“ช้า” ลีโอเงยหน้าขึ้นมองทิวาก่อนจะยื่นมือไปรับเอกสารมาเปิดดูพร้อมกับรอฟังรายงานคร่าว ๆ จากทิวาเหมือนทุกครั้งก่อนเข้าประชุม
“ขอโทษครับ พอดีฝ่ายธุรการเพิ่งส่งเอกสารมาเพิ่มผมเลยเสียเวลาตรวจเช็คก่อนเอาเข้ามาให้คุณลีโอครับ” ทิวาอธิบายถึงเหตุผลที่เขาเข้ามาช้ากว่าปกติจนอีกคนทักมา
“งานเยอะ???” ลีโอเงยหน้าจากเอกสารที่กำลังอ่านขึ้นมาเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งมองหน้าทิวาอีกรอบก่อนจะถามคำถามที่ทำให้คนฟังสงสัยแต่ไม่กล้าถาม พอสบตากับลีโอเขารู้สึกเสียวสันหลังยังไงก็ไม่รู้เพราะไม่แน่ใจว่าตัวเองจะโดนอะไรหลังจากนี้
ลีโอเขียนข้อความลงในเอกสารก่อนจะยื่นให้ทิวารับคืนไปแต่พอทิวาเห็นข้อความในเอกสารก็ต้องเบิกตากว้างอย่างตกใจไม่อยากเชื่อว่าคนแบบลีโอมีคำสั่งลักษณะนี้ออกมาได้ เพื่อความแน่ใจทิวาอดที่จะถามย้ำออกมาไม่ได้ก่อนจะได้รับสายตาไม่พอใจของลีโอกลับมาแทน
“คุณลีโอจะให้ทำแบบนี้จริง ๆ ใช่ไหมครับ”
“...” ลีโอไม่พูดแต่ใช้สายตามองทิวาเพื่อสื่อความหมายว่าคำสั่งเขามีปัญหาอะไรเหรอ เขาสั่งแบบไหนก็ทำตามนั้นมันเข้าใจยากตรงไหน
“ครับ ๆ ได้ครับผมจะรีบจัดการให้โดยด่วนเลยครับ” ตกปากรับคำเสร็จทิวาก็เดินออกจากห้องเพื่อเตรียมเอกสารและเตรียมตัวเข้าประชุมพร้อมลีโอในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
แดนกับเคนที่มองการกระทำของทั้งลีโอและทิวาด้วยความสงสัย ก็ตั้งแต่ที่พวกเขาเห็นลีโอยิ้มมุมปากกับเสียงเค้นจากลำคอด้วยความพอใจทั้งที่ไม่มีอะไรให้น่าสนใจจะว่าเป็นเพราะเอกสารที่เขาถือในมือก็ไม่น่าใช่ เห็นทีแบบนี้คงต้องมีอะไรสักอย่างที่ทำให้คนอย่างลีโอสนใจแน่นอน
“ไอ้เคนมึงคิดว่านายคิดอะไรอยู่วะ” เป็นแดนที่เอ่ยถามเคนออกมาด้วยความสงสัยหลังจากที่เขานั่งมองลีโออยู่นาน
“กูไม่รู้”
“น่าสนใจ แบบนี้ต้องสืบ”
“เห้อ” เคนถอนหายใจให้กับความชอบเสือกของแดนเป็นที่สุด ทำไมต้องสืบหรืออยากรู้มากขนาดนั้นถึงยังไงอีกไม่นานพวกเขาก็ต้องรู้อยู่ดีพวกเขาตัวติดกับลีโอตลอดเวลายกเว้นเวลานอนเท่านั้น พวกเขาจำเป็นต้องรู้ทุกเรื่องของลีโอทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวก็เพื่อความปลอดภัยของคนเป็นเจ้านาย
ถึงแม้ลีโอจะทำธุรกิจที่ขาวสะอาดแต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีศัตรูหรือคู่แข่งที่คิดจะกำจัดลีโอให้พ้นทางของคนพวกนั้นไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง ลีโอเคยโดนลอบฆ่ามาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนและรอดมาได้ทุกครั้ง แม้พวกเขาจะจับตัวคนร้ายมาได้แต่ก็ยังไม่สามารถสาวถึงตัวคนบงการได้เพราะพวกมันไม่ยอมเปิดปากพูดถึงแม้จะโดนทรมานมากแค่ไหนก็ตามเหมือนถูกฝึกมาให้ทำภารกิจพลีชีพแบบยอมตายไม่ยอมเปิดเผยข้อมูล ดังนั้นรอบตัวลีโอจึงจำเป็นต้องมีลูกน้องคอยดูแลเรื่องความปลอดภัยให้ตลอดเวลา
“ก็คนมันอยากรู้ มึงรู้ไหมถ้าอยากรู้แล้วไม่ได้รู้มันทรมานแค่ไหน” แดนอธิบายความรู้สึกของตัวเองให้เคนฟังหลังจากที่เห็นสีหน้าเบื่อหน่ายของเคนที่ชอบแสดงให้เขาดูอยู่บ่อย ๆ
ลีโอเหลือบตามองคนสนิททั้งสองที่นั่งเถียงกันอยู่ที่โซฟาแทนที่จะกลับห้องทำงานของตัวเองที่อยู่ติดห้องเขาเหมือนทุกทีเพียงนิด ก่อนเขาจะเลิกสนใจแล้วลุกขึ้นเดินไปประชุมเมื่อทิวาเดินมาตาม
