chapter 14

1518 Words
เธอไม่อยากจะเป็นนางวันทองสองใจนักหรอก แต่จะมีชะนีสักกี่ตนทนความตลกร้ายของตาบ้านี่ไหว!            ร้อยตำรวจตรีพิมฐาหรือหมวดพินเห็นว่าชายหนุ่มเดินไปชำระเงินรีบเข้ามาหาเธอในทันที ด้วยท่าทีเป็นห่วง            “พาย... มีอะไรให้พี่ช่วยไหม?”            ขณิกาส่ายหน้าไปมา เธอหงุดหงิดตั้งแต่รู้ว่าถูกตามตัวแล้วแค่ไม่ได้พูด “ช่วยกลับบ้านไปนอนเถอะนะพี่ ป่านนี้พี่พินยังไม่เลิกตามพายอีก พายบอกแล้วว่าวันนี้เข้าออฟฟิศไม่มีอะไร พ่อนี่ก็อีกคนนะ จริง ๆ เลย” ถลึงตาใส่ผู้หมวดสาวทีหนึ่งก่อนสะบัดก้นงอนไป ร้านขายยาตรงทางเข้าออกซูเปอร์มาเก็ตไม่ไกลมากนัก            ขณิกาคุยกับเภสัชกรสาวมีอายุ ได้วิตามินกับครีมทาหน้าประสาผู้หญิงรักสวยรักงามมาสองสามอย่าง พอหันหลังกลับไปชะเง้อคอมองหาเขาก็เดินพอดี            “ซื้อยาเสร็จแล้วใช่ไหม?”            “ค่ะ เสร็จแล้ว อ่ะ... นี่” ตอบพลางยื่นถุงพลาสติกยาให้เขา “ยาของคุณเมฆ ทาด้วยนะคะ เดี๋ยวผิวจะเป็นรอย”            ตาคมหลุบมองตามของในมืออย่างขุ่นเคืองใจ “แค่นี้ไม่เห็นจะต้องทา... แผลเป็นมันน่ารังเกียจมากหรือไง?”            “ฉันไม่ได้พูดเลยนะว่ามันน่ารังเกียจ คุณเมฆคะ ทา ๆ เข้าไปเหอะ ตรงไหนรักษาได้ก็รักษาไป ตรงไหนไม่ได้... ช่างมัน”            ช่างมัน... ถึงอยากให้เป็นอย่างนั้น สีหน้าของเขาไม่อยากรับยาพวกนี้จากหญิงสาวจนเธอต้องก้มลงคว้ามือของเขาเพื่อยัดเยียดมันให้ ก้าวมาทำหน้าที่เข็นรถเข็นซึ่งเต็มไปด้วยขนมและวัตถุดิบทำอาหาร            ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้รณรงค์เลิกใช้ถุงพลาสติกเหมือนที่อื่น ๆ รถยนต์ของเขายังไม่มีถุงผ้าติดท้ายรถสักใบ ก็คงจะต้องยกกันใส่ท้ายรถและขนไปทั้งอย่างนั้น ขณิกาคงได้สงสัยอยู่ว่าพ่อคุณกินอยู่ยังไง            “คุณเมฆปรกติไม่ช้อปปิ้งเลยเหรอคะ?”            “วิทยาซื้อให้ ของอย่างอื่นแม่บ้านเป็นคนจัดการ งานยุ่งนะ ผมไม่ค่อยมีเวลาทำเรื่องจุกจิกหรอก มากสุดก็เข้าเซเว่น”            เขาบอกอย่างไม่ได้รำคาญคนถามถึงท่าทีเฉยชาจะทำให้เธอรู้สึกตงิดใจ            “แปลว่าฉันโชคดีสินะคะ... เอ หรือว่าจะมาหยอกฉันให้สะใจอาภพกัน...”            ชายหนุ่มก้มลงมองใบหน้าบึ้งตึงของคนตัวเล็กที่เดินไปข้างหน้าช้า ๆ ใกล้ ๆ กัน ขณะรับรู้ได้ว่าผู้หมวดสาวเหมือนจะเลิกตามเขาและเธอไปแล้ว            “รู้มาก ใครบอกมาอีกล่ะ?”            “ฉันไม่ได้โง่ป่ะ เพื่อนฉัน พี่อริสา พี่ชินดนัย รุ่นพี่ที่สนามปืน ลูกน้องพ่อ ผู้หมวดผู้กองบอกฉันหมดแล้วว่าคุณเมฆเกลียดอาภพกับพี่อริสจะตาย”            “พวกมันบอกด้วยไหมล่ะว่าผมไม่ใช่คนดี”            “ไม่ต้องบอกก็รู้... เขารู้กันทั้งบ้านทั้งเมือง”            ทีเล่นทีจริงของเธอพาแววตาของเขาทอประกายวาบ ที่ผ่านมาเขาไม่สนว่าใครจะว่ายังไง มีก็แค่ขณิกาที่เขาไม่อยากให้เธอเข้าใจไปแบบนั้น            “แต่ผมไม่ทำร้ายผู้หญิง เด็ก ผมกระทืบแต่ตัวผู้... กับหมาแมว”            “ม้าล่ะคะ?” คำถามนั้นกระตุกหัวใจให้วูบไหว มือหนาเลื่อนมาดึงรถเข็นไปแทน สีหน้าของเขาแลดูเย็นชา            “ท่าทางคุณจะไม่เชื่อใจผม... ก็ไม่ควรจะขึ้นรถผมมาตั้งหลายครั้ง”             “ถ้าฉันไม่เชื่อใจคุณเมฆ ไม่มีวันได้กินคุกกี้ฉันสักชิ้น ไม่ให้ห่อกลับบ้านด้วย”            เมธพนธ์แค่นหัวเราะใส่คนที่กำลังยื่นข้อต่อรองเขาด้วยขนม            ท่ามกลางผู้คนที่มาช้อปปิ้งกันเป็นกิจวัตร ความเศร้าหมองกอบกุมจิตใจเขาที่ไม่เคยได้ใช้ชีวิตเหมือนคนอื่น และก็ต้องสกัดกลั้นความน้อยเนื้อต่ำใจไว้อย่างถึงที่สุด            “คุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อ เป็นเรื่องของคุณ แต่ผมจะมาเอาคุกกี้...”            “ไม่ทำงานทำการหรือไงคะ? ไหนบอกยุ่งเหลือเกิน”            “สองสามวันนี้ไม่ได้ยุ่งมาก ฟาร์มใหม่ที่เพิ่งขยายเข้าที่เข้าทางดี องุ่นของผมกำลังจะโต มันสวยมาก ๆ อร่อยด้วย บ่มไวน์ได้กำลังดี” พอพูดถึงผลไม้วิเศษที่ชื่นชอบมันมาตั้งแต่เล็ก ความหลงใหลปรากฏบนใบหน้าไร้เดียงสา ก่อนที่มันจะแทนที่ด้วยความโกรธเกรี้ยว            “นังตัวแสบ... เอาไอ้หนอนหนังเหนียว[1]มาปล่อย... ทำองุ่นผมตายทั้งฟาร์ม”            ขณิกาไม่เคยเห็นเขาทำหน้าแบบนั้นสักครั้ง เธอแน่ใจว่าคนไม่เคยรักใครคงรักน้ององุ่นมากถึงยกตำแหน่งให้อริสาเป็นพิเศษ ครั้นจะให้โยนความผิดให้พี่สาวผู้แสนดีก็ทำไม่ได้ สรุปว่าต่างฝ่ายต่างเข้าใจผิดกันตีกันไม่เลิก            “เลิกทะเลาะกันนะคะ คนกลางอย่างฉันอึดอัดมาก แค่นี้ชีวิตฉันก็วุ่นวายจะแย่แล้วเห็นไหม?”            “ผมไม่เคยทำร้ายใครก่อน... แต่ถ้าใครมันกล้าอยากลองของ ก็ต้องแลกกันคนละแผลสองแผล หึหึ” เสียงหัวเราะในลำคอดังหลังจากนั้น ดวงตาลุ่มลึกเหี้ยมเกรียม โดยที่เธอเองก็ไม่รู้ว่ามันมีความหมายอย่างไรแน่ จนพากันเข็นรถไปถึงลานจอดรถยนต์ เก็บของไว้ท้ายรถเรียบร้อยดี ชายหนุ่มเงยหน้าจากสัมภาระมากมาย ฝากระโปรงรถสีดำยังเปิดอ้าไว้อย่างนั้น            “กินให้อิ่ม นอนให้พอ ดึก ๆ อย่าร้องไห้ เอาเวลาคิดเรื่องรักใคร่ไปรักตัวเองให้มาก รักตัวเองให้เท่ากับที่พ่อแม่รักคุณ คุณเป็นลูกที่โชคดี มีพ่อแม่ดี ๆ ก็ทำตัวให้มันดี”            “ค่ะ... ขอบคุณนะ” นั่นเป็นสิ่งที่ขณิการู้ดีอย่างที่สุด รู้สึกใจชื้นขึ้นมาแปลก ๆ กับคำสอนของคนแก่กว่าจะว่าเป็นพี่ชายก็ไม่เชิง             “ผมจะมาให้คุณทายาให้บ่อย ๆ ผมเจ็บตัวเพราะคุณไม่มีเวลาจ้างแม่บ้านมาทำสะอาดออฟฟิศ”            “ถ้าไม่ทาให้ล่ะคะ?” เธอทำหรี่ตาเล็กลองใจว่าเขาชอบบังคับขนาดไหน ซึ่งเขาก็เลือกคำตอบได้ดี            “ผมอาจจะทำซุ่มซ่ามเดินไปเตะกระติกน้ำร้อนหรือมีดสักอัน... พายคงจะไม่ให้ป้า ๆ ในออฟฟิศมาทาบัวหิมะให้ผมใช่ไหม?”            ขณิกาเผลอหัวเราะออกมาเบา ๆ ยกมือขึ้นป้องปากแล้วเงียบไป ในลานจอดรถยนต์โล่งกว้างที่มีแค่เธอและเขา            เธอยังรู้สึกดีกับอาภพ... ขณะเดียวกัน ผู้ชายคนนี้เป็นเหมือนแม่เหล็ก คอยแต่จะดึงดูดเธอไว้ไม่ให้ไปจากเขา คุณเมฆทำให้เธอรู้จักคุณค่าของตัวเธอเอง ไม่ได้ทำตัวเป็นพ่อเหมือนที่พิภพชอบทำ เป็นตรงกันข้าม            ผู้ชายเผด็จการ...            “ตอบมาสิ... เร็ว ๆ อย่าทำให้ผมเสียเวลา” ซุ่มเสียงเด็ดขาด กลิ่นโคโลญจน์หอมฉุนพาความปรารถนาล้ำลึกแอบซ่อนไว้ในแววตาคู่สวย ดึงดูดอีกฝ่ายไว้ให้สบมองกลับมาด้วยนัยน์ตาคู่สีน้ำตาลเข้มประกาย            ชายหนุ่มแค่คิดแตกต่างไป อย่างหนึ่งที่เขาแน่ใจคือขณิกไม่ได้จ้องแต่จะกระโจนเข้าหาเงินของเขา ไม่ได้เป็นผู้หญิงคลั่งรักที่ชอบทำตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ จากนั้นเขาก็จะตะเพิดพวกหล่อนไป เธอไม่ได้ต้องการเงินของเขา แต่เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธเขาเช่นกัน            ในเรื่องงานที่เขายื่นข้อเสนอให้นั้นพอเข้าใจได้ว่าเธอเป็นสาววัยทำงานที่มีความเอาใจใส่ คิดถึงอนาคต ลูกน้อง บริษัทโฆษณาที่ก่อตั้งด้วยน้ำพักน้ำแรง            ถ้าเขาเป็นฝ่ายเข้าหาล่ะ? เธอจะผลักไสหรือว่าอ้าแขนรับ            เมื่อสัมปชัญญะสั่งการ ร่างสูงโน้มตัวลงช้าๆ เพ่งสายตาประกายมาดมั่นไปที่ริมฝีปากคู่งาม ดวงตาคู่สวยหลุบมองตามวงหน้าหล่อเหลาของชายมากเสน่ห์ด้วยหัวใจสั่นระรัว แม้เป็นหัวใจที่ยังไม่พร้อม            วูบหนึ่งของความรู้สึกในใจ เธอเหมือนได้กลับไปเป็นเด็กสาววัยรุ่นที่อยากรู้นักว่าการจูบผู้ชายสักคนมันเป็นยังไง ทั้งที่ไม่เคยจูบใครมาก่อนเลยสักคน...            ปี้น ปี้น เสียงแตรรถทำให้ทั้งสองคนผละจากกันในทันที เหมือนคนทำความผิดที่สะบัดหน้าไปคนละทิศทาง            ชายหนุ่มเพิ่งรู้ตัวว่าเมื่อสักครู่กำลังจะทำอะไรลงไป ยกมือขึ้นป้องปาก อึก ๆ อัก ๆ อย่างที่ตัวเขาเองไม่เคยเป็น            “ผม... จะ... ไปเปิดประตู... รถ...” [1] หนอนกระทู้หอม ชาวสวนเรียก ‘หนอนหนังเหนียว’ ศัตรูตัวร้ายทำความเสียหายต่อทุกส่วนขององุ่นทั้งใบ ดอก ผล
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD