บทที่ 2 ตอนที่ 1

1262 Words
ร่างไร้วิญญาณของรัมภาดายังคงถูกเก็บเอาไว้ในห้องเย็นของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง เพื่อรอพิสูจน์ความจริงบางอย่าง หลังจากจัดการเรื่องงานศพเรียบร้อยแล้ว การันต์ก็เดินทางกลับสิงคโปร์เพื่อเคลียร์งาน เขาวางแผนจะทำงานที่นี่ต่ออีกสองสามปี เพราะบริษัทขนส่งระหว่างประเทศของครอบครัวที่เพิ่งมาตั้งสาขาใหม่เพิ่ม ยังไม่แข็งแรงพอจะปล่อยมือให้หุ้นส่วนคนอื่นเข้ามาบริหาร เขา... ในฐานะรองประธานบริษัท จึงต้องมาดูงานด้วยตัวเองตั้งแต่เริ่มก่อตั้งเมื่อปีก่อน ถึงตอนนี้เริ่มอยู่ตัวแล้ว แต่ก็ยังไม่อาจวางใจได้ หลายครั้งที่ชายหนุ่มรู้สึกว่าตนเองก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดเรื่องเศร้าครั้งนี้ขึ้น ความห่างเหิน การปล่อยปละละเลยเพราะระยะทางที่ห่างไกล รวมถึงหน้าที่การงานซึ่งรัดตัวจนแทบหายใจไม่ออก มันทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและรัมภาดาในช่วงหลังๆ มา ไม่ค่อยราบรื่นเท่าไหร่นัก แต่ด้วยการประคับประคองจากทั้งสองครอบครัว ซึ่งทำธุรกิจร่วมกันมาช้านาน ทำให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เธอและเขาหมั้นหมายกันมาตั้งแต่เด็กเพราะความเห็นชอบของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย เพื่อจะได้เกื้อหนุนธุรกิจของกันและกันในอนาคต และทุกอย่างก็เป็นไปตามนั้น โดยส่วนตัวแล้ว ในช่วงต้นวัยหนุ่ม เขาเองก็อาจไม่ได้อยู่กับร่องกับรอยนัก ใช้ชีวิตเสเพลไปบ้าง ผ่านอะไรมามากมายนับไม่ถ้วน ทั้งผู้หญิง เหล้ายา อบายมุขต่างๆ นานา แต่สุดท้ายเขาก็ยินดีจะหยุดลงที่รัมภาดาเพียงผู้เดียว ดังที่โชคชะตาได้กำหนดไว้ตั้งแต่แรก ความรักของเขาและเธอไม่ได้หอมหวานมาตั้งแต่ต้น แม้จะรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กก็ตาม คล้ายจะถูกคลุมถุงชนแต่ก็มีอิสระมากกว่านั้น เพราะถ้าหากไม่สามารถไปด้วยกันได้จริงๆ ทั้งคู่ก็สามารถล้มเลิกการหมั้นได้ทุกเมื่อ แต่ด้วยความที่ตัวเขาก็ไม่เคยจริงจังกับใคร ส่วนรัมภาดาเองก็มีหนุ่มๆ คบหาบ้างประปราย จนเมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่งที่เธอโสดสนิท เขาจึงลองพูดคุยอย่างเป็นจริงเป็นจังมากขึ้น จนพบว่าเคมีตรงกัน นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ได้คบหาอย่างคนรัก... และพัฒนาความสัมพันธ์เรื่อยมา ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี รัมภาดาเป็นคนสวย เก่ง ฉลาด สามารถช่วยดูแลงานแทนเขาได้ตอนที่เขาไม่อยู่ไทย แต่หลังจากย้ายไปดูแลสาขาที่สิงคโปร์ ช่องว่างที่เกิดขึ้นระหว่างคนทั้งสอง ทำให้เขาตัดสินใจวางแผนการแต่งงาน สร้างเรือนหอ จนในที่สุดรัมภาดาก็ตั้งครรภ์ ทำให้แผนการที่วางไว้ถูกรวบรัดให้เร็วขึ้น แต่สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็คือ... เรือนหอที่ยังสร้างไม่เสร็จ จะกลายเป็นสถานที่เกิดโศกนาฏกรรมอันน่าสลด หนึ่งศพ สองชีวิต กับการตายที่ยังค้างคาใจ... หากทุกอย่างยังไม่ถูกสะสาง เขาจะไม่มีวันปล่อยมือจากเรื่องนี้เด็ดขาด... “คุณกันต์ครับ...” ประตูห้องทำงานเปิดออก ร่างใหญ่ของเลขาส่วนตัวเดินเข้ามาพร้อมแฟ้มเอกสารในมือ การันต์พยักหน้า อีกฝ่ายก็ยื่นเอกสารนั้นให้ ก่อนที่เขาจะรับมาเปิดดูอย่างละเอียดทีละหน้า “เบอร์โทรศัพท์...” เขาเงยขึ้นมองวันเสาร์พลางขมวดคิ้วด้วยความสงสัย “เบอร์นี้โทรหาเด็กวาปีคืนที่พระสวดคืนสุดท้าย มันตรงกับเบอร์ที่เคยโทรเข้าเครื่องคุณสรวงในคืนที่เธอหายตัวไปครับ” “...” นั่นปะไร “แล้วยังไงต่อ อาจจะเป็นคนรู้จักของที่บ้านวงศ์รวีก็ได้นี่” “มันไม่เหมือนเบอร์อื่นๆ ครับ เบอร์นี้ลงทะเบียนด้วยพาสปอร์ตนักท่องเที่ยว ชื่อพอล โพธิ์ทอง เลอร์สัน จากแคนาดา เพิ่งจะเดินทางมาประเทศไทยเมื่อห้าเดือนที่แล้วนี่เอง โทรหาคุณสรวงแค่ครั้งเดียว แต่ติดต่อกับวาปีบ่อยมากครับ บางครั้งใช้เวลาคุยกันเป็นชั่วโมง ซึ่งถ้าเป็นเบอร์อื่นๆ ปกติจะใช้เวลาไม่นานขนาดนี้” “นายคิดว่าไอ้พอลอะไรนี่ มีส่วนเกี่ยวข้องกับวาปี แล้วก็อุบัติเหตุของสรวงงั้นเหรอ” เขารีบเปิดเอกสารหน้าต่อไป กวาดสายตาอ่านอย่างละเอียด หลังจากให้คนสนิทช่วยตามสืบ เจาะจงไปที่ตัววาปี ข้อมูลทุกอย่างที่อยู่ในมือวันนี้ ดูเหมือนจะบอกให้รู้ว่าเขามาถูกทางแล้วจริงๆ เขาสงสัยไม่ผิดตัว! “ผมยังไม่ได้ลงรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ชายคนนั้นครับ รู้แค่ว่าเพิ่งปรากฏตัวที่ประเทศไทยเมื่อไม่นานมานี้ และติดต่อกับเด็กวาปีตลอด โทรหาคุณสรวงหนึ่งครั้งก่อนที่คุณสรวงจะขับรถออกไปจากโรงแรม และล่าสุดก็โทรหาเด็กคนนั้นอีกในคืนพระสวดคืนสุดท้าย” “แล้วเรื่องสะกดรอยตามได้ความยังไงบ้าง” วางแฟ้มเอกสารที่อ่านได้เพียงสามหน้าลง ยกมือกุมขมับ และเอ่ยถามเลขาหนุ่ม “เธอใช้ชีวิตปกติมากครับ ไม่มีอะไรส่อพิรุธเลย ไปวิทยาลัย เข้าเรียนทุกวิชา เวลาว่างก็นั่งอ่านหนังสือ เลิกเรียนก็ไปทำงานพิเศษ แล้วกลับบ้าน ไม่เคยไปพบคนแปลกหน้าที่ไหน ไม่เที่ยว ไม่ดื่ม การใช้โทรศัพท์ก็ปกติ ไม่มีเบอร์แปลกๆ นอกเหนือจากนี้โทรมาหาอีก ส่วนเรื่องแชตหรือการใช้แอปพลิเคชัน อันนี้เรายังไม่สามารถเจาะข้อมูลได้ คงต้องรอสักระยะครับ” วันเสาร์รายงานไปตามข้อมูลที่ได้รับจากสายสืบอีกที อันที่จริงยังมีภาพถ่ายทุกๆ กิจกรรมที่หญิงสาวได้ทำในแต่ละวันอย่างละเอียด แต่การันต์ไม่ใคร่อยากดูนัก เพราะยิ่งได้รู้ความคืบหน้าและแนวโน้มความเป็นไปได้ เขาก็ยิ่งรังเกียจ... เกลียด... ผู้หญิงคนนี้จนขึ้นสมอง “ทางตำรวจได้ตรวจสอบจากข้อมูลในโทรศัพท์ของคุณสรวง... เสียดายที่มันพังเสียหายตอนตกลงมากระแทกพื้น ข้อมูลที่ดึงกลับมาได้จากไอดีและแอปพลิเคชันต่างๆ ก็เลยไม่สมบูรณ์ มีการยืนยันว่ามีสายโทรเข้าเครื่องคุณสรวงด้วยไลน์ไอดีหลายสาย แต่คุณสรวงไม่ได้รับ ส่วนเฟซบุ๊กและแอปพลิเคชันอื่นๆ เท่าที่ตรวจสอบได้ก็ยังไม่พบความผิดปกติ” “เรียบเรียงใหม่ซิ... มีสายโทรเข้าก่อนออกจากโรงแรม มีไลน์โทรหาก่อนตกจากระเบียง?” “คืออย่างนี้ครับ... ตามไทม์ไลน์ที่เกิดขึ้น เราสันนิษฐานไว้ว่า ก่อนจะออกจากโรงแรมไปต้องมีคนโทรหาคุณสรวงเพื่อนัดเจอหรือทำอะไรสักอย่างที่เรือนหอของพวกคุณ และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงแรม เป็นเวลาไล่เลี่ยกับที่นายพอลโทรหาพอดี หลังจากนั้นตำรวจก็ใช้ไอดีเข้ารหัสในแอปพลิเคชัน ดึงข้อมูลการใช้งาน พบว่ามีไลน์ปริศนาโทรเข้าไปอีกหลายสาย เป็นการใช้งานครั้งสุดท้ายก่อนเครื่องจะตกลงมาพังพร้อมกับร่างคุณสรวงครับ” “มันตั้งใจโทรผ่านแอป เพื่อไม่ต้องโชว์เบอร์สินะ เพราะเบอร์โทรศัพท์จะยืนยันตัวตนได้ง่ายกว่า ตามหาตัวไอ้พอลคนนั้นให้พบ สืบให้ได้ว่ามันเกี่ยวข้องยังไงกับเรื่องนี้ ทำไมมันต้องโทรหาสรวง แล้วมันเป็นอะไรกับวาปี” “ครับคุณกันต์ แล้ว... คุณกันต์จะกลับไทยวันไหนครับ” “เร็วๆ นี้” เขาบอกส่งๆ ใจมันร้อนรุ่มจนไม่เป็นอันทำอะไร อยากจะรู้ อยากให้ทุกอย่างคลี่คลายในเร็ววัน เพื่อดวงวิญญาณของรัมภาดาและลูกน้อยจะได้ไปสู่สุคติเสียที...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD