ตอนที่ 3

1392 Words
เที่ยงวันต่อมาจำเป็นต้องลุกจากเตียงนอนเพราะว่ามีแวมไพร์มาคอยที่ด้านล่าง เขาโทรตามแบบตรงเวลาเกินไปซึ่งเธอก็แทบแต่งตัวไม่ทันเลยเพราะว่าตื่นสาย วันนี้แดดค่อนข้างจ้านั่นเลยทำให้เขานั่งรออยู่ภายในรถที่มีติดฟิล์มทึบรอบคัน และเมื่อเธอเปิดประตูเข้าไปเขาก็ส่งขนมให้พร้อมกับน้ำเปล่า รู้ได้ไงว่าเธอยังไม่ได้กินอะไรรองท้อง “คุณควินน์จะไปที่ไหนเหรอคะ?” “ห้างสรรพสินค้าน่ะ วันนี้ฉันต้องเข้าธนาคารแล้วก็ไปดูแลกิจการนิดหน่อย” “กิจการ?” “อ่อ! ฉันเป็นเจ้าของร้านเครื่องเพชรน่ะ แล้วก็มีบ้าน ที่ดิน ห้องพักให้เช่าอยู่ วันนี้จะต้องไปคุยกับผู้เช่าที่กำลังจะย้ายออก แล้วก็มีนัดคุยกับธนาคารเรื่องตู้เซฟน่ะ” “อ่อ แล้วคุณกินอะไรรึยังคะ?” “เป็นห่วงฉันเหรอ?” “เปล่า! หนูแค่กลัวคุณหิวแล้วไปกัดคอใครต่างหากละ” “ฉันจะพยายามเชื่อแล้วกันนะ” “อืม…ระหว่างรอคุณควินน์คุยธุระหนูขอไปหาคนรู้จักหน่อยได้ไหมคะ?” “ชายหรือหญิง?” “ผู้ชายค่ะ เขาเคยเป็นเจ้านายของหนูมาก่อนแล้วชอบเลี้ยงขนมบ่อยๆด้วย” “งั้นฉันไปด้วยคนสิ” “แต่คุณควินน์มีธุระไม่ใช่เหรอคะ?” “ฉันอยากรู้ว่าหนูเคยทำงานอะไรมาแค่นั้นเอง แล้วเจ้านายเก่าเป็นผู้ชายน่ะไม่มีแฟนเหรอ?” “ไม่มีค่ะ แต่หนูว่าอีกไม่นานก็น่าจะมีแล้วแหละ คุณควินน์สนใจเหรอคะ?” “ว่าไงนะ!?” “หนูหมายถึงชอบผู้ชายเหรอคะ?” “ฉันเปล่า” “แต่เขาหล่อมากเลยนะ” “ฉันชอบผู้หญิงที่เด็กกว่า” “หนูว่าคุณควินน์คงหาคนรักได้ง่ายๆเลยแหละถ้าสเป็คจะกว้างมากขนาดนี้นะ” “งั้นเหรอ?” “ก็ตอนนี้คุณควินน์อายุเกือบสองร้อยปีไม่ใช่รึไงคะ หนูว่ามีผู้หญิงตั้งเยอะแยะที่อายุไม่ถึงสองร้อยปี หรือบางทีแวมไพร์แบบพวกคุณบางคนก็อายุไม่ถึงสองร้อยปีเหมือนกัน แบบนี้คุณน่าจะหาคนรักได้ง่ายๆเหมือนปอกกล้วยเข้าปากเลยละ” ต้องให้ระบุไหมว่าชอบเด็กสิบเก้าปี โง่จังเลยนะฮานะ! เขามาทำธุระที่ธนาคารก่อนเป็นอย่างแรกโดยที่มีฮานะมานั่งอยู่ข้างตัวตลอดเวลา จากนั้นก็ปล่อยให้ไปเลือกขนมในขณะที่เขาคุยเรื่องบ้านหรูที่ปล่อยให้เช่ามานานถึงหนึ่งปีตามสัญญา เพียงแค่นี้งานก็จบลงอย่างรวดเร็วแล้วว่าจะแวะไปดูเครื่องเพชรที่เข้าใหม่สักหน่อย แต่จะไปคนเดียวก็รู้สึกเป็นห่วงเด็กที่หอบขนมกลับมาซะจนน่าสงสารแขนเล็กๆนั่น เขารู้จุดอ่อนของเด็กคนนี้แล้ว แพ้ของกินสินะ! “หนักไหมน่ะ?” “ไม่เลยค่ะ แล้วงานของคุณควินน์เสร็จแล้วเหรอเราจะได้กลับกัน” “ฉันว่าจะเข้าร้านเพรชก่อนน่ะ หนูก็ไปกินขนมรอในระหว่างที่ฉันดูงานก็ได้นะ” “ก็ได้ค่ะ” “ฉันถือให้เอง” เขาหยิบถุงขนมมาถือเองแล้วคว้าข้อมือเล็กเดินนำไปเรื่อยๆ แต่ผ่านไปไม่ถึงสิบเก้าด้วยซ้ำเด็กน้อยก็หยุดชะงักแล้วมองหน้าด้วยแววตาแปลกๆ “ทำไมต้องจูงมือด้วยละคะ?” “ก็หนูไม่รู้ว่าร้านเพชรอยู่ตรงไหน ถ้าเกิดหลงขึ้นมาแล้วฉันจะไปตามหาได้จากที่ไหนละ วันนี้คนก็เยอะด้วย” “ก็จริง! แต่ว่าหนูเดินตามคุณควินน์ได้แน่นอนไม่ต้องจับมือหรอกค่ะ หนูไม่ใช้เด็กเก้าขวบที่จะหลงทางง่ายๆซะหน่อย” “ดื้อ!” “หนูนี่นะ!?” “จับมือแบบนี้แหละจะได้ไม่หลงทาง” เขารู้ว่าเธอไม่ใช่เด็กเก้าขวบเพราะว่าอะไรหลายอย่างก็โตแล้ว แต่ว่าฮานะกลับไม่เข้าใจอะไรเอาซะเลยว่าตอนนี้ระหว่างเรามันคืออะไรกันแน่ ไม่มีใครซื้อเลือดคาเฟ่เดิมได้ทุกวันหรอกนะ เขาไปเพื่อเจอเธอต่างหากละ! แววตาของเด็กน้อยเปร่งประกายด้วยความตื่นเต้นเมื่อได้เห็นเครื่องเพชรเล่นแสงระยิบระยับจนแทบจะแสบตา เธอจับมือเขาแน่นขึ้นด้วยความประหม่าเป็นอย่างมาก เพราะมั่นใจว่าไม่เคยเข้าใกล้ของแพงมากขนาดนี้ แล้วพนักงานขายในร้านก็มองแปลกๆจนดูน่ากลัวมากเกินไป คุณควินน์พาเข้าไปในห้องทำงานจากนั้นก็เปิดตู้เซฟหยิบกล่องกำมะหยีสีดำขึ้นมาแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัยเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ ข้างในนั้นมีแต่เพชรเต็มไปหมดเลย เกิดมาพึ่งเคยเห็นชัดๆและใกล้ขนาดนี้เป็นครั้งแรก "สนใจสักเม็ดไหม?" "ของแพงขนาดนี้หนูต้องทำงานกี่ชาติถึงซื้อได้ละ!" "ขนาดนั้นเลยเหรอ?" "แค่มองดูก็พอแล้วค่ะ หนูไม่อยากได้หรอกกลัวจะโดนปล้นเอา!" เธอนั่งเก้าอี้ตรงหน้าเขาแล้วหยิบขนมมานั่งกินไปพลางๆในระหว่างที่เขาหยิบเพชรแต่ล่ะเม็ดขึ้นมาดู ไม่รู้สิว่าทำไมคุณควินน์ถึงดูเข้ากับของมีค่ามากขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาข้อมือที่ราคามากกว่าเงินเดือนตลอดทั้งปีของเธอ แหวนที่ประดับนิ้วชี้กับนิ้วโป้งก็สวยมากและราคาน่าจะสูงลิ้ว นี่ยังไม่นับรวมกับเสื้อผ้าสบายๆที่สวมใส่แม้จเป็นแบบเรียบๆแต่ดูก็รู้ว่าราคาไม่สบายกระเป๋าแน่เลย ถ้ารวยขนาดนี้นะจะกินแล้วก็นอนอย่างเดียวเลย! ต้องตั้งใจทำงานหาเงินให้มากขึ้น! "เอาไหมฉันให้" "คุณควินน์อย่ามาโกหกหนูนะ" "ฉันพูดจริงๆ สนใจไหมละ?" "ถ้าได้มาหนูก็ไม่รู้ว่าจะกล้าใส่ไหม หรือไม่ก็เอาไปขายแล้วเก็บเงินไว้กินขนมดีกว่า" "ว่าแต่ตอนนี้ได้งานอะไรทำเหรอ?" "ถ่ายแบบค่ะ แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นเสื้อผ้าแบบไหนเหมือนกัน เขาให้เงินหนูตั้งเยอะแหนะ นี่ทำงานแค่ครั้งเดียวก็น่าจะอยู่ต่อได้อีกเป็นเดือนแล้วค่อยคิดเรื่องงานใหม่อีกทีว่าจะเอายังไงต่อ" "ร้อนเงินเหรอ?" "เปล่าซะหน่อย! หนูแค่อยากลองทำงานใหม่ๆแค่นั้นเอง แล้วอีกอย่างนะหนูไม่มีครอบครัวด้วยเลยต้องมีเงินเก็บเผื่อลำบากบ้างสิ หนูตองทำงานหาเงินเยอะๆจะได้ซื้อขนมแล้วนอนกินได้นานๆแบบไม่รู้สึกร้อนรนเพราะเงินมีไม่มากพอ" "มาทำงานให้ฉันไหม?" "งานอะไรคะ?" "แม่บ้านเป็นไงละ สนใจไหม?" "แบบนี้หนูก็ต้องไปทำความสะอาดห้องคุณควินน์ทุกวันเลยรึเปล่าคะ" "อื้ม มาอยู่ห้องฉันทั้งวัน แล้วถ้าจะกินขนมหรือกินอาหารก็ตามใจเลย ฉันไม่ได้มีปัญหาเรื่องนี้หรอก เดี๋ยวฉันจะเลี้ยงเองทุกมื้อ ว่าไงสนใจไหม?" "ไม่เอาอะ! ตอนนี้หนูอยากพักงานสักเดือนมากกว่า" "ฉันให้เงินเดือนสูงนะ" "ไม่เอาหรอก!" "ดื้อ!" "ถึงหนูจะเด็กกว่าแต่คุณไม่มีสิทธิ์มาว่าหนูดื้อนะ!" "เด็กดื้อก็ต้องถูกว่าบ้างสิ!" “แค่ไม่ทำงานด้วยไม่ได้แปลว่าหนูดื้อนะ” และนี่เป็นครั้งแรกที่เด็กงอน ฮานะเบ้ปากแล้วกินขนมไม่พูดอะไรอีกเลย! เขาชวนคุยหลายครั้งแต่ก็ตอบส่งๆหรือบางทีก็แกล้งทำเป็นหูทวนลมอีกด้วย เขานั่งทำงานต่ออีกไม่นานก็เรียบร้อยแล้วถึงได้จับข้อมือเล็กพาเดินออกไปนอกร้าน จากนั้นก็ปล่อยให้เธอเป็นคนเดินนำไปที่ร้านดอกไม้ต่อเลย เขาก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเจ้านายคนเก่ามีหน้าตาเป็นยังไง แล้วทำไมเด็กน้อยของเขาถึงได้อารมณ์ดีขนาดนี้เพียงแค่ได้แวะไปหาในระยะเวลาสั้นๆเท่านั้นเอง แถมยังแวะซื้อขนมไปฝากอีกต่างหาก หวังว่าเธอจะไม่ได้ชอบคนอื่นหรอกนะ!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD