Chapter 2 นักรัก นักร้อง น้องรัก (2)
คล้ายเขาจะรู้ถึงการถูกจับจ้อง...ในช่วงวินาทีที่เพลงล่าสุดจบลง สายตาของคนบนเวทีก็สบกลับมาอย่างตั้งใจ ในระยะที่ไม่ไกลจากกันมากนัก แววตาคู่นั้นแฝงอะไรบางอย่างพร้อมรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม หล่อนรีบหลุบตาหนีเพราะรู้ว่าเขาโฟกัสมาที่ใคร
ท่ามกลางความอึดอัดผสานความประหม่า เสียงเขาคุยเล่นหยอกล้อกับนักดื่มเพื่อเอนเตอร์เทนสร้างบรรยากาศเป็นกันเอง และท่ามกลางความไม่คาดฝัน เขาก็เรียกหาคนที่อยู่ด้านล่างเวที
"คืนนี้ผมอยากชวนใครสักคนมาร่วมร้องเพลงด้วยกัน แต่...ขอเป็นสาวๆ นะครับ ผู้ชายไม่ต้องแย่งกันมา บนนี้มีเยอะแล้ว"
เขาตบท้ายด้วยเสียงหัวเราะ ท่ามกลางเสียงกรี๊ดกร๊าดจาก
บรรดาสาวๆ แฟนคลับขาประจำเดอะเรด แม้เขาจะเปิดโอกาสให้ใครก็ได้ที่กล้าพอ หากแต่ว่าบรรดาสาวๆ กลับอายไม่กล้าที่จะเดินขึ้นไปเพราะรู้ตัวว่าเสียงไม่ดีพอ กลัวว่าจะได้เป็นเสียงหัวเราะกลับมา
"มีมั้ยครับ"
ชายหนุ่มกวาดตามองไปด้านหน้า ก่อนที่สายตาของเขาจะมาหยุดอยู่ที่โต๊ะของสุดที่รักและรุ้งลาวัลย์...และในจังหวะที่หนึ่งในนั้นกำลังจะลุกเดินขึ้นไปบนเวทีเพื่อร้องเพลงกับเขา ทว่าถ้อยคำและสายตาทำให้เจ้าหล่อนหยุดความคิดทันที
"น้องคนนั้นน่ะ ขึ้นมาร้องเพลงกับพี่สักเพลงสิครับ"
เขากวักมือเรียกมาทางคนที่นั่งทำหน้าตาตื่นคล้ายไม่เชื่อหู หล่อนเหลียวมองไปโดยรอบอย่างทำตัวไม่ถูก สัมผัสได้ถึงสายตาหลายคู่กำลังโฟกัสมาที่ตน
"มาสิครับ ไม่ต้องอาย"
สุดที่รักมองหน้าคนพูดพลางชี้มือมาที่ตัวเอง เพื่อให้แน่ใจว่าเขาหมายถึงเธอจริงๆ ไม่ได้คิดไปเอง...สักพักสองข้างแก้มก็แดงเห่อ ด้วยความอายที่กำลังตกเป็นเป้าสายตาของคนในบาร์
"ช่วงนี้ขอเบาๆ เปลี่ยนบรรยากาศกันบ้างดีกว่า...กระซิบสวาทกันสักหน่อยดีมั้ย"
เสียงดนตรีบรรเลงเวอร์ชั่นปรับให้เข้ากับกลุ่มอายุผู้ฟังดังขึ้นกระตุ้นอารมณ์ คือการผสมผสานแนวดนตรีร็อกและลูกกรุงที่เข้ากันอย่างลงตัว...ภัทรนนท์เดินลงมาที่ด้านหน้าเวที ตรงมายังคนที่นั่งนิ่งเพราะความเก้อเขิน ท่ามกลางสายตาที่สื่อถึงความไม่พอใจของรุ้งลาวัลย์ เขาหาได้ใส่ใจในแววตาร้อนเป็นไฟคู่นั้น อุ้งมือแกร่งคว้าข้อมือเล็กของสุดที่รักแล้วออกแรงดึงรั้งให้หล่อนเดินตามขึ้นไปร่วมร้องเพลงบนเวที และหล่อนจำต้องเดินตามขึ้นไปอย่างยอมจำนน
"ยามนี้เธอนอน หัวใจร้าวรอนหรือเปล่า...โถคงทั้งซึมทั้งเซา เฝ้าตรมมิเบา ทรวงอยู่...เมื่อเธอฝากใจฉันมีเยื่อใยเอ็นดู...แต่วางท่าเฉยเพียงครู่ รั้งรอเพื่อดูใจกัน"
ภัทรนนท์สบตากับนักร้องจำเป็นยามพาตัวเองให้โลดแล่นไปกับท่วงทำนองหวานซึ้ง ความที่เป็นคนชอบร้องเพลงด้วยกันทั้งคู่ จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะจูนเข้าหากัน แค่มองตาก็รู้ใจ สลับกันเป็นฝ่ายโชว์เสียงเพราะๆ สร้างความสุขให้กับนักท่องราตรี
"จึงฝากลมพาพัดใจฉันมาซ่อนไว้ใต้หมอน...เมื่อเธอซบหน้า แนบนอน ได้ยินที่หมอนกระซิบบ้างไหม...โปรดฟังถ้อยคำสำเนียงที่ครวญพิไร เสียงกระซิบ กระซิบเผยใจสวาทอาลัย ท่วมท้นอาวรณ์"
"คุณภาม..."
รุ้งลาวัลย์นั่งนิ่งกดความรู้สึกร้อนรุ่มเอาไว้ภายใต้สีหน้าเรียบเฉย สายตาจับจ้องไปบนเวทีท่ามกลางความขุ่นเคืองใจ...เขาเห็นเธอเป็นอะไรกันแน่ จากที่คิดว่าเป็นฝ่ายเลือก ทำไปทำมาดูเหมือนว่าตนจะกลายเป็นผู้ถูกเลือกเสียแล้ว
สุดที่รักลอบผ่อนลมหายใจเมื่อบทเพลงเดินทางมาถึงท่อนจบ อยากที่จะหนีสายตาชวนให้ไหวหวั่นแล้ววิ่งเข้าไปกรีดร้องในห้องน้ำ...เขาทำให้หล่อนคิดไปไกล คิดไปว่าเขามีใจให้ก็เลยใช้บทเพลงสื่อความในใจทางอ้อม ความรู้สึกในยามนี้เหมือนอยู่ในห้องแคบๆ จนลมหายใจติดขัดคล้ายกำลังจะเป็นลม นึกเกลียดรอยยิ้มฆ่าคนมองที่โปรยส่งมา เกลียดที่เขาชอบทำให้คิดลึกมโนไกล
เสียงปรบมือแทนคำขอบคุณดังขึ้น สุดที่รักโปรยยิ้มตอบกลับ ดีใจที่เห็นทุกคนมีความสุขร่วมไปกับเสียงเพลงที่ตนขับร้อง ความสุขเล็กๆ เมื่อได้รับการยอมรับจากคนรอบข้าง หล่อนซึ่งเป็นคนไร้ตัวตนมาโดยตลอดจึงรู้สึกปลื้มปริ่มยิ้มไม่หุบกันเลยทีเดียว เมื่อเพลงจบก็หมดหน้าที่ รีบยื่นไมค์คืนให้ภัทรนนท์ ไม่กล้าแม้แต่จะสบสายตาที่กำลังจับจ้อง ทำท่าจะเดินหนีเขาลงเวทีเพื่อกลับไปนั่งที่เดิม ความประหม่าทำให้มือไม้เงอะงะสองเท้าดูเกะกะก้าวไม่ออก ไม่ที่ทันจะก้าวลงไปจากเวที ความซุ่มซ่ามที่เป็นโรคประจำตัวแก้ไม่หาย ก็ทำให้เดินสะดุดขาตัวเองจนเซถลาไปด้านหน้า...ท่ามกลางความตกใจ ท่อนแขนแข็งแรงก็ตวัดรั้งเอาไว้ได้ทัน ก่อนที่หล่อนจะหน้าคะมำลงกับพื้นเวที
"ขะ ขอบคุณค่ะ"
"ระวังหน่อยสิครับ"
"ปลากริมไม่ได้ตั้งใจนี่คะ มันสะดุดเอง"
"ซุ่มซ่ามกะเปิ๊บกะป๊าบที่สุด แล้วจะหาแฟนได้มั้ยชาตินี้ หุ หุ"
เสียงหัวเราะดังหลอกหลอนอยู่ข้างหู พร้อมอ้อมแขนของเขาที่ผละออกหลังจากช่วยไม่ให้มีคนหน้าคะมำให้ต้องขายขี้หน้าประชาชี...ถ้อยคำของเขาทำให้หล่อนถลึงตามองลอดแว่น ไม่ชอบใจที่เขาชอบล้อเลียนเรื่องแฟน
"พี่ภาม! เดี๋ยวเถอะ"
"ดูสิคนเรา ทำดีไม่ได้ดีจริงๆ อุตส่าห์ช่วยไว้แท้ๆ แทนที่จะได้รับรอยยิ้มหวานๆ แต่กลับได้แต่ตาเขียวๆ หน้าง้ำๆ หักๆ งอๆ เป็นปลาทูแม่กลอง เห้อออ"
นั่นปากหรือกรรไกร...คิดพลางรีบผลุนผลันหนีเพื่อลงจากเวที ภัทรนนท์ส่งหน้าที่ต่อให้เพื่อน เขารีบเดินตามอีกฝ่ายลงไป เมื่อเห็นว่ากลุ่มของพีรพลเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะ สายตาพวกเขาจับจ้องมองมาทางเวทีในเวลาเดียวกัน
"พวกฉันพลาดอะไร นายกับปลากริมร้องเพลงด้วยกันเหรอ"
สุดที่รักไม่ตอบ มองหน้าภัทรนนท์ให้เขาชี้แจงเอง
"เห็นน้องเค้านั่งเหงา ก็เลยชวนมาหาอะไรทำน่ะ"
"แล้วนั่นอะไร นี่นายควงทีเดียวสองคนเลยเหรอ"
พีรพลปรายตามองไปยังหัวหน้าการตลาดสวยเอ็กซ์เซ็กซี่ที่นั่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ถ้ารู้สักนิดว่าหล่อนจะมา เขาคงห้ามสุดที่รักว่าอย่าหลงคารมคนที่ชวนหล่อนมาเผชิญหน้ากับรุ้งลาวัลย์
"ปลากริมขอย้ายโต๊ะนะคะ พี่ภามจะไปนั่งกับเธอก็เชิญตามสบาย จะได้ไม่มีก้างคอยขวางคอ"
สุดที่รักได้โอกาสที่จะหนีจากความอึดอัดนั้น การต้องทนร่วมโต๊ะกับคนที่รู้ว่าไม่ชอบหน้าตน ไม่ต่างจากการอยู่ในกล่องเล็กๆ แคบๆ จนแทบไม่มีแม้อากาศจะหายใจ
"ก็ไปนั่งด้วยกันสิเฮีย คนรู้จักกันทั้งนั้น จะแยกโต๊ะก็ยังไงอยู่"
"เอ่อ..." พีรพลมองหน้าศราวุธ โบ้ยให้เพื่อนออกหน้าแทน
"เดี๋ยวพวกฉันไปแสดงอะไรเถื่อนๆใส่ผู้หญิงของนาย เธอจะรับไม่ได้เอาน่ะสิ
ภัทรนนท์หัวเราะออกมา เขาอยากบอกทุกคนว่าไม่ได้เป็นอะไรกับรุ้งลาวัลย์ สถานะยังไม่ข้ามขั้นขนาดนั้น ดูท่าว่าหลายคนจะ
คิดไปไกลกับสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาระหว่างเขาและลูกน้องใต้คอนโทรล
ณ อีกมุมที่ไม่มีใครสนใจ จอมทัพเก็บรายละเอียดทั้งหมดไว้ในหน่วยความจำ ภายใต้คราบหน้ากากหนุ่มแว่นโอตาคุ เขามีหน้าที่สืบหาเบาะแสที่ได้มาเพื่อขยายผล กับผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีทั้งหกคน เกี่ยวโยงไปถึงเดอะเรดคลาสสิคที่เดินหน้าท้าคู่แข่งในพม่า โรงแรมที่อาจเปิดบังหน้าเพื่อนำไปสู่การดำเนินธุรกิจผิดกฎหมายในต่างแดน