“คุณอ้อน ทำความสะอาดห้องให้หน่อยนะ เดี๋ยวผมจะไปอาบน้ำก่อน เหนียวตัวแต่เช้าเลยนี่” พูดพลางใช้ผ้าขาวม้าซับเหงื่อบนหน้าไปด้วย
“อืม” พิราอรขานรับในลำคอ เดินไปหยิบไม้กวาดมาทำความสะอาดห้อง ไม่ได้อยากทำตามคำสั่งของเขาหรอก แต่ความสกปรกของฝุ่นละอองและเศษไม้หักเกลื่อนพื้นแบบนี้ เธอก็ทนอยู่ไม่ได้เหมือนกัน หญิงสาวกวาดห้องเสร็จก็จัดการถูพื้นต่อ สักพักท้องก็เริ่มหิว แต่คนในห้องน้ำก็ยังไม่ออกมาสักที เลยตัดสินใจเดินเข้าไปในห้องครัวแทน
เขาหุงข้าวไว้ให้แล้วแต่ยังไม่มีกับ ห้องครัวแบบบ้าน ๆ ของเขามีตู้เย็นอยู่หนึ่งอัน พอเปิดประตูออกก็พบเพียงไข่ไก่ไม่กี่ฟองกับแตงกวาอีกสองลูก จะด้วยความหิวหรืออะไรก็แล้วแต่ หญิงสาวก็จัดการผัดไข่ใส่แตงกวาสำหรับเช้านี้ สักพักเจ้าของบ้านก็เดินเข้ามาในห้องครัวที่พิราอรนั่งรออยู่
“มีแค่นี้อ้อนเลยทำผัดไข่ใส่แตง” หญิงสาวบอกเขาด้วยสีหน้าไม่แสดงความรู้สึกใดออกมา
“ตักข้าวสิคุณอ้อนกินพร้อมกันเลย” พัชระเดินไปดึงเก้าอี้ไม้ออกแล้วทิ้งสะโพกลงนั่ง สายตาก็มองพิราอรตักข้าวใส่จานให้เขาก่อนจะตักให้ตัวเองทีหลัง
“นี่เรียกว่ากับข้าวเหรอคุณอ้อน รสชาติห่วยแตกใช้ได้” แค่ตักใส่ปากคำแรกพัชระก็แทบจะวางช้อนลงในทันที คนทำถึงกับตาลุกโตอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องว่าขนาดนี้ด้วย หญิงสาวทดลองตักกับข้าวใส่ปากดูบ้าง
“เค็มปี๋เลย อ้อนว่าอ้อนใส่ซีอิ๊วขาวนะไม่ใช่น้ำปลา” หญิงสาวพูดเบา ๆ กับตัวเอง
“ถามจริงทำกับข้าวเป็นหรือเปล่า” คนถูกถามเงยหน้าขึ้นมองแบบอัตโนมัติแล้วส่ายหน้าไปมาอย่างช้า ๆ
“ส่วนใหญ่ป้าสร้อยทำ อ้อนแค่ช่วยหั่นผักแกะหอมอะไรทำนองนี้” คนได้ยินถึงกับถอนหายใจออกมาแรง ๆ พัชระคว้าจานผัดไข่ใส่แตงไปคว่ำลงในถังขยะ แล้วจัดการตอกไข่ใส่ชาม ใช้ช้อนตีจนแตกเนียน ปรุงรสเล็กน้อย ก่อนตั้งกระทะแล้วทอดไข่แบบรวดเร็ว
กลิ่นหอมฉุยลอยมาแตะจมูกคนนั่งรอ พิราอรหิวจนท้องร้องตั้งแต่เช้าแล้ว แต่เขาก็ไม่ยอมปล่อยมือจากเธอสักที เมื่อคืนว่าหนักแล้วตอนเช้ายิ่งหนักกว่าเสียอีก
“เอ้า กินไข่เจียวนี่แหละง่ายดี” พัชระวางจานไข่เจียวลงกลางโต๊ะ พิราอรก็รีบใช้ช้อนตักไปใส่จานตัวเอง เอาเข้าปากแบบเร็ว ๆ
