ที่บอกว่าทำอาหารตามคลิปในยูทูปนั้นไม่ยาก ขอกลืนน้ำลายตัวเองตรงนี้เลยว่ามันไม่ใช่ เพราะมันยากมากสำหรับคนที่ไม่เคยทำอาหารเลยอย่างเธอ แต่ถึงจะไม่ง่ายก็ต้องทำ!
หลังจากที่นั่งดูวิธีทำอาหารเช้าอย่างง่ายจนจบ นิวเยียร์ก็ลุกไปเปิดตู้เย็นเพื่อค้นหาวัตถุดิบตามในคลิปที่ดูจบไป แต่ทั้งตู้มีเพียงไส้กรอกและไข่อีกห้าฟองเท่านั้น ก็ยังดีที่มีวัตถุดิบให้ได้ทำได้บ้าง อย่างน้อยๆ ก็ไส้กรอกกับไข่ดาว เป็นเมนูที่ง่ายที่สุดแล้วในตอนนี้
คนตัวเล็กนำไส้กรอกเข้าไมโครเวฟ แล้วเปิดไฟตั้งกระทะเพื่อทำไข่ดาวต่อ แต่ดูท่าแล้วไม่น่าจะไปรอดเธอจึงเปลี่ยนจากไข่ดาวทำเป็นไข่ต้มแทน โดยใช้กระทะเป็นหม้อต้มไข่ไปเลย แค่เติมน้ำลงไปแทนน้ำมันใส่ไข่ลงไปแล้วรอเวลาแค่นั้นก็เสร็จแล้ว ไม่เสี่ยงว่าจะไหม้ด้วย
ปุ๊!
“อุ้ย!” นิวเยียร์ส่งเสียงออกมาด้วยความตกใจพร้อมกับร่างกายที่สะดุ้งโยน เมื่ออยู่ๆ ก็มีเสียงดังปุ๊เกิดขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย และเสียงนั้นดังมาจากไมโครเวฟที่กำลังทำงาน ที่เธอเอาไส้กรอกเข้าไปเวฟไว้เมื่อนาทีที่แล้ว
“ทำไมเป็นแบบนี้…” น้ำเสียงของเธอดูสิ้นหวังเมื่อมองเห็นไส้กรอกของตัวเองแตกกระจุยกระจายเต็มไมโครเวฟ และเสียงที่ได้ยินเมื่อครู่นี้ก็คือเสียงไส้กรอกของเธอระเบิด
ไม่รู้ว่าผิดพลาดตรงไหนไส้กรอกเธอถึงได้ดูน่าเวทนาแบบนี้ ตอนที่ซื้อตามร้านสะดวกซื้อเขาก็เอาเข้าไมโครเวฟแบบนี้ ก็ไม่เห็นว่ามันจะระเบิดแบบที่เธอทำเลย
กลายเป็นว่ามื้อเช้าแสนลำบากของเธอคือเมนูไส้กรอกกับไข่ต้ม แถมยังเป็นไส้กรอกที่เวฟนานจนแตกไม่หลงเหลือลักษณะที่บ่งบอกว่านี่เป็นไส้กรอกเลยด้วยซ้ำ แต่ยังดีที่ไข่ต้มนั้นยังเป็นฟองสวยงาม
นิกซ์เดินเอาถ้วยกาแฟเข้ามาเก็บในครัวก็ถึงกับชะงักที่เห็นสภาพห้องครัวของตัวเองเละเทะ แถมยังมีกลิ่นอาหารบางอย่างตลบอบอวลไปทั่ว ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครเป็นคนทำ เพราะเจ้าตัวยังยืนอยู่ในครัวพร้อมกับจานอาหาร? ที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์ครัว
เขาเองก็ไม่แน่ใจว่าของหน้าตาประหลาดๆ ที่วางอยู่ในจานพร้อมกับไข่ต้มอีกสองฟองนั้นคืออะไร มองยังไงก็ไม่น่าจะเป็นของที่มีอยู่ในบ้านเขาแน่นอน จะว่าเธอเอามาจากประเทศไทยด้วยก็ไม่น่าใช่อีก
“มองทำไมคะ อยากกินด้วยเหรอ น้องนิวไม่แบ่งหรอกนะ” คนถูกจ้องถามอย่างสงสัยปนอารมณ์ขุ่นเคืองที่ยังมีอยู่
“นั่นอะไร” นิกซ์ถามเสียงเรียบ ชี้ไปที่ของที่วางอยู่ในจานข้างๆ กันมีไข่ต้มอยู่ด้วย
“นี่เหรอคะ?” คนตัวเล็กชี้ไปที่ไส้กรอกในจานแล้วถามย้ำว่าเขาหมายถึงสิ่งนี้หรือเปล่า “ก็ไส้กรอกไงคะ”
“ไส้กรอก?”
“ค่ะ ไส้กรอกที่ระเบิดในไมโครเวฟ หน้าตาเลยประหลาดนิดหน่อย” ไม่พูดเปล่าเธอยังชี้ไปยังหลักฐานให้กับเจ้าของบ้านได้เห็นผลงานแสนเลอค่า ดีเท่าไหร่แล้วที่ไมโครเวฟไม่ระเบิดแบบไส้กรอก
สายตาคมมองตามมือเล็กที่ชี้ไปยังไมโครเวฟ สภาพด้านในนั้นมีชิ้นส่วนของเศษอาหารติดอยู่เต็มไปหมด
“เก็บกวาดให้สะอาด ถ้าฉันออกมาแล้วยังไม่เรียบร้อยก็เตรียมตัวกลับบ้านได้เลย” นิกซ์สั่งเสียงเข้มวางถ้วยกาแฟในมือลงบนเคาน์เตอร์ครัวแล้วเดินออกจากห้องครัวไปทันที
ไม่รู้เขาคิดถูกไหมที่ไม่ให้แม่บ้านมาเตรียมอาหารเช้าให้ เพียงแค่อาหารง่ายๆ แค่นี้แต่เธอก็ยังทำมันไม่ได้ แต่ก็ยังจะดื้อด้านอยากจะมาอยู่กับเขา
“คนใจร้าย” นิวเยียร์ได้แต่ทำปากยื่นบ่นตามหลังให้กับความใจร้ายที่เขามีต่อเธอ เพิ่งเจอหน้ากันได้ยังไม่ทันจะครบ 24 ชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ เอะอะก็จะส่งกลับบ้านๆ
“ไม่น่ากินเลยสักนิด” ตัดพ้อคนใจร้ายเสร็จก็ก้มลงมองอาหารเช้าหน้าตาประหลาดของตัวเอง ถึงแม้หน้าตาจะดูแย่ แต่ความหิวก็มีมากจนต้องมองข้ามเรื่องหน้าตาไป
เอาเป็นว่าทนกินไปก่อนแล้วค่อยวางแผนการใช้ชีวิตที่เหลือว่าจะเอายังไง เธอยังต้องอยู่ที่นี่อีกเกือบเดือน เธอจะมายอมแพ้กับเรื่องแค่นี้ไม่ได้
หลังจากที่กล้ำกลืนฝืนทนกินอาหารเช้าฝีมือตัวเองเสร็จ ก็รีบจัดการทำความสะอาดห้องครัวให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิม โดยเฉพาะไมโครเวฟ แม้จะดูทุลักทุเลกับการที่ต้องทำอะไรแบบนี้ด้วยตัวเอง แต่เธอก็ทำมันออกมาได้ดี ถึงภาพลักษณ์จะดูเป็นลูกคุณหนูที่ทำอะไรไม่เป็น แต่เธอสู้ชีวิตมากนะ โดยเฉพาะเรื่องผู้ชายที่ชื่อนิกซ์ จอมเย็นชาและสุดแสนจะใจร้ายที่สุด
ทำทุกอย่างเสร็จเธอก็มานอนเล่นอยู่บนโซฟากลางห้องอย่างไม่รู้จะทำอะไรต่อ รู้สึกว่าการกลับมาหาว่าที่คู่หมั้นของตัวเองรอบนี้ไม่มีอะไรที่เหมือนเดิมสักอย่างเลยจริงๆ
“ลุกขึ้น”
คำสั่งสั้นๆ ที่ถูกเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ทำให้คนที่นอนอยู่บนโซฟารีบลุกขึ้นด้วยความรวดเร็วในทันที
ฟึ่บ!
“อะไรคะ” นิวเยียร์ขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัยเมื่อมีบางอย่างยื่นมาตรงหน้าของเธอจากคนเย็นชา
“เห็นเป็นอะไร” นิกซ์ย้อนถามกลับเสียงเรียบแล้วปล่อยมือออกจากสิ่งของที่เขายื่นไปให้เธอ กระทั่งของสิ่งนั้นร่วงลงบนโซฟาทันทีที่เขาปล่อยมือ
“คีย์การ์ดค่ะ…” คนตัวเล็กก้มมองพลางตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เบาลง แล้วได้แต่นึกในใจว่าไม่น่าถามคำถามโง่ๆ แบบนั้นออกไปเลย
ลืมไปว่าเขามันจอมเย็นชาที่หนึ่ง ใจร้ายก็ที่หนึ่งเหมือนกัน
“แล้วนิกซ์แต่งตัวจะไปไหนคะ” เมื่อเห็นว่าคนตัวสูงตรงหน้าอยู่ในชุดใหม่ที่ดูพร้อมออกไปข้างนอกก็อดที่จะถามด้วยความสงสัยไม่ได้
“…”
“ใจร้ายอีกแล้ว” แต่คำตอบที่เธอได้กลับมาก็มีเพียงความเงียบเท่านั้น
“น่ารำคาญ” นิกซ์ตอบกลับด้วยคำพูดและน้ำเสียงที่เย็นชาอย่างไม่คิดจะรักษาน้ำใจ คำพูดตัดพ้อของเธอใช้ไม่เคยได้ผลกับเขา ไม่ว่าจะเมื่อก่อนหรือตอนนี้ก็ตาม
“จะกลับมากี่โมงคะ” คนตัวเล็กลุกขึ้นจากโซฟาเดินตามหลังร่างสูงโปร่งไปที่ประตูห้อง
ไม่ใช่แค่เขาคนเดียวหรอกที่ไม่สนใจคำพูดและน้ำเสียงตัดพ้อของเธอ เพราะเธอเองก็ไม่ได้สนใจท่าทีที่ดูรำคาญของเขาเหมือนกัน
“…”
“แล้วน้องนิวออกไปข้างนอกได้มั้ย”
“…”
หมับ!
“นิกซ์ตอบน้องนิวหน่อยสิ” กระทั่งมาถึงประตูห้องเมื่อเห็นว่าเขาไม่ยอมตอบอะไรก็รีบยกมือขึ้นรั้งแขนเขาไว้ ก่อนที่คนตัวสูงจะได้เปิดประตูออกจากห้องไป
นิกซ์ปรายตามองไปที่มือเล็กของเด็กน่ารำคาญที่รั้งแขนเขาไว้แน่นด้วยสองมือของเธอ ก่อนจะยกมืออีกข้างขึ้นดึงมือเล็กที่เกาะแน่นอยู่บนแขนตัวเองออกอย่างไม่คิดไยดี
“น่ารำคาญ อยากทำอะไรก็เรื่องของเธอ” พูดจบเขาก็เปิดประตูห้องออกไปเลยทันที ไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองด้านหลัง
เป็นอีกครั้งที่นิวเยียร์ได้แต่มองตามด้วยสายตาตัดพ้อให้กับความเย็นชาที่อีกคนมีให้ ที่เธอต้องถามว่าสามารถออกไปไหนได้ไหม ก็เพราะว่าปกติแล้วเขาจะต้องบอกว่าถ้าเธอจะออกไปไหนจะมีคนคอยดูแลไปรับไปส่ง และทุกครั้งต้องรายงานเขาก่อนเสมอ แต่ครั้งนี้เขาโยนคีย์การ์ดให้เธอแถมยังไม่พูดอะไรด้วย พอถามว่าออกไปไหนได้ไหมคำตอบที่ได้กลับมานั้นก็แล้วแต่เธอ แบบนี้ก็แสดงว่าเธอสามารถออกไปไหนมาไหนได้โดยไม่ต้องบอกเขาก่อนอย่างนั้นสินะ และดูเหมือนจะไม่มีคนคอยตามรับส่งเธอเหมือนแต่ก่อนด้วยสิ
“คนใจร้าย! คอยดูเถอะ มารอบหน้าน้องนิวจะหาน้ำมันพรายกลับมาด้วย” นิวเยียร์พูดอย่างหมายมั่นปั้นมือ ยิ่งเขาเย็นชาใส่เธอยิ่งมีแรงฮึดสู้ ไม่ได้คิดถอดใจเลยสักนิด นิสัยที่เอาแต่ใจของเธอมันกำลังเรียกร้องให้เธอเอาชนะให้ได้
เธอต้องเอาชนะใจที่เย็นชาของเขาให้ได้!