วันเวลา1

1526 Words
วันเวลา ก็สามปีแล้วนะ มันนานเกินกว่าที่จะเก็บเอามาคิด แต่อรองค์ก็อดคิดไม่ได้ เพราะสุดท้ายแล้วภูวิณก็ไม่เคยมาที่บ้านอีกเลย นับตั้งแต่วันนั้น เธอเองก็ยังถูกสั่งห้ามกลับไร่ จนกว่าจะเรียนจบปริญญาตรี ซึ่งเธอกับอารียาเพิ่งสอบเข้ามหาวิยาลัยเดียวกัน แต่เลือกคนละคณะ อารียาเลือกเรียนนิเทศศาสตร์ ฝันอยากทำงานเบื้องหลังวงการโทรทัศน์หรือเกี่ยวข้องกับวงการบันเทิง ส่วนอรองค์เรียนคณะบริหารธุรกิจ กับความคิดที่จะใช้ความรู้กลับไปช่วยงานภูริณที่ไร่อย่างที่ตั้งใจไว้แต่แรก รวมทั้ง รีสอร์ตที่เพิ่งสร้างเสร็จ และเปิดบริการเรียบร้อย แม้ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วเธอจะได้กลับไปที่ไร่ภูวิณอีกครั้งหรือเปล่า เพราะหากภูวิณเลือกที่จะใช้ชีวิตคู่กับมะลิ เธอคงหมดโอกาสจะกลับไป เพราะนอกจากจะทนเห็นทั้งสองรักกัน มะลิก็คงไม่ให้เธออยู่อย่างสุขสงบเช่นกัน แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรที่จะอยู่ที่นั่น ถ้าอยู่อย่างสงบไม่ได้ “มัวแต่นั่งเหม่ออยู่นั่นแหละ ไม้กับมิ้นท์และมะเหมี่ยวรออยู่ที่ร้านแล้วนะ” อารียาเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นอรองค์นั่งเหม่ออยู่ในห้องนั่งเล่น ขณะที่เธอพร้อมจะออกจากบ้านแล้ว เพราะนัดกลุ่มเพื่อนสนิท ฉลองที่สอบติดมหาวิทยาลัยเดียวกัน จะได้ไม่โดดเดี่ยวในที่แห่งใหม่ อารียากับมะเหมี่ยวเรียนคณะเดียวกัน ส่วนมัทนาเรียนคณะเดียวกันกับอรองค์ ส่วนมัชกรเรียนนิติศาสตร์ ถ้าไม่มีป้าอินทุอรกับอารียา และกลุ่มเพื่อนสนิท อรองค์คงลำบากที่จะผ่านมาได้ถึงสามปี ที่ไม่ได้เจอหน้าภูวิณ ตอนแรกคิดว่าจะตายเสียให้ได้ แต่สุดท้ายก็ผ่านมาได้ แม้จะยังคิดถึง แต่การคิดถึงนั้นมันก็ไม่ทรมานเหมือนสามเดือนแรก และเพื่อไม่ให้ตัวเองเจ็บปวดเกินไป เวลาที่คำแพง วสุหรือป้าศรีนวลโทร. มานั้น เธอห้ามทุกคนไม่ให้พูดถึงภูวิณ เพียงแต่รับรู้ตอนพี่คำแพงหลุดปาก ว่าภูวิณยังคบหากับมะลิอยู่ คบนานขนาดนี้ ก็บ่งบอกว่าภูวิณเลือกมะลิเป็นเจ้าสาวของเขาแล้ว อารียาขับรถยนต์คันใหม่เอี่ยม ที่ได้รับเป็นของขวัญในการเข้าเรียนมหาวิทยาลัยจากมารดา อรองค์กับอารียามีใบขับขี่ทั้งสองคนเรียบร้อย ทั้งสองผลัดกันขับรถเวลาไปข้างนอกด้วยกัน ส่วน อรองค์นั้นได้ของขวัญจากป้าอินทุอรเป็นบ้านหลังน้อยใกล้สวนผัก เอาไว้พักผ่อนส่วนตัว ทำการบ้าน หรือต้อนรับเพื่อนๆ พร้อมกับได้อวดแปลงผัก และผลไม้ที่ปลูกไว้หลายต้น วันนี้ทุกคนโหวตร้านอาหารกัน สรุปร้านบุฟเฟต์ชาบูชนะ ทุกคนจึงได้รวมตัวกันที่นี่ “โคตรดีใจเลย ที่ได้เรียนมอเดียวกันกับพี่บูม ฉันจะให้ขอขวัญอะไรพี่บูมดีน๊า วันที่จะได้เจอเขา” มะเหมี่ยวซึ่งเป็นเมนดาราชายที่เรียนมหาวิทยาลัยที่เพิ่งสอบติด เป็นรุ่นพี่ปีสอง แถมเรียนคณะเดียวกันกับที่มะเหมี่ยวสอบติด เจ้าตัวเลยดีใจจนพูดถึงเรื่องนี้นับครั้งไม่ถ้วน “พี่เขาดังและรวยกว่าแกมากนะเหมี่ยว แกจะซื้อของให้พี่เขาทำไม” มัทนาออกความเห็น เพราะไม่เห็นด้วยจริงๆ ที่คนยังขอเงินผู้ปกครองใช้ ซื้อของให้ศิลปิน ที่หาเงินเองได้ แถมยังร่ำรวยกว่าคนให้ของขวัญ “ก็อยากให้แทนใจ พูดไป แกก็ไม่เข้าใจหรอก วันๆ สนใจแต่หนังสือเรียน” มะเหมี่ยวบ่นเพื่อนซี้ซะงั้น “เออ ไม่เข้าใจจริงๆ ว่ะ” สุดท้ายมัทนาก็ยอมรับตรงๆ “กินเสร็จ ใครจะเป็นเพื่อนฉันซื้อของให้พี่บูมบ้าง” มะเหมี่ยวถาม แล้วมองกวาดเพื่อนทุกคน ซึ่งทุกคนทำเป็นมองชามชาบูของตัวเอง ยกเว้นอารียา “ฉันไปเป็นเพื่อนแกก็ได้ แต่แกก็ต้องไปเป็นเพื่อนช่วยดูตอนลองเสื้อผ้าด้วย” “อะไร แกจะซื้อเสื้อผ้าอีกแล้วเหรออิ้ง” อรองค์นั่นเองที่ร้องถาม เพราะเสื้อผ้าอารียาล้นตู้ ต้องซื้อตู้เก็บเสื้อผ้าเพิ่ม จนป้า อินทุอรบ่นยาว “เออ ฉลองที่กำลังจะเฟรซซี่ไง แกเองก็ควรซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่เสียบ้างเถอะ แต่งตัวเป็นทอมบอยอยู่ได้” “ทอมบอยอะไรของแก เสื้อยืด กางเกงยีนส์มันเบสิคมากๆ ที่ผู้หญิงทั่วไปใส่นะโว้ย” อรองค์แย้งทันควัน “จริงๆ เห็นด้วยกับเอิง แกกับมะเหมี่ยวก็บ้าแฟชั่นเกิ๊น” มัทนา ผู้ซึ่งแต่งตัวสไตล์เดียวกันกับอรองค์ก็รีบเห็นด้วยกับอรองค์ทันที “ก็ฉันกับมะเหมี่ยว แนวสวยหวาน น่ารัก ตัวเล็กนิดเดียว แต่งตัวเป็นสาวมุ้งมิ้งมันก็เหมาะกับตัวเอง ไม่หุ่นโย่งเหมือนแกสองคน” อารียาว่า เพราะอรองค์กับมัทนาสูงกว่าเธอกับมะเหมี่ยวเกือบสิบเซ็นต์ โดยเฉพาะอรองค์ ตอนอายุสิบห้าก็สูงไล่เลี่ยกับเธอ แต่พอจะจบมอปลาย อีกฝ่ายก็สูงพรวดเกินหน้าไปเลย อาจเพราะ อรองค์ชอบเล่นกีฬา ทั้งบาสเก็ตบอล เล่นเก่งจนเป็นนักกีฬาโรงเรียน ซึ่งเข้าคู่กับมัทนาได้ดีมาก แถมยังชอบเข้ายิมกับมัชกรด้วย มัชกรเองปกติก็ตัวสูงมาตั้งแต่มอต้น พอขึ้นมอปลายก็สูงถึง 185 เวลาคุยด้วย ตอนยืน เมื่อยคอสุดๆ แถมยังหล่อขึ้นทุกวันอีกต่างหาก คนเป็นเพื่อน ก็ได้แต่ชื่นชม และขมในใจบางเวลา เพราะอยากเป็นมากกว่านั้นไม่ได้ “ไม้ แกสูงขนาดนี้ ไม่อยากเป็นนายแบบหรือเข้าวงการเหรอ” อารียาถามตรงๆ “ไม่อะ” เด็กหนุ่ม หนึ่งเดียวในกลุ่มตอบสีหน้าเรียบๆ ตามปกติของเขา “แล้วเอิงล่ะ” มะเหมี่ยวถาม เพราะในกลุ่มเพื่อนสนิท อรองค์มีใบหน้าที่สวยสะดุดตาที่สุดในกลุ่ม รูปหน้าเรียวเล็ก คิ้วได้รูป จมูกเล็กๆ ปลายโด่งรั้น ปากอิ่มดูเย้ายวน ที่สำคัญรูปร่างสูงเพรียวโดดเด่น ยิ่งตอนนี้ไว้ผมยาว แม้จะมัดไว้หลวมๆ เป็นหางม้าเหมือนไม่ใส่ใจ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความสวยสะดุดตาของอรองค์ลดทอนลง ตรงกันข้ามอีกฝ่ายดูเป็นสาวสวยมาดเท่ แม้แต่ผู้หญิงในโรงเรียนยังมาสารภาพรัก โดยเฉพาะรุ่นน้อง ขณะที่อารียา หน้าตาออกแนวน่ารัก น่าเอ็นดู บวกกับรูปร่างเล็ก สดใส ส่วนมัทนาเป็นคนสวยเรียบๆ ถ้ามองผ่านก็ไม่มีอะไรสะดุดตา แต่มองนานๆ แล้วก็เห็นความสวยคมคายมีเสน่ห์เยือกเย็น ส่วนเธอเองนั้น มะเหมี่ยวคิดว่าตัวเองหน้าตาสวยน้อยที่สุดในกลุ่มเพื่อน แต่เธอสดใส น่ารัก และตัวเล็กนิดเดียวพอๆ กับ อารียา ซึ่งจะหาว่าโม้ ในกลุ่มเพื่อนสนิท เธอคือคนที่มีผู้ชายจีบมากที่สุดด้วยซ้ำ ก็แหงสิ เธอเฟรนลี่ที่สุดในกลุ่มนี่ “ถามจริง แกเรียนกฎหมายเพื่อจะเป็นทนายเหรอไม้” มะเหมี่ยวถามต่อ “เปล่า” “แล้วอยากเป็นอะไร” “อือ วันหนึ่งก็คงรู้เองแหละ” “ฉันเดานะ อย่างไม้ ไม่ชอบพูดเยอะ คงไม่เหมาะกับทนายที่ต้องมีลูกล่อลูกชน ฉันว่าไม้เหมาะจะเป็นอัยการมากกว่า” “หรือไม่ก็ผู้พิพากษา” มิ้นท์ว่า มัชกรไม่ตอบอะไร แต่ยิ้มน้อยๆ ให้กับการเดาของเพื่อนๆ “คงไม่อยากเป็นตำรวจหรอกนะ” อรองค์เดาบ้าง คำพูดนั้นทำให้มัชกรส่งยิ้มให้อีกฝ่าย พอทุกคนกินอิ่ม อารียากับมะเหมี่ยวก็พากันไปช้อปปิ้ง ส่วนอรองค์ มัทนา และ มัชกรนั้นก็เข้าร้านกาแฟ สั่งขนมและเครื่องดื่มแล้วทั้งสามก็เริ่มต้นคุยบางอย่างที่ทั้งสามได้ปรึกษาหารือกันมาระยะหนึ่ง นั่นก็คือเรื่องการตายของแม่มัชกร และการตายของพ่อ อรองค์กับปู่ภวัต หรือบิดาของภูวิณนั่นเอง หลังจากสนิทกันในช่วงมอหกนั้น มัชกรกับอรองค์ก็เลยต่างพูดเรื่องการตายของผู้ให้กำเนิดให้กันฟัง อรองค์จึงได้รู้ว่าแม่ของมัชกรตายในวันแรกที่คลอดเขานั้น เพราะถูกฆาตกรรม ไม่ได้ตกเลือดตายอย่างที่มัชกรเข้าใจตั้งแต่แรก กระทั่งในวันที่คุณลุงอาคมที่เลี้ยงดูเขามา กำลังจะจากโลกไปเพราะโรคประจำตัว ท่านก็เลยบอกความจริงกับมัชกร รวมทั้งบอกด้วยว่าใครคือฆาตกร ซึ่งก็คือผู้ชายที่ทำให้มัชกรเกิดมาในโลกใบนี้นี่เอง และยังเป็นคนที่อรองค์สงสัยว่าจะเป็นคนบงการฆ่าปู่ภวัต ที่ทำให้พ่อของเธอเสียชีวิตไปด้วย ไอ้กำนันประโยชน์! :::::::::::::::::: 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD