บทที่2

1793 Words
เหตุการณ์ต้นเรื่องในวันนั้น บรรยากาศภายในงานแต่งอบอวลไปด้วยรอยยิ้มและความรัก ภาพของคู่บ่าวสาวที่ยืนจุมพิตกันอยู่ด้านหน้าทำให้ทุกคนที่มาร่วมงานต่างก็ยิ้มออกมาอย่างยินดีกับคู่บ่าวสาวคงจะมีเพียงแค่เบญจมินคนเดียวเท่านั้นที่ไม่มีรอยยิ้มประดับบนใบหน้า สายตายังคอยเหลือบมองลูกสาวที่นั่งอยู่เคียงข้างแมทธิออีกทั้งลูกสาวของตนยังจับมือของแมทธิวเอาไว้อีก “ป๋าแมทคะ ลุงไมค์ทำอะไรเหรอคะ” เด็กหญิงวัยสี่ขวบหันมาถามด้วยความสงสัยคิ้วเรียวเล็กขมวดเข้าหากันเล็กน้อย แมทธิวอึกอักพูดไม่ออกจะบอกยังไงให้เด็กอายุสี่ขวบเข้าใจว่าไมเคิลกำลังจูบกับภรรยาอยู่ “คือ...ลุงไมเคิล กำลังแสดงความรักอยู่ครับ” เด็กหญิงพยักหน้ารับเหมือนจะเข้าใจ แต่สุดท้ายก็เอ่ยถามออกมาอีกครั้ง “กับใครเหรอคะ” “กับเจ้าสาวครับ” “เจ้าสาวคืออะไรคือคะ” “เจ้าสาวก็คือ...คือเป็น... เป็นคนรักของลุงไมเคิลครับ พอรักกันมากๆ สุดท้ายก็ต้องแต่งงานกัน” เด็กหญิงทำหน้าฉงนยกมือขึ้นเกาศีรษะตัวเองด้วยความไม่เข้าใจเพราะความสัมพันธ์มันเริ่มซับซ้อนมากขึ้น “หนูอยากเป็นเจ้าสาวค่ะ จะได้แต่งงาน” เด็กหญิงเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มดวงตากลมโตเปล่งประกายออกมา “เอาไว้ให้หนูโตก่อนนะครับ ถึงจะเป็นเจ้าสาวได้” “หนูโตก่อน หนูโตแล้วจะได้แต่งงาน” เด็กหญิงทวนประโยคของแมทธิวออกมา “ใช่ครับ ถ้าหนูโตหนูก็จะได้เป็นเจ้าสาวและแต่งงานกับคนที่หนูรัก” เด็กหญิงรีบพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม “ถ้าหนูโต ป๋าแมทแต่งงานกับหนูนะคะ” แมทธิวหัวใจเต้นสะดุดผิดจังหวะเมื่อได้ยินคำพูดของเด็กหญิงที่นั่งยิ้มอยู่ข้างกาย แม้จะเป็นคำพูดของเด็กอายุสี่ขวบแต่ทำไมถึงทำให้เขาหัวใจเต้นแรงแบบนี้ได้นะ ทางด้านเบญจมินแม้จะนั่งอยู่ไกลแต่สิ่งที่ลูกสาวพูดออกมานั้นได้ยินทุกคำ หันขวับมามองลูกสาวทันที นี่ลูกสาวเขาเพิ่งจะอายุสี่ขวบกล้าขอผู้ชายแต่งงานแล้วอย่างนั้นเหรอ “ของขวัญอย่าพูดแบบนี้สิครับ หนูยังเด็กอยู่เลยนะลูก” “หนูโตแล้วพูดได้เหรอคะ” หันมาถามผู้เป็นพ่อตาใสแจ๋วด้วยความใสซื่อของเด็ก ทำให้จีรณาที่นั่งอยู่ข้างๆลูกสาวยิ้มออกมาในทันที “จะโตกว่านี้ก็พูดไม่ได้ครับ ห้ามขอผู้ชายแต่งงานเด็ดขาด” “หนูพูดไม่ได้ แต่ป๋าแมทพูดได้ใช่มั้ยคะ ป๋าแมทขอหนูแต่งงานสิคะ” “ไอ้แมทธิว ปฏิเสธเดี๋ยวนี้เลยนะ” เมื่อจัดการกับลูกสาวตัวเองไม่ได้ เบญจมินก็หันไปสั่งลูกน้องตัวเองทันที “ของขวัญครับ กว่าของขวัญจะโตลุงก็คงแก่แล้ว คงแต่งงานกับหนูไม่ได้หรอกนะครับ” คำพูดของแมทธิวทำให้เด็กหญิงส่ายหน้าไปมาเป็นการปฏิเสธดวงตาเอ่อคลอด้วยน้ำตาปากเริ่มคว่ำเตรียมจะเปล่งเสียงร้องออกมาทุกเวลา “ของขวัญห้ามร้องนะคะ คนเยอะแยะเลย” เด็กหญิงกลั้นเสียงสะอื้นจนใบหน้าแดงก่ำเอาไว้ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาโผลเข้าไปกอดผู้เป็นแม่แน่น “อึก...ป๋าแมท...อึก...ไม่รักหนู....ใจ...ร้าย” “โอ๋ๆ ไม่ร้องนะคะคนเก่งของแม่ เงียบนะคะ ทุกคนรักหนูหมดเลยค่ะ ป๋าแมทก็รักหนูนะคะ...ใช่มั้ยคะป๋าแมท” “ตอบเร็วๆ ไอ้แมทธิว ลูกฉันร้องไห้ใหญ่แล้วเนี่ย” เบญจมินเอ่ยเร่งอย่างร้อนใจ คนเป็นพ่อเมื่อเห็นลูกร้องไห้น้ำตาไหลหัวใจก็แทบแตกสลาย “เมื่อกี้นายยังบอกให้ฉันปฏิเสธอยู่เลยนะ” “แต่ตอนนี้รับๆไปให้ลูกฉันหยุดร้องก่อน พอโตขึ้นของขวัญก็ลืมไปเองแหละ” “เออๆ.... ลุงรักของขวัญนะครับ” คำพูดของแมทธิวทำให้เด็กหญิงที่นั่งร้องไห้น้ำตาไหลสะอื้นอยู่ในอกของแม่นั้นหยุดร้องในทันที รีบผละออกจากอกของคนเป็นแม่ “แต่งงานกันนะคะ” เบญจมินยกมือขึ้นตีหน้าผากตัวเองทันที ถอนหายใจออกมาเสียงดังเฮือกเอนหลังพิงพนักเก้าอี้อย่างหมดแรงไม่รู้จะพูดอะไรออกมาดี จีรณาเห็นท่าทางของสามีก็จับมือมาบีบเอาไว้ด้วยรอยยิ้ม “ลูกยังเด็ก ก็พูดไปตามประสาเด็กอย่าเครียดไปเลยค่ะ”เบญจมินพยักหน้ารับไม่ได้พูดอะไรตอบกลับ แมทธิวหันมองหน้าเบญจมินที่นั่งหน้าซีดเป็นเชิงถามว่าจะให้ตนเองตอบยังไง อยู่พอเห็นเบญจมินพยักหน้ารับแมทธิวก็จำใจต้องเออออไปตามนั้น “ครับ” เมื่อได้ยินแบบนี้เด็กหญิงก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจหันหน้ามาหาผู้เป็นแม่เสียงสดใส “เย้! คุณแม่ขา แด๊ดดี๊ขา ป๋าแมทจะแต่งงานกับหนูค่ะ” เมื่อนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแมทธิวก็ได้แต่ผ่อนลมหายใจออกมา ไม่น่าเลยจริงๆ ใครจะจะคิดว่าเด็กสี่ขวบในวันนั้นจะจำเรื่องทุกอย่างได้เป็นอย่างดีแถมยังทวงถามคำตอบจากเขาในทุกๆปีเสียด้วย “ของขวัญก็คุยกับป๋าแมทเป็นรอบที่ร้อยแล้วเหมือนกันค่ะ ว่ายังไงเราสองคนก็ต้องแต่งงานกัน” “แต่...” อ้าปากพูดออกมาได้แค่คำเดียวก็ถูกรณาปิดโอกาสด้วยการพูดแทรกขึ้นมา “ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้นค่ะ สัญญาต้องเป็นสัญญา ส่วนเรื่องที่ป๋าแมทเป็นกังวลว่าเราสองคนไม่เหมาะสมกันด้วยประการทั้งปวงที่ป๋าแมทเป็นคนคิดเองเออเองคนเดียวนั้น ของขวัญไม่สนใจนะคะ เพราะนอกจากแด๊ดดี๊สิงห์กระทิงแล้วก็คุณปู่แล้ว ผู้ชายอีกคนที่ของขวัญรักก็คือป๋าแมท” ทุกอย่างที่พูดออกไปคือความรู้สึกที่ตกผนึกอยู่ข้างในหัวใจ เธอรู้สึกอย่างที่พูดออกไปจริงๆ เธอรักและผูกพันธ์กับแมทธิวมากเป็นพิเศษ ความรู้สึกรักที่ไม่เหมือนความรักที่เธอมีให้ผู้เป็นบิดาและน้องชาย มันคือความรักของหนุ่มสาว แม้เธอกับแมทธิวจะห่างกันเกือบสามสิบปีแต่เธอกลับมองว่ามันไม่ใช่ปัญหาหรืออุปสรรคในความรักของเธอเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามเธออยากใช้ชีวิตอยู่กับเขาให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้ชดเชยเวลาที่เสียไปที่เธอดันเกิดช้ากว่าเขาตั้งเป็นสิบๆปี เจอคำพูดแบบนี้เข้าไปแมทธิวก็กลายเป็นคนใบ้ไปชั่วขณะไหนจะจังหวะหัวใจที่มันดันเต้นไม่เป็นจังหวะไปกับคำพูดพวกนั้นอีก แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะเขากับหญิงสาวก็ไม่มีอะไรที่เหมาะกันเลยสักอย่าง “ของขวัญ” เสียงทุ้มน่าฟังน้ำเสียงไม่ได้ห้วนเหมือนตอนแรกเอ่ยขึ้นอีกครั้งหลังจากนิ่งเงียบไปนาน รณาจึงซบหน้าลงกับอกแกร่งนั้นลดมือที่คล้องลำคอมาเป็นสวมกอดเอวสอบเอาไว้แทน “ป๋าแมทขา ของขวัญรักป๋าแมทจริงๆนะคะ ของขวัญอยากแต่งงานกับป๋าแมทอยากใช้ชีวิตอยู่กับป๋าแมท” ใบหน้านวลเนียนขาวอมชมพูเงยหน้าขึ้นมองชายคนรัก ดวงตากลมโตที่มองไปนั้นเต็มไปด้วยความรักที่เปี่ยมล้นดวงตาที่ไม่เคยมองชายใดนอกจากเขา แมทธิวก้มลงมองเจ้าของประโยคที่ทำให้หัวใจเขาสั่นไหว ร่างนุ่มนิ่มกับกลิ่นหอมอ่อนๆที่โชยเข้ามาจนต้องเผลอสูดเข้าไปเต็มปอด ริมฝีปากอิ่มที่เผยอเล็กน้อยตรงหน้ามีแรงดึงดูดมหาศาลที่ทำให้เขาอยากจะจุมพิตพิสูจน์ว่าริมฝีปากนี้จะหอมหวานสักเพียงไหน วงแขนแกร่งที่ทิ้งไว้ข้างตัวยกขึ้นโอบรอบเอวคอดอย่างลืมตัวตามสัญชาตญาณที่ฝังลึกภายในใจ ปฏิกิริยาที่ตอบสนองของแมทธิวทำให้รณาแอบยิ้มในใจ ขยับร่างามเข้าใกล้มากยิ่งขึ้น เธออยากให้เขาครอบครองเธอ เธออยากเป็นผู้หญิงของเขา แม้ความคิดนี้จะดูแก่แดดไปเสียหน่อย คนอื่นอาจจะมองว่าเธอเป็นผู้หญิงใจกล้าที่วิ่งขอความรักและเสนอตัวให้ผู้ชายเธอไม่สน เพราะเธอรักเขาและเธอพร้อมจะเป็นของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น หัวใจของเธอมีแต่เขาอยู่เต็มหัวใจไม่มีที่ว่างเหลือไว้ให้ใครอีก ร่างบางยืดตัวขึ้นเล็กน้อยเลื่อนมือที่โอบเอวสอบขึ้นมาตามแผงอกที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเลยขึ้นมาที่ไหล่กว้างแข็งแกร่งก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ลำคอแกร่งออกแรงโน้มลำคอชายหนุ่มลงมาช้าๆ พร้อมทั้งตัวเองที่ยืดตัวขึ้นหมายจะประกบริมฝีปากลงบนเรียวปากหยักได้รูปนั้น การกระทำของรณาทำให้แมทธิวไขว่เขวจิตใจหวั่นไหว ยิ่งเผลอมองสบตากลมโตที่ทอดมองมาที่เขาด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยรักแมทธิวก็เหมือนถูกมนต์สะกดไปชั่วครู่ ริมฝีปากอิ่มที่เผยอขึ้นเชิญชวนอยู่ตรงหน้าเหมือนมีแรงดึงดูดมหาศาลทำให้แมทธิวยอมทำตามการชี้นำของรณาอย่างไม่คัดค้านใดๆหรือจะพูดให้ถูกคือความรู้สึกลึกๆก็ออกคำสั่งให้เขาทำตามอย่างว่าง่าย แตะริมฝีปากลงบนเรียวปากอิ่มแผ่วเบาราวกับสัมผัสของขนนกที่ตกกระทบพื้นผิวกาย ตี๊ด! ตี๊ด! ตี๊ด! และเสียงโทรศัพท์ที่แผดเสียงร้องดังลั่นก็ทำให้สติที่กระเจิดกระเจิงของคนทั้งคู่กลับเข้าสู่โลกของความเป็นจริง แมทธิวรีบผงะออกห่างพร้อมทั้งผ่อนลมหายใจออกมาหนักๆอย่างโล่งอก นึกขอบคุณคนที่โทรเข้ามาเสียจริงที่โทรเข้ามาถูกจังหวะพอดิบพอดีก่อนที่ทุกอย่างจะเลยเถิดมากไปกว่านี้ ส่วนรณาถึงกับผ่อนลมหายใจออกมาด้วยความเซ็ง ใบหน้างออย่าเสียดายซบหน้าลงกับอกของแมทธิวอย่างอารมณ์เสียที่ถูกขัดจังหวะ เกือบแล้วเชียวอีกนิดเดียวเท่านั้นเธอกับแมทธิวก็จะ....ฮึ่ย!! เเมทธิวคว้าโทรศัพท์ที่ดังอย่างต่อเนื่องขึ้นมาดู คิ้วเข็มเลิกขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นบอร์ที่โทรเข้ามาก่อนจะเบนสายตาไปยังกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่มุมห้องก็ถึงบางอ้อว่าชื่อที่โชว์อยู่บนหน้านั้นโทรมาทำไม "ฮัล...." ยังไม่ทันจะพูดจประโยคปลายสายก็พูดแทรกเสียงดังขึ้นมาจนเเมทธิวต้องเอาโทรศัพท์ออกห่าง "ไอ้เเมท!! แกจะทำอะไรลูกสาวฉัน"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD