EP 1 Red army Vs Blue eagle
ใครบางคนเคยถามฉันว่า...
‘แกเคยแอบรักเพื่อนไหม?’
แล้วใครคนนั้นก็บอกฉันว่า...
‘สำหรับฉันนะ การแอบรักอาจเป็นการวาดความรู้สึกลงบนผืนฟ้า ด้วยปลายปากกาที่เขามองไม่เห็น’
มือขาวบางถือปากกาหมึกซึมสีฟ้ายกขึ้นวาดรูปหัวใจในอากาศ ก่อนที่เธอจะหันมาฉีกยิ้มอวดเขี้ยวเล็กๆ ตรงมุมปากกับฉันที่นอนเคียงกันอยู่บนผืนหญ้า
‘แล้วถ้ารักคนคนเดียวกับเพื่อนขึ้นมาล่ะ แกจะทำไง?’
ฉันตั้งคำถาม และนั่นคงเป็นครั้งแรกนับแต่คบกันมาที่ได้เห็นใบหน้าอ่อนใสฉายรอยเศร้า แต่เพียงไม่นานความอ่อนไหวนั้นก็พลันเลือนราง...วับหาย
‘ไม่รู้ดิ แต่ถ้าเป็นแก ฉันยกให้’
พร้อมกับคำตอบ นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนก็ทอประกายระยับประกอบรอยยิ้มอ่อนหวาน แบบที่ถ้าฉันเป็นผู้ชายอาจตกหลุมรักรอยยิ้มนี้เข้าอย่างจัง
‘ไม่เอาหรอก ฉันสิ จะยกให้แก’
‘เออ ผู้ชายไร้ตัวตนคนนั้นชักน่าสงสารขึ้นมาซะละ ไม่ทันไรก็โดนสองสาวสุดสวยเตะโด่งออกจากชีวิต โดยมิรู้ตัว’
เราสองคนหัวเราะกันคิกคัก
และฉันเป็นฝ่ายยื่นนิ้วก้อยขึ้นบนผืนฟ้า
‘มิตรภาพ มาก่อน ความรัก’
ปลายนิ้วเรียวยกขึ้นเกี่ยวก้อย ทั้งเธอและฉันยังระบายรอยยิ้มให้กันจนแก้มบุ๋ม
‘ต่อให้ชอบผู้ชายคนเดียวกัน เราสองคนก็จะไม่ทะเลาะกันเด็ดขาด สัญญา’
สายลมพัดพากรุ่นกลิ่นดอกหญ้าหอมฟุ้ง พัดปุยเมฆสีวิปครีมให้ลอยเกลื่อนบนฟ้าใส แต่ไม่อาจพัดอุ่นไอความผูกพันที่ติดแน่นอยู่ในสองหัวใจ
ถ้าความรักคือหัวใจด้านซ้าย และมิตรภาพอัดแน่นอยู่ในหัวใจด้านขวา การต้องเลือกตัดหัวใจด้านใดด้านหนึ่งทิ้งมันคงฟังดูน่ากลัวเกินไป
แต่บางครั้งที่ชีวิตเดินมาถึงทางแยก เดินตรงไปจะตกเหวตาย ก็อาจต้องแลกบางอย่าง เพื่อให้ได้มาซึ่งบางอย่าง อาจต้องยอมก้าวไปทางซ้ายหรือขวา เพื่อพลาดโอกาสที่รออยู่ยังปลายทางที่ถูกทิ้งขว้าง และอาจต้องยอมเหลือหัวใจเพียงหนึ่งด้าน...เพื่อดำเนินชีวิตต่อไป
‘ความรัก’ กับ ‘มิตรภาพ’
สำหรับฉันไม่ว่าเลือกทางไหน...ก็โหดร้ายพอๆ กัน...
‘แล้วแกล่ะ เคยแอบรักเพื่อนไหม?’
เป็นอีกครั้งที่ฉันตั้งคำถาม และเธอหันมองมา พร้อมระบายรอยยิ้มอ่อนบาง แต่น้ำเสียงที่เอ่ยตอบแสนสั้น ช่างฟังดูอ้างว้างเหลือเกิน
‘เคยสิ...’
.
.
เสียงเพลงกราวกีฬาดังลั่นที่ข้างสนามบาสเกตบอลกลางแจ้งของโรงเรียนเอกชนชื่อดังใจกลางกรุงเทพฯ แดดแรง ฟ้าใส กลิ่นครีมคลายกล้ามเนื้อคละคลุ้งปนกับกลิ่นน้ำหอมจากผ้าเช็ดหน้าในถังน้ำของนักกีฬา ฉันปิดเปลือกตา สูดลมหายใจลึกพลางคลี่รอยยิ้มบางเบา
ชอบบรรยากาศแบบนี้จังเลยน้า...
