สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารักแม้มันจะมักมาพร้อมกับความเจ็บปวดหลายเดือนผ่านไปท้องของเขมิกาเริ่มจะกลมป่องด้วยอายุครรภ์ที่มากขึ้น แต่เธอกลับทำงานในครัวอย่างขะมักเขม้นไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย แม้ลัลนาจะห้ามปรามเธอก็ไม่ฟังนั่นเป็นเพราะเงินที่ติดตัวมาไม่ได้มากมายอะไร ตั้งแต่เธอแต่งเข้าบ้านสามี เขมิกาก็ไม่เคยขอเงินเขาใช้เลย นานๆ ทีเขาจะให้เธอไว้เพียงแค่เป็นค่าใช้จ่ายภายในบ้านเท่านั้น
ร้านอาหารในผับสถานที่เริงรมย์แห่งนี้ เปิดมานานแล้ว คนในย่านนี้ต่างรู้กันว่าด้านในเป็นที่อโคจร แต่ใครจะรู้ถึงความขมขื่นของสาวๆ พวกนั้น ทุกคนต่างก็มีความจำเป็นและเหตุผลที่ต้องทำ ถ้าเลือกได้คงไม่มีใครอยากจะทำงานแบบนี้
ผ่านไปหลายชั่วโมง ภายในห้องนอนเล็กๆ ข้างในนั้นมีผู้หญิงรูปร่างอวบอิ่ม แม้ว่าท้องของเธอจะใหญ่ขึ้น แต่ความสวยของเธอก็ไม่ได้ลดน้อยถอยลงเลยแม้แต่น้อย เธอกลับดูดีมีน้ำมีนวลสวยเปล่งปลั่งมากขึ้นกว่าเดิม เขมิกาค่อยๆ นั่งลงที่โซฟาตัวยาว
หลังจากที่ช่วยงานในครัวมาแล้วพักใหญ่ เธอค่อยๆ เอนหลัง เพื่อบรรเทาความปวดเมื่อย มือข้างหนึ่งลูบลงมาที่หน้าท้องนูนเบาๆ พร้อมกับรอยยิ้มที่ผุดขึ้นมาจากมุมปากเล็กน้อย เมื่อเธอนึกถึงทารกที่อยู่ในครรภ์อีกไม่นานก็จะลืมตาดูโลกใบกว้างนี้แล้ว
สถานที่แห่งนี้เขมิกาเรียกมันว่าบ้าน ถึงแม้ใครๆ จะเรียกว่าอะไรก็ตาม แต่สำหรับเธอแล้วมันคือบ้านและครอบครัวของเธอ ที่นี่เป็นบ้านหลังใหม่ที่อ้าแขนรับเธอตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเท้าเข้ามา ทุกคนที่นี่ล้วนเป็นมิตรและเอื้ออาทรต่อเธอเสมอ เขมิกาค่อยๆ ถอดแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายออก มันคือสมบัติชิ้นเดียวที่เธอมี อยู่จู่ๆ น้ำตาของเธอก็ไหลพรากลงมาที่แก้มนวลอีกครั้ง
เมื่อนึกถึงคนที่สวมมันให้ อย่างน้อยเขาและเธอก็เคยมีช่วงเวลาดีๆ ให้กัน แม้มันจะทุกข์มากกว่าสุขก็ตามที เมื่อเขมิกานึกถึงวันที่เธออยู่อย่างเดียวดาย หลังจากที่บิดามารดาต้องมาตายจากไป ในวันที่เธอไม่เหลือใครเลย อยู่ๆ เขาก็เดินเข้ามา ชยันต์คือคนเดียวที่อยู่ข้างๆ คอยปลอบโยนและให้กำลังใจเธอ
หลังจากผ่านพ้นวันคืนที่มืดมนนั้นมาได้ เขมิกาก็มั่นใจว่าชรัญ (ที่แท้คือชยันต์) จะไม่มีวันทำให้เธอเสียใจอีก เขมิกาตัดสินใจแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเลเลยสักนิด ความสาวที่รักษามันมาทั้งชีวิต เธอได้มอบให้กับเขาอย่างเต็มภาคภูมิในคืนส่งตัว เจ้าบ่าวที่เธอเคยตกหลุมรักครั้งแรก
หญิงสาวรู้สึกตกหลุมรักเขาอีกครั้งในคืนเข้าหอ เมื่อเขาและเธออยู่ตามลำพัง โลกนี้ทั้งใบได้กลายเป็นสีชมพู ก่อนที่จะมืดดับลงกลายเป็นสีดำทั้งใบ เมื่อแล้วโชคชะตาเล่นตลกกับเธอ ผู้ชายที่แสนดีอยู่ๆ เขาได้กลายร่างเป็นอสุรกายในชั่วพริบตา
ทุกอย่างพังทลายจนสิ้น หัวใจของเธอมันเหมือนโดนเขาควักออกมาแล้วเหยียบซ้ำ เวลานี้เธอกลายเป็นคนไร้หัวใจไปแล้ว ไม่ว่าชายใดก็ตามเธอจะไม่มีวันมอบหัวใจให้ได้อีก เพราะเธอไม่มีหัวใจนับตั้งแต่วันที่ชยันต์ควักมันออกไป
ลัลนาเดินเข้ามาในห้องเล็กๆ เธอเป็นห่วงเขมิกาที่ท้องเริ่มโต การปล่อยให้หญิงท้องแก่ ไม่มีสามีคอยดูแลต้องอยู่เพียงลำพังนั้น มันช่างน่าสงสารเหลือเกิน เขมิกาต้องมาอุ้มท้องและต้องมาคลอดลูกอยู่ในสถานที่แบบนี้ โชคชะตาของเพื่อนตรงหน้า ใครกันช่างลิขิตให้เธอเจอแต่เรื่องเลวร้าย
"เป็นยังไงบ้างเขม เจ้าตัวเล็กดิ้นดีไหม ไหนขอตรวจดูหน่อย"
"ไม่ค่อยดิ้นเลยนา"
"อ้าว!! ทำไมล่ะหลานของฉันเป็นอะไรหรือเปล่า" ลัลนาพูดอย่างตื่นตระหนกหวาดกลัว พร้อมกับนั่งลงไปเอาหูแนบที่ท้องของเขมิกา ก่อนจะลูบที่ท้องมนเบาๆ ไปมาอย่างห่วงใย การกระทำของลัลนาทำให้เขมิกายิ้มออกมาได้ อย่างน้อยเธอก็มีเพื่อนที่แสนดีอย่างลัลนา ที่คอยเป็นห่วงเป็นใยในยามที่เธอตกทุกข์ได้ยาก ซึ่งเวลานี้สิ่งที่เธอต้องการที่สุดคือกำลังใจจากใครสักคน ที่อยู่เคียงข้างๆ ในวันที่เธอใกล้คลอด.
"ลัลนาหลานเธอแข็งแรงดี ที่เขมบอกว่าไม่ดิ้นนั้น เพราะหลานเธอถีบฉันเลยต่างหาก”
"เขม..พูดเล่นอะไรก็ไม่รู้ นาตกอกตกใจหมดเลย แต่นาก็ดีใจนะที่เห็นรอยยิ้มของเขมแบบนี้" ลัลนาขยับเข้าไปใกล้เขมมิกา ก่อนจะโอบกอดเพื่อนรักพร้อมกับแนบหูลงไปที่ท้องนูนของเธออีกครั้ง
"หนูจะได้ออกมาแล้วนะ อีกไม่นานหนูก็จะได้มาเป็นลูกของแม่เขมแล้วก็แม่นา หนูต้องดีใจมากและมากกว่าคนอื่นแน่ๆ เลยเพราะหนูมีแม่ตั้งสองคน เห็นไหมหนูเป็นคนพิเศษเลยนะ" พูดจบลัลนาก็เงยหน้าขึ้นส่งยิ้มกว้างให้กับเขมิกา เมื่อเพื่อนของเธอต้องการกำลังและมันเป็นเพียงสิ่งเดียว ที่เธอทำให้เขมิกาได้ในเวลานี้เมื่อเทียบกับสิ่งที่เขมิกาเคยทำให้และช่วยเหลือเธอโดยตลอด ลัลนายังรู้สึกละอายใจ ที่ไม่สามารถช่วยเหลือเพื่อนได้ดีกว่าที่เป็น
"นาไม่ต้องห่วงเขมหรอก ไปทำงานได้แล้วเขมอยู่คนเดียวได้"
"คุณแม่มันเริ่มดึกแล้วเข้านอนได้แล้วนะ อย่าเก็บเรื่องไม่เป็นเรื่องมาคิดล่ะ ถ้าจะคิดอะไรให้คิดถึงเจ้าตัวเล็กให้มากๆ เข้าใจไหม”
"เข้าใจค่ะคุณแม่นา คุณแม่ย้ำกับดิฉันทุกคืน จนจำขึ้นใจแล้ว ไม่ต้องห่วงหรอกแค่ผู้ชายคนเดียวที่จ้องแต่ทำร้าย เขมไม่เก็บมาคิดให้มันรกสมองหรอก เรื่องดีๆ ก็อาจมีให้จำ แต่เรื่องระยำมันเยอะมากกว่า แล้วจะมีประโยชน์อะไรหากจะต้องเก็บเอามาคิด จริงไหม"
"คิดได้แบบนี้ก็ดีแล้ว เขมเห็นผู้ชายพวกนั้นไหม ไม่รู้ว่าหนีลูกเมียมาเที่ยวหรือเปล่า อาชีพอย่างเราไม่มีทางเลือกหรือปฏิเสธอะไรได้เลย"
"ผู้หญิงมักตกเป็นเหยื่อของผู้ชายที่เห็นแก่ตัวเสมอ พวกเขาหวังแก่ได้มากกว่าความซื่อสัตย์ที่มีให้กับชีวิตคู่"
"นาไปทำงานแล้วนะ เข้านอนได้แล้ว เราจะผ่านทุกอย่างไปด้วยกัน นาสัญญา เพื่อนคนนี้จะเป็นเพื่อนตายไม่มีวันทิ้งเขม"
คำพูดของลัลนาทำให้น้ำตาของเขมิกาถึงกับคลอออกมา เธอซึ้งในน้ำใจของเพื่อนคนนี้เหลือเกิน หากไม่มีลัลนาเธอคงได้นอนข้างถนน ตามศาลาริมทาง หรือไม่ก็ใต้สะพานลอย ในความโชคร้ายรอบนี้ก็ยังมีความโชคดี ที่ได้ลัลนาเป็นเพื่อนคอยช่วยเหลือในยามยาก
"รีบไปเถอะแค่นี้ทำไมเขมจะผ่านมันไปไม่ได้หนักกว่านี้ก็เคยผ่านมาแล้ว"
เขมิกาพูดพร้อมกับดันหลังเพื่อนให้เดินออกไป ก่อนจะปิดประตูแล้วขึ้นเตียงเตรียมตัวเอนลงนอน เธอไม่อยากเป็นภาระให้กับลัลนา เพราะฐานะที่บ้านของเพื่อนนั้นลำบากมาก ลัลนาคือรายได้หลักของครอบครัว ฉะนั้นงานอะไรที่เธอทำได้เธอก็จะทำ เพื่อลูกเพื่อยาใจดวงน้อยของเธอ เพื่ออนาคตของเด็กน้อยคนนี้ เด็กที่พ่อของเขาสั่งให้ไปฆ่า วันหนึ่งผู้ชายคนนั้นเขาจะต้องเสียใจและได้รับผลกรรม ที่เขาได้กระทำกับเด็กคนนี้เอาไว้เพราะเขาได้สร้างตราบาปนั้นขึ้นมาเอง