'ตุบ...'
รวดเร็วดั่งสายลมพัด เพียงพริบตาที่ไนท์เลี้ยงบอลลงพื้นและหมุนตัวหลบพ้นจากต้าร์มาได้ถึงใต้แป้น ต้าร์กลับอาศัยความไวที่เป็นต่อวิ่งตามไปขโมยลูกบาสมาได้อีกครั้ง
แล้วต้าร์ก็กระโดดถอยหลังชู้ตออกไป!
ราวกับห้วงแห่งเวลาเล่นตลก...ลูกบอลสีส้มนั้นค่อยลอยโค้งตรงไปยังห่วงโดยไม่มีผู้ใดอาจหาญขวางทางมัน กระทั่งที่ลูกบาสแตะโดนขอบห่วง ไนท์ก็กระโดดสุดตัว ตบมันทิ้งไปได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด!!
บังเกิดความเงียบในสนามอีกครั้ง เมื่อไนท์ดึงอกเสื้อขึ้นเช็ดเหงื่อบนใบหน้า คู่แข่งขันกลางสนามต่างจ้องมองกันด้วยประกายตาที่ฉันอ่านไม่ออกทั้งคู่ ทิ้งให้โจ๋สบถอย่างหงุดหงิด ขณะเดินดุ่มเข้าไปหาไนท์
‘ผัวะ!’ “รู้ว่าฟาวล์ก็ยังเสือกทำอีกนะมึง”
เอ๋? อ๊ะ จริงสิ! ถ้าปัดลูกบาสที่กำลังจะเข้าห่วงออกมาละก็ จะถือว่าฟาวล์ และฝ่ายตรงข้ามจะได้คะแนนไปทันที
นั่นแปลว่า...ไนท์แพ้แล้วสิ
ดวงหน้าเรียบนิ่งหันไปมองโจ๋ครู่ใหญ่ ก่อนที่ไนท์จะตบหัวโจ๋เอาคืนโดยไม่พูดอะไรโต้กลับ แต่ฉันว่าการไม่พูดนี่ละ มันทำให้หมอนี่ดูกวนคอนเวิร์สมั่กมาก -*- แล้วสองคนนั้นก็ผลัดกันตบหัวกันไปตบหัวกันมาเงียบๆ จนคนมองแบบฉันตาลายหมดแล้วววว
“พวกเธอทำอะไรกัน!”
เสียงแหลมทรงอำนาจที่จู่ๆ ก็ดังตวาดจากด้านหลัง ทำเอาพวกฉันทั้งหมดกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อก ก่อนค่อยหันมองไปทางด้านหลัง ที่ตรงนั้นมีหญิงวัยกลางคนร่างเล็กกำลังยืนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน สองมือสั่นเทาด้วยความโกรธจัดกำไม้เรียวขนาดฟาดหลังควายหักอย่างเต็มกำลัง
ซวยแล้ว คาบห้าวิชาภาษาไทยของอาจารย์พรรณีนี่หว่า T^To
“พวกเธอ!”
“เผ่นโว้ย” ไม่รู้ว่าใครร้องเสียงหลงออกมา แต่ก็ช่วยดึงสติพวกฉันหลุดจากภวังค์ และวิ่งเตลิดไปคนละทิศละทางในทันที
“ทางนี้!” “ทางนี้!” ข้อมือทั้งสองของฉันถูกฉุดไปคนละทางจนไม่สามารถวิ่งต่อได้ ส่งผลให้โจ๋กับไนท์ต่างชะงักตามไปด้วย
“ปล่อยสิวะ!” “ปล่อยสิวะ!”
แง้ ถ้านายสองคนใจตรงกันนัก ก็อย่าวิ่งไปคนละทางแบบนี้เซ่! กรี๊ด > “ถ้าพวกเธอไม่หยุด! ยลรดาจะรับโทษแทนทุกคน”
สิ้นเสียงดังก้องนั่น พวกฉันสามคนก็ค่อยๆ หันกลับไปกลางสนามบาสและพบว่ายัยยะหยากำลังเบ้หน้าขอความช่วยเหลือ เพราะถูกอาจารย์พรรณีจับเป็นตัวประกัน
อ๊าก! อยากจะด่ามันเป็นภาษาพม่า ทำไมเซ่อซ่าแบบนี้!!
.
และแล้วหลังเลิกเรียน พวกฉันทั้งหมดก็เป็นอันต้องมานั่งทำแบบฝึกหัดภาษาไทยกองเท่าภูเขาอยู่ในห้องสมุด แถมอาจารย์พรรณียังลงโทษ ‘อาร์ม’ ประธานรุ่น ม.4 ในข้อหาบกพร่องต่อหน้าที่ไม่ดูแลพวกฉันให้ดีอีกต่างหาก
มันจะไม่เลวร้ายเท่าไหร่ ถ้าอาร์มไม่ได้นั่งถัดจากน้ำรินที่นั่งข้างฉันไป ก็หมอนี่หน้าดุจะตาย ฉันกลัว TOT
“พรีม ข้อ 5 ดารณีแปลว่าเรือ ไม่ใช่ ผู้หญิง”
“อ้าว?” ฉันก้มหน้าก้มตาลบรอยปากกาที่เพิ่งกาผิดข้อไป เมื่อน้ำรินชะโงกหน้ามากระซิบ อิอิ มีเพื่อนเรียนเก่งก็เจ๋งแบบนี้แหละ
“เธอนี่โง่ไม่เปลี่ยนเลยน้า” โจ๋ยื่นหน้ามาด่าฉันพลางสั่นหัวอย่างทอดอาลัย ก่อนที่มันจะหันไปขอลอกยะหยา
โห พ่อคนฉลาด -*-
“ห้ามคุยกัน!”
พวกฉันก้มหน้างุดทำแบบฝึกหัดต่ออย่างเอาเป็นเอาตาย เมื่ออาจารย์พรรณีเงยหน้าจากหนังสือเย็บปักขึ้นมาตวาดแหวใส่ ฮือๆ ไปกินรังแตนสอดไส้กล้วยน้ำว้าจากไหนมาค้า ดุชะมัด
“เฮ้ย อาจารย์หลับว่ะ”
แค่ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น โจ๋ก็กระซิบเบาๆ ให้พวกเราได้ยินโดยทั่วกัน เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นอาจารย์พริ้มตาหลับ กำลังสัปหงกเคารพหนังสือตรงหน้า กรี๊ด ลัคกี้ๆ
“น้ำริน! ขอลอกหน่อย”
ฉันฉวยกระดาษคำตอบของน้ำรินมาวางตรงหน้า ก่อนจะก้มหน้าก้มตาลอกเป็นพัลวัน ไม่สนใจเจ้าของข้อสอบที่สะกิดแขนเรียกยิก
“เธอนี่โง่จริงๆ นะ”
“ถ้านายฉลาดนักก็อย่าแอบลอกเซ่!”
“โอเค ฉันผิด T^T” โจ๋ครางหงิงเมื่อฉันขยับมือไปปิดข้อสอบของน้ำริน พลางจ่อปลายแหลมของปากกาไปที่ซอกคอมันด้วยสายตาชิ้งๆ
“พรีม พรีม”
“เดี๋ยวนะริน จะเสร็จแล้ว” บอกน้ำรินโดยไม่หันมอง ก่อนที่เสียงหวานของยะหยาจะดังลอดเข้ามาในโสตประสาท ส่งผลให้ฉันเงยหน้าขึ้นอย่างไม่ทันตั้งใจ
“โห ไนท์ก็เกือบเสร็จแล้วเหรอ เก่งจังเลยนะ”
“ไม่เท่าไหร่หรอก แค่ไม่ฉลาดน้อยเหมือน-”
ทั้งฉันและโจ๋พากันส่งสายตาวิบวับไปให้ไนท์ที่หยุดพูดไว้แค่นั้น และหันมายักคิ้วให้อย่างเป็นต่อ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาพากันลอกต่อ เพราะเถียงมันไม่ออก แง่ม...อย่านะ อย่าให้ฉันฉลาดขึ้นมาบ้างนะเฟ้ย!
‘ตุบ’ ฉันชะงักปากกา เมื่อยะหยาโยนก้อนกระดาษเล็กๆ มาตรงหน้า
‘ไนท์น่ารักว่ะแก อ๊ายๆๆ ถามให้ทีดิว่ามีแฟนยัง >///
ฉันหันไปขมวดคิ้วใส่หยา ก่อนทำสัญญาณมือว่าขอลอกเสร็จก่อน ยะหยาจึงพยักหน้าแล้วก้มหน้าลูบผมเปียตัวเองเล่น ยะหยาชอบไนท์เหรอ...ทำไมไม่ชอบโจ๋ซะนะ อ๊ะ! แล้วฉันจะไปคิดแทนมันทำไม - -*
จริงสิ งั้นนัดเดตให้สองคนนี้ดีกว่า อิๆ
“ยะหยา พรุ่งนี้ไปดูหนังกับฉันมะ”
“พรุ่งนี้เหรอ อือ ได้ๆ น่าจะว่าง” สำเร็จ!
“ไปด้วยดิ” น้ำรินกระซิบบอก
“หา? พวกฉันจะไปกันสองต่อสองย่ะ แกก็ไปกับต้าร์ดิ”
ฉันหันไปแลบลิ้นให้น้ำริน ก่อนจะหักหลบสมุดลงทัณฑ์ที่มันฟาดมากลางกบาลอย่างเฉียดฉิว แต่ไม่ลืมดึงแขนเสื้อโจ๋ให้เซตามมาด้วย
‘ป้าบ!!’
“เราทำอะไรให้เธอโกรธเหรอน้ำริน T^T”
โจ๋ผู้โชคร้ายครางหงุงหงิง ขณะที่น้ำรินยิ้มแหยขอโทษขอโพยยกใหญ่ ปล่อยให้ฉันกุมท้องหัวเราะแบบไม่มีเสียงจนแทบขาดใจตาย
‘ปั่บ!’
จู่ๆ มือเล็กของใครบางคนก็วางลงบนต้นฉบับแบบฝึกหัด ทำเอาฉันกับโจ๋พร้อมใจกันหันไปส่งสายตาชิ้งๆ ให้บุคคลที่บังอาจขัดขวางการลอกของพวกฉันอย่างอาจหาญแบบนี้ แต่ดูเหมือนร่างเล็กที่เดือดดาลจนเส้นเลือดปูดขึ้นศีรษะนั่นไม่ใช่ใครที่ไหน...
...อาจารย์พรรณีที่แสนเคารพรักนั่นเอง T^To