CHAPTER 1 “วันพักร้อน”
แสงแดดในยามเช้าที่ลอดผ่านหน้าต่างห้องนอน ปลุกให้หญิงสาวขี้เซาที่นอนหลับอยู่บนเตียงลืมตาตื่นขึ้น ‘มุก’ ก้มลงซุกหน้ากับหมอนเพื่อหลบแสงที่ส่องเข้ามารบกวนอยู่บนเตียงนอนภายในบ้านของแม่เธอที่อเมริกา ซึ่งวันนี้ก็เข้าวันที่ 3 แล้วที่เธอลางานเดินทางมาเยี่ยมแม่เป็นเวลา 1 อาทิตย์
‘ไข่มุก ตื่นรึยังเด็กขี้เซา วันนี้อีวานจะพาเที่ยวในเมืองนะ ถ้าตื่นสายได้เที่ยวน้อย แม่ไม่ฟังหนูบ่นนะคะ’ เสียงแม่ตะโกนถามมาจากด้านนอก ทำให้มุกที่นอนบิดตัวไปมาอยู่บนเตียง เด้งตัวขึ้นแล้วไปเปิดประตูให้แม่ทันที
“ตื่นแล้วค่ะ วิ่งผ่านน้ำไม่นาน เดี๋ยวมุกออกไป” คุณจิด้า แม่ของมุกยิ้มตอบกลับมาให้ลูกสาว
“ไม่ต้องรีบหรอก อีวานยังไม่ตื่น” มุกทำหน้างอแก้มพองมองหน้าแม่ “ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นเลย ไปอาบน้ำแต่งตัวไป อีวานตื่นอาบน้ำกินข้าวเสร็จ หนูยังแต่งตัวไม่เสร็จเลยมั้ง”
“มุกไม่ได้แต่งตัวนานขนาดนั้นซักหน่อยค่ะ เดี๋ยวเสร็จแล้วออกไปช่วยเตรียมอาหารเช้านะคะ” มุกยิ้มตอบ
“ไม่ต้องหรอกจ่ะ แม่จัดการได้ หนูไปอาบน้ำแต่งตัวเถอะ” มุกยิ้มให้แม่อีกครั้ง ก่อนจะกลับเข้ามาในห้องเพื่ออาบน้ำแต่งตัวให้พร้อมสำหรับการออกเที่ยวในวันนี้
คุณจิด้า หรือ จิดาภา เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เลี้ยงลูกสาวมาด้วยตัวคนเดียวตั้งแต่เล็ก เพราะพ่อแท้ ๆ ของเธอป่วยเป็นมะเร็งและเสียชีวิตไปตั้งแต่เธออายุได้เพียง 2 ขวบ
หลังจากมุกสอบเข้ามหาลัยได้เรียบร้อย แม่ของเธอก็พา แฟรงค์ มาแนะนำให้รู้จัก แฟรงค์แฟนใหม่ของแม่เธอ เป็นคนอเมริกาที่ย้ายมาดูแลสาขาให้บริษัทที่ไทยชั่วคราว จนได้มาเจอกับแม่ของเธอ กว่าเธอจะรู้เรื่อง ทั้งสองคนพูดคุยคบหากันมาได้เกือบ 4 ปีแล้ว และที่แม่เธอไม่บอก เป็นเพราะกลัวว่าเธอจะรับเรื่องนี้ไม่ได้
วันแรกที่เจอกัน มุกค่อนข้างเกร็ง เพราะแฟรงค์เป็นชายอเมริการ่างกำยำ และใบหน้าเคร่งขรึม ติดจะดูน่ากลัวและดุจนมุกไม่กล้าพูดคุยด้วย จนกระทั่ง อีวาน ลูกชายคนเดียวของแฟรงค์ ที่เดินทางตามมาภายหลังมาถึงร้านอาหาร บรรยากาศบนโต๊ะอาหารในวันนั้นก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น
อีวานอายุมากกว่ามุก 5 ปี รูปร่างหน้าตาถอดแบบคนเป็นพ่อแบบแฟรงค์มาทุกอย่าง แต่ต่างกันตรงที่อีวานเป็นคนคุยเก่ง และยิ้มง่ายมากกว่าแฟรงค์ ทำให้มุกกล้าที่จะพูดคุยด้วยและเริ่มผ่อนคลายลงบ้าง
เมื่อมุกปิดเทอมหลังจากจบ ม.6 ทั้ง 4 คนก็ได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น ทำให้มุกเริ่มคุ้นเคยกับแฟรงค์และอีวาน รวมถึงแฟรงค์เองก็ปรับตัวเข้าหามุกมากขึ้นเช่นกัน ทำให้บรรยากาศเริ่มดูเป็นครอบครัวที่อบอุ่น
จนกระทั่งวันที่มุกเริ่มขนย้ายของเข้าคอนโดใกล้มหาลัยที่แม่ซื้อไว้ให้ แม่เธอถึงได้เกริ่นเรื่องที่จะย้ายไปอยู่กับแฟรงค์และอีวานที่อเมริกาให้เธอได้รู้ การมาทำงานของแฟรงค์ มีกำหนดระยะเวลา 5 ปีก็จริง แต่เนื่องจากสาขาที่ไทยวางระบบลงตัวได้ค่อนข้างเร็ว ทำให้แฟรงค์ต้องเดินทางกลับสาขาใหญ่ และเค้าอยากให้แม่ของมุกเดินทางกลับไปด้วยกัน ในฐานะภรรยา
ถึงแม้มุกจะตกใจกับเรื่องที่ได้รับรู้ แต่เธอก็ไม่ได้คัดค้านอะไร เพราะถ้าแม่เธออยู่ที่ไทย แม่เธอก็ต้องอยู่คนเดียวอยู่ดี เนื่องจากบ้านของเธอกับมหาลัยค่อนข้างไกลกัน ทำให้มุกยอมให้แม่เดินทางมาอยู่ที่อเมริกากับแฟรงค์และอีวานตามที่แฟรงค์ขอ
ตอนมุกเรียนอยู่มหาลัย เธอมักเดินทางมาเยี่ยมแม่และครอบครัวที่อเมริกาทุกช่วงปิดเทอม แต่หลังจากเข้าทำงานแล้ว เธอก็เดินทางมาได้ไม่บ่อยนัก จะมีบางครั้งที่แฟรงค์และอีวานมีวันหยุดยาว ทุกคนก็จะพากันเดินทางกลับไปเยี่ยมเธอที่ไทยแทน
เธอกับอีวานค่อนข้างสนิทกัน อีวานวางตัวกับเธอในฐานะพี่ชายได้เป็นอย่างดี ให้คำปรึกษาและดูแลเธออย่างดีทุกครั้งที่เธอเดินทางมาที่นี่ และครั้งนี้อีวานก็ลางานมาเพื่อพาเธอเที่ยวโดยเฉพาะ
“ไงน้องสาว แม่บอกว่าหนูตื่นก่อนพี่ไม่ใช่หรอ” อีวานที่นั่งจิบกาแฟอยู่ที่โต๊ะ เงยหน้าขึ้นมายิ้มถามมุกด้วยภาษาไทยที่พัฒนาขึ้นกว่าเดิมมาก คงเป็นเพราะแม่เธอสอนภาษาไทยให้แฟรงค์และอีวานอยู่ตลอด
“มุกไม่ได้ช้านะ พี่แต่งตัวเร็วเองมากกว่า นี่ใช้เวลาน้อยกว่าแต่งตัวไปทำงานตั้งเยอะ” มุกหน้างอตอบอีวาน พร้อมกับหันไปยิ้มให้แม่ที่ยื่นแก้วกาแฟส่งมาให้
“ไม่ต้องแต่งเยอะหรอก เดี๋ยวสวยเกินไป พี่ไม่อยากย้ายไปตามเฝ้าที่ไทย” อีวานหันมายักคิ้วตอบ
“ปล่อยมุกไปเถอะ เพื่อน ๆ มีแฟนแต่งงานกันไปหมดแล้วเนี่ย เหลือมุกอยู่คนเดียว ยังไม่มีแฟนซักที” อีวาน แฟรงค์และคุณจิด้า พากันหัวเราะขำ
“อยู่เป็นหนูน้อยของบ้านเราแบบนี้แหละ 30 ค่อยแต่ง พี่หวงน้องสาว” อีวานยิ้มตอบ
“อีก 5 ปีเนี่ยนะ!! โน ๆ ไม่มีทาง” มุกส่ายหน้ารัว “พี่นั่นแหละ 30 แล้วพี่ควรแต่งงานได้แล้ว จะได้มีหลานมาให้แม่กับแด๊ดดี้เลี้ยง”
“มันมีแฟนแล้ว” แฟรงค์ยิ้มเอ่ยแทรกบทสนทนาขึ้น พลางกลั้นขำเมื่อเห็นลูกชายส่ายหน้าห้ามไม่ให้พูด
“อีวานมีแฟนหรอ ไม่เห็นพามาเจอแม่เลย” คุณจิด้าหันไปถามอีวาน
“แด๊ดไปรู้มาได้ยังไงเนี่ย” อีวานหน้างอพิงพนักเก้าอี้มองหน้าแฟรงค์ที่ดูกำลังมีความสุข “ไม่ต้องจ้องพี่แบบนั้น ก็แค่กำลังดู ๆ กันอยู่ ยังไม่ชัวร์” อีวานหันมาบอกมุกที่นั่งจ้องรอคำตอบไม่หยุด
“พาไปเที่ยวกับมุกวันนี้สิ มุกจะช่วยดู” มุกตาวาวกับข้อเสนอของตัวเอง โดยที่คุณจิด้าเองก็พยักหน้าตามด้วยอีกคน ต่างจากแฟรงค์ที่ทำเพียงแค่นั่งยิ้มมองลูกชาย
“เค้าทำงาน จะให้ลาไปเที่ยวกับหนูแบบพี่ได้ยังไง” อีวานยิ้มตอบ
“พี่ยังลาได้เลย ชื่ออะไร ไปเจอกันที่ไหน ใครจีบใครก่อน เล่ามาเลย” มุกยิงคำถามกลับไปอีกครั้ง
“แด๊ดไม่น่าเปิดเรื่องเลย” อีวานส่ายหน้าขำ “เค้าชื่อเกรซ เจอกันที่บาร์ เค้ามาจีบพี่ก่อน พอใจรึยังครับ”
“คำตอบไม่น่าพอใจเท่าไหร่ เย็นนี้นัดดินเนอร์กัน ชวนเค้ามาด้วย มุกอยากเจอ นะนะ” มุกหันไปยิ้มให้อีวาน ก่อนจะลุกไปช่วยคุณจิด้ายกจานอาหารเช้ามาเสิร์ฟให้ทุกคนโดยไม่รอคำตอบ
“แด๊ดไม่อยากเห็นผมมีความสุขแน่ ๆ ถึงบอกเรื่องนี้ให้น้องรู้” อีวานกัดฟันกระซิบถามแฟรงค์
“คบกันก็พามาเจอ อย่างน้อยก็มีคนช่วยดูหลายคน แม่กับน้องเป็นผู้หญิง ยังไงก็ดูผู้หญิงด้วยกันออก อีกอย่าง แด๊ดเคยเจอแค่ผ่าน ๆ อยากรู้จักจริง ๆ ซักครั้ง” แฟรงค์ยักคิ้วตอบลูกชาย
“คนที่คบกับแม่มา 4 ปีถึงบอกให้น้องรู้ ไม่ควรพูดประโยคนี้หรอกนะแด๊ด” อีวานตอบแฟรงค์ ที่ดูจะไม่ใส่ใจกับคำพูดของลูกชายเท่าไหร่นัก เพียงแค่ยิ้มและยักไหล่เบา ๆ ตอบกลับไปเท่านั้น
หลังจากมื้ออาหารเช้าภายในบ้านจบลง ทั้ง 4 คนก็พากันออกเดินทางไปเที่ยวในเมือง อีวานรับบทเป็นไกด์และตากล้องส่วนตัวให้มุก โดยมีแฟรงค์และคุณจิด้าเดินยิ้มมองสองพี่น้องตามหลัง
“หนู...อยู่กับครอบครัว แต่นั่งยิ้มกับโทรศัพท์ไม่หยุดเลยนะ” อีวานทักมุก เมื่อเดินยกถาดใส่กาแฟสำหรับทุกคนกลับมาที่โต๊ะ หลังจากลงความเห็นกันแล้วว่าจะหยุดพักเล็กน้อยก่อนจะไปช้อปปิ้งกันต่อ
“พี่ไม่รู้จักหรอก นี่เป็นสามีมโนของมุก สูง หล่อ เท่ เป็นผู้ชายที่ดูอบอุ่นแล้วก็ใจดีมาก ถึงแม้จะหน้านิ่ง ๆ แต่พอยิ้มทีโลกมันก็จะเปล่งปลั่งเป็นสีชมพูไปหมด แถมยังร้องเพลงเพราะอีกต่างหากนะ มุกฟังเพลงเค้าก่อนนอนทุกคืนเลย” มุกเล่าให้อีวานฟังด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มกว้าง
“สามีมโน?” อีวานทวนศัพท์ใหม่ของน้องสาวที่เพิ่งเคยได้ยิน
“แปลว่า เค้าเป็นสามีของน้องเราคนเดียว โดยที่ตัวเค้าเองไม่ได้รู้เรื่อง และไม่ได้รู้จักน้องเราเลย เรียกง่าย ๆ ว่า คิดไปเองคนเดียวว่าเค้าเป็นสามี” คุณจิด้าอธิบายให้สองหนุ่มต่างวัยฟัง จนแฟรงค์หลุดหัวเราะขำออกมา ส่วนอีวานได้แต่ส่ายหน้ายิ้ม ๆ ให้น้องสาว
“ให้เป็นแค่สามีมโนพอนะ อย่าเพิ่งรีบมีสามีจริง ๆ หนูยังเด็กเกินไป พี่หวง” อีวานยิ้มตอบ
“พี่...เพื่อนมุกแต่งงานกันไปหมดแล้วนะ ถ้าถึงเวลาที่มุกจะมี พี่ก็ปล่อยให้มุกมีไปเถอะ พี่คิดดูนะ ผู้ชายเนี่ยยิ่งแก่เค้าว่ายิ่งดี ดูน่านับถือ น่าพึ่งพา แต่ผู้หญิง ยิ่งแก่มันยิ่งหาแฟนยากนะพี่” มุกวางโทรศัพท์ในมือลง ก่อนจะหันมาเกลี้ยกล่อมพี่ชายขี้หวงแบบอีวานต่อ
“ไม่รู้แหละ ถ้ามีแฟนเมื่อไหร่ พี่จะตามไปดูถึงไทยเลยคอยดู” มุกย่นจมูกทำหน้างอใส่อีวาน โดยมีคุณจิด้าและแฟรงค์นั่งหัวเราะกับบทสนทนาของทั้งสองคน
ทั้ง 4 นั่งจิบกาแฟคุยเล่นพักผ่อนกันเรียบร้อย อีวานก็พามุกตรงไปช้อปปิ้งที่ร้านแบรนด์ดัง ตามที่เจ้าตัวรีเควสไว้ ก่อนจะเปลี่ยนหน้าที่จากไกด์เป็นธนาคารส่วนตัวให้น้องสาวแทน
“ทำไมต้องเป็นแบรนด์นี้ พี่เห็นกี่ที ๆ ก็ซื้อแต่แบรนด์นี้ แบรนด์อื่นสวย ๆ ก็เยอะนะ” อีวานเอ่ยถามน้อง
“ก็สามีมโนของมุกเป็น Friend of House ของแบรนด์นี้ มุกก็ต้องซื้อแบรนด์นี้สิ เป็นการสนันสนุนงานของเมนเราไงคะ” มุกหันมายิ้มตอบ ก่อนจะกลับไปสนใจเลือกเครื่องประดับตรงหน้าต่อ
“เมนคืออะไรครับแม่” อีวานหันไปถามคุณจิด้าที่เดินดูของอยู่อีกด้านหนึ่ง
“เมนก็หมายถึงศิลปินที่ชอบมากที่สุด ในที่นี้ก็คงไม่พ้น พ่อหนุ่มนักร้องในคลิปที่น้องดูอยู่เมื่อกี้” คุณจิด้าอธิบายให้อีวานฟังพร้อมรอยยิ้มขำ เธอรู้ว่าลูกสาวของเธอชื่นชอบศิลปินคนนี้มาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม และอาการก็หนักขึ้นเรื่อย ๆ เพราะศิลปินคนนี้ก็สร้างผลงานมาให้ติดตามอย่างต่อเนื่อง
“ผมว่าผมต้องทำความรู้จักกับเมนน้องคนนี้บ้างซะแล้ว” อีวานหัวเราะขำ ก่อนจะหันไปเดินตามมุกต่อ
ตกเย็น อีวานพามุก คุณจิด้าและแฟรงค์ เดินทางมาที่ร้านอาหารอิตาเลี่ยนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสถานที่ที่เค้านัดกับเกรซแฟนสาวที่เพิ่งคบกันได้ไม่นานไว้ ตามเสียงเรียกร้องของน้องสาวที่ย้ำหนักว่าอยากจะเจอ
“ผมกับครอบครัวถึงแล้วนะ อีกนานมั้ยกว่าคุณจะถึง” อีวานโทรศัพท์ถามเกรซ เมื่อเห็นว่าถึงเวลานัดแล้ว
“เจอครอบครัวแฟนครั้งแรกก็มาสายซะแล้ว คะแนนติดลบแล้วนะ” มุกหันไปกระซิบบอกแม่
“น้อย ๆ หน่อยเถอะเรา ว่าแต่พี่เค้าหวงเรา เราก็หวงพี่เค้าใช่ย่อยเหมือนกันนะ” คุณจิด้าเอ่ยขำ ๆ
“ขอโทษนะครับทุกคน วันนี้คงเหลือแค่พวกเราแล้ว” อีวานเอ่ยขึ้นหลังจากวางสายจากเกรซไป “เกรซบอกว่าติดงานด่วนเลยมาไม่ทัน”
“ผิดนัดครอบครัวแฟนตั้งแต่ครั้งแรกเลยหรอ” มุกมองหน้าพี่ชายด้วยความเป็นห่วง
“ป้องกันรึเปล่าอีวาน” / “แด๊ด!! ถามอะไรตรงนี้ น้องยังเด็กอยู่เลย” อีวานท้วงแฟรงค์
“มุกไม่เด็กแล้ว มุกเข้าใจน่า ตอบแด๊ดดี้ไปเลย” มุกยิ้มตอบ
“ไม่ต้องห่วง ผมป้องกันทุกครั้ง ไม่พลาดมีหลานมาให้แด๊ดกับแม่เลี้ยงง่าย ๆ หรอก” อีวานตอบ
“ดี คนนี้แด๊ดยังไม่วางใจ ไม่ห้ามถ้าจะคบแต่ดูดีดี ดูนานนาน อย่าให้ความหลงในรูปร่างหน้าตาเข้ามาบังสิ่งที่ควรจะมองเห็น หนูก็ด้วยนะมุก มองใครให้ดูที่การกระทำ ไม่ใช่การกระทำที่มีกับเรา แต่เป็นการกระทำกับคนรอบตัวที่สำคัญกับเรา เข้าใจมั้ย” มุกพยักหน้ายิ้มตอบ
“ของหนูไม่ต้องดู ถ้ามีหนุ่มมาจีบเมื่อไหร่ พี่จะบินไปดูให้เอง” อีวานเอ่ยแทรก
“ไม่ต้องเลย ถ้าพี่บินไป มุกคงขึ้นคานแน่ ๆ ถ้ามีจริง ๆ มุกไม่บอกพี่หรอก” มุกแลบลิ้นใส่พี่ชาย ตามมาด้วยเสียงหัวเราะของแฟรงค์และจิด้า
หลังจบมื้ออาหาร อีวานก็พาทุกคนเดินทางกลับบ้านเพื่อให้ทุกคนได้พักผ่อน โดยเฉพาะมุก ที่ดูจะหมดแรงจากการเดินเที่ยวในวันนี้ไปไม่น้อย
“อาบน้ำนอนได้เลย ถ้าพรุ่งนี้ตื่นสาย มีเวลาช้อปปิ้งน้อยพี่ไม่รู้ด้วยนะ” อีวานเอ่ยกับมุกเมื่อกลับถึงบ้าน
“อะไรกัน พรุ่งนี้ยังช้อปปิ้งอีกหรอคะ หนูจะซื้อไปทำอะไรเยอะแยะ” คุณจิด้าหันไปถามลูกสาว
“ไม่เยอะเลยนะคะแม่ ของที่ช้อปปิ้งวันนี้เป็นของฝากเพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่รู้จักกัน มีของมุกแค่นิดหน่อยเองค่ะ แต่พรุ่งนี้มุกจะไปช้อปปิ้งสนองความต้องการของตัวเอง แถมพรุ่งนี้ยังมีคนจ่ายให้มุกด้วย มุกจะพลาดได้ไง” มุกยิ้มตอบคุณจิด้า
“อย่าไปกวนเงินพี่เค้าเยอะล่ะ วันนี้ก็อุดหนุนเมนหนูไปไม่น้อยเลยนะคะ อีวานเองก็ไม่ต้องตามใจน้องมาก ระวังจะหมดตัวล่ะ” คุณจิด้ายิ้มเตือน
“อีวานไม่หมดตัวง่าย ๆ หรอก เอามาเปย์น้องดีกว่าไปเปย์คนอื่น จริงมั้ยคะแด๊ดดี้” มุกหันไปหาตัวช่วย
“ตามที่น้องบอกเลย” แฟรงค์ตอบสั้น ๆ พร้อมรอยยิ้มขำ
“ไม่ต้องห่วงครับแม่ น้องสาวคนเดียวผมเลี้ยงได้อยู่แล้ว สบายมาก แล้วพรุ่งนี้แม่จะไปด้วยกันมั้ยครับ พรุ่งนี้แด๊ดไปทำงานแล้วหนิ” คุณจิด้าส่ายหน้าตอบกลับทันที
“แม่อยู่บ้านเตรียมของหน่อยดีกว่า ว่าจะทำไตปลาแห้งของโปรดน้อง จะได้เอากลับไปกินที่นู่นด้วย เด็ก ๆ ไปเที่ยวกันเถอะ” มุกหันไปยิ้มกว้างพร้อมกอดแม่แน่น
“มุกคิดถึงไตปลาฝีมือแม่ที่สุดเลย กินที่ไหนก็ไม่อร่อยเท่าแม่ทำ” คุณจิด้ายิ้มกอดลูกสาวตอบ
“แม่รู้ว่าหนูชอบ แม่ไม่ค่อยได้ทำหรอก นาน ๆ จะทำซักที เพราะแด๊ดกับอีวานกินไม่ค่อยได้ ไว้ถ้าอยากกินก็บอก เดี๋ยวแม่ทำส่งไปให้ดีมั้ย” มุกพยักหน้ารับรัว ๆ
“ขอบคุณค่ะ งั้นมุกไปอาบน้ำพักผ่อนแล้วนะคะ เจอกันพรุ่งนี้เช้าค่ะ” มุกหอมแก้มแม่แล้วเดินกลับเข้าห้องไปพร้อมรอยยิ้ม ไม่ต่างจากทั้งสามคนที่ยืนมองตามหลังไป
“มาทีบ้านก็สดใสทีนะครับ” อีวานยิ้มเอ่ย
“แม่ก็คิดถึงน้องนะ ตอนเรียนจบแม่อยากให้น้องมาอยู่ที่นี่ด้วยกัน แต่ก็เข้าใจว่าน้องคงอยากทำงานอยู่กับเพื่อน ๆ เลยไม่ได้ขัดอะไร อีกอย่างน้องก็โตแล้วด้วย แม่อยากให้น้องอยู่ในที่ที่มีความสุข” คุณจิด้าตอบ
“หนูมุกเป็นเด็กร่าเริง ยิ้มเก่ง อยู่ที่ไหนก็มีแต่คนรักและเอ็นดู” แฟรงค์เอ่ยขึ้นบ้าง
“อย่ารักเยอะเลยแด๊ด เอาจริง ๆ ผมหวงน้องนะ ไม่รู้ว่าผู้ชายที่จะเข้ามา จะดีกับน้องเท่าที่พวกเราดีกับน้องมั้ย ที่ผ่านมาน้องไม่เคยมีแฟนเลย ประสบการณ์ก็ไม่มี ผมกลัวน้องโดนหลอก” อีวานหันมาพูดกับแฟรงค์
“ยิ่งไม่มีประสบการณ์เรายิ่งต้องปล่อย ปล่อยให้น้องได้รัก ได้เรียนรู้ เราไม่สามารถตามติดน้องไปได้ตลอดหรอกนะ เลิกหวงน้องได้แล้ว คอยดูอยู่ห่าง ๆ ก็พอ หวงมาก ระวังน้องจะไม่กล้าบอกอะไร เผลอ ๆ ไปรู้อีกทีตอนจะแต่งงาน” คุณจิด้าหัวเราะคำพูดของแฟรงค์ ต่างจากอีวานที่ทำหน้างอเดินหนีเข้าห้องไป