หลังประชุมเสร็จและลีโอกลับออกไปแล้วทิวาได้แต่นั่งมองเอกสารของฝ่ายธุรการที่เขาได้รับคืนมาจากลีโอเมื่อเช้าด้วยสีหน้าเคร่งเครียดจนคิ้วขมวดกันเป็นปมพร้อมถอนหายใจออกมา
“เห้อ...” ทิวายกหูโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาหัวหน้าฝ่ายธุรการเพื่อเรียกให้ขึ้นมาพบเขาที่นี่จะได้คุยเรื่องคำสั่งด่วนของลีโอที่สั่งเขามาเป็นลายลักษณ์อักษรเลยทีเดียว เขารอไม่นานวิภาดาหัวหน้าฝ่ายธุรการก็มาพบเขา
“คุณทิวามีอะไรหรือเปล่าคะถึงได้เรียกดามาพบแบบนี้”
“คือแบบนี้นะ ผมอยากให้นักศึกษาคนเมื่อเช้าให้ขึ้นมาช่วยงานผมที่นี่”
“คะ? คุณทิวาจะให้น้องรักมาช่วยงานที่นี่เหรอคะ”
“ใช่ครับ”
“แต่น้องเพิ่งมาฝึกงานได้ไม่นานเองนะคะแล้วอีกอย่างน้องยังทำงานไม่คล่องและยังไม่รู้ระบบทั้งหมดของบริษัทเลย ดาว่าน้องไม่น่าเหมาะที่จะมาช่วยคุณทิวาได้มากนักนะคะ ถ้าคุณทิวาอยากได้ผู้ช่วยจริง ๆ เดี๋ยวดาให้น้องที่เก่ง ๆ ในแผนกมาช่วยแทนหรือจะรับสมัครพนักงานใหม่เลยดีไหมคะ” วิภาดาเสนอความคิดให้ทิวาเพราะเธอกลัวว่าถ้าให้เด็กฝึกงานมาช่วยงานทิวาน่าจะไม่เหมาะสมเพราะรักแรกยังไม่รู้ระบบงานทั้งหมดของบริษัทและอีกอย่างทิวาขึ้นตรงกับท่านประธานโดยตรงเธอกลัวจะผิดพลาดแล้วมีปัญหากับการฝึกงานของรักแรกได้ ไหนจะคำนินทาที่ต้องมีตามมาแน่นอน
“ผมไม่ต้องการคนอื่น ผมแค่เรียกคุณมาบอกเรื่องนี้เท่านั้นคุณกลับไปจัดการตามคำสั่งก็พอครับ”
“เอ่อ... ค่ะ ๆ”
หลังจากวิภาดาไปแล้วทิวาก็อดที่จะหยิบเอกสารที่ลีโอเขียนด้วยลายมือขึ้นมาดูอีกครั้งไม่ได้ ‘ให้นักศึกษาฝึกงานมาช่วยงานทิวา’ ก็เจ้านายสั่งมาแบบนี้เขาจะให้คนอื่นมาช่วยได้ยังไง เขาละไม่อยากจะเชื่อว่าคนอย่างลีโอจะสั่งให้นักศึกษาฝึกงานมาช่วยงานเขาทั้งที่เขาก็ทำงานคนเดียวมาหลายปีแล้วแท้ ๆ แต่อยู่ดี ๆ กลับอยากให้เขามีคนช่วยและคงจะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่นักศึกษาคนเมื่อเช้าที่เผอิญล้มเข้าไปในอ้อมกอดของลีโออย่างจัง
เขาเห็นเหตุการณ์แต่ไม่ได้พูดอะไรเพราะไม่ใช่หน้าที่หรือเรื่องที่สมควรจะเอามาพูดเล่นให้สนุกปากและนั่นก็ไม่ใช่นิสัยเขาอีกด้วย จะว่าไปเรื่องนี้เขาก็ว่าแปลกพอสมควรแต่ก็ช่างเถอะเมื่อเจ้านายสั่งลูกน้องแบบเขาก็ทำตามแค่นั้นจบจะไปคิดมากให้ปวดหัวทำไมแค่ปวดหัวเรื่องงานก็พอแล้วเรื่องส่วนตัวเจ้านายจะไปเอามาคิดให้รกสมองทำไม
วิภาดาเดินทำหน้าเครียดกลับมายังห้องทำงานของตัวเอง เธอเองก็แปลกใจที่อยู่ ๆ ทิวาก็อยากได้คนไปช่วยทำงานโดยระบุว่าต้องเป็นรักแรกนักศึกษาฝึกงานทั้งที่ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเลย วิภาดาโทรเรียกให้รักแรกเข้ามาพบเธอที่ห้องทำงานส่วนตัวของเธอ
“รักแรกเข้ามาพบพี่ที่ห้องหน่อย”
“ได้ค่ะพี่ดา” หลังวางสายรักแรกก็รีบเข้าไปพบวิภาดาที่ห้องทำงานทันที แต่พอเธอเห็นสีหน้าที่เคร่งเครียดของวิภาดาก็หน้าเสียเพราะกลัวว่าตัวเองทำงานผิดพลาดอะไรหรือเปล่าถึงโดนเรียกมาพบส่วนตัวแบบนี้
“เอ่อ... พี่ดาเรียกรักมามีอะไรหรือเปล่าคะ”
“เห้อ... คืออย่างนี้นะพี่จะให้เราย้ายไปช่วยงานคุณทิวาเลขาท่านประธานที่ชั้นบนสุดนะ”
“คะ??? ว่าไงนะคะ!!!” รักแรกตกใจกับคำสั่งของวิภาดาเป็นที่สุด ทำไมถึงเป็นเธอที่ต้องขึ้นไปช่วยงานเลขาของประธานทั้งที่เธอเป็นแค่นักศึกษาฝึกงานเอง