เขากระชากคนตัวเล็กเข้าหาอย่างแรง ไมเนอร์ไม่พอใจอย่างมากที่เธอปากเก่งกล้าพยศใส่เขา ผู้หญิงกี่คนต่อกี่คนไม่มีใครกล้าเดินหนี ถือว่าเธอกล้ามากที่ทำมัน แบบนี้ต้องสั่งสอนให้หลาบจำ ทั้งที่ได้เขาเป็นผัวแต่เธอยังกล้าทำตัวกระหายผู้ชายไม่เลิก
“คุณไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้กับฉัน”
“ทำไม หรือฉันทำให้ไม่ถึงใจถึงได้วิ่งตามผู้ชายมาถึงที่นี่”
“ทุเรศ” เธอพ่นคำด่าหยาบคายใส่หน้าเขาไปเต็ม ๆ
“ว่าไงนะ?”
“คุณมันทุเรศที่สุด”
“จะด่าอะไรก็ระวังปากหน่อย อีกอย่างเรื่องเมื่อคืนฉันก็ไม่ได้เป็นคนร้องขอนะอย่าลืม” เธออนุญาตให้เขาทำเอง เขาไม่ผิดสักหน่อย ไหน ๆ ก็เคยได้แล้วถ้าได้อีกครั้งคงไม่เป็นไรหรอกมั้งว่าไหม?
“ฉันไม่น่าพลาดให้คุณเลย”
“อันนั้นฉันก็ช่วยไม่ได้” เขาตอบกลับอย่างไม่ยี่หระ เธอเสนอเขาก็แค่สนอง วิน ๆ กันทั้งคู่
“ปล่อย” ฝันดีพยายามบิดข้อมือออกจากการเกาะกุมของอีกคน
“ไหน ๆ ก็เจอแล้วฉันว่าเรา..”
“ไปตายซะ”
“เหอะ!” ไมเนอร์ดันลิ้นเข้าหากระพุ้งแก้มด้วยความหงุดหงิด เธอกำลังทำให้เขาหมดความอดทน ไปตายงั้นเหรอ..
“ปล่อย”
“....”
“ฉันบอกให้ปล่อยไง!”
“เพ้อเจ้ออะไรอยู่”
“จะไม่ปล่อยใช่ไหม”
“เธอเป็นใครทำไมฉันต้องเชื่อฟัง” ไมเนอร์ลอยหน้าลอยตาพูดอย่างไม่สนใจใบหน้าหงุดหงิดของคนตัวเล็ก
“ฉันถามคุณแล้วนะ”
“อะไร”
“จะไม่ปล่อยใช่ไหม”
“เลิกพูดแล้วไปกับฉะ..”
ปั่ก!
“ไอ้สวะ!”
“อ๊ากกก” ร่างสูงตัวงอกุมเป้าตัวเองพลางทรุดตัวนั่งลงไปกับพื้น ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บและจุกเป็นที่สุด ฝันดีเห็นว่าเขาไม่สนใจแล้วจึงรีบวิ่งหนีด้วยความรวดเร็ว
“เหี้x!/...” อคินตาโตตกใจกับภาพตรงหน้า ผิดกับแฝดพี่อย่างวาคินที่ยืนมองเจ้านายนั่งกุมเป้าตัวเองสีหน้าเรียบนิ่ง
“วาคิน..นายโดนเตะไข่” เขาเห็นยังจุกแทน แล้วคนโดนจะขนาดไหน
“....”
