ตอนที่ 2... ใจสั่งมา

1981 Words
“เป็นยังไงบ้างครับเฮีย หลานป้านิดท่าทางไว้ใจได้ เหมือนที่ผมบอกไหมครับ” ฃัชชัยอยากรู้ความคิดของเจ้านาย เพราะเมื่อครู่ เขาเห็นพลวัตมองเธออย่างให้ความสนใจ แต่เขาอ่านความคิดของพลวัตไม่ออก “ดูคนมันต้องดูนานๆ” “แล้วเฮียจะไปไหนครับ” ชัชชัยได้ยินเขาตอบสั้นๆ ก็รู้ว่าตอนนี้เจ้านายยังไม่มีอารมณ์จะตอบคำถามอะไร แต่เขาก็อดสงสัยไม่ได้ ที่พลวัตจะเดินไปในทางที่ไม่เหมาะกับการเดินเล่นฆ่าเวลาสักเท่าไหร่ “ไปเดินเล่นไง จะตามมาไหมล่ะ” “มะ... ไม่ครับ ตามสบายครับเฮีย” “กูเดินเล่น มึงทำงาน... โอเคไหม” “โอเคครับเฮีย เฮียว่ายังไง ผมก็ว่าตามนั้นครับ” ชัชชัยพูดจบก็รีบเดินออกมา ก่อนที่ตัวเองจะเผลอทำให้พลวัตอารมณ์เสียไปมากกว่านี้ สามนาทีต่อมา การเดินเล่นของพลวัต ก็พาเขามาถึงห้องห้องหนึ่ง ซึ่งเป็นห้องที่อยู่ในมุมอับของตัวอาคาร หากใครเดินผ่านไปผ่านมา คงไม่สนใจและคิดว่ามันเป็นห้องเก็บของ แต่ความจริงแล้วห้องนี้ มีประตูเข้าออกจากสองฝั่ง เมื่อเขาเดินทะลุมาอีกฝั่ง มันก็พาเขาถึงห้องพักที่เขาสร้างเอาไว้พักผ่อนเป็นการส่วนตัว และมันสามารถเชื่อมต่อไปยังห้องทำงานของเขาได้อีกด้วย หรือจะพูดง่ายๆ ก็คือ เขาแกล้งเดินอ้อมมาที่ห้องนี้ ทั้งๆ ที่เขาสามารถเข้ามาที่นี่ จากห้องทำงานของเขาก็ได้ และเมื่อเขาทำการล็อคประตูจากด้านนอกเรียบร้อย พลวัตก็เหยียดตัวนอนสบายๆ บนโซฟาตัวใหญ่ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดดูความเคลื่อนไหวของแม่บ้านจำเป็นผ่านกล้องวงจรปิดที่เขาแอบติดตั้งเอาไว้ในห้องทำงาน ของขวัญในชุดนักศึกษา ตอนนี้เธอรวบผมยาวสลวยให้รวมกันเป็นหนึ่งเดียว และกวาดพื้นห้องทำงานของเขาทุกซอกทุกมุม ก่อนจะใช้ผ้าชุบน้ำแล้วบิดหมาดๆ ทำความสะอาดตามชั้นเอกสารและโต๊ะทำงานของเขา และตรงนี้เองที่ทำให้พลวัตลุกขึ้นมานั่งดูเธออย่างตั้งใจ ของขวัญที่กำลังจัดโต๊ะทำงานของพลวัตให้เป็นระเบียบ สะดุดตาเข้ากับซองกระดาษสีเงินสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดเล็กๆ เธอหยิบมันขึ้นมาดูด้วยความสงสัย และเมื่อรู้ว่ามันคือสิ่งใด เธอก็วางมันไว้ที่เดิม ก่อนจะไปจัดส่วนอื่นๆ ของโต๊ะต่อ พลวัตที่แอบมองเธออยู่ก็ได้แต่สงสัย การที่เธอไม่ตกใจกับซองถุงยางอนามัยที่เขาแกล้งวางไว้นั้น แปลว่าเธอคุ้นชิ้นกับมัน หรือเธอไม่รู้กันแน่ว่ามันคืออะไร เขาดูเธอทำความสะอาดส่วนต่างๆ ที่เหลือ และเปลี่ยนดอกไม้ที่เริ่มเหี่ยวแห้งในแจกัน ก่อนจะนั่งขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ ว่าเธอตามชัชชัยเข้ามาในห้องเพื่ออะไร “พี่ชัชคะ” “มีอะไรเหรอครับน้องขวัญ” “หนูเจอถุงยางอนามัยวางอยู่บนโต๊ะ แต่ไม่รู้ว่าจะเก็บไว้ตรงไหนค่ะ” ของขวัญหยิบมันขึ้นมาให้ชัชชัยดู “ถุงยาง?” “ค่ะ ปกติหนูไม่เคยเห็นค่ะ เพิ่งเคยเจอวันนี้ครั้งแรก เลยไม่รู้จะเก็บไว้ตรงไหน หนูต้องวางไว้ที่เดิมหรือตรงไหนคะ” ของขวัญถามโดยไม่ได้คิดอะไรมาก เธอรู้ดีว่าที่แห่งนี้คือสถานที่แบบไหน แม้จะพยายามเรียกมันว่าสถานบันเทิง แต่สิ่งที่อยู่ด้านหลังห่างออกไปไม่กี่เมตรของที่นี่ ก็คือโรงแรมที่พลวัตสร้างไว้เพื่อให้ลูกค้าไว้สานต่อความสัมพันธ์บางอย่างกับคนที่ตัวเองถูกใจ เรียกได้ว่าเขาน่ะตั้งใจจะรับรายได้ จากงานสถานบันเทิง และงานโรงแรมไปพร้อมๆ กัน และมันก็ไม่น่าแปลกใจเลยสักนิด ที่เจ้าของของที่นี่จะพกสิ่งนี้ไว้ใกล้ๆ ตัว “วางไว้ที่เดิมก็ได้ครับ” ชัชชัยแปลกใจไม่น้อย ที่มีสิ่งนี้วางอยู่บนโต๊ะ เพราะมันควรจะอยู่ในลิ้นชักหรือที่ที่ลับสายตาคนมากกว่านี้ แต่ที่ทำให้เขาแปลกใจมากที่สุดคือการที่ของขวัญเจอมันวางอยู่บนโต๊ะ ในวันที่เธอพลวัตเจอเธอเป็นครั้งแรกนี่สิ “ขอบคุณค่ะ... หนูขอตัวกลับเลยนะคะ หนูทำงานเสร็จแล้วค่ะ สวัสดีค่ะ” “สวัสดีครับ... งั้นพี่ไปตามเฮียกลับมาทำงานก่อนนะ น้องขวัญให้พี่ช่วยยกอะไรออกไปไหม” ชัชชัยรับไหว้ของขวัญ และถามเธออย่างมีน้ำใจ “ไม่เป็นไรค่ะพี่ชัช หนูเข็นไปรอบเดียวก็หมดค่ะ ขอบคุณนะคะ” “งั้นพี่เปิดประตูให้นะ” ชัชชัยพูดจบก็ก้าวยาวๆ ไปเปิดประตูให้ของขวัญเข็นรถเข็นทำความสะอาดออกไปได้อย่างสะดวก ก่อนจะปิดประตูห้องทำงาน และออกไปตามหาเจ้านาย “อุ้ย!” ของขวัญตกใจ เมื่อเปิดประตูห้องทำงานมาเจอพลวัต “เข้ามาทำอะไร!” เจ้าของห้องเองก็ตกใจไม่แพ้กัน เพราะเขาเพิ่งเข้ามาที่นี่จากห้องพักลับๆ ของเขาไม่ถึงสิบวินาที “หนูลืมกระเป๋าค่ะ” “ใครอนุญาตให้เธอเข้ามา” “พี่ชัช... เอ้ย! คุณชัชชัยค่ะ คุณชัชชัยบอกหนูว่าให้เข้ามาเอาของที่ลืมไว้ได้เลยเพราะไม่มีคนอยู่ในห้อง” ของขวัญรีบตอบด้วยความกลัว และเธอก็ได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจ ว่าทำไมเขาถึงมาอยู่ในห้องนี้ ทั้งๆ ที่เธอไม่เห็นเขาเดินกลับมาที่ห้องเลยแม้แต่เงา “ใบนั้นใช่ไหม” เขาเห็นกระเป๋าผ้าวางอยู่บนโต๊ะรับแขกใกล้ๆ ก็ปลายตาถาม และเดินไปหยิบมันส่งให้เธอ “ค่ะ” เธอยกมือไหว้ ก่อนจะรับมันมาจากเขา “เห็นถุงยางบนโต๊ะเฮียหรือเปล่า” “เห็นค่ะ หนูเอาวางไว้ที่เดิมค่ะ” ของขวัญตอบกลับอย่างรวดเร็ว “แฟนเธอก็ใช้รุ่นนี้เหรอ” พลวัตถามต่ออย่างลองเชิง ถ้าเธอรู้ว่ามันคือถุงยางอนามัย แปลว่าเธอต้องเคยเห็นมาบ้าง “เปล่าค่ะ” “ลองเอาไปให้แฟนเธอใช้ไหมล่ะ รุ่นนี้ดีนะ บางเหมือนไม่ได้ใส่ ผู้หญิงที่ฉันนอนด้วยบอกว่าชอบทุกคน เธอก็น่าจะชอบนะ แฟนเธอใส่ไซส์ไหนล่ะ เท่าของเฮียหรือเปล่า เฮียมีไว้ขายหลายไซซ์เลยนะ แบ่งเอาไปใช้ได้” “ไม่เป็นไรค่ะ หนูไม่จำเป็นต้องใช้ค่ะ” “อะไร... ไม่ป้องกันเหรอ สมัยนี้ใครไม่ใช่ถุงยางนี่เชยมากเลยนะ” “คือหนูหมายความว่า หนูไม่มีแฟนค่ะ” “อ๋อ... ยังไม่มีแฟน” พลวัตพยายามรักษาอาการให้นิ่งที่สุด เพราะนี่เป็นอีกครั้ง ที่เขามองเธอผิดไป ครั้งแรกก็เรื่องการศึกษาของเธอ และครั้งนี้เขาก็คิดไปเอง ว่าเธอมีแฟนอยู่แล้ว “ค่ะ... หนูกลับก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ” ของขวัญไหว้เขาและก้าวยาวๆ เดินออกจากห้องไป เธอไม่ชอบเลยจริงๆ ที่เขามองว่าเธอจะเป็นเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ที่นี่ เพราะการที่เธอรู้จักถุงยางอนามัย ไม่ได้แปลว่าเธอจะต้องเคยมีสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับผู้ชาย ส่วนพลวัตเองก็รู้สึกประหลาดใจในตัวของหลานสาวแม่บ้านคนนี้ ที่ผ่านมาเขาไม่เคยดูผู้หญิงคนไหนผิดพลาด และเขารู้สึกว่าเธอเหมือนเกมตอบคำถาม ที่เขาอยากทายคำตอบให้ถูก แม้ว่าจะทำพลาดไปแล้วถึงสองครั้งก็ตามที “หาอะไรเหรอคะพี่ชัช” ของขวัญสะกิดแขนชัชชัยเบาๆ หลังจากเห็นเขายืนมองซ้ายทีขวาทีอยู่ที่ทางเข้าออกของสถานบันเทิง “หาเฮียน่ะสิ น้องขวัญเดินผ่านมาทางนั้นเหรอ เห็นเฮียบ้างไหม นี่พี่โทรหาก็ไม่รับสาย” เขาชี้ไปด้านหลัง “เห็นค่ะ” “เหรอ! เห็นที่ไหนล่ะ พี่จะได้ไปตามเฮียกลับไปห้องทำงาน” “อยู่ที่ห้องทำงานแล้วค่ะ” “อ้าวเหรอ ขอบใจมากนะ” “ค่ะ” “งั้นก็กลับดีๆ นะ พรุ่งนี้เจอกันครับ” “ค่ะ... สวัสดีค่ะ” เธอยกมือไหว้เขา ก่อนจะขอตัวกลับอีกครั้ง “เฮียครับ” “ว่าไง” พลวัตถามด้วยไม่มองหน้าชัชชัยที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้อง “เฮียเอาถุงยางวางไว้บนโต๊ะทำไมครับ” “อยากลองเชิงเด็กมันก็เท่านั้นแหละ อยากรู้ว่าเป็นเด็กแบบไหน ทำไมถึงกล้ามาทำงานในที่แบบนี้” “น้องขวัญเค้าไม่เหมือนคนอื่นๆ หรอกครับเฮีย เค้าแค่อยากช่วยป้านิดเฉยๆ ผมว่าน้องขวัญเป็นเด็กดีมากเลยนะครับ เลิกเรียนแล้วก็รีบมาทำงาน ทำงานเสร็จ ก็ต้องรีบกลับไปทำงานพาร์ทไทม์ต่อ กว่าจะได้กลับบ้านก็เที่ยงคืน เช้ามาก็ต้องตื่นไปเรียนอีก” “ขยันดีนะ... น่าภูมิใจแทนป้านิด” “ใช่ครับ ผมเคยได้ยินป้านิดเล่าถึงน้องขวัญมานาน พอได้เจอตัวจริง ก็ขยันเหมือนที่ป้าแกพูดไว้เลย เรียนได้เกรดสามกว่าเลยนะครับ” “เก่งดีนิ... แบบนี้น่าจะไปเรียนหมอ หรือวิศวะว่าไหม ไม่รู้เรียน คหกรรมไปทำไม” “น้องบอกว่าอยากเป็นเชฟครับ ตอนเด็กๆ ป้านิดกับแม่ของน้องขวัญเปิดร้านขายข้าวแกง น้องซึมซับการทำอาหารมาตั้งแต่เด็กน่ะครับ งานพิเศษของน้องก็ไปทำงานในร้านอาหารหรูๆ แถวทองหล่อครับ” “อ๋อ... ดี... แล้วแกพูดจบยัง ฉันจะได้ทำงาน” “จบแล้วครับเฮีย จะใช้งานอะไรก็เรียกนะครับ” ชัชชัยยิ้มแหยๆ หลังจากโดนตำหนิด้วยสายตา เขาคงพูดมากไปจริงๆ ไม่อย่างนั้นเจ้านายคงไม่เอ่ยปากไล่ แต่แท้จริงแล้ว สิ่งที่อยู่ในใจพลวัตนั้นไม่ใช่ความรำคาญแต่อย่างใด เขากำลังแปลกใจที่ลูกน้องคนสนิท กำลังชื่นชมเด็กนักศึกษาคนนั้น ด้วยแววตาเป็นประกาย พลวัตมั่นใจว่าสิ่งที่ชัชชัยแสดงออกมานั้น เป็นไปอย่างไม่รู้ตัว แต่สำหรับเขา... เขารู้ตัวว่า กำลังสนใจเธอ ตั้งแต่ทำความรู้จักกันได้ไม่ถึงห้านาที “ชัชชัย” “ครับเฮีย!” ผู้เป็นเลขายืนต้อนรับเจ้านายอย่างรวดเร็ว “วันนี้ฉันไม่เดินตรวจงานนะ ฝากด้วย” พลวัตเดินมาบอก หลังจากเคลียร์เอกสารต่างๆ เสร็จเรียบร้อย ตามปกติแล้ว ช่วงเวลาหกโมงเย็น จะเป็นช่วงที่เขาเดินตรวจความเรียบร้อยต่างๆ ของสถานบันเทิงแห่งนี้ ก่อนที่จะเปิดบริการบรรดาผู้คนที่โหยหาความสุขในชีวิต “เฮียจะกลับเข้ามาอีกไหมครับ” “นี่มึงจะต้องรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับกูเลยใช่ไหมเนี่ยไอ้ชัช!” “ผมไม่ได้อยากยุ่งเรื่องของเฮียหรอกนะครับ แต่วันนี้มีน้องๆ มาสมัครงานหลายคนเลยครับ” ชัชชัยพูดถึงกลุ่มผู้หญิงที่มาสมัครงานเป็นพนักงานของที่นี่ “งั้นแกก็พาเดินดูงานแล้วกัน ใครรับได้และสนใจจะทำจริงๆ ก็ให้อยู่รอจนกว่าฉันจะกลับมา” พลวัตได้ยินที่เลขาบอกก็ไม่สามารถตัดใจที่จะทิ้งงานสำคัญไปได้ “ครับเฮีย” ชัชชัยรับคำสั่งด้วยรอยยิ้มที่รู้ทันเจ้านาย “ตรวจงานให้ดีนะ ถ้ามีอะไรผิดพลาด ฉันจะหักเงินเดือนแก โอเคไหม?” “ไม่โอเค ก็ต้องโอเคครับเฮีย” เขาพยักหน้ารับอย่างไม่มีทางเลือก เพราะแม้ว่าคำขู่ของเจ้านายจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงไม่จริงจัง แต่เงินเดือนที่เขาโดนหักมาตลอดเจ็ดปี ก็มากพอที่จะดาวน์รถยนต์มาขับและผ่อนสบายๆ ได้หลายงวดเลยทีเดียว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD