ความรู้สึก

1985 Words
ไม่มีใครรู้เรื่องราวที่อดสู แต่เราพร้อมจะสู้เพื่อวันข้างหน้าที่รอคอย ระหว่างการปิดภาคเรียนมหาวิทยาลัยยังไม่เปิด มาเรียมมาช่วยงานที่ร้านทุกวัน ความน่ารักของสาวน้อยต่างต้องตาตรึงใจของหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ที่พบเห็น สถานที่แห่งนี้ใครคงคิดว่าเธอต้องทำงานอย่างว่าด้วย ใครจะมองยังไง สำหรับมาเรียมแล้วเธอไม่แคร์ ขอเพียงแค่มีเงินช่วยแบ่งเบาผู้เป็นมารดาบ้างก็พอ มาเรียมโตเป็นสาว เธอพอจะรู้ว่ามารดาของเธอทำงานอะไร มาเรียมไม่โกรธหรือโทษในสิ่งที่แม่เขมิกาทำ แต่เธอกลับเห็นอกเห็นใจและสงสารมารดาเป็นทวีคูณ เมื่อเธอรู้ถึงเหตุผลที่มารดาต้องทำแบบนั้น เพราะหญิงสาวรู้ดีการที่เธอไม่มีบิดา มารดาต้องลำบากแค่ไหน เขมิกาต้องรับผิดชอบทุกอย่างคนเดียว เธอได้เรียนโรงเรียนดีๆ ได้กินอาหารอิ่มครบสามมื้อ แถมได้เรียนพิเศษเพิ่มขึ้นมาอีกตั้งหลายอย่าง ทั้งที่บางคนไม่มีโอกาสได้เรียนแบบเธอ แต่มารดาซึ่งผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งกลับคอยสนับสนุนเธอในทุกด้าน "ทำอะไรอยู่จ๊ะ สาวน้อยของแม่" "เปล่าคะ" เขมิกาเดินเข้ามาใกล้ พร้อมกับโน้มตัวลูกสาวเข้ามาในอ้อมกอด เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะต้องพาลูกมาลำบากตรากตรำ ทำงานในสถานที่แบบนี้ คุณหนูตกยากอย่างเธอต้องผันตัวเองมาขายตัว เพื่อแลกกับอนาคตของลูก ขณะที่ชยันต์บิดาของลูกมีครอบครัวที่อบอุ่นกับผู้หญิงคนใหม่ มันช่างน่าขบขันนักกับโชคชะตาที่เธอต้องเผชิญ ใครกันเป็นคนกำหนดช่างใจร้ายกับเธอเสียจริง "เหนื่อยไหม” คำถามที่นุ่มนวลทำให้มาเรียมเงยหน้าขึ้นไปสบตามารดา ก่อนที่น้ำตาจะไหลเล็ดออกมาจากตาคู่สวย ซึ่งคำถามนี้ควรเป็นเธอมากกว่า ที่ต้องเอ่ยถามมารดา เพราะคนที่เหนื่อยคือมารดา เธอสุขสบายเสียจนคิดว่าไม่น่าเกิดมาเป็นภาระให้กับผู้เป็นเขมิกาด้วยซ้ำ "แม่คะ เมื่อไหร่แม่จะหยุดทำงาน มาเรียมโตแล้ว มาเรียมจะทำงานจะหาเงินเลี้ยงแม่เอง แม่พักเถอะนะคะ" เขมิกาก้มลงไปจุมพิตหน้าผากของลูกสาว เธอซาบซึ้งถึงความกตัญญูและความตั้งใจของมาเรียม ที่ไม่เคยทำให้มารดาอย่างเธอต้องผิดหวัง "เมื่อหนูเรียนจบ แม่สัญญาแม่จะเลิกทำงานนี้ หนูเสียใจหรือเปล่าที่เกิดเป็นลูกแม่" "แม่ค่ะ” เด็กสาวกอดรัดผู้เป็นมารดาแน่นขึ้น เธอโชคดีต่างหากที่ได้เกิดเป็นลูกของแม่เขมิกา มารดาผู้ยอมสละตัวเอง เพื่ออนาคตของลูก ยอมถูกตราหน้าว่าเป็นผู้หญิงอย่างว่าเพื่อมาเรียมน้อยคนนี้ "แม่รู้ไหมว่าเรียมโชคดีแค่ไหน ที่ได้เกิดเป็นลูกแม่ มาเรียมรักแม่เขมที่สุดในโลกเลยค่ะ!” "แม่ก็รักหนูจ้า หนูคือรักเดียวของแม่ แม่ต้องไปทำงานแล้วล็อกประตูให้ดีนะ" "ค่ะแม่ ดูแลตัวเองด้วยนะคะ" ทั้งสองกอดกันกลมก่อนที่เขมิกาจะเปิดประตูเดินออกจากห้องไป มาเรียมจึงรีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปช่วยงานเสิร์ฟ รายได้เสริมที่เธอทำอาจไม่มาก แต่ก็พอเป็นค่าขนมและเก็บออมเอาไว้ในยามจำเป็น เพื่อแบ่งเบาภาระของผู้เป็นมารดาลงได้บ้าง มาเรียมเดินเข้ามาในผับ ที่เวลานี้ลูกค้าเริ่มแน่นร้านแล้ว เธอเดินไปที่เคาน์เตอร์เพื่อรับออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งก่อน จะเตรียมเครื่องดื่มไปเสิร์ฟตามโต๊ะที่รับอเดอร์มา การกระทำของหญิงสาว ทุกท่วงท่าอยู่ภายใต้สายตาของใครบางคนตลอด ชายหนุ่มที่ไม่ได้ตั้งใจมาที่นี่เขาโดนเพื่อนลากบังคับมา แต่หากรู้ว่ามาแล้วจะได้เจอใครบางคน ที่เขาอยากเจอ ติณณ์คงจะมาโดยไม่ต้องมีใครบังคับ เขามีเพื่อนสนิทสามคนคือแทน ไทเกอร์และเชน คุณชายทั้งสี่นั่งอยู่โซนวีไอพี ที่มีผู้หญิงล้อมรอบคอยเอาใจ มาเรียมตรงมาที่โต๊ะวีไอพี เมื่อติณณ์สั่งให้เชนจัดการให้เธอมาบริการที่โต๊ะของเขา แต่ชุดที่มาเรียมใส่แตกต่างกับพนักงานเสิร์ฟคนอื่นๆ เพราะมันเรียบร้อยปิดบังทุกส่วนของร่างกายไม่ให้เห็นเนื้อหนังมังสาเล็ดรอดออกมาแม้แต่น้อย ติณณ์ยังแปลกใจ เธอสนิทกับเจ้าของที่นี่ถึงขนาดแต่งตัวตามอำเภอใจแบบนี้ก็ได้หรือไง "รินเหล้าให้ด้วย!” ติณณ์พูดออกมาเสียงเข้ม มาเรียมไม่พูดอะไรทำตามที่เขาบอกอย่างว่าง่าย แม้เธอจะจำติณณ์ได้ แต่ก็ไม่มีเหตุผลอะไร ที่มาเรียมต้องทักเขา ในเมื่อเขาก็เป็นแค่เพียงคนแปลกหน้าสำหรับเธอเท่านั้น ซึ่งติณณ์เองก็พอดูออกว่าเธอจำเขาได้ แต่สิ่งที่เธอแสดงออกมานั้นราวกับคนแปลกหน้าไม่เคยเจอกันมาก่อน ทั้งที่เขาเคยช่วยเธอจากการถูกไล่ออกจากโรงเรียนมาแล้ว ทำไมหญิงสาวคนนี้ถึงได้เย็นชาราวกลับไม่มีชีวิตชีวา ในโลกดนตรีทั้งที่เวลานี้ที่นี่มันคือผับสถานที่เริงรมย์ แต่เธอกลับมีใบหน้าที่เรียบเฉยเหมือนซ่อนอะไรไว้ในดวงตาคู่สวยและใบหน้างาม จนทำให้เขาอยากค้นหา “ติณณ์ขาเดี๋ยวเชอรี่ป้อนนะคะ” เชอรี่คือคู่ขาที่ติณณ์ควงมาในวันนี้ เธอสวยแซบเผ็ดเลยทำให้ติณณ์ควงนานสุด เชอรรี่ยกแก้วเหล้ากระดกเข้าปากก่อนจะหันหน้าประกบริมฝีปากลงไปที่ปากของชายหนุ่ม ซึ่งเป็นการป้อนเหล้าที่หน้าเกลียดที่สุดตั้งแต่มาเรียมเจอมา จากนั้นเชอรี่ได้กดจูบชายหนุ่มลงไปอย่างดูดดื่มและร้อนแรง โดยไม่แคร์สายตาคนรอบข้าง การกระทำของหนุ่มสาวไม่มีผลใดๆ ต่อมาเรียมเพราะเธอเห็นจนชินตาแล้ว "คุณติณณ์ครับ รบกวนไปเปิดห้องด่วนหรือมึงจะเอากันตรงนี้ก็ได้นะกูไม่ถือ แต่เกรงใจน้องเด็กเสิร์ฟบ้างก็ได้” ไทเกอร์พูดออกมาพร้อมกับมองไปที่มาเรียม ด้วยแววตาหวานหยาดเยิ้ม ติณณ์ถอนจูบจากเชอรี่ ก่อนจะชำเลืองมองไปที่มาเรียม ซึ่งเธอก็ทำหน้าเรียบเฉยอีกตามเคย ยัยนี่เป็นมนุษย์น้ำแข็งหรือไงถึงได้เย็นชาไร้ความรู้สึกแบบนี้ “หึหึ...” เสียงหัวเราะในลำคอของติณณ์..ผู้หญิงส่วนมากมีแต่วิ่งเข้าหาเขา แต่เด็กเสิร์ฟอย่างเธอกลับทำราวกับว่าเขาเป็นเพียงแค่อากาศธาตุเท่านั้น "น้องคนสวยครับ คืนนี้โต๊ะพี่เหมาแล้ว ถ้าจะไปต่อข้างนอกด้วยคิดเท่าไหร่พี่จ่ายไม่อั้น" เชนเอ่ยถามออกมา ซึ่งมาเรียมยังคงนิ่งเฉยไม่พูดอะไร เมื่อหน้าที่ของเธอตอนนี้มีเพียงชงเหล้าส่งให้แขกเท่านั้น เธอจึงไม่จำเป็นต้องตอบคำถามบ้าบอเหล่านั้น "สวยน่ารักแบบน้องถ้าซิงและสดพี่ให้ครึ่งล้านสนใจไหม” แทนพูดขึ้นพร้อมกับเสนอเงินก้อนโตให้กับมาเรียม แม้เสียงเพลงจะดังแต่ด้วยการยืนในระยะใกล้ ทำให้มาเรียมได้ยินในสิ่งที่ชายหนุ่มพูดออกมาทั้งหมด จึงทำให้หญิงสาวมองผู้ชายกลุ่มนี้ในด้านลบรวมทั้งติณณ์ด้วย เธอไม่คิดว่าพวกเขาที่มีการศึกษาและครอบครัวที่ดี มีบ้านให้อยู่ จะมองผู้หญิงเพศแม่เป็นเพียงแค่สินค้า ในการใช้ร่างกายแลกเปลี่ยนกับเงินตราเท่านั้น "พวกคุณไม่ต้องสนใจเธอหรอก หน้าตายังกับแกงจืด จะมีรสชาติสู้กับแกงเผ็ดคั่วกลิ้งอย่างพวกเราได้ยังไง” เชอร์รี่พูดพร้อมกับเบ้ปากให้มาเรียม ก่อนจะมองยั่วมาที่หนุ่มตรงหน้า บ่งบอกให้รู้ความหมายที่เธอพร้อมจะสนองและบริการเขาเต็มที่ สาวๆ กลุ่มนี้มาเรียมไม่รู้จัก เธอคิดว่าหนุ่มพวกนี้คงไปหิ้วมาจากที่ไหนสักแห่ง "ชงเข้มๆ มาสักแก้วสิ!” ติณณ์พูดพร้อมกับส่งแก้วให้กับมาเรียม เธอรับมาก่อนที่จะชงเข้มๆ ตามที่เขาสั่งแล้วส่งกลับให้ติณณ์ หมับ!! มือของเชนคว้ามาที่ข้อมือเล็กเรียว พร้อมทั้งกระชากอย่างแรงจนมาเรียมถลาไปนั่งบนตักของเขา เมื่อมาเรียมจะลุกเขากลับกอดรัดเธอแน่นขึ้น สิ่งที่เชนกระทำนั้นแม้ติณณ์จะไม่ค่อยพอใจเท่าใดนัก แต่เขาก็อยากรู้ว่าเธอจะจัดการอย่างไร เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ มาเรียมจับที่ข้อมือของเชน ก่อนที่จะกระชากออกอย่างแรง เมื่อเธอลุกขึ้นพ้นจากอ้อมกอดของเขาแล้วมือของเธอที่ยังจับแน่นอยู่ที่มือของเชนได้ดึงกระชากข้อมือของเชนอย่างแรง ก่อนที่เธอจะทุ่มเขาลงไปกองกับพื้น ท่ามกลางความตกใจของแขกโต๊ะข้างๆ รวมทั้งติณณ์ด้วย นี่เธอกินช้างเข้าไปแทนข้าวหรือไง เธอเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน ถึงได้ทุ่มชายหนุ่มตัวโตลงไปกองกับพื้นได้ง่ายดายขนาดนั้น เมื่อลัลนามองมาที่โต๊ะโซนวีไอพี เธอรีบวิ่งเข้าไปทันทีเพราะเป็นห่วงมาเรียม "มันเกิดอะไรขึ้นมาเรียม” ลัลนาเอ่ยถามออกมา พร้อมที้งสำรวจเนื้อตัวของมาเรียม เชนลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินไปนั่งที่เดิม เขาไม่คิดว่ามาเรียมจะมีแรงเยอะขนาดนี้ “ต้องขอโทษด้วยนะคะ..ไหนมาเรียมมันเกิดอะไรขึ้น" "ไม่มีอะไรคะ" คำตอบสั้นๆ บวกกับใบหน้าที่เรียบเฉยนั้น ยิ่งทำให้ติณณ์อยากทำความรู้จักและค้นหามากยิ่งขึ้น เขาอยากเห็นรอยยิ้มของเธอบนใบหน้ารูปไข่ คงเป็นรอยยิ้มที่สดใสและมีเสน่ห์มาก ขนาดเธอไม่ยิ้มยังมองไม่เบื่อขนาดนี้ "เด็กของคุณน่าจะมีมารยาทกว่านี้ เธอควรเอาใจแขก งานบริการมันก็ต้องมีถึงเนื้อถึงตัวบ้างทำยังกับไม่เคย” แม้คำพูดของชายหนุ่มจะสร้างความไม่พอใจให้กับลัลนา แต่เธอก็ต้องทำตามน้ำไป เพื่อเอาใจแขก "ฉันต้องขอโทษแทนเด็กด้วยนะคะ.มาเรียมขอโทษแขกเดี๋ยวนี้" "ขอโทษคะ" เธอพูดพร้อมกับยกมือไหว้เชนอย่างว่าง่าย นี่เธอเป็นคนหรือหุ่นยนต์ เธอมีความรู้สึกอะไรบ้างหรือเปล่า ทำไมถึงไม่โต้ตอบอะไรบ้างเลย "หนูมาเรียมวันนี้ไม่ต้องเสิร์ฟแล้วไปช่วยเชฟในครัวนะ” "คะแม่" พูดจบมาเรียมก็เดินออกไปอย่างว่าง่าย หลังจากลัลนาเคลียร์เสร็จเปลี่ยนเด็กมาชงเหล้าให้ใหม่ เธอก็เดินตามมาเรียมออกไปทันที ติณณ์เองก็มองตามหลังมาเรียมจนลับตา เขาไม่เข้าใจทำไมเธอถึงเย็นชาแบบนี้ บางครั้งก็ดูไร้ความรู้สึกเหมือนคนตายด้าน แต่บางคราก็สู้คนแบบยิบตาไม่ยอมแพ้ ซึ่งจากที่เชนโดนผู้หญิงตัวเล็กๆ แค่นี้ทุ่มลงไปกองกับพื้น ถ้าไม่ได้รับการฝึกมาอย่างดี เธอคงไม่มีทางล้มเชนได้ มาเรียมชักจะมีอะไรที่ทำให้เขาอยากรู้จักมากยิ่งขึ้นแล้วสิ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD