ตอนที่ 1
“รอนานไหม” น้ำเสียงคุ้นเคยเอ่ยทำให้ผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนรออยู่หันมามองทางเธอ ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้นั้นแตกต่างจากอดีต เธอแต่งกายด้วยชุดสายเดี่ยวสีแดงดูเซ็กซี่ทั้งที่จากเดิมชอบเพียงแค่สวมเสื้อยืดกางเกงยีน รองเท้าส้นสูงที่เธอเคยบอกว่าไม่ชอบใส่ตอนนี้กลับใส่ ผมที่ชอบทำเป็นโดนัทตอนนี้กลายเป็นปล่อยยาวสลวยให้พลิ้วไหวไปตามสายลมที่พัดแผ่วเบา เธอจับปอยผมซึ่งพัดมาบังสายตาให้ทัดหลังหู ใบหน้าเรียวปราศจากแว่นตากลมหนาถูกแต่งแต้มจนมีสีสันแลดูมีชีวิตชีวาสดใสราวกับสาวน้อยแรกแย้มที่สามารถสะกดได้ทุกสายตาที่จ้องมองมา
ไม่มีอีกแล้ว ‘ต้าเฟยลี่’ นักเขียนสุดเฉิ่มคนเก่า
ส่วนเขานั้นยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแม้แต่น้อย...
ดวงตาสีน้ำตาลมอง ‘อดีตแฟน’ ที่มีสีหน้าแปลกใจอย่างชอบใจ
“นี่เธอแต่งตัวแบบนี้...เพื่อมาเจอฉันโดยเฉพาะเลยหรอ”
คำถามนี้ทำให้เฟยลี่เบ้ปากเล็กน้อย “เสียใจด้วย พอดีฉันมีนัดต่อ นายอย่าได้สำคัญตัวเองมากนักได้ไหมหลี่เสี่ยวหลง” เธอตอบกลับไปอย่างช้าๆ ชัดถ้อยชัดคำ แต่คำตอบของเธอกลับกลายเป็นเรียกรอยยิ้มเล็กน้อยของเขาขึ้นมาแทน
เขาที่มักจะไม่ค่อยมีรอยยิ้มบนใบหน้าให้แก่คนอื่น แต่กลับยิ้มให้เธออยู่เสมอ เฟยลี่แสร้งเบนสายตาไปทางอื่นแล้วทำเป็นมองไม่เห็นรอยยิ้มนั้น เธอแกล้งกระแอมไอออกมาทีหนึ่ง “ที่ฉันเอาสิ่งนี้มาให้นาย” เธอชูกระดาษที่พิมพ์ออกมาไว้นานจนเหลืองขึ้นตรงหน้า “อย่านึกเข้าข้างตัวเองล่ะว่าฉันยังมีใจให้นายอยู่”
“เธอก็ยังชอบคิดไปเองเหมือนเดิม”
“นี่นาย!” เธอถลึงตาใส่เขา
หลี่เสี่ยวหลงอมยิ้ม “เฟยเฟย เธอฟังฉันหน่อยได้ไหม”
เขาเดินเข้ามาหาเธอหนึ่งก้าว เธอถอยหลังไปหนึ่งก้าว
“ฟังหรอ? ฉันจำเป็นต้องฟังคำอะไรของนายอีก อยู่ ๆ นายก็มาบอกให้เรา 'ห่างกันสักพัก' ไม่ต้องรอนายกลับมา ให้ฉันใช้ชีวิตอย่างมีความสุขโดยที่ไม่ต้องมีนายอยู่” เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อสามปีก่อน เธอก็รู้สึกเหมือนหัวใจมันถูกบีบจนชา เธอพยายามรักษาน้ำเสียงให้คงที่ไม่ให้ไหลไปตามความรู้สึก “นายจากไปโดยไม่ให้คำอธิบายฉันสักคำ ไม่มีแม้แต่จะตอบกลับข้อความของฉัน ปล่อยให้ฉันคิดอยู่คนเดียวว่าตนเองทำอะไรผิด หลี่เสี่ยวหลง ฉันขอถามอะไรนายสักข้อ นายเคยรักฉัน...เห็นฉันเป็นแฟนของนายไหม?”
“...”
เฟยลี่แค่นเสียงหัวเราะในลำคอเยาะเย้ยตนเอง เป็นอย่างที่เธอคิด เขาไม่มีคำอธิบายใดๆ ให้เธอแม้แต่คำเดียว เธอสบเข้าไปในดวงตาสีดำที่มีแววเจ็บปวด...เจ็บปวดงั้นหรอ ฝ่ายที่เจ็บปวดควรเป็นเธอต่างหาก
“นิยายเรื่องนี้ฉันบอกว่าจะเขียนให้นายได้อ่านเป็นคนแรก นายเองก็เคยบอกว่าจะตั้งหน้าตั้งตารอ มันเคยเป็นนิยายที่ฉันรู้สึกภูมิใจที่สุดตั้งแต่ได้เขียนออกมา แต่นายรู้อะไรบ้างไหม ทั้งที่ฉันภูมิใจแต่ฉันก็เกลียดมันมากเช่นกัน สามปีที่มันถูกเก็บเอาไว้ใต้เตียงในที่สุดก็จะมีคนได้อ่านมันได้เสียที หากนายอยากอ่านมันนักก็อ่านสิ!”
ปึกกระดาษที่มีรอยคราบสีเหลืองเล็กน้อยถูกโยนใส่หน้าผู้ชายที่ไม่คิดจะหลบ ต้นฉบับปึกนี้เธอเคยตั้งใจจะเอาไปเข้าเป็นเล่มให้เขา แต่ตอนนี้มันไม่สำคัญอีกแล้ว กระดาษแต่ละแผ่นกระจายตัวปลิวว่อนไปทั่วรอบกายของเขาและเธอ พอได้ทำเช่นนี้เธอก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อย ราวกับว่าได้ระบายความอัดอั้นในใจตลอดสามปีที่ผ่านมาออกไป
ร่างบางสะบัดหน้าหันหลังเดินจากไปทันที เธอจะไม่ให้เขาได้เห็นน้ำตาของเธอเป็นอันขาด เธอจะไม่เข้าไปร้องไห้อยู่ในอ้อมอกเขาอีกแล้ว พอกันที! เธอยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาข้างแก้มลวกๆ
บนถนนใหญ่ มีชายชราผู้หนึ่งกำลังข้ามทางม้าลาย แต่ทว่ารถที่ขับมาอย่างเร็วไม่อาจจะเบรคได้ทันท่วงที ชายชรานั้นหันไปมองรถที่พุ่งเข้าใส่อย่างตกใจ คนขับเบิกตากว้างบีบแตรดังลั่นแล้วตัดสินใจหักพวงมาลัยหลบไปทางซ้ายจนสุดโดยไม่ทันสังเกตว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเดินอยู่บนทางเท้า...
ต้าเฟยลี่ได้ยินเสียงแตรดังลั่นจึงหันกลับไปมอง สายตาของเธอกำลังเห็นรถคันหนึ่งหักเลี้ยวมาทางที่เธอยืนอยู่!
“เฟยเฟย!!!”