เบ้าหน้าฟ้าประทาน ลูกรักพระเจ้าสาขาประเทศไทย ฐานะร่ำรวย การศึกษาดีมีชาติตระกูล แต่ปากร้ายเหมือนเลี้ยงหมาทั้งฝูงเอาไว้ คือนิยามของหลานชายเจ้าสัวเฉลิมที่มีชื่อว่า
คีตะ หรือ คีย์ตะวัน สิริโชคมหาทรัพย์ อายุสามสิบกว่าแล้วทว่ายังไม่แต่งงานหรือมีแฟนเป็นตัวเป็นตน ทำให้ผู้เป็นปู่รู้สึกร้อนใจกลัวไม่มีเหลนสืบสกุลจึงคิดจะจับคู่ให้หลานรัก
“คุณปู่ว่ายังไงนะครับ อยากให้ผมไปกินข้าวกับหลานสาวเพื่อน” คีย์ตะวันเงยหน้าจากโทรศัพท์ราคาแพง ก่อนจะหันไปถามเจ้าสัวเฉลิมด้วยน้ำเสียงแปลกใจ
คิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ยามที่จ้องมองใบหน้าเหี่ยวย่นของคนเป็นปู่ มุมปากกระตุกเมื่อเดาออกว่าคุณปู่สุดที่รักอยากให้ตนเองไปกินข้าวกับผู้หญิงคนนั้นทำไม
“ใช่ เผื่อแกจะชอบหนูพลอย ปู่จะได้ตกลงรับมาเป็นหลานสะใภ้” เจ้าสัวเอ่ยด้วยความกระตือรือร้น ถ้าในบรรดาลูกหลานเพื่อนก็มีเด็กสาวที่ชื่อพลอยมณีนี่แหละ ที่ดูจะเหมาะสมกับคีย์ตะวันมากสุด ทั้งรูปร่างหน้าตา การศึกษา รวมถึงฐานะ ส่วนนิสัยใจคอค่อยเรียนรู้กันได้
“ทำเหมือนผมไม่เคยเจอยัยนั่น คนอย่างผมไม่แต่งงานกับผู้หญิงที่สวยแต่รูปจูบไม่หอม อ้อ ผู้หญิงไม่สวยก็ไม่เอาเหมือนกัน”
เขายักไหล่ก่อนตอบ ด้วยนิสัยเอาแต่ใจทำให้ชายหนุ่มตั้งมาตรฐานสเป็กผู้หญิงเอาไว้สูงมาก ค่อนไปทางสมบูรณ์แบบเชียวละ แม้กระทั่งคู่นอนคั่นเวลายามเหงาก็ไม่รอด
พลอยมณีจัดเป็นผู้หญิงสวยก็จริง แต่ดันสวยผ่านมีดหมอจึงไม่ผ่านมาตรฐานของคีย์ตะวัน
“ไอ้นั่นก็ไม่เอา ไอ้นี่ก็ไม่ได้ แล้วเมื่อไหร่ปู่จะมีเหลนล่ะเจ้าคีตะ” เจ้าสัวแสดงสีหน้าเหนื่อยใจกับความเรื่องมากของหลานชาย
ท่านอายุใกล้จะเลขแปดอยู่รอมร่ออีกไม่นานก็ตาย ถ้าเจ้าหลานตัวดีมัวแต่เลือก แล้วเมื่อไหร่คนแก่จะได้เห็นหน้าเหลน
“ไม่รู้ล่ะ เอาเป็นว่าผมยังไม่พร้อมจะมีครอบครัว อ้อ ถ้าคุณปู่จะหาผู้หญิงมาให้ผมดูตัว ขอความกรุณาเอาสวยๆ หุ่นนางแบบ สูงตามมาตรฐานหญิงไทย หน้าไม่ทำ เอาแบบสวยธรรมชาติ ส่วนฐานะรวยน้อยกว่าเราได้ เพราะคงไม่มีใครรวยเท่าเราแล้ว”
เขายิ้มมุมปากอย่างทระนงตน ยามที่คิดถึงเรื่องแม่ของลูก ผู้หญิงของคีย์ตะวันจะต้องสวยตั้งแต่เกิด เอาแบบว่าพระเจ้าสรรค์สร้างไม่ใช่หมอให้มา ลูกๆ จะได้ออกมาหล่อสวยกันทุกคน
เจ้าสัวที่มองอยู่ถึงกับหมั่นไส้ ไอ้หลานคนนี้ทำไมนิสัยถึงได้เอาแต่ใจขึ้นทุกวันเหมือนท่านตอนเป็นหนุ่มไม่มีผิด คิดแล้วก็โมโห
“เออ เกลียดสิ่งไหนขอให้ได้สิ่งนั้น ปู่ขอให้เอ็งมีเมียอ้วนๆ สูงไม่ถึงร้อยหกสิบ ห่างไกลจากคำว่าหุ่นนางแบบลิบลับ มีแก้มกลมๆ เหมือนซาลาเปา”
“ผมน้อมรับคำอวยพร คุณปู่ไม่มีทางสมหวังหรอกบอกเลย ผมขอตัวก่อนจะไปทำงานที่คลับ”
