ก็แล้วกันจะได้ขนของขึ้นง่ายๆ” พี่ใหญ่ที่รู้งานได้เร่งฝีเท้าอย่างทันควันโดยไม่ต้องรอให้ท่านอาบอกอีกครั้ง.. ไม่ถึงหนึ่งเค่อพี่ใหญ่กับรถม้าก็มาถึงยังท้ายตลาด และในเวลานั้นเองที่ทั้งสามกำลังขนของกันอยู่นั้น... ช่วยด้วย! ช่วยด้วย! ถุงเงินข้าช่วยข้าจับขโมยที เสียงร้องตะโกนของสตรีนางหนึ่งดังขึ้น เพียงชั่วอึดใจที่เจ้าโจรกำลังวิ่งผ่านหน้าของหว่าหวา นางก็คว้าหมับเข้าที่คอเสื้อแล้วดึงเจ้าโจรเข้ามาหาตัวพร้อมกับสับฝ่ามือเข้าที่ต้นคอของเจ้าโจรชั่วอย่างแรง ปั๊ก!! “อั๊ก โอ้ยยย” ‘อู้ว ความรู้สึกนี้ ความสามารถของเจ๊ใหญ่ก็ยังอยู่นี่นา หึๆ แต่กำลังยังไม่ดีพอปกติแล้วหากใครโดนสันมือของนางสับเข้าอย่างจังขนาดนี้ละก็ มันจะต้องสลบเซ่!’ “ปะ..ปล่อยข้า มะ..แม่นาง” “อาหวา/อาหวา/ไอ้โจรชั่ว!!” ท่านอา พี่ใหญ่ พร้อมกับสตรีผู้เสียหายและชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่งตรงดิ่งมายังจุดที่อาหวาและเจ้าหัวขโมยอยู่ สภาพที่ทุกคนเห็นคือเจ้าหัวขโมยนอนคว่ำหน้าโดยมีเท้าอันบอบบางของแม่นางน้อยข้างหนึ่งกดเหยียบเอาไว้ตรงกลางหลัง ช่างน่าอนาถยิ่งชายร่างก็ไม่เล็กแต่ก็พ่ายแพ้ให้กับเด็กสาวผู้บอบบาง “อาหวา พวกอาตกใจแทบแย่เจ้าเป็นอะไรหรือไม่” “ท่านอา พี่ใหญ่ อาหวาไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะ จัดการเจ้าหัวขโมยนี่ก่อนเถอะเจ้าค่ะอาหวาเมื่อยเท้าจะแย่แล้ว” “หน็อยแน่! เจ้าเด็กเลวตัวก็โตป่านนี้ยังไม่รู้จักทำมาหากินริเป็นขโมยรึ นี่แน่ะๆ” ท่านป้าเจ้าของถุงเงินตบตีซ้ำเติมเจ้าหัวขโมยอย่างไม่ยั้งมือ “ท่านป้าข้าขอโทษท่านป้า นายท่าน คุณหนู อย่าจับข้าส่งทางการเลยนะขอรับ มารดาข้าป่วยหนักข้าไม่มีเงินซื้อยาน้องข้าก็ยังเล็กอยู่นะขอรับนายท่าน” ‘ลองข้าพูดแบบนี้ ได้ผลทุกรายเดี๋ยวพวกเขาก็สงสารและก็ต้องปล่อยข้าไป ข้ามีแม่ที่ไหนกันล่ะ หึหึ’ “หน็อยแน่! เจ้าเด็กโข่งมารดาของเจ้าป่วยเรอะ เฮอะ! จะเป็นไปได้อย่างไรก็มารดาเจ้าอยู่นี่ยังไงเล่า นี่แน่ะๆ” ปั๊บๆ ผั๊วะๆ เฮอะ! บังอาจมาโกหกต่อหน้าดวงตาสวรรค์หรือ “อาหวา/อาหวา” และนางก็ทำให้ท่านอากับพี่ใหญ่ต้องประสานเสียงกันอีกครั้ง ก็หว่าหวาของพวกเขานางเคยทำแบบนี้เสียที่ไหนพละกำลังนั่นอีกนางเอามาจากไหนกัน ค่าเงิน 100 อีแปะ=1 ตำลึงเงิน 100 ตำลึงเงิน=1ตำลึงทอง เวลา 1 เค่อ 15 นาที 1ชั่วยาม 2 ชั่วโมง 1 ก้านธูป 15 นาที หรือ 30 นาที แล้วแต่ความยาวของธูป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD