เที่ยงวันต่อมาจำเป็นต้องลุกจากเตียงนอนเพราะว่ามีแวมไพร์มาคอยที่ด้านล่าง เขาโทรตามแบบตรงเวลาเกินไปซึ่งเธอก็แทบแต่งตัวไม่ทันเลยเพราะว่าตื่นสาย วันนี้แดดค่อนข้างจ้านั่นเลยทำให้เขานั่งรออยู่ภายในรถที่มีติดฟิล์มทึบรอบคัน และเมื่อเธอเปิดประตูเข้าไปเขาก็ส่งขนมให้พร้อมกับน้ำเปล่า
รู้ได้ไงว่าเธอยังไม่ได้กินอะไรรองท้อง
“คุณควินน์จะไปที่ไหนเหรอคะ?”
“ห้างสรรพสินค้าน่ะ วันนี้ฉันต้องเข้าธนาคารแล้วก็ไปดูแลกิจการนิดหน่อย”
“กิจการ?”
“อ่อ! ฉันเป็นเจ้าของร้านเครื่องเพชรน่ะ แล้วก็มีบ้าน ที่ดิน ห้องพักให้เช่าอยู่ วันนี้จะต้องไปคุยกับผู้เช่าที่กำลังจะย้ายออก แล้วก็มีนัดคุยกับธนาคารเรื่องตู้เซฟน่ะ”
“อ่อ แล้วคุณกินอะไรรึยังคะ?”
“เป็นห่วงฉันเหรอ?”
“เปล่า! หนูแค่กลัวคุณหิวแล้วไปกัดคอใครต่างหากละ”
“ฉันจะพยายามเชื่อแล้วกันนะ”
“อืม…ระหว่างรอคุณควินน์คุยธุระหนูขอไปหาคนรู้จักหน่อยได้ไหมคะ?”
“ชายหรือหญิง?”
“ผู้ชายค่ะ เขาเคยเป็นเจ้านายของหนูมาก่อนแล้วชอบเลี้ยงขนมบ่อยๆด้วย”
“งั้นฉันไปด้วยคนสิ”
“แต่คุณควินน์มีธุระไม่ใช่เหรอคะ?”
“ฉันอยากรู้ว่าหนูเคยทำงานอะไรมาแค่นั้นเอง แล้วเจ้านายเก่าเป็นผู้ชายน่ะไม่มีแฟนเหรอ?”
“ไม่มีค่ะ แต่หนูว่าอีกไม่นานก็น่าจะมีแล้วแหละ คุณควินน์สนใจเหรอคะ?”
“ว่าไงนะ!?”
“หนูหมายถึงชอบผู้ชายเหรอคะ?”
“ฉันเปล่า”
“แต่เขาหล่อมากเลยนะ”
“ฉันชอบผู้หญิงที่เด็กกว่า”
“หนูว่าคุณควินน์คงหาคนรักได้ง่ายๆเลยแหละถ้าสเป็คจะกว้างมากขนาดนี้นะ”
“งั้นเหรอ?”
“ก็ตอนนี้คุณควินน์อายุเกือบสองร้อยปีไม่ใช่รึไงคะ หนูว่ามีผู้หญิงตั้งเยอะแยะที่อายุไม่ถึงสองร้อยปี หรือบางทีแวมไพร์แบบพวกคุณบางคนก็อายุไม่ถึงสองร้อยปีเหมือนกัน แบบนี้คุณน่าจะหาคนรักได้ง่ายๆเหมือนปอกกล้วยเข้าปากเลยละ”
ต้องให้ระบุไหมว่าชอบเด็กสิบเก้าปี
โง่จังเลยนะฮานะ!
เขามาทำธุระที่ธนาคารก่อนเป็นอย่างแรกโดยที่มีฮานะมานั่งอยู่ข้างตัวตลอดเวลา จากนั้นก็ปล่อยให้ไปเลือกขนมในขณะที่เขาคุยเรื่องบ้านหรูที่ปล่อยให้เช่ามานานถึงหนึ่งปีตามสัญญา เพียงแค่นี้งานก็จบลงอย่างรวดเร็วแล้วว่าจะแวะไปดูเครื่องเพชรที่เข้าใหม่สักหน่อย แต่จะไปคนเดียวก็รู้สึกเป็นห่วงเด็กที่หอบขนมกลับมาซะจนน่าสงสารแขนเล็กๆนั่น
เขารู้จุดอ่อนของเด็กคนนี้แล้ว
แพ้ของกินสินะ!
“หนักไหมน่ะ?”
“ไม่เลยค่ะ แล้วงานของคุณควินน์เสร็จแล้วเหรอเราจะได้กลับกัน”
“ฉันว่าจะเข้าร้านเพรชก่อนน่ะ หนูก็ไปกินขนมรอในระหว่างที่ฉันดูงานก็ได้นะ”
“ก็ได้ค่ะ”
“ฉันถือให้เอง” เขาหยิบถุงขนมมาถือเองแล้วคว้าข้อมือเล็กเดินนำไปเรื่อยๆ แต่ผ่านไปไม่ถึงสิบเก้าด้วยซ้ำเด็กน้อยก็หยุดชะงักแล้วมองหน้าด้วยแววตาแปลกๆ
“ทำไมต้องจูงมือด้วยละคะ?”
“ก็หนูไม่รู้ว่าร้านเพชรอยู่ตรงไหน ถ้าเกิดหลงขึ้นมาแล้วฉันจะไปตามหาได้จากที่ไหนละ วันนี้คนก็เยอะด้วย”
“ก็จริง! แต่ว่าหนูเดินตามคุณควินน์ได้แน่นอนไม่ต้องจับมือหรอกค่ะ หนูไม่ใช้เด็กเก้าขวบที่จะหลงทางง่ายๆซะหน่อย”
“ดื้อ!”
“หนูนี่นะ!?”
“จับมือแบบนี้แหละจะได้ไม่หลงทาง” เขารู้ว่าเธอไม่ใช่เด็กเก้าขวบเพราะว่าอะไรหลายอย่างก็โตแล้ว แต่ว่าฮานะกลับไม่เข้าใจอะไรเอาซะเลยว่าตอนนี้ระหว่างเรามันคืออะไรกันแน่
ไม่มีใครซื้อเลือดคาเฟ่เดิมได้ทุกวันหรอกนะ
เขาไปเพื่อเจอเธอต่างหากละ!
แววตาของเด็กน้อยเปร่งประกายด้วยความตื่นเต้นเมื่อได้เห็นเครื่องเพชรเล่นแสงระยิบระยับจนแทบจะแสบตา เธอจับมือเขาแน่นขึ้นด้วยความประหม่าเป็นอย่างมาก เพราะมั่นใจว่าไม่เคยเข้าใกล้ของแพงมากขนาดนี้ แล้วพนักงานขายในร้านก็มองแปลกๆจนดูน่ากลัวมากเกินไป คุณควินน์พาเข้าไปในห้องทำงานจากนั้นก็เปิดตู้เซฟหยิบกล่องกำมะหยีสีดำขึ้นมาแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัยเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่
ข้างในนั้นมีแต่เพชรเต็มไปหมดเลย
เกิดมาพึ่งเคยเห็นชัดๆและใกล้ขนาดนี้เป็นครั้งแรก
"สนใจสักเม็ดไหม?"
"ของแพงขนาดนี้หนูต้องทำงานกี่ชาติถึงซื้อได้ละ!"
"ขนาดนั้นเลยเหรอ?"
"แค่มองดูก็พอแล้วค่ะ หนูไม่อยากได้หรอกกลัวจะโดนปล้นเอา!" เธอนั่งเก้าอี้ตรงหน้าเขาแล้วหยิบขนมมานั่งกินไปพลางๆในระหว่างที่เขาหยิบเพชรแต่ล่ะเม็ดขึ้นมาดู
ไม่รู้สิว่าทำไมคุณควินน์ถึงดูเข้ากับของมีค่ามากขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาข้อมือที่ราคามากกว่าเงินเดือนตลอดทั้งปีของเธอ แหวนที่ประดับนิ้วชี้กับนิ้วโป้งก็สวยมากและราคาน่าจะสูงลิ้ว นี่ยังไม่นับรวมกับเสื้อผ้าสบายๆที่สวมใส่แม้จเป็นแบบเรียบๆแต่ดูก็รู้ว่าราคาไม่สบายกระเป๋าแน่เลย
ถ้ารวยขนาดนี้นะจะกินแล้วก็นอนอย่างเดียวเลย!
ต้องตั้งใจทำงานหาเงินให้มากขึ้น!
"เอาไหมฉันให้"
"คุณควินน์อย่ามาโกหกหนูนะ"
"ฉันพูดจริงๆ สนใจไหมละ?"
"ถ้าได้มาหนูก็ไม่รู้ว่าจะกล้าใส่ไหม หรือไม่ก็เอาไปขายแล้วเก็บเงินไว้กินขนมดีกว่า"
"ว่าแต่ตอนนี้ได้งานอะไรทำเหรอ?"
"ถ่ายแบบค่ะ แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นเสื้อผ้าแบบไหนเหมือนกัน เขาให้เงินหนูตั้งเยอะแหนะ นี่ทำงานแค่ครั้งเดียวก็น่าจะอยู่ต่อได้อีกเป็นเดือนแล้วค่อยคิดเรื่องงานใหม่อีกทีว่าจะเอายังไงต่อ"
"ร้อนเงินเหรอ?"
"เปล่าซะหน่อย! หนูแค่อยากลองทำงานใหม่ๆแค่นั้นเอง แล้วอีกอย่างนะหนูไม่มีครอบครัวด้วยเลยต้องมีเงินเก็บเผื่อลำบากบ้างสิ หนูตองทำงานหาเงินเยอะๆจะได้ซื้อขนมแล้วนอนกินได้นานๆแบบไม่รู้สึกร้อนรนเพราะเงินมีไม่มากพอ"
"มาทำงานให้ฉันไหม?"
"งานอะไรคะ?"
"แม่บ้านเป็นไงละ สนใจไหม?"
"แบบนี้หนูก็ต้องไปทำความสะอาดห้องคุณควินน์ทุกวันเลยรึเปล่าคะ"
"อื้ม มาอยู่ห้องฉันทั้งวัน แล้วถ้าจะกินขนมหรือกินอาหารก็ตามใจเลย ฉันไม่ได้มีปัญหาเรื่องนี้หรอก เดี๋ยวฉันจะเลี้ยงเองทุกมื้อ ว่าไงสนใจไหม?"
"ไม่เอาอะ! ตอนนี้หนูอยากพักงานสักเดือนมากกว่า"
"ฉันให้เงินเดือนสูงนะ"
"ไม่เอาหรอก!"
"ดื้อ!"
"ถึงหนูจะเด็กกว่าแต่คุณไม่มีสิทธิ์มาว่าหนูดื้อนะ!"
"เด็กดื้อก็ต้องถูกว่าบ้างสิ!"
“แค่ไม่ทำงานด้วยไม่ได้แปลว่าหนูดื้อนะ”
และนี่เป็นครั้งแรกที่เด็กงอน
ฮานะเบ้ปากแล้วกินขนมไม่พูดอะไรอีกเลย!
เขาชวนคุยหลายครั้งแต่ก็ตอบส่งๆหรือบางทีก็แกล้งทำเป็นหูทวนลมอีกด้วย เขานั่งทำงานต่ออีกไม่นานก็เรียบร้อยแล้วถึงได้จับข้อมือเล็กพาเดินออกไปนอกร้าน จากนั้นก็ปล่อยให้เธอเป็นคนเดินนำไปที่ร้านดอกไม้ต่อเลย เขาก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเจ้านายคนเก่ามีหน้าตาเป็นยังไง แล้วทำไมเด็กน้อยของเขาถึงได้อารมณ์ดีขนาดนี้เพียงแค่ได้แวะไปหาในระยะเวลาสั้นๆเท่านั้นเอง แถมยังแวะซื้อขนมไปฝากอีกต่างหาก
หวังว่าเธอจะไม่ได้ชอบคนอื่นหรอกนะ!