“พรีมมมม แกอย่าหลับเซ่ เรดอาร์มี่จะชนะเข้ารอบชิงอยู่แล้วน้า >_<”
พร้อมเสียงนั้นยะหยาก็เขย่าตัวจนหัวสั่นหัวคลอน ยัยจอมวายร้ายหน้าซื่อนี่คิดจะฆ่าฉันให้ตายแล้วล้วงตับฉันไปขายใช่มะ คอยดูนะ สักวันฉันจะฟ้องคุณหญิงย่าว่ามันอะ จอมเฟก!
เรดอาร์มี่คือทีมบาสเกตบอลชาย ม.ปลาย ห้อง 7 ที่ปีนี้จับได้สีแดง และกำลังลงแข่งอยู่ตอนนี้นี่ละ จะชนะก็ไม่เห็นแปลกอะ สีแดงของฉันมีนักบาสโรงเรียนลงแข่งตั้งหลายคน -O-
แต่ที่เด่นที่สุดในสนามตอนนี้ก็คงเป็น...
“กรี๊ด! ต้าร์ขา หล่อจังเลย มีแฟนรึยังค้า~!!”
พอยะหยาแอบเนียนตะโกนแซวเข้าไปในสนาม คนถูกถามก็เกือบสะดุดเท้าฝ่ายตรงข้ามล้มหน้าคะมำกันเลยทีเดียว ฮ่าๆ ต้าร์โดนทำลายสมาธิขั้นเทพอะ ชู้ตไม่ลงด้วย กิ๊วๆ
“วู้~ อาจารย์มังกรขา พรีมฝากบอกว่า...”
พริบตานั้น! ฉันก็อาศัยความไวระดับเทพตะครุบตัวยะหยาไว้พร้อมกับปิดปากยัยจอมวายร้ายนี่ได้ทันเวลา ก่อนส่งยิ้มแหยให้ร่างสูงในชุดกรรมการที่หันมองมาเพราะเสียงเรียกนั่น และโชคดีก็เป็นของฉันที่กรรมการอีกคนเป่าฟาวล์พอดี พี่มังกรสุดหล่อ (หรืออาจารย์มังกรของนักเรียนคนอื่นๆ นั่นแหละ) เลยหันกลับไปทำหน้าที่ต่อ
เฮ้อ...รอดไป
ต้าร์น่ะ เป็นเพื่อนซี้ปึ๊กของทั้งฉันและยะหยา ส่วนพี่มังกรเป็นน้องชายของป๊าต้าร์ มีศักดิ์เป็นอา แต่ไม่ยอมให้ใครหน้าไหนเรียกอา (กลัวแก่นั่นเอง = =”)
ฉันปลื้มพี่มังกร ชอบพี่มังกร รักพี่มังกร
กว่าสองเดือนที่ผ่านมา ฉันเพียรพยายามบอกทุกคนไปแบบนั้น...
“พวกแกทำบ้าอะไรกันอยู่น่ะ”
เสียงหวานปนหัวเราะขันนั่นปลุกฉันจากภวังค์ สู่ความเป็นจริงตรงหน้าที่ยะหยากำลังดิ้นรนขลุกขลักในอ้อมแขน หน้าแดงแปร๊ดเหมือน...คนขาดอากาศหายใจ =[]=!
น้ำรินมุ่นคิ้วมองมาอย่างเอือมระอา ก่อนเดินดูดน้ำอัดลมจากแก้วบิ๊กโคล่าที่เพิ่งซื้อมาเดินผ่านพวกเราไปนั่งปุลงที่นั่งข้างฉันที่จองไว้ให้
ฉันกับยะหยารู้จักกันมาตั้งแต่ชั้นประถมแน่ะ ตอนเจอกันครั้งแรกนะ ฉันโดนหลอกเต็มๆ เลยละ กับท่าทีเรียบร้อย ไร้เดียงสา คุณนู๊ คุณหนูของมัน มารู้ทีหลังว่ายะหยาทำเฉพาะต่อหน้าคุณหญิงย่าที่โคตร...ดุ พอลับหลังคุณหญิงย่า ยะหยามันก็ ‘เด็กนรก’ ชัดๆ
ส่วนน้ำรินเป็นเด็กสามสัญชาติ ย้ายมาจากญี่ปุ่นตอนฉันกับยะหยาเริ่มซี้กันใหม่ๆ ทีแรกมันพูดภาษาไทยไม่ได้เลยละ พวกฉันเลยแกล้งสอนภาษาแปลกๆ ให้ ฮ่าๆ
แต่ตอนนี้ไปแกล้งมันไม่ได้แล้วนะ เรื่อง ‘มือหนัก’ ของยัยนี่ พวกฉันขอการันตี!