“แล้วปู่จะคอยดูโว้ย”
เจ้าสัวเฉลิมตะโกนไล่หลังหลานชายตัวดี ที่มีหน้าตาและสมองเป็นอาวุธ ส่วนนิสัยก็ตามประสาคุณหนูเอาแต่ใจ ไม่เคยสนใจใครเพราะเกิดมาบนกองเงินกองทอง อยากได้อะไรก็ต้องได้
ปกติคีย์ตะวันจะอาศัยอยู่เพนต์เฮาส์มากกว่าคฤหาสน์ของเจ้าสัวเฉลิม เพราะสะดวกกับการเดินทางไปทำงาน เขาจะกลับบ้านบ้างเป็นบางครั้งหรือไม่ก็โดนตาแก่ที่รักตามตัวมา
“ไอ้คนที่มันโกงเงินกู มันมาที่คลับยังวะไอ้แดน”
ชายหนุ่มเอ่ยถามลูกน้องหลังจากขึ้นมานั่งบนรถคันหรูและคาดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อย
ถึงแม้เขาจะนั่งอยู่เบาะหลังแต่ไม่เคยลืมเรื่องความปลอดภัยเพราะเคยประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อหลายสิบปีก่อน
“มาแล้วครับ กำลังรอบอสไปสะสาง” ลูกน้องคนสำคัญตอบกลับเจ้านายหนุ่มที่กำลังยิ้มร้าย ยามนึกถึงไอ้คนที่กล้ามาแหย่หนวดเสือ
แดนดินคือมือขวาของคีย์ตะวัน เป็นทั้งบอดีการ์ดและเลขา รูปร่างหน้าตาหล่อเหลาทำให้มีสาวมาขายขนมจีบไม่ว่างเว้น
“ดี มันกล้ามากที่ยักยอกเงินกู” เอ่ยด้วยน้ำเสียงดุดัน หน้าตึงยิ่งกว่าคนเพิ่งไปฉีดโบท็อกซ์ มือทั้งสองข้างกำแน่นด้วยความโมโห
หลายวันก่อนแดนดินจับได้ว่ามีพนักงานในคลับแอบขโมยเงินและของมีค่าบางอย่างไปขาย สืบไปสืบมาถึงรู้ว่าเป็นแม่บ้านชื่อ แววดาว
เธออ้างว่าจำเป็นต้องทำเพราะติดหนี้เงินกู้นอกระบบ ถ้าไม่เอาเงินไปให้พวกมันเธอกับครอบครัวต้องตายแน่
“แต่มันไม่ได้มาคนเดียว มันมากับผู้หญิงคนหนึ่ง”
ลูกน้องรายงานต่อตามที่คนในคลับบอกมา คีย์ตะวันตั้งใจจะแจ้งความแต่แววดาวอ้อนวอนขอร้องเพราะไม่อยากติดคุก เธอสัญญาว่าจะหาเงินมาคืนให้ได้แน่นอน
“มันบอกไหม พามาด้วยทำไม”
“ไม่ได้บอกครับ บอกแค่ว่าจะขอคุยกับบอสเอง”
“อือ ออกรถ กูอยากรู้แล้วมันเอาใครมา”
“ครับบอส”
แดนดินรับคำสั่งก่อนจะหันไปบอกให้คนขับรถออกรถแล้วมุ่งหน้าไปยังคลับของเจ้านายที่รองรับเฉพาะคนรวย
ชายหนุ่มใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงสถานบันเทิงของตนเอง ฟ้าครามผู้ซึ่งทำหน้าที่คอยดูแลกิจการสีเทาของเจ้านายรีบเข้ามาต้อนรับด้วยความรวดเร็ว เขาเป็นมือซ้ายของคีย์ตะวันเรื่องร้ายๆ ยกให้ผู้ชายคนนี้จัดการได้เลย
“ทุกอย่างเป็นไงบ้างไอ้คราม”
“เรียบร้อยครับบอส”
“แล้วคนที่กูจะต้องไปสะสางรออยู่ที่ไหน”
“ห้องทำงานของบอสครับ”
ไม่มีคำใดเล็ดลอดออกจากริมฝีปากหยักอีกนอกจากการพยักหน้า ก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปยังลิฟต์ซึ่งซ่อนตัวอยู่ด้านหลัง ไม่อนุญาตให้คนนอกใช้งานนอกจากพนักงานและเจ้าหน้าที่ของคลับ
คลับของเขามีชื่อว่า K ตามอักษรภาษาอังกฤษตัวแรกของชื่อเขา และที่ใช้อักษรตัวเดียวโดดๆ ก็เพื่อให้เรียกง่ายเท่านั้น
ชายหนุ่มสร้างสถานบันเทิงแห่งนี้ขึ้นมา เพราะมองเห็นถึงช่องทางการทำเงิน แม้จะรวยแล้วแต่นั่นมันไม่ใช่เงินที่เกิดจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเองร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะบริษัท SC ผู้นำทางด้านเทคโนโลยี ที่เขานั่งบริหารอยู่ทุกวันนี้เป็นกิจการของตระกูลซึ่งมีเจ้าสัวเฉลิมเป็นผู้ก่อตั้ง
คลับ K มีทั้งหมดสามชั้น ชั้นหนึ่งกับสองเอาไว้ให้ลูกค้า ส่วนชั้นสามจะเป็นส่วนของออฟฟิศมีห้องทำงานที่แบ่งสัดส่วนไว้ชัดเจน
คีย์ตะวันมีลูกน้องประกบซ้ายขวาประหนึ่งเจ้าพ่อมาเฟีย แม้กระทั่งการเปิดประตูก็ไม่จำเป็นต้องทำเอง
หลังจากเข้ามาอยู่ในห้องทำงาน เขาก็ไม่รอช้าที่จะตั้งคำถามด้วยน้ำเสียงดุดันไม่เป็นมิตร พูดมึง พูดกู ขัดกับหน้าตาหล่อเหลาปานเทพบุตร
“ไหนล่ะเงินที่มึงโกงกูไป”
“สะ...สวัสดีค่ะบอส วันนี้แววมาเจรจา”
“มาเจรจา? หมายความว่ายังไง”
เขาหรี่ตามองคนขี้โกง ก่อนจะมองเลยไปยังผู้หญิงเจ้าเนื้ออีกคนที่นั่งนิ่งไม่พูดไม่จา แววดาวเอายัยเด็กอ้วนนี่มาด้วยทำไม คำถามนี้ผุดขึ้นมาในใจคีย์ตะวัน ชักจะรู้สึกตงิดๆ กับคำว่าเจรจา
“สร้อยสวัสดีคุณคีตะสิลูก”
แววดาวกระซิบบอกสร้อยทองเสียงหวาน แตกต่างจากทุกวันที่ใช้พูดคุยกัน เพราะปกติเธอจะพูดกับลูกเลี้ยงด้วยน้ำเสียงกระโชกโฮกฮาก
สร้อยทองแทบจะอ้วกออกมากับน้ำเสียงดัดจริตของแม่เลี้ยง ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อเธอไม่ยอมยื่นมือเข้ามาช่วยหรอก
“สวัสดีค่ะคุณคีย์ตะวัน”
หญิงสาวที่มีใบหน้ากลมราวกับซาลาเปายกมือขึ้นมาทำความเคารพเจ้าหนี้ของแม่เลี้ยงใจยักษ์ ก่อนจะส่งยิ้มหวานให้เขาเพื่อผูกมิตรแต่เขาไม่ยิ้มตอบ
“นี่สร้อยทอง ลูกสาวของแววเองค่ะ” แววดาวแนะนำ
“มึงเอามาทำไม กูต้องการเงินคืน ไม่ได้ต้องการผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงอ้วน”
เอ่ยอย่างไม่เกรงใจ คำว่าอ้วนกระแทกหน้าสาวเจ้าเนื้อเต็มๆ แต่สร้อยทองทำเป็นหูทวนลม
“คือแววยังไม่มีเงินค่ะ มีแต่ลูกสาวแววเลยจะขอเจรจา ในระหว่างที่แววกำลังหาเงินมาคืน อยากจะฝากลูกสาวเอาไว้ที่นี่ก่อน”
“พูดง่ายๆ ค่ะ แม่แววจะให้หนูมาทำงานให้คุณแลกกับหนี้สิน”
“ใช่ค่ะ ลูกสร้อยจะเป็นคนรับผิดชอบหนี้สินทั้งหมดของแวว”
คำตอบของแววดาวทำให้คีย์ตะวันนิ่งไปชั่วครู่พร้อมกับขบคิดไปด้วย
อันที่จริงเงินแค่ไม่กี่หมื่นเขาไม่สนใจอยากได้คืนหรอก แต่นิสัยไม่ชอบคนโกงจึงบังคับให้แววดาว หาเงินมาคืนทุกบาททุกสตางค์รวมถึงค่าปรับด้วย