ไม่น่าจดจำ

1512 Words
อดีตมันคือเรื่องราวของเมื่อวาน..แม้เพิ่งผ่านมาไม่นานจะขอจดจำแต่สิ่งดี บ้านรชนิศภานุพงศ์ คุณหญิงขวัญเรียมนั่งถอนหายใจอยู่ที่ห้องรับแขก เมื่อเห็นสภาพของลูกชายที่เหลือเพียงคนเดียวตอนนี้ชยันต์ไม่ต่างอะไรกับศพที่เดินได้ หน้าตาที่เคยหล่อเหลาเวลานี้มันรุงรังไปด้วยหนวดเครา เนื้อตัวที่ซูบผอมเสื้อผ้าที่เคยเนี้ยบ คนรีดต้องใช้เวลาและพิถีพิถันเป็นอย่างดีเขาจึงจะสวมใส่ แต่เวลานี้เขากลับสวมเพียงแค่เสื้อยืดกางเกงยีนที่ไม่ได้ถอดไปซักเป็นเวลาหลายวันแล้ว มันดูมอซอเสียจนผู้เป็นมารดาแทบทนไม่ได้ กลิ่นน้ำเมาส่งกลิ่นเหม็นตลบอบอวลคละคลุ้งไปทั่วร่าง แทนน้ำหอมแบรนด์เนมที่เคยใช้ น้ำที่ไม่ได้ไหลชำระล้างผ่านร่างกายมาหลายวันนั้น ทำให้สภาพของเขาเวลานี้ช่างต่างกันราวฟ้ากับเหว ใครเห็นคงไม่เชื่อแน่ว่าเขาคือนักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อไฟแรง ที่บรรดาสาวน้อยสาวใหญ่เคยแย่งกันขายขนมจีบ "ชยันต์แกจะหยุดดื่มได้หรือยังแม่ขอเถอะนะ แม่เหลือแกแค่เพียงคนเดียว อย่าทำให้แม่ต้องเสียใจไปมากกว่านี้อีกเลย" คุณหญิงขวัญเรียมพูดพร้อมกับเดินมานั่งลงข้างๆ ลูกชายที่โซฟา ก่อนที่จะโน้มเขาเข้ามากอดเอาไว้ แล้วลูบปอยผมของชยันต์ด้วยความรัก จากนั้นผู้เป็นมารดาได้เอามือปาดน้ำตาที่แก้มของลูกชายออกอย่างอ่อนโยน ต่อให้ลูกชายทำผิดมากแค่ไหน ผู้เป็นมารดาก็อภัยให้ได้เสมอ แม้ว่าสิ่งที่ชยันต์ได้กระทำต่อเขมิกานั้น มันไม่น่าให้อภัยเลยก็ตามที ในเวลานี้คุณหญิงขวัญเรียมก็อดที่จะสงสารลูกชายกับสภาพที่เขากำลังเป็นอยู่ไม่ต่างจากร่างที่ไร้วิญญาณ “ฮึกฮือ! ผมขอโทษครับแม่” เสียงร้องไห้ของชายหนุ่มพร้อมกับสะอื้นออกมาเบาๆ บ่งบอกให้รู้ว่าความเจ็บปวดที่เขาได้รับในเวลานี้นั้น มันหนักหนาเพียงใด ไม่มีใครแบ่งเบาความเจ็บปวดนี้ไปได้ เมื่อเขาเป็นคนสร้างมันขึ้นมาเขาก็ต้องรับมันไว้เอง "แม่ครับผมเลวจนเกินจะให้อภัย ป่านนี้เขมิกาจะเป็นอย่างไรเธอจะอยู่กับใคร" “ทำไมแกไม่ออกตามหาเมียแกชยันต์ แกจะจมปลักดื่มเหล้าแบบนี้ไม่ได้นะ การงานแกก็ต้องรับผิดชอบ แกคือผู้สืบทอดธุรกิจจากฉันเพียงคนเดียว ตั้งสติให้มั่นแล้วตามหาเมียแกซะ" “ฮึกฮื้อ” เสียงสะอื้นของเขาดังออกมาอีกครั้ง เมื่อนึกถึงเขมิกากับลูกน้อยในครรภ์ ซึ่งเขากลับไม่กล้าบอกกล่าวผู้เป็นมารดาเรื่องลูกให้รับรู้ เพราะชยันต์กลัวว่ามารดาจะเสียใจและรับไม่ได้กับการกระทำของเขา ที่สั่งให้เขมิกาฆ่าลูกในไส้ของตัวเอง คำพูดของแม่มันดูง่าย แต่สำหรับเขาแล้วมันยากยิ่งกว่าการทำกำไรธุรกิจเป็นร้อยล้านเสียอีก เมื่อสิ่งที่เขาทำต่อเขมิกานั้นมันยากเกินกว่าที่เธอจะอภัยให้กับเขาได้ เช้าวันใหม่เสียงดังเอะอะโวยวายราวกับว่าบ้านจะถล่มก็ไม่ปาน เสียงของใครกันนั่นคือคำถามของคุณหญิงขวัญเรียม นางไม่รอช้ารีบเดินออกจากห้องแล้วลงบันไดไปด้านล่าง อยากเห็นเหลือเกินแขกที่มาเยือนในเวลานี้เป็นใครกัน ช่างไม่มีมารยาทเสียจริง "พวกคุณเป็นใครกัน ทำไมถึงได้มาโวยวายที่บ้านของฉันตั้งแต่เช้า" "อ๋อ..นี่คงเป็นคุณหญิงขวัญเรียมสินะ ลูกชายตัวดีของคุณหญิงไปไหน เรียกมันมาพบผมเดี๋ยวนี้!" ชายสูงวัยพูดจาปนตะคอกราวกับว่าโกรธกันมาแต่ชาติปางก่อน ทั้งๆ ที่ไม่น่าจะรู้จักกันด้วยซ้ำ "คุณมีอะไรก็ว่ามา พอดีว่าลูกชายดิฉันไม่ค่อยสบายอยู่บนห้อง" “หึหึ...” เสียงหัวเราะในลำคอของชายสูงวัยดังขึ้นอย่างน่ากลัว พร้อมกับแววตาที่มองมายังคุณหญิงขวัญเรียมราวกับว่าเป็นศัตรูกัน "ไม่สบายหรือหน้าตัวเมียกันแน่ มันทำลูกสาวผมท้อง! ถ้ามันไม่อยากตายก็ให้มันมารับผิดชอบลูกสาวผมซะ!" คุณหญิงขวัญเรียมถึงกับเอามือทาบอกตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน แต่ก็ต้องตกใจหนักกว่าเดิมเมื่อพินิจพิเคราะห์ชายสูงวัยตรงหน้า ก่อนจะนึกออกว่าเขาเป็นใคร ตายแน่ๆ เขาเป็นผู้มีอิทธิพลมาก เขาคงไม่ได้ขู่เล่นๆเพราะการฆ่าใครสักคนสำหรับเขามันง่ายกว่าปลอกกล้วยเสียอีก อย่าว่าแต่ฆ่าคนเลย แม้แต่ธุรกิจของชยันต์เขาก็สามารถทำให้มันเจ๊งล้มละลายได้ในพริบตา “อนงค์ช่วยไปเรียกชยันต์ลงมาหน่อย บอกเขาให้รับรู้ในสิ่งที่เขาได้กระทำไว้แล้วให้รีบลงมา" "ผมชื่อทรงพล คุณหญิงคงรู้จักดีคงไม่ต้องแนะนำนะว่าผมเป็นใคร ในทีวีหรือว่าหนังสือพิมพ์ลงข่าวผมออกบ่อย ส่วนนี่คือแชมเปญลูกสาวของผมเธอกำลังตั้งท้องหลานคุณอยู่" แชมเปญมั่นหน้านั่งขาไขว่ห้างตามสไตล์ของสาวนักเรียนนอก เรื่องมารยาทไม่ต้องพูดถึง เธอไม่มีแม้แต่จะยกมือไหว้ผู้เป็นมารดาของสามีในอนาคตด้วยซ้ำ ซึ่งคุณหญิงขวัญเรียมไม่ถูกชะตาในตัวของว่าที่สะใภ้คนนี้เอาเสียเลย เมื่ออนงค์แม่นมไปบอกกล่าวถึงเรื่องราวทั้งหมดให้กับชยันต์ฟัง เขาต้องแปลกใจเพราะทุกครั้งที่มีอะไรกับผู้หญิงทุกคนเขาจะป้องกันเสมอ มีเพียงเขมิกาเท่านั้นที่เขาตั้งใจทำให้เธอท้องเพื่อแก้แค้นอะไรบ้าๆ นั่น ซึ่งชยันต์รับรู้ถึงบาปกรรมที่มันตามทัน และมันไวยิ่งกว่าจรวดเสียอีก ยิ่งรู้ว่าแชมเปญเป็นลูกของใครทางเลือกของเขามันก็มืดมิด ทางเดียวที่จะทำให้มารดาและธุรกิจไม่เดือดร้อนก็คือการแต่งงานกับแชมเปญเท่านั้น เมื่อเขาเดินลงไปข้างล่างสิ่งที่เขาพูดทั้งหมดคือการยอมรับทุกอย่าง แม้รู้อยู่เต็มอกว่าแชมเปญกำลังยัดเยียดเด็กในท้องให้เป็นลูกของเขาและงานแต่งก็จะเกิดขึ้นในเร็ววัน เพราะท้องของแชมเปญเริ่มโผล่เห็นได้ชัด นั่นมันยิ่งทำให้เขามั่นใจ เมื่อเปรียบเทียบกับท้องของเขมิกาแล้ว ที่เธอบอกเขาว่าท้องได้สามเดือน มันแตกต่างกันมาก ยิ่งเป็นท้องสาวไม่น่าจะโตขนาดนี้ แชมเปญขยับมานั่งใกล้ๆ พร้อมทั้งคล้องแขนและซบไหล่ออดอ้อนชายหนุ่มอย่างโน้นอย่างนี้ อย่างไม่อายผู้ใหญ่ทั้งสองที่นั่งอยู่ เธอเห็นพวกเขาเป็นเพียงหัวหลักหัวตอเท่านั้น คุณหญิงขวัญเรียมถึงกับเอือมในกิริยาของว่าที่สะใภ้ เดือนต่อมา งานแต่งถูกจัดขึ้นภายในโรงแรมหรู ซึ่งข่าวสะพัดไปทั่วทั้งหน้าหนังสือพิมพ์และทีวี ทำให้หญิงท้องแก่ที่กำลังยืนกดเลือกช่องอยู่นั้นถึงกับทรุดนั่งลงอย่างหมดแรง เมื่อคนในข่าวคือเจ้าบ่าวสามีของเธอ เขมิกาจำหน้าผู้หญิงคนนั้นได้ดี ชยันต์เคยพามาค้างที่บ้านหลายหน ทุกครั้งที่ผู้หญิงคนนี้เข้ามา หล่อนมักจะพูดดูถูกดูแคลนและด่าเธอทอเธอสารพัด โดยมีชยันต์คอยให้ท้ายส่งเสริมสนับสนุนผู้หญิงคนนี้ในการทำร้ายจิตใจของเธอ ก่อนที่เขมิกาจะถูกชยันต์เนรเทศออกไปนอนนอกห้อง แม้ว่าเธอจะทำใจได้แล้วในช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่เมื่อดูข่าวแล้วเห็นใบหน้าเขาอีกครั้ง มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกเจ็บจี๊ดที่หัวใจ เหมือนโดนมีดปักลงไปซ้ำแล้วซ้ำอีก เมื่อครั้งหนึ่งในชีวิตของเขมิกา ตรงที่ผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่ ที่ตรงนั้นคนที่ยืนเคียงข้างผู้ชายร่างสูงใหญ่มันเคยเป็นที่ของเธอมาก่อน ซึ่งมันเป็นวันคืนที่ดีที่สุดและมีความสุขที่สุดในชีวิตตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มันคือช่วงเวลาเดียวที่น่าจดจำที่สุดสำหรับชีวิตของเธอ เขาปฏิบัติกับเธออย่างอ่อนโยนราวกับเธอเป็นเจ้าหญิงในคืนส่งตัว แต่ใครเล่าจะรู้ถึงความเจ็บปวดที่เขมิกาได้รับ เมื่อยิ่งหนีกลับยิ่งเจอ เธอเป็นคู่จิ้นกับความเจ็บปวดหรืออย่างไร รีโมตในมือถูกยกขึ้นพร้อมกับกดปุ่มปิด ก่อนที่น้ำตาจะไหลอาบแก้มสองข้างอีกครั้ง ในรอบหลายเดือนแต่ครั้งนี้เขมิกาสัญญากับตัวเองว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้าย ที่เธอจะร้องไห้ให้กับผู้ชายคนนี้ที่ชื่อชยันต์ ผู้ชายที่สั่งฆ่าลูกในท้องของเธอ เขาคือสิ่งที่เธอไม่น่าจดจำอีกต่อไปในชีวิต
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD