“ไม่ต้องเกรงใจ ถือเป็นการเลี้ยงต้อนรับพนักงานใหม่ไง เอาเพิ่มอีกสามชุดแล้วกัน เผื่อสาวๆ ด้วย เดี๋ยวจะงอนถ้าพี่เลี้ยงแค่ช่าคนเดียว กาแฟไม่ต้องนะ ออฟฟิศเรามีเครื่องจ้า”
“ค่ะ ว่าแต่มีเครื่องแล้ว ทำไมจะต้องซื้อให้คุณดนตร์ด้วยล่ะคะ ชงให้ดีกว่ามั้ยคะ จะได้ประหยัด”
“เช้านี้ซื้อมาก่อนเหอะ”
“ทำไมล่ะคะ?”
“เอ่อน่า ซื้อๆ มาเหอะ ยังไม่ต้องถามพี่ เดี๋ยวช่าก็รู้เองล่ะ แต่เอ...ซื้อไปแล้วถ้ามันเย็น คุณดนตร์ก็ต้องให้ชงใหม่อยู่ดี งั้นก็ไม่ต้องละ ช่าชงให้แกก็แล้วกัน หรือไม่ก็ซื้อไปเผื่อไว้ แกมาก็เอาเข้าเวฟอุ่นให้”
“ค่ะ”
พิชชารีบไปซื้อตามคำสั่ง ไม่นานนักก็วิ่งกลับมาขึ้นรถแล้ว และเจ็ดโมงนิดๆ ก็ยืนอยู่หน้าลิฟต์ และมี รปภ. รอกดให้อย่างรู้งานและด้วยท่าทีนอบน้อมแล้ว พิชชามีน้ำใจกับลูกพี่ด้วยการช่วยถือทุกอย่างให้ ยกเว้นกระเป๋าทำงานใบใหญ่
“โต๊ะช่าตัวสุดท้ายนะ เอาของไปไว้ในห้องครัว เดี๋ยวพี่จะไปสอนใช้เครื่องชงกาแฟ เราต้องรีบกินก่อนคุณดนตร์จะมา ไม่งั้นจะไม่ได้กินเลยนะ”
ถึงออฟฟิศแล้วนาถรดีก็ปรี่เข้าไปหาโต๊ะของตัวเอง ซึ่งมีงานรออยู่กองโตแล้ว ปากก็บอกผู้ช่วยคนใหม่ไป มือก็เปิดเครื่องไป
“ค่ะ”
พิชชายืนงงนิดๆ แต่ก็ตรงไปยังโต๊ะตัวที่สาม วางกระเป๋าสะพายไว้ แล้วก็หิ้วถุงของกินสารพัดเดินไปหาห้องครัวที่ลูกพี่บอกไว้ว่าอยู่ไหนกันแน่ ประตูแรกนั้นเป็นห้องน้ำใหญ่โตสะอาดสะอ้านและแบ่งชายหญิง ประตูที่สองถึงเป็นห้องครัว มีเครื่องใช้ครบครันไม่ต่างจากครัวทั่วไปราวกับนี่ไม่ใช่ออฟฟิศ
ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าใครจะมามีเวลามาทำอาหารกินจริงๆ จังๆ เพราะเดาว่าแต่ละคนน่าจะยุ่งงานกันทั้งนั้น มื้อเที่ยงน่าจะผูกปิ่นโตไว้กับร้านใดร้านหนึ่งมากกว่า หรือไม่ก็น่าจะไปกินร้านอาหารตามสั่งใกล้ๆ นี้ ซึ่งน่าจะมีแน่นอน หรือถ้าไม่มีก็น่าจะหิ้วมาไว้กินมากกว่า
“มาสำรวจออฟฟิศที่สองเหรอจ๊ะช่า?”
คนกำลังมองข้าวของเครื่องใช้ในห้องเพลินๆ ถึงกับตกใจ เมื่อเลขาใหญ่เดินเข้ามาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“โหย! มีครบเลยนะคะพี่นาถ อย่าบอกนะคะว่าพวกพี่ทำกับข้าวกินเอง?”
“ก็มีบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะทำให้คุณดนตร์มากกว่าจ้า ว่าแต่ดูเครื่องชงกาแฟหรือยัง พี่ก็ไม่ค่อยเป็นเท่าไหร่หรอกนะ มือชงประจำคือแนนกับป้าม่อมจ้า”
“ใครเรียกป้าคะ?”
นาถรดียังไม่ทันจะได้เดินเข้าไปหาเครื่องชงกาแฟด้วยซ้ำ ก็มีเสียงดังมาจากด้านนอก พิชชามองไปก็เห็นป้ารูปร่างผอมบาง แต่งหน้าจัดจ้านเดินหิ้วของเข้ามาแล้วยิ้มให้
“ป้าม่อมมาพอดีเลย จะได้สอนช่าใช้เครื่องชงกาแฟแทนหน่อย นาถมีงานเต็มโต๊ะเลย ตามสบายนะจ๊ะช่า มีอะไรก็ถามป้าม่อมได้ ชงเสร็จแล้วก็ยกไปนั่งกินที่โต๊ะด้านนอกนะ พี่จะได้แนะนำให้รู้จักคนอื่น แล้วก็จะได้บอกว่าต้องทำอะไร รับผิดชอบอะไรด้วย”
“ค่ะ”
พิชชารับด้วยท่าทีงงนิดๆ แต่นาถรดีก็เดินออกไปข้างนอกแล้ว เหลือม่อมที่หิ้วถุงสารพัดวางไว้บนเคาน์เตอร์แล้วยิ้มให้
“คุณช่าชอบกาแฟแบบไหนคะ? ป้าจะได้จำไว้ เวลาง่วง ป้าจัดให้ตามคำขอได้ทุกคนค่ะ ยกเว้นของท่านประธาน คุณช่าจะต้องจัดการแทนคุณแนนทั้งหมดค่ะ” นั่นยิ่งงงไปกันใหญ่ แต่ก็ไม่ได้สนใจมากมายนัก
“ช่าขอลาเต้ค่ะป้า แต่ว่าช่าชงเองก็ได้ค่ะ เกรงใจป้า”
“อุ๊ย! ตอนนี้บอกได้ล่ะค่ะว่าจะชงเอง แต่พอยุ่งๆ คุณช่าจะร้องหาป้าค่ะ มาๆ ป้าจะบอกวิธีใช้เครื่อง ส่วนสูตรประจำของท่านอยู่ในเล่มนี้ค่ะ คุณช่ารีบอ่านนะคะ แกมาเช้านี้ต้องมีกาแฟไปเสิร์ฟแล้วนะคะ”
“เหรอคะป้า ปกติจะมากี่โมงคะ?”
“บอกไม่ได้หรอกค่ะ แล้วแต่งานเยอะงานน้อย บางทีก็เช้ามาก บางทีก็ปกติ บางทีก็สายค่ะ”
“แล้ววันนี้มาแบบไหนคะ เช้ามาก ปกติ หรือสายคะ?”
“น่าจะปกติหรือไม่ก็สายแล้วล่ะค่ะ เพราะถ้าเช้านี่ ก็คือพวกเราเข้าออฟฟิศมาแกนั่งทำงานแล้วค่ะ”
“โหย”
“คุณช่ามาดูเครื่องค่ะ ป้าจะได้บอกด้วย ว่าจานชามอันไหนเป็นของท่านหรือของพวกเรา แล้วใช้กับอาหารประเภทไหนบ้าง อันไหนใส่ซุป ใส่ข้าว ใส่สลัด”
“โหย! ต้องขนาดนั้นเลยเหรอคะ?”
“ไม่งั้นเราจะเรียกว่าท่านเพอร์เหรอคะ”
“ได้ยินพี่นาถบอกเหมือนกันค่ะ ว่าแต่มันหมายความว่ายังไงคะป้า?”
“บอกไปก็ไม่หมดหรอกค่ะ คุณช่าจะได้เห็นเรื่อยๆ เองค่ะ มาๆ”
พิชชาอดขำไม่ได้ ด้วยไม่เข้าใจว่าเจ้านายใหม่ทำไมถึงต้องแยกถ้วยชามอย่างละเอียดขนาดนั้น แต่ก็ฟังแม่บ้านบอกคร่าวๆ เสร็จก็รีบชงกาแฟของตัวเองกับของนาถรดีแล้วยกออกไปพร้อมมื้อเช้า
“มาก็ดีแล้ว พี่จะได้แนะนำให้รู้จักอย่างเป็นทางการ”
วางจานมื้อเช้าไว้ตรงโต๊ะหินแกรนิกที่มีขนาดยาวมากเป็นพิเศษได้ นาถรดีก็เดินมาหา แล้วแนะนำให้รู้จักผู้ช่วยทั้งสองคนที่เพิ่งมาถึง
“นี่พี่เกตุนะ ช่วยพี่ดูแลด้าน Overseas Group ส่วนใหญ่จะทำงานกับคุณรัชตะ เป็นผู้ช่วยคุณดนตร์ดูแลด้านนี้ทั้งหมด เดี๋ยวเจอกันแล้ว พี่จะแนะนำให้ ส่วนนี่พี่ตุ่น ช่วยพี่ดูแล LHBT ทั้งหมด ส่วนใหญ่จะทำงานกับคุณไททัช”
“ค่ะ”
คนมาใหม่รับคำแบบงงๆ เพราะไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ใครเป็นใคร จนจับต้นชนปลายไม่ถูก
“ทุกคนคงรู้แล้วนะว่าช่ามาทำงานแทนแนน?”
“รู้แล้วจ้าคุณพี่ ยินดีต้อนรับนะจ๊ะช่า”
ผู้ช่วยร่างอวบ คุณแม่ลูกหนึ่งนามเกตุวดียิ้มให้คนมาทำงานใหม่ด้วยท่าทียินดียิ่ง เพราะจะได้มีคนมาช่วยงานที่ยุ่งเหยิงทุกวันแล้ว
“ยินดีต้อนรับเหมือนกันจ้ะช่า มีอะไรถามพี่ได้เลยนะ”
ผู้ช่วยร่างผอมที่เพิ่งแต่งงานได้ไม่ถึงปี นามตุ่นหรือตุลยพรเองก็ยิ้มรับด้วยความดีใจไม่ต่างกันและด้วยเหตุผลเดียวกับเกตุวดี