“ร้อน ๆ” เพราะหิวมากไปจึงลืมนึกว่าไข่เจียวเพิ่งทอดเสร็จใหม่ ๆ คนนั่งใกล้ตู้เย็นกว่าเลยเปิดคว้าขวดน้ำออกมาเทใส่แก้ว แล้วเลื่อนไปตรงหน้าของหญิงสาว แม้ไม่มีคำพูดจากปากของเขา แต่พิราอรก็รู้ว่าแก้วน้ำนี้เป็นของเธอ รีบคว้าขึ้นมาดื่มในทันที
ทั้งคู่นั่งกินข้าวกันไปอย่างเงียบ ๆ จนหมดจาน ต่างคนต่างความคิด พิราอรย่อมรู้ดีว่าคนตรงหน้านั้นแอบรักอรินดามานานแล้ว จู่ ๆ ถูกนางจันทร์นิลบังคับให้รับเธอมาเป็นเมียแบบนี้คงไม่เต็มใจสักเท่าไหร่
ส่วนพัชระนั้นก็กำลังคิดว่าเขาจะจัดการอย่างไรกับเมียส้มหล่นคนนี้ดี แล้วอีกฝ่ายจะยอมอยู่กับเขาตามคำสั่งของนางจันทร์นิลจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ พิราอรไม่ใช่คนหัวอ่อนเหมือนหน้าตาหรอก ลึก ๆ แล้วหญิงสาวก็ร้ายใช่ย่อย ดูจากการกล้าไปยุ่งกับสามีของอรินดาแบบนี้แล้ว ไม่ใสซื่ออย่างที่เห็นเป็นแน่
“ล้างจานด้วยนะคุณอ้อน” คนอิ่มเลื่อนจานเปล่าไปตรงหน้า พิราอรเงยหน้าขึ้นมองเขาเล็กน้อย หากเป็นเมื่อก่อนเขาจะกล้าใช้เธอล้างจานให้ไหม
“ทำไม ทำให้ผัวแค่นี้ไม่ได้หรือยังไง” พิราอรไม่ตอบแต่กลับรวบจานทั้งหมดไปล้างอย่างเงียบ ๆ
“ไอ้เพชรอยู่ไหม ! ไอ้เพชรอยู่ไหม !” เสียงตะโกนเรียกจากสัญชัยคนขับรถของนายธีระวุฒิ ดังโหวกเหวกอยู่หน้าประตูบ้าน
“อยู่พี่ชัย ! เดี๋ยวออกไป”
พิราอรมองตามหลังเขาไปด้วยความรู้สึกอันหลากหลาย บิดาผู้ไม่เคยใส่ใจต่อความเป็นอยู่ของเธอ จะรู้ความจริงหรือยังในเรื่องนี้ หากรู้แล้วจะทำอย่างไร ปล่อยทุกอย่างผ่านเลยไปเหมือนไม่ได้สำคัญอะไร หรือว่าจะยื่นมือเข้ามาช่วยดึงเธอให้หลุดพ้นจากเหตุการณ์ในตอนนี้
ด้านหน้าประตูบ้าน สัญชัยได้ชะเง้อคอมองเข้าไปข้างในบ้านแต่ก็ไม่พบคนที่ตัวเองอยากเจอ นั่นเพราะพิราอรกำลังล้างจานอยู่ในห้องครัวนั่นเอง
“มองหาอะไรพี่ชัย” เจ้าของบ้านอดถามไม่ได้
“คุณอ้อนอยู่นี่ใช่ไหม”
“อืม ล้างจานอยู่”
“ไอ้เพชร แกนี่มันจริง ๆ เลยนะ จะทำอะไรก็หัดเกรงใจคุณวุฒิเขาบ้างสิ ไม่ใช่เอะอะก็จะทำตามคำสั่งคุณจันทร์อย่างเดียว นั่นลูกสาวคนวุฒิเขานะ”
“เอาน่าพี่ชัย ผมทำไปแล้วมันย้อนเวลาไปไม่ได้ แล้วนี่มาหาผมมีธุระอะไร ไม่ใช่จะแค่มามองหาคุณอ้อนนะ”
“คุณวุฒิให้มาตามแกไปหา”
“หาผม”
“เออ ก็เรื่องคุณอ้อนนี่แหละ คุณจันทร์ดันตัดสินใจทำตอนแกไม่อยู่บ้าน นี่ก็โมโหต่อว่าคุณจันทร์ไปรอบหนึ่งแล้ว แต่ก็รู้ ๆ กันอยู่ คนอย่างคุณจันทร์น่ะ”
“อย่าพาดพิงถึงคุณจันทร์เลยพี่ชัย ถ้าคุณอ้อนไม่ไปก่อเรื่องก่อน คุณจันทร์จะทำแบบนี้ไหม แล้วคุณวุฒิจะให้ผมไปหาที่ไหนล่ะ”
“ท้ายไร่ชา”
“ลับตาคนเชียว” พัชระเปรยเบา ๆ เหมือนนายธีระวุฒิไม่ต้องการให้คนอื่นรู้เห็นในเรื่องนี้
“เออ รีบ ๆ ไปล่ะ”
“ได้พี่ชัย” พัชระเดินไปคร่อมมอเตอร์ไซค์แล้วขี่ตามหลังรถของนายสัญชัยไป
คนที่เพิ่งล้างจานเสร็จยืนพิงขอบประตู มองด้านหลังของรถยนต์กับรถจักรยานยนต์ซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปบริเวณท้ายไร่อย่างแปลกใจ แต่ว่านี่เป็นเรื่องดีไม่ใช่เหรอที่เธอจะได้หนี รีบกลับเข้าไปในห้องนอนคว้ากระเป๋าของตนเอง ขึ้นมาสะพายด้านหลังเอาไว้ แต่ก่อนจะไปก็เดินไปเปิดตู้ลิ้นชักในตู้เสื้อผ้า เห็นสมุดบัญชีอยู่หลายใบ แต่นั่นไม่น่าสนใจเท่ากับเงินสองพันบาทที่วางอยู่ในนั้น
‘ขอก่อนนะพี่เพชร’
เพราะรู้ว่าพัชระมีแค่เงินเดือนจากการเป็นช่างซ่อมงานไฟฟ้าของไร่ คงไม่ได้มีเงินทองมากเท่าที่ควร หญิงสาวจึงเลือกที่จะหยิบธนบัตรมาเพียงหนึ่งใบ มองไปรอบ ๆ บริเวณก่อนจะวิ่งออกจากบ้านของพัชระไป
ฉาด ! หน้าของพัชระถูกตบจนหันกลับไปอีกด้าน ชายหนุ่มกัดฟันจนแน่นด้วยความเจ็บ แต่ก็ไม่อาจตอบโต้อะไรกลับคืนได้ ด้านหลังก็มีนายสัญชัยยืนดูต้นทางอยู่ให้ผู้เป็นนาย
“มึงกล้าทำเลว ๆ กับลูกสาวกูอย่างนี้ได้ยังไงไอ้เพชร !” นายธีระวุฒิชี้นิ้วใส่ลูกน้องคนสำคัญของภรรยาตนเอง หลังจากรู้เรื่องทั้งหมดจากแม่บ้านของตน ไม่คิดว่านางจันทร์นิลจะกล้าทำอะไรโดยพละการระหว่างที่เขาไม่อยู่
“คุณจันทร์สั่งครับ” พัชระก้มหน้าตอบ
“เออ กูรู้แล้ว แต่กูไม่คิดว่ามึงจะกล้าทำตามได้ เรื่องชั่ว ๆ แบบนั้นมึงก็ยังทำตาม มึงมีหัวคิดไหมกูถามจริง ๆ”
“ผมขอโทษครับคุณวุฒิ”
“ระหว่างกูกับคุณจันทร์ มึงคงเชื่อฟังคุณจันทร์มากกว่ากูสินะ ก็แน่สิ กูในสายตามึงก็เหมือนคนนอกอยู่แล้ว มีแค่คุณจันทร์คนเดียวที่พวกมึงเคารพรักใช่ไหม”
นายธีระวุฒิโกรธจนต้องระบายความจริงในเรื่องนี้ออกมา เขาเป็นผู้ชายที่แต่งเข้ามาอยู่ในบ้านฝ่ายหญิง และยังนอกลู่นอกทางกับคนงานสาวในไร่ชา จนเกิดมีพิราอรขึ้นมา นั่นจึงทำให้ทุกคนในไร่มองเขาด้วยสายตาจงเกลียดจงชังมาแต่ไหนแต่ไร...