“มึงได้ยินที่กูพูดไหมเนี่ย” ผู้เป็นน้องหันไปถามพี่ชายอีกครั้งที่เอาแต่ยืนเงียบไม่เอ่ยอะไรออกมา เจ้านายโดนเตะยังยืนดูได้หน้าตาเฉย เลือดเย็นจริง ๆ พี่ชายเขา
“อะไร”
“นายโดนเตะไข่”
“ไข่นายไม่ใช่ไข่กู”
“มึงมันคนเลือดเย็นไอ้วา!” วาคินทำหน้าเหนื่อยใจกับน้องชายตัวเอง ไมเนอร์กับอคินมีนิสัยคล้ายกันตรงที่เหมือนจะฉลาด..แต่ก็ไม่ เขาส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะก้าวเข้าไปหาเจ้านาย
“นายครับ” ย่อตัวนั่งลง
“จะ จับเธอไว้” ไมเนอร์บอกลูกน้องให้ตามจับหญิงสาวที่บังอาจทำเขาอย่างเจ็บแสบ
“เธอเข้าโรงแรมไปแล้วครับนาย” ขืนเขาเข้าไปเอาตัวเธอออกมาในยามวิกาลได้โดนจับกันหมดแน่
“มึงไม่เห็นที่เธอทำกูหรือไง”
“เห็นครับ”
“เห็นก็ไปสิวะ! อ๊ะ”
“ครับ” วาคินตอบอย่างปฏิเสธไม่ได้พร้อมกับลุกขึ้นเพื่อตามหญิงสาวไป ทว่า..
“ไม่ต้อง”
“คุณฟินิกซ์” ฟินิกซ์ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงมองมาพี่ชายตัวเองนิ่ง
“พาไปขึ้นรถ”
“มึงมาได้ยังไง” ไมเนอร์ถามน้องชายด้วยความสงสัย ปกติฟินิกซ์เก็บตัวอยู่แต่บ้านไม่ชอบออกไปไหนมาไหน ไหงมาเจอกันที่นี่ได้
“....” เขาไปตอบ
“ผมช่วยครับนาย” อคินพยุงเจ้านายตัวเองลุกขึ้นเพื่อจะพาไปที่รถ ลูกน้องไมเนอร์ทุกคนจะกลัวฟินิกซ์มาก มากกว่าเจ้านายตัวเองเสียอีก
“กูบอกให้พวกมึงไปเอาตัวยัยนั่นมายังไงวะ!” เขายังไม่ได้จับยัยผู้หญิงพยศคนนั้นมากำราบเลย จะให้กลับไปง่าย ๆ ได้ยังไง
“แต่ว่า..” อคินมีท่าทีอึกอักพลางลอบมองไปยังฟินิกซ์เล็กน้อย
“มึงกลัวมันมากกว่ากู?”
“ใช่ครับ” ตอบกลับทันควัน
“เออ ให้มันได้แบบนี้!” เขาเป็นคนจ่ายเงินเดือนพวกมันกลับไม่กลัว แต่เสือกไปกลัวน้องชายเขาจนหัวหด ดีจริง ๆ ลูกน้องแต่ละคน
“ผะ ผมไม่อยากถูกขังในห้องดำอีก” และใช่.. ที่ทุกคนกลัวฟินิกซ์มากก็เพราะเรื่องนี้ ลูกน้องทุกคนไม่ว่าจะของไมเนอร์หรือของฟินิกซ์เองก็ตาม หากทำผิดหรือขัดคำสั่งจะถูกขังอยู่ในห้องนั้นเป็นเวลาสามคืน เคยมีคนโดนนานสุดถึงสองอาทิตย์ อคินเองก็เคยโดนเพราะเขาช่วยไมเนอร์ปกปิดเรื่องบางอย่างจึงทำให้ถูกลงโทษ มีเพียงวาคินคนเดียวที่ยังไม่เคยโดน ถ้าถามว่าแค่ห้องธรรมดา ๆ ห้องหนึ่งจะกลัวกันทำไม ก็เพราะมันไม่ธรรมดาไงพวกเขาถึงกลัวกัน
“แม่งเอ๊ย!”
ความจริงฟินิกซ์มีนัดกับเพื่อนเท่านั้น พวกเขานัดดื่มกันยังร้านประจำที่พัทยา แต่ใครจะคิดว่ามันจะบังเอิญมาเจอพี่ชายตัวเองอยู่ที่นี่ เขาเห็นตั้งแต่ไมเนอร์เดินเข้าไปหาหญิงสาว ทุกอย่างได้ตกอยู่ในสายตาเขาหมดกระทั่งเธอทำเรื่องที่เขาไม่คิดว่าจะกล้าทำแล้วชิ่งหนีไป พอเห็นว่าไมเนอร์สั่งให้คนตามเธอเขาจึงเข้าไปขวาง จากที่คิดว่าจะไปดื่มกับเพื่อนเป็นต้องกลับบ้านตัวเองเพราะพี่ชายตัวดี
บ้านฟินิกซ์
“อ๊ะ กูเจ็บ!” เขาว่าให้ลูกน้องที่ปล่อยตัวเขาลงเมื่อมาถึงโซฟากลางบ้านที่ตกแต่งด้วยโทนสีดำ
“ขะ ขอโทษครับนาย”
“ออกไป” ฟินิกซ์ไล่ทุกคนให้ออกไปให้หมด
“ครับ”
“.../...” หลังจากที่ลูกน้องออกไปกันหมดแล้ว ความเงียบก็เข้ามาแทนที่ ไมเนอร์เองก็ไม่รู้จะพูดอะไรเหมือนกันจึงนั่งกุมเป้าตัวเองเงียบ ๆ กระทั่งฟินิกซ์เอ่ยขึ้น
“รู้จัก?”
“ใคร”
“เธอ”
“ไม่”
“....” คำตอบของพี่ชายทำเอาฟินิกซ์มองหน้าเขาไปทันที
“แต่ได้กันแล้ว” ไม่จำเป็นต้องโกหก ฟินิกซ์เป็นน้องชายที่ไมเนอร์รักและยอมทุกอย่าง เขาไม่เคยขัดหากน้องชายต้องการอะไร เพราะพวกเขามีกันแค่นี้ ฟินิกซ์เองก็รักไมเนอร์ไม่น้อยเลยเช่นกัน แต่เพราะนิสัยที่แตกต่างกันมากคนเลยมองว่าทั้งสองไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่ และน้อยที่คนจะรู้ว่าทั้งสองเป็นพี่น้องกัน คงเพราะนิสัยฟินิกซ์ไม่ชอบเข้าสังคมด้วย เขาจะอยู่บ้านไม่ก็คอนโดซะส่วนใหญ่ ไมเนอร์จะเป็นคนที่หัวร้อนมักใช้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล ผิดกลับฟินิกซ์ที่เป็นคนนิ่งสุขุม พูดน้อยเดาอารมณ์ได้ยาก และเป็นคนที่น่ากลัวทั้งคำพูดและสายตา นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ลูกน้องจะกลัวฟินิกซ์มากกว่าไมเนอร์
“....” หลายครั้งที่เขาคอยเตือนพี่ชายเรื่องผู้หญิง แต่ไมเนอร์ก็ไม่เคยเข้าใจสิ่งที่เขาจะสื่อเลยสักครั้ง
“ก็แค่..เอา”
“ลูกเขามีพ่อมีแม่นะเนอร์”
“เออรู้แล้ว”
“รู้แล้วทำทำไม”
“เมา” หมายถึงเธอนะที่เมาไม่ใช่เขา ไมเนอร์ไม่ใส่รายละเอียดลงไปเยอะ เดี๋ยวจะโดนน้องชายต่อว่าอีก ถึงเขาจะอายุเยอะแล้วก็จริง แต่สำหรับฟินิกซ์เขาขอไม่ต่อปากต่อคำจะดีที่สุด
“...”
“อย่าเงียบดิ”
“เหนื่อย”
“งานเยอะ?”
“อืม” ฟินิกซ์ไม่อยากพูดถึงเรื่องนั้นแล้ว ลำพังเรื่องงานก็เหนื่อยมากพอแล้ว ยังมีเรื่องพี่ชายเข้ามาอีก
“กินอะไรไหม” เมื่อเห็นว่าอีกคนเหนื่อยไมเนอร์จึงถามน้องชายทันที ถ้ายังเขาจะลุกไปทำอาหารมาให้
“อืม”
“รอก่อนเดี๋ยวรีบทำมาให้”
“อืม” ร่างสูงไมเนอร์รีบเข้าครัวไปจัดการลงมือทำอาหารให้น้องชายทันที